หลังออกฉายแล้ว Godzilla 2014 ของลีเจนดารีเอนเตอร์เทนเมนต์ (Legendary Entertainment) ประสบความสำเร็จ ต่อมาไม่นานพวกเขาก็ประกาศว่าได้ลิขสิทธ...
หลังออกฉายแล้ว Godzilla 2014 ของลีเจนดารีเอนเตอร์เทนเมนต์ (Legendary Entertainment) ประสบความสำเร็จ ต่อมาไม่นานพวกเขาก็ประกาศว่าได้ลิขสิทธิ์ ของสัตว์ประหลาดตนอื่นๆ อย่างมอธรา, โรแดน, คิงกิโดรา มาจากญี่ปุ่น
จากนั้น เดือนกันยายน ค.ศ. 2015, ลีเจนดารีโพนทะนา ว่าหนังเรื่อง Kong: Skull Island อยู่ระหว่างพัฒนา และในอนาคตก็อดซิลลากับคองจะปรากฏกายา ณ ภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน
เดือนตุลาคม 2015, สตูดิโอแถลงจะให้หนังก็อดซิลลาปะทะคอง เผยแพร่ตอนปี 2020 และมีกำหนดที่จะผลิต 'จักรวาล' ซึ่งมีศูนย์กลางเป็น องค์กรจับตามอนสเตอร์ของมนุษยชาติ อันชื่อว่าโมนาร์ค (Monarch)
แม้ขลุกขลักบ้างเรื่องวันฉาย แต่ท้ายที่สุดจักรวาลสัตว์ประหลาด (MonsterVerse)
ก็ดำเนินไปถึง จุดหมายปลายทาง ซึ่งต้นสังกัดเคยวางไว้, ในปี 2021
แต่เพราะผลตอบรับดีพอ, เรื่องสมมติ เกี่ยวกับโลกที่มีอสูรยักษ์ยั้วเยี้ย จึงถูกบอกเล่าต่อ
กลายเป็นโอกาสเหมาะ สำหรับผู้ติดตาม ในการย้อนมองภาพรวม ของจักรวาลแห่งนี้อีกครั้ง
เช่นเดียวกับที่ ผู้ขาดความคุ้นเคยต่อเรื่องราวนี้ ควรทำความรู้จักมันสักที หากคิดดูหนังภาคใหม่ตามกระแส
เหล่าอสูรยักษ์ (Titans)
วัฒนธรรมกรีกโบราณ คือรากฐานอารยธรรมของฝรั่ง ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจ ถ้าชื่อแปลกประหลาดอะไรไม่ทราบ ความจริงมักถูกหยิบยกมาจากปกรณัมปรัมปรา
บรรดาไททันตามตำนานกรีก อายุเยอะยิ่งกว่า 'ซุส' ผู้โด่งดังเสียอีก เพราะพวกนี้คือลูกๆ ที่เทพมารดร/ไกอา (Gaia) กับเทพบิดร/อูรานัส (Uranus) เป็นผู้ให้กำเนิดโดยตรง
และการอธิบายเรื่องนี้ให้กระจ่าง จำเป็นต้องเท้าความ ถึงกำเนิดโลกตามปกรณัม
เริ่มกันที่เดิมทีนั้น จักรวาลมีเพียงความสับสนอลหม่าน (เคออส/Chaos) ก่อนพวกเทพเจ้ารุ่นแรกสุดจะปรากฏ (เทพแห่งกลางคืน, กลางวัน, แสงสว่าง หรืออะไรก็แล้วแต่แหล่งที่มาของเรื่องเล่าอีกที)
อย่างไรก็ดี เมื่อมีเทพพวกนี้แล้วโลก (ซึ่งลักษณะแบนราบ มิได้กลม) จึงเริ่มฟอร์มตัวเป็นรูปเป็นร่าง
จากนั้นพระแม่ประจำธรณี (ไกอา) ได้เกิดอารมณ์เปลี่ยวเหงา จึงเสกเทพแห่งนภา (อูรานัส) มารับบทสามี
บุตรธิดารุ่นแรกของพวกเขาร่างกายใหญ่โตโอฬาร และนามเรียกขานพวกเขาคือไททัน (Titan) คำๆ นี้เลยสื่อถึงความใหญ่เบ้อเริ่มสืบมา
อูรานัสเห็นลูกๆ สิบกว่าตนร่างเบิ้มทรงพลัง ก็ชักเกรงบัลลังก์เทพสูงสุดสั่นคลอน เลยโยนทุกคนลงเหว ที่คือปากทางเข้าของทาร์ทารัส (Tartarus) ดันเจี้ยนอันสถิตอยู่ ณ ส่วนมืดมิดและลึกชิบเป๋งใต้ผืนพิภพ
อูรานัสยังทำลูกกับไกอาต่อ แต่ไม่ว่ากี่ครั้งกี่หน เขายังคงโยนทายาทลงใต้โลกโดยไม่มีทีท่าจะหยุด
ไกอาย่อมไม่ถูกใจสิ่งนี้ พระแม่จึงพาลูกที่อาสาปราบพ่อให้ ขึ้นจากหุบเหว
โครนัส (แซทเทิร์น) จัดการโค่นอำนาจบิดา แล้วช่วยพี่ๆ น้องๆ ขึ้นเหวมา ก่อนประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
เมื่อโครนัสหวาดกลัวทายาทตัวเองเช่นกัน และเสียบัลลังก์แก่บุตรชื่อ 'ซุส' ภายหลัง
ดาวโลกของ MonsterVerse เมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน มีปริมาณกัมมันตรังสี สูงกว่าสมัยมนุษย์อาศัยนับสิบเท่า
เหล่าสัตว์ประหลาด ซึ่งกำเนิดตามธรรมชาติบนพิภพ ตั้งแต่เมื่อยุคบรรพกาล ใช้วิธีดูดกลืนรังสีเป็นอาหาร เพื่อขับเคลื่อนร่างกายไซส์มหึมา
ทว่ารังสีสูญสลายตามกาลเวลา นานไปพวกมันจึงต้องจำศีลยาวประหยัดพลังงาน หรือไม่ก็มุดลงใต้ดินลึกๆ ดูดกลืนรังสีจากจุดใกล้แกนดาว
พวกมันทั้งมาก่อนมนุษยชาติ, ขนาดใหญ่โต และเคยอยู่ใต้โลก สมควรแล้วกระมังที่จะเรียกว่าอสูรยักษ์ (ไททัน) ตามเทพนิยายกรีก
โมนาร์ค (Monarch)
ความหมายตรงตัวของ Monarch คือราชา แต่ถ้าพิจารณาโลโก้ขององค์กรประกอบ ชื่อนี้ควรหมายถึงผีเสื้อพันธุ์จักรพรรดิ (Monarch butterfly) มากกว่า
เพราะรูปร่างของโลโก้สามารถมองเห็นเป็นทั้งผีเสื้อ และตัวอักษร M รวมกับ V ที่กลับหัว (MonsterVerse)
ไม่ชัวร์ว่าทำไมต้องผีเสื้อ ? แต่ส่วนตัวเดาว่าเกี่ยวข้องกับทฤษฎีผีเสื้อขยับปีก (Butterfly effect) ซึ่งมองว่าแค่การกระพือปีกของผีเสื้อ ก็อาจก่อให้เกิด ผลกระทบต่อเนื่องแบบลูกโซ่ และบังเกิดลมพายุได้
องค์กรโมนาร์ค ก่อตั้งขึ้นอย่างลับ ๆ ประมาณปลายยุค 1940s
และได้ดำเนินกิจการ เป็นเรื่องราวแถวปี 1954, หลังการปรากฏของก็อดซิลลา ที่เกาะปะการังบิกินี่
เครือข่ายที่ทำงานข้ามชาติ ร่วมมือกัน รวบรวมคนเพื่อติดตามและศึกษา สัตว์โลกมหึมา ที่ไม่อาจระบุสายพันธุ์ (Massive Unidentified Terrestrial Organisms)
แม้จะเรียกทหาร มาสนับสนุนปฏิบัติการหลายต่อหลายครั้ง เพราะการเผชิญหน้าสัตว์ยักษ์ ไม่รู้เดี๋ยวเจออะไรบ้าง แต่องค์กรนี้ไม่ได้มีเป้าหมาย ที่การกำจัดสัตว์ประหลาด
ทั้งการมีอยู่ของโมนาร์ค กับพวกสัตว์ประหลาด คนทั่วไปไม่ทราบนานหลายปีดีดัก
จนกระทั่งเกิดภัยพิบัติ ที่ซานฟรานซิสโกปี 2014 สาธารณชนจึงรับรู้ว่ามีพวกมอนสเตอร์จริง และตระหนักว่าโมนาร์คปิดเงียบเรื่องนี้มาตลอด
รัฐบาลเลยจ้องจะยุบองค์กร ส่วนทหารอยากฆ่าพวกไททันให้เรียบ เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม
ทว่าโมนาร์คลดแรงเสียดทาน ทางสังคมจากรอบด้าน ที่มีต่อตัวองค์กรลงสำเร็จ ด้วยการหยุดยั้งวันสิ้นโลก (เพราะอสูรยักษ์มากมายตื่นขึ้น) ในค.ศ. 2019 และเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับ บรรดาไททันทั้งหลาย
ช่วงงบประมาณสูง โมนาร์คจ้างทั้งนักวิทยาศาสตร์ หัวกะทิจากหลายแขนงวิชา
กับทหารมาเป็นกองกำลังติดอาวุธ ของตัวเองเพียบ (พวกเขาตั้ง G-team อันเชี่ยวชาญด้านรับมือไททัน หน้าที่ประจำคือสนับสนุนการสอดส่องก็อดซิลลา)
พวกเขาก่อตั้งสถานีเฝ้าระวัง ปลูกสิ่งก่อสร้างคลุมสถานที่นอนพักของมอนสเตอร์ ไว้หลายจุดทั่วโลกา
และผลิตเครื่องบินยักษ์ อันเป็นฐานบัญชาการลอยฟ้าชื่ออาร์โก้ (ตั้งตามเรือของเจสัน ที่บรรทุกเหล่าวีรชนในตำนานกรีกหลายคน ออกร่วมผจญภัยค้นหาขนแกะทองคำ)
มูโต (M.U.T.O.)
เดิมทีมูโตคือ รหัสเรียกสัตว์ประหลาด โดยรวมๆ ของโมนาร์ค
จะเจ้าแมลงยักษ์หรือก็อดซิลลา ก็ถูกคนในองค์กรเรียกว่า สัตว์โลกมหึมา ที่ไม่อาจระบุสายพันธุ์ (Massive Unidentified Terrestrial Organisms)
แต่เหมือนจะเพราะก็อดซิลลา มีชื่อเฉพาะที่คนโบราณ (ตามคำกล่าวอ้างของตัวละครในหนัง) ตั้งให้แล้ว, ส่วนไอ้แมลงยักษ์ไม่มี
พอประชาชนปี 2014 เห็นแมลงยักษ์ถูกเรียกมูโต แล้วผู้ล่ายุคแรกเริ่มถูกเรียกก็อดซิลลา... มูโตก็กลายเป็นชื่อเฉพาะ ของไททันหน้าคล้ายแมลงโดยปริยาย
ทางผู้ผลิตผลงานเรื่อง Godzilla: King of the Monsters เคยอธิบายทางโซเชียลมีเดียด้วยว่า ทำไมอสูรยักษ์ (ไททัน) กลายเป็นคำเรียกสัตว์ประหลาดแบบรวมๆ แทน
เหตุผลประการแรกคือ ชาวบ้านชาวช่องในเรื่องทุกคนรู้ว่ามีสัตว์ประหลาดแล้ว พวกมันจึงไม่ใช่สิ่งมีชีวิตลึกลับ สมชื่อรหัสอีกต่อไป
เหตุผลประการที่สองไม่ใช่อะไร นอกจากประวัติพวกมันมีหลายองค์ประกอบ สอดคล้องกับเทพเจ้ายุคต้น ตามที่บอกไว้ด้านบนเกี่ยวกับอสูรยักษ์
เกาะกะโหลก (Skull Island)
ดาวพระเคราะห์ที่มนุษย์พำนัก ของจักรวาลมอนสเตอร์ มิได้มีเพียงชั้นหินแข็ง กับแกนดาวสุดร้อนแรง หากแต่กลวงโบ๋แลมีโพรงขนาดใหญ่ เชื่อมต่อเป็นเครือข่ายอยู่ทั่วไป
โดยมีบางจุดบนพื้นผิวพิภพ เป็นทางผ่านเข้าออก อย่างเช่นเกาะกะโหลกอันมี ลมพายุล้อมรอบตลอดทั้งปี จนแทบไม่มีคนรู้ว่ามันมีผืนดินแห่งนี้
ด้วยความที่มันแยกตัวจากส่วนอื่นๆ ของโลกโดยสิ้นเชิง แถมมีอสูรยักษ์จากข้างใต้ ขึ้นมาเพ่นพ่านอย่างเนืองนิจ จึงมีระบบนิเวศน์อันเต็มไปด้วยสัตว์หน้าตาพิลึก หรือตัวใหญ่มโหฬาร
แม้สภาพแวดล้อมควรเลวร้าย เกินมนุษย์อาศัย แต่ไม่วายอุตส่าห์มีชนพื้นเมือง ตั้งรกรากบนเกาะ ตั้งแต่เมื่อหลายพันปีก่อน
พวกอีวิส (The Iwis) มักไม่แสดงอารมณ์หรือพูดจา, พวกเขาสร้างกำแพงยักษ์ล้อมเขตเมืองเล็กๆ ป้องกันตัว และอยู่อย่างหวาดผวาพวกสัตว์ร้ายมานาน
จนกระทั่งมีวานรยักษ์โผล่มาทำหน้าที่ราชาประจำถิ่น คอยจัดการเหล่าอสูรดุๆ ที่ผุดจากรูใต้โลกให้
ผู้ก่อการร้ายเชิงนิเวศน์
มนุษย์ในเรื่องราวนี้ทำลายสิ่งแวดล้อมหนัก จนกระทั่งพวกหมกมุ่นกับการคืนสมดุลธรรมชาติ ดำริว่าควรเป็นศัตรูกับเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์
กองกำลังติดอาวุธพวกนี้ ได้รับการสนับสนุนด้านการเงิน จากเหล่านายทุนผู้หวังกอบโกยผลประโยชน์
เพราะพวกไททันคือประตู สู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการผลิตเวชภัณฑ์, อาวุธ หรืออาหาร (แถมมูลสามารถ ใช้เป็นเชื้อเพลิง ได้อีกต่างหาก)
โลกข้างล่าง (ฮอลโลว์เอิร์ธ)
ไททันคืออสูรยักษ์ ที่หากพิจารณาจากขนาด, การที่ผู้คน
ไม่เคยเห็นพวกมัน (แม้หลังปี 1954) จนกว่าจะมาเบิกเนตร ก็ปี 2014 นี่, ยังไงก็ดูขัด
...แต่เมื่อตัด สิ่งเป็นไปไม่ได้ออกหมด, ต่อให้สิ่งที่เหลือ ไม่น่าเชื่อเพียงไร มันย่อมเป็นความจริง
เพราะจักรวาลมอนสเตอร์ มีแดนใต้พิภพ (Hollow Earth) ที่คือเครือข่ายโพรงขนาดใหญ่ใต้ดิน
โพรงนั่นมโหฬารขนาด เหมือนใส่โลกอีกใบ ซ้อนข้างในของเรา, แถมมีอารยธรรมโบราณ ซุกซ่อนอยู่แถวนั้น
ดินแดนดังกล่าว ยังมีเรื่องราวอีกมาก รอให้ไปสำรวจ
แต่ข้อมูลโดยคร่าว ๆ ของตอนนี้คือ การจะมุดเข้าออกอย่างคล่องตัว, เคยยากเกินความสามารถ แลเทคโนโลยี ของมนุษย์
เพราะแรงโน้มถ่วง และกระแสพลังงาน รอบทางเข้าออก แปรปรวนรุนแรงเหลือหลาย
ยิ่งถ้าโชคร้าย คุณอาจติดแหงกคา แอ็กซิสมุนดี (Axis Mundi) หรือแดนที่อยู่ตรงกลาง ระหว่าง 2 โลกได้
การอธิบายมากกว่านี้ จะสปอยล์จุดหักมุมสำคัญ ของซีรีส์ Monarch: Legacy of Monsters, แต่เอาเป็นว่า แอ็กซิสมุนดี ไม่ใช่สถานที่น่าไปเยือนสักนิด
Apex Cybernatics (เอเพ็กซ์ ไซเบอร์เนติก)
หลังจีเดย์ (G-Day) หรือวันที่ก๊อดซิลลา ฆาตกรรมผัวเมียมูโต, เผยโฉมภัยเกี่ยวกับไททัน ต่อสาธารณชนทั่วโลก
จะให้มีแค่องค์กรรัฐบาล (โมนาร์ค) เป็นผู้เล่นหลัก ของวงการอสูรกาย, ก็กระไรอยู่
จักรวาลมอนฯ จึงมีองค์กรเอกชน ที่สนใจเรื่องไททัน จนส่งผลต่อเนื้อเรื่อง, เพิ่มขึ้นมา
ชื่อเดิมของเอเพ็กซ์ (อันหมายถึง นักล่า) คือเออีที (Applied Experimental Technologies), ซีอีโอ (ผู้บริหารสูงสุด) ชื่อ "วอลเทอร์ ซิมมอนส์"
พวกเขาค้นคว้าวิจัย เรื่องการเชื่อมต่อระบบประสาท กับกลไกเครื่องจักร (ไซเบอร์เนติก), อย่างหมิ่นเหม่ศีลธรรม มาตั้งแต่ ก่อนเปลี่ยนชื่อบริษัท
มุมมองของวอลเทอร์คือ มนุษยชาติควรรักษาสถานะ, ผู้ล่าสูงสุด ประจำห่วงโซ่อาหาร ในธรรมชาติไว้
นวัตกรรมของเขา จะใช้ป้องกันการสูญพันธุ์ ของพวกเรา
หากวันไหนไททัน (โดยเฉพาะก๊อดซิลลา) เขามองมนุษย์เป็นศัตรู
เอเพ็กซ์ทั้ง สนับสนุนการวิจัย มองหาวิธีเดินทางอย่างปลอดภัย สู่โลกข้างล่าง
และซื้อหัวสัตว์ประหลาด ตัวที่ตายแล้ว, ไปศึกษาและใช้ผลิต
ไททันเครื่องจักร ซึ่งใช้เทคโนโลยีไซเบอร์เนติก ควบคุมมันได้
น่าเสียดายว่า ไททันเครื่องจักรนั่น คือผลงานล้มเหลว ขั้นรุนแรง
และคุณซีอีโอ เสียชีวิตเพราะ ผลพวงจากความผิดพลาดนั่น, ในภาพยนตร์ Godzilla vs. Kong (2021)
COMMENTS