ต่อให้นับรวม Godzilla vs. Kong จักรวาลมอนสเตอร์ ก็ยังมีภาพยนตร์แค่ 4 เรื่อง ผู้ติดตามเฉพาะหนังบางคน อาจรู้สึกเนื้อหาแฟรนไชส์น้อยไปนิด สำห...
ต่อให้นับรวม Godzilla vs. Kong จักรวาลมอนสเตอร์ ก็ยังมีภาพยนตร์แค่ 4 เรื่อง
ผู้ติดตามเฉพาะหนังบางคน อาจรู้สึกเนื้อหาแฟรนไชส์น้อยไปนิด สำหรับการที่สตูดิโอจะอวดอ้างว่า ผลงานของพวกเขาขอบเขตกว้างระดับ 'จักรวาล'
แต่สำหรับผู้คิดเช่นนั้นอาจเปลี่ยนใจ หากได้ทราบว่าถ้านับรวมนิยายภาพ (คอมมิค) กับอนิเมชั่นซีรีส์ (ที่กำลังผลิต) ปริมาณเนื้อหาเกี่ยวกับ MonsterVerse จะเพิ่มขึ้นประมาณเท่าตัว
จุดประสงค์หลักของบทความ คือการสาธยายเรื่องราวโดยรวม (เท่าที่ทราบ ณ ตอนจัดทำ) อย่างย่อ
เพื่อชี้ให้เห็นความเป็นจักรวาลของ MonsterVerse มากกว่าแจกแจงรายละเอียด หรือจัดระเบียบไทม์ไลน์ (Timeline)
จึงจะเน้นบรรยายเกี่ยวกับสัตว์ประหลาด หรือตัวละครมนุษย์ที่มีประวัติและบทบาทอยู่หลายช่วงเวลา (เกิน 1 บท) ของเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา
แบบไม่ค่อยคำนึงว่าตัวละครใด มีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน
** คำเตือน - สปอยล์ทั้งหนังและนิยายภาพเก่าๆ **
บทที่ 1 - ยุคบรรพกาล
เรื่องราวส่วนนี้มักทราบจากการวิเคราะห์และศึกษาค้นคว้า เกี่ยวกับเหล่าอสูรยักษ์โดยพวกตัวละครนักวิทยาศาสตร์
แต่เดิมดาวเคราะห์โลกของจักรวาลหนังชุดนี้ เคยมีปริมาณรังสีสูงเป็น 10 เท่าของตอนที่มนุษย์อาศัย
และภายในออกจะกลวง มีโพรงใหญ่เบ้อเริ่มเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายอยู่ทั่วไปหมด
สิ่งมีชีวิตยุคแรกเริ่ม (อย่างน้อยก็เมื่อราว 250 ล้านปีก่อน) ขนาดใหญ่โตมโหฬาร พวกมันมีพลังงานมากพอจะเคลื่อนไหวและดำรงชีพ เพราะดูดกลืนรังสีเป็นอาหาร
แต่โลกยุครังสีสูงปรี๊ดมิดำรงอยู่ตลอดกาล นานไปจึงต้องปรับตัวโดยมุดลงลึกๆ ใต้โลก แสวงหาพลังงานจากจุดใกล้แกนดาวยิ่งกว่าเก่า หรือไม่ก็เข้านอนยาว (จำศีล)
จนเหลืออสูรยักษ์เพ่นพ่านเหนือพื้นผิวดาวเราไม่มาก ในช่วงกำเนิดแห่งมนุษยชาติ
อย่างไรก็ตาม ยุคแรกเริ่มของมนุษย์ยังมีพวกสัตว์ประหลาดเดินเตร็ดเตร่เนือง ๆ
ฉะนั้นจึงเหลือบันทึกทางประวัติศาสตร์และอารยธรรมของเมื่อกาลครั้งหนึ่ง ซึ่งผู้คนใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันและบูชาพวกมันดุจเทพเจ้าในสารพัดรูปแบบ เช่น ภาพวาดตามฝาผนังถ้ำ หรือตำนานเรื่องเล่าต่าง ๆ
บทที่ 2 - ยุค Godzilla: Awakening
เหตุการณ์ต่อไปนี้ใช่ว่ามีในคอมมิค Awakening หมด แต่ขอจับมายัดลงไว้เพราะเวลาที่เกิดใกล้เคียงกัน
ค.ศ. 1943 - เรือรบยูเอสเอสลอว์ตันของสหรัฐอเมริกาถูกอสูรยักษ์จู่โจม ลูกเรือเกือบทั้งหมดเสียชีวิต ยกเว้นทหารหนุ่มนาม 'วิลเลี่ยม แรนด้า'
แต่ไม่มีใครเชื่อคำให้การของเขา แถมรัฐบาลพยายามปิดข่าวเรื่องนี้อีก
ค.ศ. 1944 - พลขับเครื่องบินรบชาวมะกันชื่อ 'แฮงค์ มาร์โลว์' กับทหารยุ่นปี่ชื่อ กันเป อิคาริไล่ฆ่ากัน เพราะสงครามโลกครั้งที่ 2
เครื่องของทั้งสองร่วงแถวเกาะกะโหลก ฉะนั้นเมื่อพบคิงคองเข้าและตระหนักถึงอันตรายของเกาะลับแล พวกเขาจึงร่วมมือกันเอาชีวิตรอด แลเปลี่ยนเป็นเพื่อนแท้ในภายหลัง
1945 - อเมริกาหย่อนนิวเคลียร์ใส่ฮิโรชิมา ทำให้อสูรยักษ์แถวนั้นสองตนตื่นขึ้น นั่นคือชิโนมูระ (Shinomura) กับก็อดซิลลา
พวกมันมุ่งหน้าสู่จุดทิ้งระเบิดเพื่อหาอาหาร (รังสี) ส่งผลให้พลเรือนมากมายสิ้นชีพ หนึ่งในนั้นคือภรรยาของ เอจิ เซริซาว่า
'อิชิโระ เซริซาว่า' จึงกลายเป็นเด็กขาดแม่และเหลือแค่พ่อ (เอจิ)
1946-1950 - องค์กรโมนาร์คถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อค้นหาและศึกษาพวกอสูรยักษ์ในปี 1946
จากนั้นภารกิจหลักของเอจิที่เข้าร่วมองค์กร คือแกะรอยตามชิโนมูระกับก็อดซิลลา สู่หลากสถานที่
เอจิกับเพื่อนชาวอเมริกันพบร่องรอยที่บ่งบอกว่า ก็อดซิลลาไล่ตามไปฟัดชิโนมูระตลอดในช่วงหลายปี
ทั้งที่ฟิลิปปินส์, รัสเซีย, นิวซีแลนด์, ออสเตรเลีย, กวม แต่ก็ไม่เคยยืนยันตัวตนของพวกมันด้วยสายตาได้เลยสักครั้ง
1953 - โมนาร์คค้นพบว่าชิโนมูระมีพลังฟื้นตัวขั้นเทพ เพราะเซลล์ของเจ้านี่เพียง 1 เซลล์ สามารถกลายเป็นสัตว์ประหลาดตัวใหม่ได้
ก่อนจะงานงอก เนื่องจากเซลล์ของชิโนมูระที่โมนาร์คเก็บมาวิจัย เกิดพัฒนาเป็นอสูรยักษ์ตัวที่สอง แล้วหลุดออกไปเพ่นพ่านในโลกภายนอก
1954 - ชิโนมูระเบอร์ 1 กับเบอร์ 2 นัดพบกันแถวเกาะโมนสตา (Moansta Island) ก่อนก็อดซิลลาจะเปิดศึกด้วย, พี่ก็อดฆ่ามันได้หนึ่ง ก่อนตัวที่เหลือจะเผ่น
เอจิเห็นว่าควรปล่อยกลไกธรรมชาติทำงานของตัวเองต่อ แต่ในเมื่อคราวนี้สามารถยืนยันตำแหน่งสองสัตว์ประหลาดได้ ก็หามีใครฟังเขาไม่
การล่อพวกอสูรสู่เกาะปะการังบิกินี่ (Bikini Atoll) แล้วบึ้มทิ้งทั้งคู่ด้วยนิวเคลียร์บังเกิด, ชิโนมูระราพณาสูร ทว่าก็อดซิลลายังมีชีวิตอยู่
บทที่ 3 - Kong: Skull Island
1973 - ดาวเทียมของสหรัฐฯ จับภาพเกาะกะโหลก ที่เคยซ่อนเร้นจากสายตาชาวโลกมาตลอดได้ (เพราะมีพายุล้อมรอบตลอดปี)
วิลเลี่ยม แรนด้า ผู้พยายามพิสูจน์เรื่องอสูรยักษ์ให้ชาวโลกประจักษ์มานาน ระแคะระคายว่าบนเกาะน่าจะมีพวกมันอยู่ จึงกุลีกุจอรีบร้อนพาคนของโมนาร์คไปตรวจสอบ
แรนด้ารวบรวมคนจำนวนมากมาเป็นสมาชิกคณะสำรวจ พวกเขามีทั้งเหล่าทหารผ่านศึกจากสงครามเวียดนาม, คนแกะรอย, ช่างภาพ, นักธรณีวิทยา และนักชีววิทยา
ฮุสตัน บรูคส์/นักธรณีวิทยาผู้เชื่อเรื่องโลกกลวง ยืนยันทฤษฎีของตนสำเร็จด้วยการตรวจจับคลื่นสะท้อน จากระเบิดสั่นสะเทือนซึ่งกองทหารใช้เฮลิคอปเตอร์ ปูพรมลงใส่เกาะกะโหลก
แต่การกระทำดังกล่าวคือต้นเหตุให้ราชาประจำถิ่นกริ้ว, คองลิ่วเข้าหาคณะสำรวจด้วยความโกรธา
จึงเกิดการบาดเจ็บล้มตาย, บรรดาผู้เหลือรอดกระจัดกระจายคนละทิศ
โดยกลุ่มผู้รอดชีวิตของฮุสตัน บรูคส์ ได้รับการช่วยเหลือจากชนพื้นเมือง รวมถึงมาร์โลว์/ผู้อยู่บนเกาะมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
แรนด้าไม่รอดผ่านการผจญภัย ส่วนฮุสตัน บรูคส์กับอีกหลายชีวิตที่ยังไม่ตาย ตัดสินใจเก็บเรื่องคองไว้ เป็นความลับจากประชาชน
แฮงค์ มาร์โลว์ได้กลับไปหาภรรยาและลูกที่บ้าน, ฮุสตัน บรูคส์แต่งงานกับซาน/นักชีววิทยาซึ่งพบรักกันบนเกาะกะโหลก ภายหลัง
บทที่ 4 - Skull Island: The Birth of Kong
หลังยืนยันตัวตนของก็อดซิลลาและคองผ่านเหตุการณ์ที่แล้วๆ มาได้ องค์กรโมนาร์คเริ่มเกณฑ์คนเข้าองค์กรเพิ่ม, ค้นหาอสูรยักษ์ตามสถานที่ต่างๆ รวมทั้งเฝ้าสังเกตการณ์และศึกษาพวกมันอย่างสม่ำเสมอ
ปี 1995 - หลังฮุสตันเยือนเกาะกะโหลก 20 กว่าปี, ความอดทนของ 'แอรอน บรูคส์' ก็ขาดสะบั้น
บุตรชายของฮุสตัน ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่บิดากับองค์กรโมนาร์ค ปล่อยเฉพาะเกาะกะโหลกซึ่งมีอสูรยักษ์ยั้วเยี้ยไว้เฉยๆ ตลอดมา โดยไม่เคยส่งคนไปเฝ้าระวัง
ฉะนั้นเขาจึงรวบรวมพรรคพวกทหารรับจ้าง เดินทางสู่เกาะเพื่อยืนยันว่าคองยังเป็นมิตรของมนุษย์ และทำหน้าที่พิทักษ์ผืนดินแห่งนั้นอยู่หรือไม่
ผลลัพธ์การเดินทางของบุตรชายซ้ำรอยบิดา, ระหว่างแอรอนอยู่บนเกาะ เขาสูญเสียพวกพ้อง และเรียนรู้ว่าคองผู้กำพร้าพ่อแม่ สมแล้วที่จะรักษาตำแหน่งราชันประจำถิ่นต่อ
1996 - แม้ตอนแรกตั้งใจไปแค่ไม่กี่วัน แต่แอรอน บรูคส์และพรรคพวกที่เหลือตัดสินใจอยู่ยาวบนเกาะกับชนพื้นเมือง เพื่อช่วยฟื้นฟูความเสียหายจากการเยือนสถานที่นั้นของพวกเขา
แอรอนใส่เทปบันทึกเสียงของตน ลงเรือเล็กแล้วปล่อยออกทะเล และหวังว่าบิดาจะมีโอกาสฟังมันสักวัน
บทที่ 5 - Godzilla/Godzilla: Aftershock
1999 - ฟอสซิลของดากอน/อสูรยักษ์อันเป็นญาติห่างๆ ก็อดซิลลา ถูกค้นพบเพราะการทำเหมืองแถวฟิลิปปินส์
ดร.อิชิโระ เซริซาว่า กับดร.วิเวียน เกรแฮม/คนของโมนาร์ค จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ
พวกเขาเจอสปอร์ปรสิตของมูโต (M.U.T.O) สองก้อน, ก้อนนึงหยุดการเจริญเติบโต ส่วนอีกก้อนตัวอ่อนฟักออกมา แล้วชอนไชหาแหล่งรังสีที่อยู่ใกล้สุด
สปอร์ก้อนหยุดโตโดนหิ้วไปเก็บแหล่งทิ้งขยะนิวเคลียร์แถวเนวาดา
ด้านตัวอ่อนที่ฟัก มุ่งไปทำลายโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แถวแจนจิร่า (ญี่ปุ่น), มันกลายเป็นดักแด้อยู่ 15 ปี โดยดูดกลืนรังสีเพื่อเติบโตจนกว่าจะถึงจุดที่ลอกคราบ
2005 - 'เอ็มม่า รัสเซลล์' กับมาร์ค รัสเซลล์/คู่รักนักวิทยาศาสตร์ ร่วมกันประดิษฐ์ ORCA/อุปกรณ์ทางชีวสวนศาสตร์ (Bioacoustics) รุ่นต้นแบบขึ้นมา และเตะตาคนของโมนาร์คเข้า
โดยในปีเดียวกัน อลัน โจนาห์/อดีตผู้พันทหารซึ่งผันตัวเป็นผู้ก่อการร้ายเชิงนิเวศน์ ก็โผล่มาอยู่ในขอบเขตความสนใจขององค์กรด้วย
2012 - บันทึกเสียงของแอรอน บรูคส์ถูกค้นพบ, ฮุสตันได้รับรู้การผจญภัยของบุตรใน 16 ปีให้หลัง
ฮุสตันผู้กำลังจะเกษียณออกจากโมนาร์ค, ตั้งความหวังว่าสักวันขอเยือนเกาะกะโหลกอีกครั้ง และเปลี่ยนใจอยู่ทำงานกับองค์กรต่อ
2014 - มูโตตัวผู้ลอกคราบออกจากดักแด้ และมูโตตัวเมีย (ที่หยุดโตรอตัวผู้) ก็กลายเป็นสิ่งมีชีวิตวัยเจริญพันธุ์
พวกมันไปเจอกัน ณ ซานฟรานซิสโกเพื่อผสมพันธุ์ โดยกองทัพของมนุษย์แทบไม่มีอะไรจะใช้หยุดยั้งการขยายพันธุ์ครั้งใหญ่ ที่จะทำลายล้างโลก
เพราะเจ้าพวกนี้ใช้แรงเหวี่ยงของแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้อาวุธและเทคโนโลยีต่างๆ ของมนุษย์หยุดการทำงานชั่วคราวได้
แต่สุดท้ายผู้ล่ายุคแรกเริ่ม 'ก็อดซิลลา' ก็มาทำหน้าที่ตามธรรมชาติ สังหารมูโตทั้งสองตัวลง
สามีภรรยารัสเซลล์สูญเสียบุตรชาย จากเหตุปะทะของมูโตกับก็อดซิลลาที่ซานฟรานฯ จนความสัมพันธ์ในครอบครัวร้าวฉาน
[หลายเดือน] ให้หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว, อลัน โจนาห์หลุดพ้นจากการคุมขังและสอบสวนเรื่องก่อการร้าย ณ ฐานทัพสหรัฐฯ บนเกาะกวม เพราะจู่ๆ มีมูโตตัวใหม่ออกอาละวาด
ก็อดซิลลาเข้าประมือมูโตตัวใหม่ตามคาด แต่มันแข็งแกร่งกว่า 2 ตัวก่อนหน้า ถึงจะซัดกันหลายครั้งก็อดฯ ก็ยังมิอาจพิชิต
เอ็มม่า รัสเซลล์ คือผู้รับผิดชอบหลักในการศึกษาและติดตามมูโตใหม่
เธอใช้โอกาสนี้รับมือความเศร้า ด้วยการหมกมุ่นกับงาน จนไม่ค่อยมีเวลาให้บุตรสาวแบบ 'แมดิสัน'
ระหว่างปฏิบัติงาน เอ็มม่าพบบันทึกโบราณที่ทำให้ทราบว่าเป้าหมายของเธอคือมูโตไพรม์/สายพันธุ์ต้นกำเนิดของมูโต 2 ตัวก่อน
โดยมันคือผู้มอบความตายแก่ญาติก็อดซิลลา ด้วยการฝังไข่ปรสิตใส่ร่างจนดากอนถูกดูดกลืนพลังชีวิตสิ้น กลายเป็นฟอสซิลที่ถูกพบ ณ ฟิลิปปินส์ปี 1999 และมันคิดทำแบบเดิมอีกครั้งกับพี่ก็อด
เอ็มม่าตัดสินใจเอา ORCA รุ่นต้นแบบมาใช้, อุปกรณ์ส่งคลื่นรบกวนช่วยเปิดโอกาสให้ก็อดซิลลา ฆาตกรรมมูโตไพรม์
แม้ก็อดฯ บาดเจ็บจากการต่อสู้, แผงครีบบนหลังเสียหาย แต่ก็ไม่เป็นไรมากเพราะอวัยวะส่วนนี้งอกใหม่ได้ เหมือนเขากวาง
บทที่ 6 - Godzilla: King Of The Monsters
สาธารณชนรับรู้การมีตัวตนอยู่ของเหล่าอสูรยักษ์ เพราะก็อดซิลลากับมูโต
โมนาร์คถูกทหารกดดันให้จัดการพวกมัน ส่วนรัฐบาลจ้องจะยุบองค์กรทิ้ง
ผลักดันให้เอ็มม่าที่พบว่ามอนสเตอร์ฟื้นฟูสภาพแวดล้อมได้ เพราะทุกพื้นที่หลังสัตว์ประหลาดโคจรผ่าน สรรพชีวิตจะกลับคืนมาจากการโดนกัมมันตรังสีกระตุ้น
รู้สึกร้อนใจจนเป็นฝ่ายติดต่อหาอลัน โจนาห์ และขอความร่วมมือในแผนคืนสภาพโลก
2019 - ดร.เอ็มม่ากับโจนาห์ เริ่มแผนใช้ ORCA ที่พัฒนาสมบูรณ์ ปลุกเหล่าอสูรยักษ์จำศีลซึ่งโมนาร์คเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ ทีละตัว
ก่อนความเรือหายจะมาเยือน เมื่อปลุกกิโดราหรืออสูรซีโร่ (มังกรสามหัว) เข้า
เพราะเจ้านี่ดันเป็นสายพันธุ์จากต่างดาว ที่สามารถปลุกสัตว์ประหลาดทั่วโลกให้ตื่นขึ้นพร้อมๆ กัน
แล้วสั่งอสูรพวกนั้นทำลายล้างทุกสิ่ง เพื่อสร้างการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ และเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของทั้งพิภพ ไปเป็นแบบที่มันชอบได้
ทหารพยายามกำจัดกิโดรา ด้วยอาวุธมหาประลัยรุ่นใหม่อย่างตัวทำลายออกซิเจน
พวกเขาทิ้งระเบิดใส่ตอนก็อดซิลลากำลังโรมรัน กัดศีรษะมังกรขาดหล่นทะเล 1 หัว ทว่าผลลัพธ์ดันไม่ใช่ความตายของมอนสเตอร์ทั้ง 2 ดังคาด
กิโดราไม่เป็นไรแถมงอกหัวใหม่ ในขณะที่ก็อดซิลลาเจ็บหนักเจียนตาย
อิชิโระ เซริซาว่า ผู้ศรัทธาอย่างแรงกล้าในตัวแทนแห่งธรรมชาติ ยอมทิ้งชีวิตขนระเบิดนิวเคลียร์ไปชาร์จพลังใหม่ให้ก็อดซิลลา จนมันฟื้นร่างกายมาแข็งแกร่งกว่าเก่า
ขณะเดียวกัน, แมดิสันขโมย ORCA จากมารดา ไปออกอากาศคลื่นสัญญาณที่เรียกอสูรยักษ์ทุกตัวสู่บอสตัน เพื่อชะลอวันสิ้นโลก
ศึกนัดล้างตาของก็อดซิลลากับกิโดรา ณ บอสตัน ช่างดุเดือด, แต่ด้วยความร่วมมือหลายภาคส่วน ของทั้งฝั่งมนุษย์และสัตว์ประหลาด สายพันธุ์ต่างดาวก็ถึงคราวดับสูญ
เอ็มม่าพลีชีพเพื่อช่วยชีวิตลูกสาว ส่วนก็อดซิลลากลายเป็นราชาของเหล่าอสูรยักษ์ คอยกำกับพฤติกรรมมอนสเตอร์ตนอื่นๆ มิให้ทำลายสมดุลโลก
ด้านโจนาห์ไปซื้อหัวกิโดรา จากชาวประมงที่เจอซาก
บทที่ 7 - Godzilla Dominion (และอาจจะ Kingdom Kong ด้วย)
GvK: Godzilla Dominion กับ GvK: Kingdom Kong คือนิยายภาพสองชุดซึ่งจะปูทางเนื้อหาให้ภาพยนตร์ Godzilla vs. Kong
โดยเรื่องแรกจะนำเสนอข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ เกี่ยวกับก็อดซิลลา และการเผชิญหน้าอสูรยักษ์ตนใหม่ ในเหตุการณ์หลังหนังภาค King Of The Monsters
เรื่องที่สองจะเป็นภาคต่อของ Skull Island: Birth of Kong ควบบทนำร่องของ Godzilla vs. Kong
ยังไม่ทราบช่วงเวลาของเหตุการณ์แน่ชัด แต่เนื้อหาเกี่ยวกับทหารที่เยือนเกาะกะโหลก (อีกแล้วครับท่าน) และการเผชิญอสูรหน้าคล้ายค้างคาว กับอสูรรูปลักษณ์คล้ายเสือของคิงคอง
บทที่ 8 - Godzilla vs. Kong
ก็อดซิลลาโดนอะไรบางอย่างเปลี่ยนเป็นจอมเกรี้ยวกราด, คองคือความหวังในการหยุดยั้งราชันสัตว์ประหลาด และอาจมีผู้ร้ายตัวจริงที่ทุกฝ่ายควรจัดการในท้ายที่สุด อยู่เบื้องหลัง
COMMENTS