# 11 เกร็ดน่ารู้ # ก่อนดู Karate Kid: Legends <<ย้อนรอยเส้นทาง เรื่องราวในจักรวาลมิยากิ

  แฟรนไชส์คาราเต้คิด (ที่บางที ก็มีกังฟูปน) คือมหากาพย์หนัง (และซีรีส์) ดราม่า อันมีสูตรเด็ดเป็นการติดตาม เส้นทางแห่งการก้าวพ้นวัย, ของวัยรุ...

 

แฟรนไชส์คาราเต้คิด (ที่บางที ก็มีกังฟูปน) คือมหากาพย์หนัง (และซีรีส์) ดราม่า

อันมีสูตรเด็ดเป็นการติดตาม เส้นทางแห่งการก้าวพ้นวัย, ของวัยรุ่นผู้ชีวิตอับเฉา ด้วยสาเหตุบางอย่าง

ซึ่งพวกเขาจะก้าวผ่านมัน ด้วยการพัฒนาตนเอง, ผ่านการฝึกปรือและขัดเกลา ทักษะด้านศิลปะการต่อสู้

จุดเริ่มต้นแฟรนไชส์ คือภาพยนตร์เรื่อง คิด คิด ต้องสู้ (The Karate Kid) ของค.ศ. 1984

ที่ประสบความสำเร็จเสียจน คลอดภาคต่อ ตามมาอีกสาม

ได้แก่คาราเต้คิด 2 (The Karate Kid Part II), เดอะ คาราเต้คิด ภาค 3 (The Karate Kid Part III) และเดอะ คาราเต้คิด คนต่อไป (The Next Karate Kid)

หลังห่างหาย หลายเพลา, กังฟูคิดเดอะ คาราเต้คิด (The Karate Kid) 

ที่หยิบพล็อตหนังต้นฉบับ (ภาคแรกสุด) มารีไซเคิล และไม่เกี่ยวข้องกัน กับของเดิม (ณ ตอนนั้น), เข้าโรงฉาย ณ ค.ศ. 2010

แม้ประสบความสำเร็จ ทางรายได้, แต่ก็เปล่ามีภาคต่อ คลานตามกันมา

และกลายเป็นว่า ได้ออกซีรีส์ คอบร้า ไค (Cobra Kai) อันคำวิจารณ์ดี, มาสานต่อเรื่องราว ที่อิงจากหนัง 4 ภาคแรกแทน

อย่างไรซะ คาราเต้ คิด: ผนึกพลังตำนานนักสู้ (Karate Kid: Legends) อันเป็นภาพยนตร์ลำดับ 6, ก็ปรากฏโฉม ค.ศ. 2025

คอนเทนท์ล่าสุด ของจักรวาลมิยาจิ... ไม่สิ ต้องออกเสียงว่ามิยากิ (Miyagi-verse)

ได้นำนักสู้ในตำนาน (ของจักรวาลหนังเขา) อย่างลุงฮัน (เฉินหลง) กับแดเนียล ลารุสโซ่ (ราล์ฟ มัคชิโอ), มาจอยกัน

โดยพวกเขาจะผนึกพลัง เพื่อสอนวิทยายุทธ์แก่ วัยรุ่นคนเดียวกัน, และผนวกรวมจักรวาลมิยากิ ให้เป็นหนึ่ง

**พยายามเลี่ยงสปอยล์แล้ว แต่ใครชอบปลอดภัยไว้ก่อน หยุดอ่านแค่นี้ก็ได้**

[1] The Karate Kid (1984)

แดเนียล ลารุสโซ่ ถูกมารดาแม่เลี้ยงเดี่ยว ผู้ย้ายที่ทำงาน, บังคับให้ย้ายบ้าน แบบตัดขาดจากชีวิตเก่า

เขาขยับจากนิวอาร์ก (Newark) รัฐนิวเจอร์ซีย์, สู่เรซีดา (Reseda) ลอสแอนเจลิส

สิ่งเดียวที่ทำให้เขา ไม่โคตะระเซ็ง กับชีวิตใหม่, คือสาวสวยชื่ออาลี

แต่หล่อนดั๊นมีแฟนเก่า ผู้ไม่ยอมรับความจริง (ว่าเธอ เลิกกับเค้าแล้ว) อย่างอีตา จอห์นนี่ ลอว์เรนซ์

แถมจอห์นนี่ยังเป็น แชมป์คาราเต้แห่งออลวัลเลย์ (All-Valley) สองสมัยติด

ชะตากรรมของแดเนียล หลังจากนั้น, หนีไม่พ้นโดนจอห์นนี่ กับพวกพ้องสำนักคาราเต้ "คอบร้า ไค" ของหมอนี่ รุมรังแก

และมันมีแต่ จะหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ, จนกระทั่งถึงจุดที่ แดเนียลโดนรุมกระทืบ

ทว่าตาแก่ชาวยุ่นปี่ ที่นึกว่าก็แค่, ช่างซ่อมโน่นนี่กิ๊กก๊อก ของหอพัก (ซึ่งแดเนียลอาศัย)

กลับโผล่มา วาดลวดลาย, ปราบแก๊งเด็กคอบร้าไค เสียราบคาบ

ตกลงว่าเขาคือ คุณมิยากิ, ทหารผ่านศึก และผู้สืบทอดคาราเต้ สายมิยากิโด (ของโอกินาวะ)

คุณมิยากิ พยายามจบเรื่อง ด้วยสันติวิธี, แต่ก็เหมือนที่เขาเอง กล่าวว่า "ศิษย์ที่เลวไม่มี มีแต่อาจารย์ไม่ดี"

ต้นตอของเหตุการณ์พวกนี้ มาจาก 'จอห์น ครีส', ทหารผ่านศึก จากสงครามเวียดนาม ผู้สอนศิษย์ทุกคนว่า "อย่าปรานี" ใครหน้าไหน

ดังนั้นเมื่อเจรจา ให้สำนักคอบร้าไค เลิกพฤติกรรมอันธพาลไม่ได้

มิยากิเลย ขอท้าประลอง, โดยเดิมพันคือแดเนียล ที่เป็นมือใหม่เอี่ยมถอดด้าม

จะต้องชนะการแข่งขัน ออลวัลเลย์คาราเต้รอบใหม่ ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นให้ได้

[2] The Karate Kid Part II (1986)

ทันทีหลัง ออลวัลเลย์คาราเต้ทัวร์นาเมนต์ จบลง, ด้วยเกียรติยศของ สำนักมิยากิโด (ที่ส่งลงแข่ง 1 คนถ้วน)

จอห์นนี่ ลอว์เรนซ์ ถูกอาจารย์จอห์น ครีส, ลงโทษด้วยการ ลงไม้ลงมือใส่ ในลานจอดรถ 

มิยากิเข้าขัดขวาง ช่วยจอห์นนี่ไว้ได้, และทำให้ครีส อับอายขายหน้าอย่างเงียบ ๆ 

หกเดือนต่อมา มิยากิได้รับจดหมาย เกี่ยวกับพ่อที่ป่วย 

จึงเดินทางกลับสู่ หมู่บ้าน ณ บ้านเกิดของเขา, บนเกาะโอกินาว่า 

แดเนียล ลารุสโซ่ ติดตามเขาไปด้วย, และพบกับอริใหม่

ได้แก่ "โชเซน โทกุจิ" หลานของ, ลุงซาโต้ ผู้เคยมีอดีตนี่นั่น กันกับคุณมิยากิ

โชเซนคือเด็กท้องถิ่น ที่ถูกเลี้ยงดู และฝึกฝนคาราเต้ แบบเข้มงวดจัด

โดยซาโต้ ผู้ช่ำชองวิชา สายมิยากิโดเช่นกัน

แล้วความเป็นคู่แข่ง ระหว่างมิยากิโดทั้ง 2 ฝั่ง (คุณมิยากิ-แดเนียล, ซาโต้-โชเซน) กับความขัดแย้งอื่น ๆ

ก็ส่งผลต่อ นายโชเซน, จนเขาท้าแดเนียลสู้ แบบกะให้ตายกันไปข้าง

[3] The Karate Kid Part III (1989)

ความพ่ายแพ้ใน ออลวัลเลย์คาราเต้ทัวร์นาเมนต์, ทำให้จอห์นครีส และสำนักคอบร้าไค แทบจบสิ้น

'แทร์รี่ ซิลเวอร์', เพื่อนร่วมรบในสงครามเวียดนาม (ของครีส) นักธุรกิจผู้มั่งคั่ง และผู้ร่วมก่อตั้งคอบร้าไค

จึงตั้งใจใช้ทุกวิถีทาง เพื่อฟื้นฟูสำนักขึ้นใหม่, รวมถึงแก้แค้น แดเนียลกับมิยากิ

แดเนียลและมิยากิ ที่เดินทางกลับจากโอกินาว่า, เจอะว่าห้องพัก ของแดเนียลถูกทำลาย 

และแม่ของเขา ไปอยู่นิวเจอร์ซี เพื่อดูแลญาติที่ป่วย, ทำให้มิยากิ เชิญแดเนียลไปอยู่ด้วย  

อย่างไรก็ตาม มิยากิผู้ไม่นิยม การประชันขันแข่ง, ปฏิเสธที่จะฝึกฝนแดเนียล เพื่อป้องกันตำแหน่ง แชมป์ออลวัลเลย์ 

ทำให้แดเนียลโกรธ แล้วย้ายเข้าคอบร้าไค ฝึกกับแทร์รี่ซิลเวอร์, โดยไม่ตระหนักว่า มันคือกับดัก!

ที่จะฉุดแดเนียล จมสู่ความหลงผิด ยึดติดกับชัยชนะ และความไร้ปรานี..., นอกจากมิยากิ จะช่วยดึงเขากลับมาได้

[4] The Next Karate Kid (1994)

คุณมิยากิ (ตัวละครเดียว จากภาคก่อน ๆ ที่กลับมา) เดินทางสู่บอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ 

เพื่อเข้าร่วมพิธีรำลึก ถึงทหารญี่ปุ่น-อเมริกัน อันต่อสู้ในกรมทหารราบที่ 442, สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 

ระหว่างอยู่นั่น เขาเจอกับหลุยซ่า เพียร์ซ ภรรยาม่ายของผู้บังคับบัญชาของเขาอีกครั้ง 

หลุยซ่าแนะนำให้เขา รู้จักกับจูลี่, หลานสาววัยรุ่นจอมกบฏ

โทสะในชีวิตของเธอ เป็นผลมาจากการตาย ของบิดามารดา

มิยากิเสนอจะช่วยเหลือ, แน่นอนว่าโดยสอน วิชาคาราเต้

เพื่อจูลี่จะสามารถ รับมือกับเน็ด, ชายนิสัยแย่ที่เคย จีบเธอไม่ติด แล้วยังคิดตอแย (รวมทั้งปัญหาอื่น ๆ) ได้

[5] The Karate Kid (2010)

เดร พาร์คเกอร์ วัย 12 ถูกมารดาแม่เลี้ยงเดี่ยว ผู้ย้ายที่ทำงาน, บังคับให้ย้ายบ้าน แบบตัดขาดจากชีวิตเก่า

เขาขยับจากดีทรอยต์ (เมืองในรัฐมิชิแกน อเมริกา), สู่ปักกิ่ง (ประเทศจีน)

สิ่งเดียวที่ทำให้เขา ไม่โคตะระเซ็ง กับชีวิตใหม่, คือสาวหมวยน่ารัก นักดนตรี ชื่อเหม่ยอิง

แต่หล่อนดั๊นมี เพื่อนสมัยเด็ก ผู้ไม่ยอมรับความจริง (ว่าเธอ ไม่ชอบนายอ่ะ) อย่างด.ช.เฉิง

แถมเฉิงยัง เก่งกังฟูสุด ในหมู่นักเรียนรุ่นเดียวกัน ของสำนักมังกรศึก, ที่ลูกศิษย์ลูกหาเพียบ

ชะตากรรมของเดร หลังจากนั้น, หนีไม่พ้นโดนรุมบูลลี่

และมันมีแต่ จะหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ, จนกระทั่งถึงจุดที่ เดรโดนรุมกระทืบ

ทว่าตาแก่ชาวจีน ที่นึกว่าก็แค่, คนดูแลตึกธรรมดา

กลับโผล่มา วาดลวดลาย, สยบแก๊งเด็กมังกรศึก

จากนั้นเดรเลยต้อง ฝึกกังฟูอย่างหนัก กับลุง "ฮัน", เพื่อชนะการแข่งขันใหญ่

[6] Cobra Kai ซีซั่น 1

34 ปีหลังจอห์นนี่ ลอว์เรนซ์ ปราชัยแก่แดเนียล ลารุสโซ่, ในทัวร์นาเมนต์ออลวัลเลย์

ขณะที่แดเนียล ประสบความสำเร็จในชีวิต, เปิดร้านขายรถใหญ่โต ร่ำรวย แต่งเมีย มีลูกสาว (คนโต) และลูกชาย (คนเล็ก)

ฝ่ายจอห์นนี่คือตกต่ำ มาตลอด นับแต่วันนั้น, กระเป๋าแบน แฟน (เมียเก่า) ทิ้ง ห่างเหินกับร็อบบี้ (บุตรชายคนเดียว) แถมตกงาน

จอห์นนี่อดสูถึงจุดที่ แย่กว่านี้คงมีแค่ กลายเป็นคนไร้บ้าน, แต่ตอนนั้นเองที่ กลุ่มวัยรุ่นซึ่งรุมตื้บ ไอ้หนุ่มคนนึง พาลมาหาเรื่องกระตุ้นต่อมเขา

อดีตแชมป์ออลวัลเลย์ 2 สมัย วัยกลางคน, ยังเก๋าพอเหลือแหล่ และคว่ำแก๊งเด็กกร่างเรียบ

ไอ้หนุ่ม (มิเกล ดิแอซ) ผู้ปรากฏว่า เป็นเพื่อนร่วมอพาร์ตเมนท์ เดียวกับจอห์นนี่, จึงอ้อนขอให้ สอนสั่งวิชาคาราเต้

จอห์นนี่ได้ยอม รื้อฟื้นสำนัก “คอบร้า ไค” ขึ้นมาเปิดใหม่, ฝึกมิเกลจนเปลี่ยนจาก หนุ่มเนิร์ดอ่อนแอ เป็นคนสู้เก่งถึงขั้น ปราบแก๊งเด็กกร่างคนเดียวไหว

ทำให้คอบร้า ไค เริ่มกลับมามีชื่อเสียง, และมีสมาชิกหน้าใหม่ ๆ เข้าเรียน

เหตุการณ์ดังกล่าว กระตุ้นแดเนียล ให้รื้อฟื้นมิยากิโด, เปิดสำนักเพื่อแข่งกับ คอบร้าไค

เพราะในสายตาแดเนียล คอบร้าไคคือ คาราเต้สายมาร, สมควรแก่การ ถูกหยุดยั้งไว้

และศิษย์คนแรกของ มิยากิโดที่คืนชีพนั้น ได้แก่ ‘ร็อบบี้’, ลูกชายที่อยากปั่นหัว พ่อบังเกิดเกล้า ด้วยการเข้าร่วม กับคู่ปรับของป๊ะป๋า

[7] Cobra Kai ซีซั่น 2

ข่าวเกี่ยวกับคอบร้าไค ที่กำลังไปได้สวย แว่วเข้าหูของ ‘จอห์น ครีส’, ผู้เฒ่าผู้ชีวิตอับเฉา เขาย่ำแย่มาตลอด 30 กว่าปีเช่นกัน

จอห์นนี่ตัดสินใจว่า อยากให้โอกาสที่สอง กับอาจารย์ของเขา, ถึงรับเอาครีส เข้าเป็นครูผู้ช่วย ในโรงฝึก

แต่ครีสก็ค่อย ๆ เผยแพร่แนวคิด คาราเต้สายมาร, แก่เหล่าลูกศิษย์ลูกหา ของอาจารย์จอห์นนี่ ลับหลัง

ด้านพวกวัยรุ่น ก็ว้าวุ่นกับศึกรัก, มิเกลกับร็อบบี้ มีเรื่องขัดแย้ง เพราะแฟนของทั้งคู่เป็นอริกัน

ซาแมนธ่า (ลูกสาวแดเนียล ที่เข้ามิยากิโดแล้ว) กับโทรี่ (เด็กในโรงฝึก คอบร้าไค), ชอบทะเลาะกันจัง

และนั่นส่งผลให้ ความเป็นคู่แข่งระหว่าง 2 สำนักคาราเต้ ยิ่งลุกลาม

ถึงขั้นบานปลาย ก่อเกิดเหตุร้ายหนักหนา ในภายหลัง

[8] Cobra Kai ซีซั่น 3

อุบัติเหตุ จากเหตุร้ายในตอนจบซีซั่น 2 ทำมิเกลเจ็บหนัก เข้าโรงพยาบาล, และเสี่ยงจะเดินไม่ได้อีก

ขณะที่ร็อบบี้ ต้องเข้าทัณฑสถาน สำหรับผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ

ส่วนจอห์นนี่ ถูกอาจารย์ครีส ใช้เล่ห์กระเท่ห์, ขโมยคอบร้าไคไป

ทำให้จอห์นนี่ ตั้งสำนักคาราเต้ของตัวเอง ชื่อว่าอีเกิ้ลแฟง (แปลว่าเขี้ยวอินทรี ที่ฟังดูเท่ดี, ถึงแม้อินทรี จริง ๆ ไม่มีเขี้ยว) เพื่อจะประชัน

จอห์นนี่พยายามเต็มที่ เพื่อช่วยมิเกล ให้กลับมาเดินได้

ฝ่ายแดเนียล กิจการขายรถนำเข้า ของเขา ประสบปัญหา, ถึงต้องเดินทาง สู่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อหาทางออก

และก็พลอยได้พบกับ อดีตศัตรูตัวฉกาจ อย่าง “โชเซน โทกุจิ” อีกคำรบ

[9] Cobra Kai ซีซั่น 4

เพื่อยุติข้อขัดแย้ง ระหว่างคอบร้าไค (ของครีส) กับทั้งมิยากิโด และอีเกิลแฟง, พวกอาจารย์ตกลงกันว่า สำนักไหนพ่าย ให้ปิดโรงฝึกซะ

แดเนียลกะจอห์นนี่ เห็นว่าหากร่วมมือกันสอน คาราเต้ 2 สาย (มิยากิเน้นรับ แฟงเน้นรุก) แก่เด็ก ๆ ได้, โอกาสแข่งชนะ ‘ออลวัลเลย์ทัวร์นาเมนต์’ จะเพิ่มพูน

พวกเขาจึงรวมสำนักกัน แบบตั้งใจว่าชั่วคราว, จนกว่าจะคว่ำ คอบร้าไค by ครีสสำเร็จ

แต่แดเนียลกะจอห์นนี่ ณ จุดนี้ ยังเหมือนน้ำกับน้ำมัน ที่ผสมรวมกันไม่ได้, ความสัมพันธ์อันกระท่อนกระแท่น ส่งผลต่อการฝึก

เท่านั้นไม่พอ ครีสผู้หวั่น ๆ อยู่ว่า อาจแพ้มิยากิบวกแฟง, ถ่อไปตาม ‘แทร์รี่ ซิลเวอร์’ ผู้ร่วมก่อตั้งคอบร้าไค กลับมาช่วยกันสอน

และแล้วผลการแข่งออลวัลเลย์ ก็คือคอบร้าไค ชนะเลิศ (แม้แค่ฉากหน้า)

สำนักอีเกิลแฟงกับมิยากิโด ต้องปิดตัวลง, ทว่าแดเนียลยอมปล่อยให้ คอบร้าไคลอยนวล 

เผยแพร่ศิลปะต่อสู้ อันไร้ปรานี ให้ขจรขจายยิ่งขึ้นไม่ได้, เขาจึงเรียกหา โชเซน โทกุจิ

[10] Cobra Kai ซีซั่น 5

แทร์รี่ทรยศครีส ฮุบสำนัก, และตั้งใจจะใช้ความร่ำรวย ช่วยดันคอบร้าไค ให้กลายเป็นแฟรนไชส์คาราเต้ ขยายสาขาไปทั่ว

มิเกล ผู้กะลังหลงทางชีวิต คิดว่าการตามหาพ่อแท้ ๆ ที่ไม่เคยเจอ อาจช่วยได้, เลยหนีออกจากบ้าน ดิ่งสู่เม็กซิโก

ร้อนถึงจอห์นนี่ ผู้ต้องบังคับพาร็อบบี้ ข้ามประเทศไป ช่วยกันตามหา, เพื่อพามิเกล คืนสู่เหย้า

หลังเคลียร์เรื่องมิเกล, โชเซน กับจอห์นนี่ กลายเป็นพันธมิตรของแดเนียล

อาจารย์ทั้ง 3 ช่วยกันดูแล สำนักมิยากิโด ที่เปิดขึ้นอีกรอบ, เพื่อต่อต้านคอบร้า ไค (ของแทร์รี่)

2 สำนักประลองกัน เพื่อแย่งโควต้าเข้าแข่ง “เซไค ไทไค” ทัวร์นาเมนต์คาราเต้ ระดับโลก

ก่อนผลสรุป การเผชิญหน้า กับสำนักคอบร้าไค by แทร์รี่, จะดำเนินถึงจุดจบ ที่เหนือความคาดหมาย

[11] Cobra Kai ซีซั่นจบ

เหล่าศิษย์มิยากิโด ต่างกระตือรือร้นกับการจะได้ โกอินเตอร์, ผ่านการแข่งเซไคไทไค

แต่การประกาศสิ่งที่ ไม่มีใครคาดคิด, กระตุ้นความขัดแย้ง ภายในสำนัก

แดเนียลรู้สึกไม่มั่นคง, หลังค้นพบว่า คุณมิยากิผู้ล่วงลับ ปิดบังอดีตอันไม่สู้ดีไว้

ส่วนการแข่งระดับโลกนั้น มีเหตุการณ์หักมุม เกิดสารพัดเลยครับ