เรื่องมันเริ่มจากผม เห็นว่ามีทั้งกองแช่ง และกองอวย, เกี่ยวกับหัวข้อการ ประเมินรายได้ล่วงหน้า ของภาพยนตร์ Wicked (2024), บนเว็บบอร์ดต่างประเท...
เรื่องมันเริ่มจากผม เห็นว่ามีทั้งกองแช่ง และกองอวย, เกี่ยวกับหัวข้อการ
ประเมินรายได้ล่วงหน้า ของภาพยนตร์ Wicked (2024), บนเว็บบอร์ดต่างประเทศ (reddit)
เลยลองสืบค้น เกี่ยวกับ คอนเทนท์ดังกล่าวดู, จนรู้ว่าเป็นงานดัดแปลง
จากงานเลียนแบบ ของนิยายดังในอดีต (ที่ต้นตำรับ อายุมากเกินกว่า 1 ศตวรรษแล้ว) อีกที
แถมเคยมี อะไรคล้าย ๆ กัน, อย่างภาพยนตร์คนแสดง แฟนตาซี งานภาพงามตา เมื่อปี 2010 กว่า ๆ นั่น
ทีแรก ผมเข้าใจผิดว่า Oz the Great and Powerful เกี่ยวข้องกับวิคเค็ด (Wicked) ด้วยซ้ำ, ....ซึ่งตกลงว่า "ไม่เชิง"
หลังขุดคุ้ย ข้อมูลเพิ่ม, พบว่ามีอะไร ลึกลับซับซ้อน พิสดารเกินคาด
จึงนำมาซึ่งบทความ ที่จะพาไปทำความรู้จัก "จักรวาลแห่งออซ", ของวรรณกรรม อันยาวระดับมหากาพย์
และ "ดูราวกับ" เป็นอมตะ, เพราะถึงแฟรนไชส์เขา รุ่งบ้าง ร่วงบ้าง
แต่ก็จะมี คนหยิบจับ เอากลับมาปัดฝุ่น ขายต่อประจำ (สำหรับพวกฝรั่ง โดยเฉพาะฝั่งอเมริกาน่ะ)
[1] พ่อมดมหัศจรรย์แห่งออซ (The Wonderful Wizard of Oz)
เป็นนวนิยายสำหรับเด็ก ที่เขียนโดย แอล แฟรงค์ บอม (L. Frank Baum) ในค.ศ. 1900
และวาดภาพประกอบ โดยดับเบิลยู ดับเบิลยู เดนสโลว์ (W. W. Denslow)
มันคือนิยายเล่มแรก จากหนังสือชุดออซ (Oz), ว่าด้วยเรื่องราวของ เด็กสาวชาวไร่ จากแคนซัส นามโดโรธี
ที่พลัดหลงสู่ ดินแดนมหัศจรรย์ อันมีเวทมนตร์
หลังจากเธอ และน้องหมาคู่ใจ ชื่อโตโต้, โดนพายุ พัดพาบ้านทั้งหลัง ขึ้นสู่ท้องฟ้า
เธออยากกลับบ้าน เหลือหลาย, แต่ดูทรง คงทำไม่ได้จนกว่า จะฆ่าแม่มดตะวันตกผู้ชั่วร้าย (Wicked) สำเร็จ
[2] หนังสือชุดออซ ที่บอมประพันธ์เอง จนเสร็จสมบูรณ์, มีมากถึง 14 เล่ม
บอมทำตัวเป็น อาลักษณ์ (ผู้ทำหน้าที่ ด้านบันทึกโน่นนี่ ของราชสำนัก) แห่งอาณาจักรชื่อ ออซ
เพื่อเน้นย้ำ แนวคิดที่ว่า, ออซเป็นแดนลับแล แต่มีอยู่จริง บนโลกของเรา (ตามความนิยม คนสมัยโน้นเขา)
หลังบอมเสียชีวิต ในปี 1919, ยังมีนักเขียน อีกหลายคน มาสานต่อเรื่องราว
รวม ๆ แล้วจำนวนหนังสือ ของนิยายชุดดังกล่าว, จึงบรรลุ 40 เล่ม
[3] นับแต่ ตีพิมพ์คราแรก เมื่อปี 1900, มหากาพย์นิยายออซ ถูกดัดแปลง สู่สื่ออีกหลายแขนง มาตลอด
เช่น ภาพยนตร์, โทรทัศน์, ละครเวที, หนังสือ (ที่ไม่ใช่นิยาย), การ์ตูน (คอมมิค), เกม, หรือกระทั่ง บทละครทางวิทยุ
บอมลงมือ ดูแลการดัดแปลงเอง หลายครั้ง, ในช่วงที่ยังมีชีวิต
บอมเคยถึงขั้น ก่อตั้งบริษัท ออซ แมนูแฟกเจอริ่ง (The Oz Film Manufacturing Company), เพื่อผลิตหนังเอง
แต่ไม่ทราบเพราะ แนวคิดจักรวาลหนัง มันมาเร็วไป (สำหรับยุคโน้น) ด้วยไหม, บริษัทนี้ถึง อายุสั้น
[4] การดัดแปลงหนังสือเรื่อง Oz ที่ได้รับ การยกย่องสูงสุด, คือภาพยนตร์มิวสิคัล (เพลง) ของ MGM ปี 1939
คอนเทนท์ชื่อ พ่อมดแห่งเมืองออซ (The Wizard of Oz) ทุนสร้าง 2.8 ล้านดอลลาร์, ส่วนรายรับรวม คือ 29.7 ล้าน
ถูกชื่นชมหลายด้าน ทั้งงาน เทคนิคัลเลอร์ (เทคโนโลยีผลิต ภาพสีสวยสด แสนบรรเจิด สำหรับ ค.ศ.นู้น),
การเล่าเรื่อง เชิงแฟนตาซี, ดนตรีประกอบ, และตัวละคร ซึ่งน่าจดจำ
ถูกเสนอชื่อเข้าชิง ออสการ์ 5 สาขา, ชนะได้รางวัล เพลงประกอบยอดเยี่ยม กับดนตรีประกอบยอดเยี่ยม
[5] ดินแดนออซ มีรูปร่างทรง สี่เหลี่ยมผืนผ้า, และแบ่งเขตแดน ตามแนวทแยง ออกเป็น 4 ประเทศ
ได้แก่ ประเทศมันช์กิน ทางทิศตะวันออก, วิงกี้ ทางตะวันตก, กิลลิกิน ทางเหนือ, และควอดลิง ณ ทิศใต้
ส่วนใจกลางของออซ คือ "เมืองมรกต", ซึ่งเป็นบางกอก (เมืองหลวง) ของอาณาจักร
เลยอาณาเขต ของประเทศทั้ง 4 ออกไป, จะมีทะเลทรายกว้างใหญ่ ล้อมรอบทุกทิศ
เดิมทีขอบเขต แผนที่แดนออซ มีแค่นี้แหละ, เนื่องจากนิยายเล่มแรก บอกไว้ว่างี้
แต่เพราะความที่ นิยายเล่มแรกนั่น ขายดีจนคนเขียน, ผลิตภาคต่อ หากินต่อ ได้อีกยาว
จึงกลายเป็นว่า มีประเทศ มีอาณาจักรเวทมนตร์อื่น ๆ, ที่ตั้งอยู่เลย ทะเลทรายเวิ้งว้าง ปรากฏภายหลัง
แผนที่แดนออซ ซึ่งเป็น "ภาพสะท้อน" จากของจริง
ประเทศทางตะวันออก กะตะวันตก, เลยอยู่สลับกัน กับที่บนแผนที่ บ่งชี้ทิศ
[6] ค.ศ. 1954 บริษัทวอลต์ ดิสนีย์ (Walt Disney Productions) ซื้อลิขสิทธิ์ในการจัดทำ ภาพยนตร์จากหนังสือ Oz 13 เล่ม
หลังชวดการ ทำหนังจาก หนังสือเล่มแรกสุด ให้ผู้คนจดจำ, เพราะ MGM ตัดหน้า
ดิสนีย์พยายามพัฒนา โครงการหนังคนแสดง เรื่อง The Rainbow Road to Oz, แต่ลงเอยว่า งานล่มกลางคัน
ต่อมา, พวกเขาคลอด Return to Oz (1985) ภาคต่อ (อย่างไม่เป็นทางการ) ของ The Wizard of Oz (1939) ออกมาจนได้
ทว่าประสบ ความล้มเหลวในบ้าน อย่างชัดแจ้ง (ทุน 28 ล้าน รายได้ที่เมกา 11.1 ล้าน)
หลังจากนั้น ดิสนีย์ก็ทยอยสูญเสีย, ลิขสิทธิ์ในการสร้าง ภาพยนตร์จากนิยาย Oz
หนังสือหลายเล่ม กลับเป็น สมบัติสาธารณะ (public domain)
และหนังเรื่องถัดมา ของพวกเขา, คือภาพยนตร์ฉบับมี พวกมัพเพทส์ (ตุ๊กตุ่นหุ่นเชิด)
อันทำเพื่อ ฉายโทรทัศน์, แบบ The Muppets' Wizard of Oz (2005)
[7] ดิสนีย์ ทุ่มทุนสร้าง Oz the Great and Powerful (2013)
เรื่องนี้ต้องเท้าความ โดยย้อนกลับไปเมื่อ 'ละครเพลง วิคเค็ด' เกิดฮิต (ในหมู่พวก ฟะรังคี)
จึงมีคนของดิสนีย์ เล็งเห็นว่า, เราหยิบอีตาพ่อมด ชื่อ "ออซ" มาเล่นได้นี่หว่า
หลังเขาสังเกตว่า อดีตของออซ ถูกบอกเล่า, ในหนังสือเล่ม 6 (The Emerald City of Oz)
ช่วงแรก โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์, ถูกเล็งมา รับบทออซ (แต่ก็เหลว)
แซม ไรมี่ ถูกวางตัวให้กำกับ ณ ปี 2010 (แต่อันนี้สำเร็จ)
เจมส์ ฟรังโก ซึ่งเคยร่วมงานกะ ไรมี่ (ใน Spider-Man ไตรภาค), กลายเป็นผู้สวมบท พ่อมดมหัศจรรย์ ผู้ยิ่งใหญ่
อย่างไรซะ หนังทุน 215 ล้านดอลล์, ทำเงิน 493.3 ล้าน
ผลลัพธ์ไม่ดีพอ ที่ดิสนีย์จะ อนุมัติภาคต่อ หรือซีรีส์จักรวาลเดียวกัน, ตามที่ผู้เกี่ยวข้อง เคยวาดฝัน
[8] Wicked: The Life and Times of the Wicked Witch of the West
คือนวนิยายอเมริกัน ที่ตีพิมพ์ในปี 1995, เขียนโดย เกรกอรี่ แมกไกวร์ (Gregory Maguire) ภาพประกอบโดย ดักลาส สมิธ (Douglas Smith)
เป็นเล่มแรก ของหนังสือชุด The Wicked Years ที่ตามมาด้วย Son of a Witch (2005), A Lion Among Men (2008) และ Out of Oz (2011)
Wicked เป็นงานเลียนแบบ, อันหยิบตัวละคร และองค์ประกอบ
จาก The Wonderful Wizard of Oz ของบอม รวมถึงภาพยนตร์ปี 1939, มาตีความใหม่
นำเสนอในรูปแบบ ชีวประวัติของ แม่มดตะวันตกผู้ชั่วร้าย
ซึ่งหนังสือเล่มนี้ ได้กำหนดให้หล่อน ชื่อ "เอลฟาบา"
[9] แม่มดผู้ชั่วร้าย แห่งตะวันตก (The Wicked Witch of the West)
คือทรราช ของประเทศวิงกี้, หล่อนเป็น โรคกลัวน้ำ ในทุกเวอร์ชั่น
สำหรับนิยาย ฉบับบอม, แม่มดตะวันตก แค่ร่วมมือกับ แม่มดชั่วตะวันออก แต่ไม่ใช่ญาติกัน
ภาพประกอบ ของเดนสโลว์ บ่งชี้ว่า, เธอเป็นแม่มดชรา พุงพลุ้ย ผูกผมเปีย สวมผ้าปิดตา 1 ข้าง
ทว่าภาพจำ ของหล่อน ในสายตาฝรั่ง, คือรูปลักษณ์จาก หนังคลาสสิค ปี 1939
ที่ดาราหญิงชื่อ มาร์กาเร็ต แฮมิลตัน (Margaret Hamilton) เล่น, โดยตัวละครมี "ผิวสีเขียว"
[10] ค.ศ. 2003, วิคเค็ดถูกดัดแปลง เป็นละครเพลงบรอดเวย์
แล้วได้รับ รางวัลโทนี่ (Tony Awards), รวมถึงประสบ ความสำเร็จอย่างยิ่ง ในวงกว้าง ภายหลัง
มีการจัดทัวร์ ตระเวนแสดงไปทั่ว ตลอดหลายปี, ตั้งแต่ 2003 ถึง 2023
ทุบสถิติรายได้ รายสัปดาห์ ในหลายเวที, เช่นที่ ลอสแองเจลิส ชิคาโก เซนต์หลุยส์ และลอนดอน
ค.ศ. 2016 รายได้รวม Wicked (ฉบับ ละครบรอดเวย์เด้อ), ถึง 1 พันล้านดอลลาร์
ซึ่งก่อนหน้ามีแค่ แฟนธอม ออฟ ดิ โอเปร่า (The Phantom of the Opera) กะไลออน คิง (The Lion King), ที่ทำได้
[11] Wicked (2024) คือ ภาพยนตร์ส่วนแรก (Part 1), จากเรื่องยาวที่โดน ตัดแบ่งเป็น 2
หรือก็คือ งานที่กำกับโดย จอน เอ็ม ชู (G.I. Joe: Retaliation, Now You See Me 2, Crazy Rich Asians)
ใช้ลูกเล่นคล้าย หนังเรื่อง Dune, เพื่อดัดแปลงนิยาย ปี 1995 มาอย่างหลวม ๆ
แต่ต่างกันตรงที่ Wicked (น่าจะ) ถ่ายทำภาค 2 เสร็จแล้ว, และแค่แบ่งเนื้อหา ไปฉายปีหน้า (2025)
เหตุการณ์เริ่มต้น ก่อนโดโรธี จากแคนซัส มาเยือนออซ, ไกลอยู่
เพราะว่ากันด้วย เรื่องราว ของเอลฟาบา, ตั้งแต่สมัยยังเป็น
สาวนักศึกษา ผิวสีเขียว, ณ มหาวิทยาลัยชิซ (Shiz University)
และผูกมิตรกับ "กลินดา" อนาคตแม่มดดี แห่งทิศใต้, ของอาณาจักรออซ
COMMENTS