เดอะ ไลออน คิง เป็นแฟรนไชส์ ของดิสนีย์, ที่ประกอบด้วยซีรีส์ ภาพยนตร์ และสื่อบันเทิง อีกหลายแขนง ตัวจุดประกายคือ ความสำเร็จของ ภาพยนตร์แอนิเม...
เดอะ ไลออน คิง เป็นแฟรนไชส์ ของดิสนีย์, ที่ประกอบด้วยซีรีส์ ภาพยนตร์ และสื่อบันเทิง อีกหลายแขนง
ตัวจุดประกายคือ ความสำเร็จของ ภาพยนตร์แอนิเมชั่น ชื่อเดียวกัน (The Lion King) ในค.ศ. 1994
มันนำไปสู่ หนังภาคต่อ (sequel) และภาคก่อน (prequel) ที่ผลิตออกฉายทางวิดีโอโดยตรง
ซีรีส์แยกทางโทรทัศน์ 2 เรื่อง, ภาพยนตร์สั้นเพื่อการศึกษา 3 เรื่อง, ละครเวที, วิดีโอเกม รวมถึงสินค้า อีกหลายรายการ
ซึ่งบทความนี้ จะหยิบยก เฉพาะพวก คอนเทนท์หลัก ๆ (หนัง ซีรีส์ ละครเวที), มาพิมพ์ถึง
หัวใจของแฟรนไชส์นี้ เกี่ยวข้องกับ, ฝูงสิงโต ที่ดูแลทุ่งหญ้าสะวันนา อันกว้างใหญ่ของแอฟริกา
ในฐานะ "อาณาจักร" อันมีชื่อเรียกว่า แดนทระนง (Pride Lands)
โดยมี "ซิมบ้า" ราชสีห์ เจ้าป่า จ่าฝูง, คอยเฝ้าดูแล พิทักษ์วัฏจักรแห่งชีวิต ของเหล่าสรรพสัตว์
[1] แนวคิดสำหรับเรื่องราว การก้าวพ้นวัย (coming-of-age), ที่ใช้ธีมแอฟริกา มาช่วยบอกเล่า
มีต้นกำเนิดจาก แผนกเนื้อเรื่องของ Disney Feature Animation
โปรเจ็กต์ (โครงการ) นี้เดิมมี ชื่อเรียกว่า ราชาแห่งพงไพร (King of the Jungle)
และเช่นเดียวกับ ภาพยนตร์แอนิเมชั่นส่วนใหญ่ ของดิสนีย์
ที่ใช้เวลา หลายปี ในการผลิต, มีการลงมือปรับปรุง พัฒนา แก้ไข หลายจุด หลายครั้งหลายหน
[2] The Lion King (1994) แตกต่างจาก, หนังอนิเม สารพัดเรื่อง ก่อนหน้า ของดิสนีย์
อาทิเช่น "Peter Pan" "Alice in Wonderland" "One Hundred and One Dalmatians" "The Rescuers" หรือ "The Great Mouse Detective"
ตรงที่เป็น เรื่องราวต้นฉบับ ดั้งเดิม บนแผ่นฟิล์ม, ของแทร่
แบบไม่ได้อ้างอิง หรือดัดแปลงจาก วรรณกรรมยอดนิยมใด ๆ
[3] เนื้อหาต้นฉบับปี 1994, ว่าด้วยการผจญภัย ของซิมบ้า
ลูกสิงโต ผู้คือทายาท สืบบัลลังก์เจ้าป่า ตามสายเลือด, ของ "มูฟาซา" (Mufasa)
โดยซิมบ้า ต้องตกที่นั่งลำบาก หลังจากคุณอาใจร้าย น้องชายของมูฟาซา (สการ์)
หมายจะฆ่า ทั้งพี่ทั้งหลาน ของตัวเอง, เพื่อยึดตำแหน่ง จ่าฝูง ด้วยวิธีสกปรก
มูฟาซาไม่รอด, แต่ซิมบ้าปลอดภัย และระหกระเห เร่ร่อน ออกจากฝูงไป
ก่อนจะกลับมา ยึดบ้านเกิด คืนจากสการ์, ทวงตำแหน่ง ราชสีห์ เมื่อล่วงเข้าวัยผู้ใหญ่
โดยความช่วยเหลือ ของมิตรสหาย มากมาย, เช่น ทีโมน (เมียร์แคท) กับพุมบ้า (หมูป่า)
ซาซู (นกเงือก ปากสีแดงเหลือง ตัวสีฟ้าขาว มหาดเล็กของมูฟาซา), นาลา (สิงโตสาว เพื่อนสมัยเด็ก และคู่หมั้น)
รวมถึง ราฟิกิ (ลิงแมนดริลแก่ ที่เป็นคนทรง ผู้ปราดเปรื่อง คอยให้คำปรึกษา พวกตัวเอก)
[4] The Lion King (1994) ทุนสร้าง 45 ล้านดอลลาร์, ทำเงิน 978.8 ล้าน
เพราะงั้นไม่น่าแปลก ที่แค่ปีถัดมา, ดิสนีย์ก็เดินหน้า ปล่อยคอนเทนท์ใหม่ อันเกี่ยวข้องกัน อย่างทันใจ
นั่นคือ รายการโทรทัศน์ "The Lion King's Timon & Pumbaa"
ซึ่งคู่หูคู่ฮา (ทีโมนกะพุมบ้า) เป็นตัวชูโรง, ตามชื่อ
เรื่องราวเกิดขึ้น หลังจากเหตุการณ์ ในภาพยนตร์ภาคแรก
ทิโมน และพุมบา ยังคงดำเนินชีวิต ตามคติพจน์ว่า, ฮาคูน่า มาทาท่า (หมายถึง ไม่ต้องวิตก/อย่ากังวล)
โดยพวกเขา ออกเดินทาง สู่นอกแดนทระนง, เพื่อตามหา การผจญภัยใหม่ ๆ ที่เกินคาด และแปลกประหลาด
ซีรีส์ Timon & Pumbaa ยาว 3 ซีซั่น, ออกอากาศตั้งแต่ ค.ศ. 1995 จนถึง 1999
[5] หนังไลออนคิง ต้นฉบับ, ถูกดัดแปลงสู่ ฉบับคนแสดง (ละครเวที)
The Lion King (musical) คือละครเพลง, ที่เปิดตัวครั้งแรก ปี 1997
แล้วกลายเป็น ละครบรอดเวย์, อันเล่นกันยาวนาน สูงสุดตลอดกาล อันดับ 3 (เพราะกว่าจะเลิก ก็ปาไปปี 2019)
อีกทั้งรายรับรวม ทั้งหมด ของทุกรอบ, ยังทะลุ '2 พันล้านดอลลาร์'
[6] ค.ศ. 1998 แฟรนไชส์ได้มี ภาพยนตร์ภาคต่อ ครั้งแรก, แต่ขอบอกว่า เปล่าฉายโรง อย่างจริงจัง
เพราะ The Lion King II: Simba's Pride = คอนเทนท์สำหรับ นำส่งขายทางวิดีโอ (ตามเทรนด์ อนิเมภาคต่อ ของดิสนีย์, สมัยโน้น)
ตัวละครชูโรงงวดนี้ หาใช่ซิมบ้า, ทว่าเป็นเจ้าหญิง "เคียร่า" บุตรีของซิมบ้า กับนาลา
ซึ่งพอแตกเนื้อสาว ดันตกหลุมรัก "โควู" สิงห์หนุ่มผู้คือ 'ผู้สืบทอดของสการ์'
โดย ฝูงสิงโตจรจัด กลุ่มที่ยังฝักใฝ่ ในตัวท่านผู้นำสการ์, พยายามดันโควู ขึ้นแท่นจ่าฝูง ตนใหม่
และตั้งใจใช้หมอนี่ ทำหน้าที่ไส้ศึก ตีสนิทซิมบ้า, เพื่อหาทาง ลอบสังหารราชา ชิงเอา แดนทระนงคืนมา
[7] ค.ศ. 2004 คืออีกวาระที่ ไลออนคิง มีภาคต่อ, และส่งตรง ลงวิดีโอ
เป็นภาคหนึ่งครึ่ง (The Lion King 1½) หรือที่ใช้ชื่อ เวลาขาย นอกอเมริกา
ว่าภาคสาม ฮาคูน่า มาทาท่า (The Lion King 3: Hakuna Matata)
เหตุการณ์ในภาพยนตร์ = ทั้งภาคต้น (prequel) และภาคขนาน (sidequel) ของภาคแรก
ซึ่งเล่าถึง อดีตก่อนทีโมน จะเจอพุมบ้า, ตามด้วยทั้งสอง พบหน้ากัน
แล้วเล่าซ้ำ เนื้อเรื่องหนังปี 1994 แบบเน้นเอาฮา, ผ่านมุมมอง ของตัวละครสมทบ อย่างทั้งคู่
[8] ณ ปี 2016 ปรากฏว่าเคียร่า มี 'น้องชาย' คลานตามกันมา, ที่ดันไม่เคย โผล่ให้คนดู Simba's Pride เห็นหน้าค่าตา
เขาคือ "ไคออน" บุตรแห่งซิมบ้า กับนาลา, ผู้กลายเป็น หัวหน้ากลุ่ม ไลออนการ์ด ตั้งแต่ยังเด็ก
กองกำลังไลออนการ์ด ทำหน้าที่ พิทักษ์วัฏจักร แห่งชีวิต ของผืนป่า, และแดนทระนง
ซึ่งรุ่นก่อน ๆ หน้า มีสมาชิก สิงโตล้วน, ทว่าไคออน ขอแหกขนบ ปกป้องไพรด้วยลูกทีม สรรพสัตว์ หลากชนิดแทน
The Lion Guard = ซีรีส์อนิเม ลำดับ 2 (ถัดจาก Timon & Pumbaa)
เริ่มเรื่องมา เนื้อหาจะอยู่หลัง หนังภาค 1, ก่อนภาค 2
แล้วพอซีซั่น 3 (สุดท้าย ฉายปี 2019) ค่อยเดินเรื่อง ขนานกับหนังภาค 2 (บางช่วง)
และเฉลยเหตุผลว่า ไคออนติดภารกิจสำคัญ สำหรับกองกำลัง, จึงต้องหลบหน้า ไม่โผล่แถว Simba's Pride
[9] เพราะความสำเร็จของ หนังเมาคลี ลูกหมาป่า, ฉบับคนแสดง (The Jungle Book ปี 2016)
ที่สร้างตัวละครสัตว์ป่า ด้วยเทคนิคภาพอันดู เสมือนของจริง (photographic-based realism)
ผกก.จอน ฟาฟโร (Jon Favreau) จึงถูก ดิสนีย์เรียกตัว, ให้ไปทำไลออนคิง ฉบับรีเมคต่อ
ผลลัพธ์คือ สารคดีสัตว์โลก (แซวเล่น), ที่ไม่ได้ มาเล่น ๆ
เพราะถึง The Lion King 2019 ต้นทุนสูงลิ่ว (ราว 250-260 ล้านดอลลาร์), แต่กวาดรายรับ ทั่วโลกาทะลุ 1.6 พันล้านจ้า
[10] เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2024, คนของ ดิสนีย์แอนิมอลคิงดอม (สวนสนุกสัตว์)
ประกาศว่า, สิงโตชื่อดัง 2 ตัว กำลังจะเกษียณ (เพื่อย้ายไปอยู่บ้านใหม่)
และจะให้สิงโตใหม่ 3 ตัว มาประจำอยู่, ตรงที่เก่าแทน
ความเกี่ยวข้อง ของดาคารี (Dakari) กะคามารี (Kamari) หรือสิงโตเกษียณ 2 รายนี่, กับไลออนคิง
คือระหว่างผลิต ภาพยนตร์ฉบับ ภาพเสมือนจริง (ของปี 2019)
ทีมงานทำหนัง ได้ไปเยี่ยมชม และบันทึกภาพเคลื่อนไหว ของพวกมันประจำ
พวกเขา เก็บรวบรวม และนำข้อมูล ไปสร้างโมเดล 3 มิติ, เพื่อการันตี ความสมจริง อย่างที่สุด
[11] Mufasa: The Lion King (2024) จะเป็นทั้งภาคต้น (prequel) และภาคต่อ (sequel) ของ 2019 รีเมค
เหตุเพราะคอนเทนท์ใหม่, เปล่าหยิบ อดีตตัวละคร "มูฟาซา" มานำเสนอดื้อ ๆ
แต่จะใช้วิธี ให้ราฟิกิ (ลิงแมนดริล), เล่าเรื่องคุณปู่สิงโต ให้คุณหลานสาว (เคียร่า) ฟัง
เท่ากับเราน่าจะ เห็นชีวิตความเป็นอยู่ ของซิมบ้าและพรรคพวก, ในช่วงหลังจากภาคแรก (2019) นิดหน่อย
ที่มาข้อมูล: lionkingFilmNotes, broadwayworld, blogmickey, empire
COMMENTS