เดิมเป็น 1 แต่กำเนิด 2 >>เรื่องราวโดยย่อ ของ Star Wars: The Acolyte

[เท้าความ] สตาร์วอร์ส ภาคผู้สืบทอด (The Acolyte) คือส่วนหนึ่งของจักรวาล ดาราสัประยุทธ์ ที่เหตุเกิด ณ ยุคสาธารณรัฐสูง (High Republic era) ประ...

[เท้าความ] สตาร์วอร์ส ภาคผู้สืบทอด (The Acolyte) คือส่วนหนึ่งของจักรวาล ดาราสัประยุทธ์

ที่เหตุเกิด ณ ยุคสาธารณรัฐสูง (High Republic era) ประมาณ 100 ปีก่อน Star Wars: Episode I – The Phantom Menace

เจไดระดับอาจารย์ (Jedi Master) ต้องตามสืบเรื่อง คดีฆาตกรรมต่อเนื่อง

ซึ่งนำพาเขา ให้ได้พบกับ อดีตพาดาวัน (ลูกศิษย์), และเผชิญหน้ากับ ผู้ใช้พลังในทางชั่วร้าย

[สปอยล์] ดาว 'เบรนด็อก' คือ สถานที่หลบภัย, ของภาคีแม่มด

โดยคาดว่าเป็น นิกายหนึ่งของ นารีราตรี (Nightsisters) ที่แยกตัวออกมา

และบนพิภพดังกล่าว มีเพียงประชากร สตรีวัยผู้ใหญ่, กับเด็กผู้หญิง อาศัยอยู่แค่ 2 คน (โอช่ากะเมย์)

เด็ก ๆ ทั้งสอง ไม่มีพ่อ, แต่รายละเอียดเรื่อง ชาติกำเนิด เยอะกว่าบุรุษนาม อนาคิน สกายวอล์คเกอร์นิด

เพราะพวกเธอ มีแม่ 2 คน, คนนึงชื่อ 'โคริล' อีกคนชื่อ 'อานิเซย่า'

โดยโคริลเป็น ผู้อุ้มท้อง, อานิเซย่าเป็น คนสร้าง (ด้วยวิธีที่ ซีรีส์ไม่ได้เผย ให้กระจ่าง)

ซ้ายอานิเซย่า, ขวาโคริล

ฝาแฝดที่ชาติกำเนิด ยังถือว่า มีลับลมคมใน, ถูกมองว่าพิเศษ กว่าประชากรทั่วไป บนเบรนด็อก

และได้รับการคาดหวัง จากทุกคนรอบข้างว่า, เดี๋ยวโตขึ้นมา ต้องเป็นแม่มด

น้องเมย์ผู้นิสัย ใจกล้า (และส่อแววว่า ขาดเมตตา) พร้อมตอบรับความคาดหวังนั่น

แถมยังคะยั้นคะยอ ให้พี่สาวเอาตาม (ด้วยรักใคร่เธอขนาด อยากทำอะไรด้วยกัน ตลอดเวลา)

แต่โอช่า ผู้โลกส่วนตัวสูงกว่า กับสนใจเรื่องโลกภายนอก (ที่ไม่เคยเห็น) มากกว่า, ไม่เคลิ้มตาม

อีกด้านของดาว แถวจุดที่ไม่มีคนอยู่, เจได 4 คนอันได้แก่

อาจารย์เจไดหญิง (คนเดียวในกลุ่ม) ชื่ออินดารา (Indara), พาดาวันหนุ่มของเธอ (โทบิน), เคลนัคก้า (วู้คกี้) และยอดฝีมืออย่าง อาจารย์ "โซล"

กำลังสำรวจหญ้า ป่า ต้นไม้, เพื่อตรวจสอบการหักเห (Vergence) ของพลัง (The Force)

อันเป็นปรากฏการณ์ ซึ่งพลังกระจุก รวมตัวกันเข้มข้น เป็นพิเศษ, บนสถานที่สักแห่ง 

(เช่น ถ้ำที่โยดา ส่งลุคมุดเข้าไป บนดาวเดโกบาห์, ณ หนังภาค Empire Strikes Back)

แม้โทบินผู้อายุน้อย ได้รับคำอธิบายว่า, การหักเหของพลัง อาจ "สร้างสิ่งมีชีวิต" เลยเป็นสิ่งที่เจได สมควรศึกษา

แต่วัยรุ่นผู้ ต้องการภารกิจ ชนิดผจญภัยมากกว่า (โทบิน), มองว่าตัวเอง กำลังถูกบังคับ

ให้มาร่วมตรวจสอบ ยอดหญ้า บนดาวว่างเปล่า กับพวกผู้ใหญ่, อย่างน่าเบื่อ

ขณะเดียวกัน อาจารย์โซล ผู้ดูทรงแล้ว รักเด็กสาว ๆ (?), บังเอิญเจอว่า 

บนดาวที่เจไดนึกว่า ไม่มีคนอาศัยนี่, กลับมีเด็กผู้หญิงฝาแฝด และภาคีแม่มด ประจำการ (ผ่านการแอบ สะกดรอยตาม ไปสำรวจบ้านพวกหล่อน)

หลังจากนั้น เจไดทั้ง 4 (อินดารา, โทบิน, เคลนัคก้า, โซล) เมินเรื่องมารยาท 

และเข้าแทรก ระหว่างพิธีศักดิ์สิทธิ์ (ผูกพันธะฝาแฝด กับภาคี) ของพวกแม่มด

เนื่องจากโซล สัมผัสได้ว่า โอช่ากะเมย์ มีความพิเศษ, จนเกิดความยึดติด คิดว่าต้องพาไป ฝึกเป็นเจได ให้จงได้

ระหว่างเจรจา โทบินถูกแม่มด ใช้มนตร์ดำครอบงำ (เพื่อแสดงออกต่อ เจไดคนอื่น ๆ ว่าพวกเรา มีปัญญาสู้กับพวกคุณ)

การปะทะระหว่าง 2 ฝั่ง จึงยังไม่เกิดขึ้น, เหล่าเจได ยอมถอยครึ่งก้าว 

ไม่บังคับเอา ฝาแฝดไปทันที, และขอตรวจสอบ เด็กพวกนี้ก่อน ว่าคุณสมบัติเหมาะสม หรือเปล่า

ซึ่งหลังลองตรวจ โซลยิ่งมั่นใจ ว่าควรฝึกเด็ก ๆ เอง, เนื่องจากพวกเธอ "เป็นคน ๆ เดียวกัน" อย่างแท้จริง (เดิมเป็น 1 แต่กำเนิด 2)

ตามที่เขาสังหรณ์ใจ, หลังเคยใช้สัมผัสที่ 6 (ผ่านพลัง) แยกระหว่าง โอช่ากับเมย์ไม่ออก

เมื่อรู้จาก จารย์โซลเช่นนั้น, โทบินจึงตระหนักว่า 

ใช้ฝาแฝดเป็น หลักฐานเชิงประจักษ์ เรื่องการหักเหของพลังได้

หากได้ตัวทั้งคู่ ภารกิจแสนน่าเบื่อ, ย่อมจบลงทันที

โทบิน (ซึ่งสมองน่าจะปั่นป่วน ตรรกะพัง เพราะเคยต้องมนตร์ดำด้วย) 

เลยรีบบุก รังแม่มดซ้ำ พร้อมกับโซล, โดยไม่สนว่า อาจก่อให้เกิด การเผชิญหน้า

จังหวะนรก ตรงที่ตอนนั้น เมย์โกรธพี่ (โอช่า) 

ซึ่งตั้งใจจะ ตีจากน้อง, ทิ้งบ้านนอกเข้ากรุง (ฝึกเป็นเจได) พอดี

เมย์เผาหนังสือ เกี่ยวกับเจไดและโลกภายนอก ของโอช่าทิ้ง, ด้วยความเดือดดาล

แต่เพลิงดัน ลุกลามหนักผิดคาด, จนต้องรีบวิ่ง ไปเรียกแม่ มาช่วยดับ

ขณะเดียวกับ แม่ ๆ ไม่ว่าง เพราะกำลังจ้องดูเชิงกับ โทบิน & โซล

ไม่ทราบเพราะ อารามรีบร้อน, อยากเหินไปหาเมย์ ปลอบลูก หรือเปล่า 

แต่อานิเซย่า เปิดใช้มนตร์ดำ (น่าจะสำหรับ เคลื่อนย้ายที่ ในชั่วพริบตา) อันแลดูน่ากลัว 

ทั้งที่จะฝ่ายแม่มด หรือเจได, ก็ต่างอยู่ใน อารมณ์ตึงเครียด

จารย์โซลเลยเผลอ เปิดใช้กระบี่แสง, จ้วงแทงอานิเซย่า ทำเธอตาย

จากนั้นจึงไม่เหลือ ใครจะสนใจ, เรื่องการดับไฟ

แม่มดคนอื่น ๆ ร่วมแรงกันใช้มนตรา ครอบงำจิตเคลนัคก้า (ที่เพิ่งตามมาถึง)

เจไดวู้คกี้โหมดคลั่ง แข็งแกร่งดั่งอสูร, ถูกชักใยให้ สู้กับโทบิน & โซล 

พวกเขาลำบากหนัก, ทว่ารอดเมื่อ อาจารย์อินดารา (ผู้มาช้าสุด) เข้าสมทบ

เมื่อเคลนัคก้า หลุดจากมนตร์, พวกภาคีแม่มด ต่างโดนผลสะท้อน น็อคสลบหมด

เหตุเพลิงไหม้ เพลาดังกล่าว, ก็หนักเกิน ใครดับไหว

โซลพยายาม ช่วยทั้งเมย์กะโอช่า, ทว่าเลือกได้แค่ เพียง 1

เขาถึงจำใจ ทอดทิ้งเมย์ (ซึ่งไม่อยากเป็นเจได และเห็นแม่ถูกโซลฆ่า)

โซลพาโอช่า ขึ้นยานอวกาศ, เดินทางกลับ ดาวบางกอก (คอรัสซอง)

โซลรู้สึกผิด ที่เหตุการณ์เลยเถิด จนภาคีแม่มดตายเกลี้ยง (เพราะสลบ กลางกองเพลิง)

เขากะว่า จะสารภาพบาป กับสภาเจได, รับการลงโทษ

แต่อินดาราท้วงว่า ถ้าเอ็งทำงั้น, โอช่าที่ไม่เหลืออะไรแล้ว ชีวิตจะขาดที่พึ่ง

เราเจไดทั้ง 4 จึงควรร่วมกัน ปกปิดเรื่องที่เบรนด็อกไว้

[16 ปีต่อมา] อินดารา ถูกมือสังหารนารีลึกลับ ที่เป็นผู้ใช้พลัง (The Force) โจมตี, แถวดาวชื่อยูเอดะ

อินดาราแสดงออกถึง ความไม่หวั่น แม้วันมามาก, และรับมือนักฆ่า ผู้ใช้เพียงมีดบิน กับวรยุทธ์สู้

ระหว่างตีกัน กลางโรงเตี๊ยม, ตัวประกอบต้องวิ่งหนี เสียวุ่นวาย

ดูทรงแล้วเธอ จะชนะสบาย, เลยพยายาม จับเป็นอีกฝ่าย

แต่อินดารากลับพ่าย เพราะมัวช่วยชีวิต ตัวประกอบ ที่หนีตายไม่ทัน

การถึงแก่อนิจกรรม ของอินดารา, ส่งผลให้สภาเจได สั่งจับ "โอช่า อานิเซย่า" อดีตพาดาวัน

เนื่องจากรูปพรรณสัญฐาน ของคนร้าย, ตรงกับหล่อน ในทุกกระเบียด

แม้เม็กเน็ก (ชื่อเรียกอาชีพ รับจ้างซ่อมยาน นอกอวกาศ, สำหรับคนที่ ไม่อยากใช้ดรอยด์ แม้ผิดกฎสหพันธ์) รายนี้

มีพยานยืนยัน เรื่องสถานที่อยู่ ในช่วงเวลาเกิดเหตุ

อาจารย์เจไดหญิง ชื่อเวอร์เนสตรา (Vernestra) ผู้รับดูแลเรื่องนี้

แจ้งอาจารย์ "โซล" ผู้เคยฝึกโอช่า, ให้รับงาน ตามจับอดีตศิษย์ ผู้ต้องสงสัย

โซลพร้อมกะ พาดาวันคนปัจจุบัน (สาวชื่อเจ็กกี้) 

และเพื่อนเก่าโอช่า ที่ตอนนี้คือเจได ระดับอัศวิน (หนุ่มชื่อยอร์ด), เลยออกเดินทางด้วยกัน

โอช่าสัมผัสพบ ผ่านพลังว่า 'น้องสาว' ของหล่อน (เมย์) ยังมีชีวิตอยู่

เมื่อโซลโผล่ มาหิ้วกลับโครัสซอง, โอช่าจึงวิงวอน ให้อาจารย์เก่ายอมเชื่อ

แม้เจ็กกี้กะยอร์ด ยังไม่พร้อมคล้อยตาม, พล็อตโอช่า มีแฝดชั่ว ที่ควรตายไป ตั้งกะเมื่อ 16 ปีก่อน

แต่จารย์โซล เขาบอกว่าโอเค ข้าเชื่อ, แล้วพาโอช่า ขึ้นยานตัวเอง โดยละม่อม

ขณะนั้นเมย์ เริ่มความพยายาม สังหารเจได หนที่สอง, แถวดาวโอเลก้า ซึ่งมีวิหารเจไดท้องถิ่น สถิต

อาจารย์โทบิน เคี้ยวยากกว่าอินดารา, เนื่องจากเฮียคนนี้ หลับตานั่งสมาธิ ในห้องส่วนตัว กลางวิหาร

เปิดใช้เกราะพลัง, ล้อมรอบตัว ตลอดเวลา

เขาไม่ยอมเปิดช่อง เจรจาใด ๆ, ไม่ยอมให้ใคร หรือวัตถุใดก็ตาม ได้เข้าใกล้ ในระยะสัมผัส

เมย์มีดบิน จึงล่าถอย ไปหาผู้สมรู้ร่วมคิด ที่คือบุรุษนามคิเมียร์ (Qimir)

เมย์ร้องขอให้คิเมียร์ ผลิตยาพิษ ออกฤทธิ์ไว, เพื่อใช้ใน แผนสังหารนัดล้างตา

เมย์ลอบเข้าวิหารซ้ำ และบอกโทบินว่า ตนคือใคร, เพราะเธอตระหนัก

ว่าการนั่งสมาธิ ใช้พลังตลอดเวลางี้, คือสิ่งที่เจได ผู้เคยกระทำผิดร้ายแรง ทำตอนสำนึกบาป

เมื่อโทบินทราบ ว่ามือสังหารเป็นเมย์, เขาก็ยอมเปิดตา ปลดพลัง หยิบยาพิษมากรอกปาก ด้วยตัวเอง

เหตุบุกรุกวิหารเจได บนโอเลก้า เกิดจังหวะเดียวกับ, โอช่า เข้าปาร์ตี้โซล

ทางจารย์เวอร์เนสตรา ถึงแจ้งมติสภาเจได ข้อใหม่

ว่าในเมื่อ ยืนยันเรียบร้อย เรื่องแฝดชั่ว, งั้นเอาโอช่า ไปช่วยตามจับเมย์ ด้วยเลยนะ เธอคงจะ มีประโยชน์

โอช่ามีประโยชน์จริง หลังแก๊งเจได สืบพบแหล่งกบดาน ของคนกลั่นยาพิษ

โอช่าแสร้งเล่นละคร ว่าข้าคือเมย์, แล้วเดินไปคุย กับคิเมียร์ เพื่อหลอกถามข้อมูล

แก๊งเจได 4 คน (รวมโอช่า) พยายามจับ ทั้งคิเมียร์และเมย์, แต่คว้ำน้ำเหลว

อย่างไรก็ตาม, พวกเขารู้แล้วว่า เมย์เหลือเจได อีก 2 คนให้ฆ่า

ได้แก่ 'เคลนัคก้า' อาจารย์เจไดขนดก (เพราะเป็นชาววู้กกี้) และ 'โซล'

เคลนัคก้าซึ่งดูท่า ผลกระทบจาก มนตร์แม่มด, ยังไม่เคยจางหาย

ปลีกวิเวก อาศัยอยู่ลำพัง อย่างสติพัง, ท่ามกลางป่าดงดิบ บนดาวชื่อคอห์ฟา (Khofar)

โซลได้รับอนุญาต ให้หาเจไดตัวประกอบ มาเสริมทัพอีก 4-5 คน

โซลหวังจะใช้ คนจำนวนมาก ล้อมจับเมย์

อย่างไรซะ เมื่อเดินทาง ถึงที่พักของเคลนัคก้า, ปรากฏว่าเจไดวู้คกี้ สิ้นใจเรียบร้อย

ผู้กระทำ ไม่ใช่เมย์, แต่เป็นบุรุษ สวมหมวกเกราะ (ทำจากวัสดุ กันไลท์เซเบอร์ได้) ควงกระบี่แสงสีแดง

"คิเมียร์" เผยตัวว่า คือผู้บงการเมย์, ลงมือสังหารหมู่ เหล่าเจได บนคอห์ฟา

กระทั่ง เจ็กกี้กะยอร์ด ก็สิ้นชีวิน, เหลือเพียงโซล ที่ต้านทานไหว

ต่างฝ่ายต่างล่าถอย, โซลขึ้นยาน กะว่าจะย้อนกลับ คอรัสซอง

พร้อมเมย์ซึ่ง กลายเป็นว่า ถูกจับตัวได้

ฟากโอช่า โดนคิเมียร์ หิ้วไปดาว ไร้การระบุชื่อ, ซึ่งเป็นแหล่งกบดาน

คิเมียร์ทำการ เฉลยว่าตัวเอง ต้องการผู้สืบทอด (Acolyte) 

แต่ตอนนี้ชักดูเหมือน เมย์ไม่เหมาะ หล่อนเหลือจิตด้านดี กว่าที่คาด, เธอนั่นแหละ สมควรมาฝึกกับฉัน ซะมากกว่า

คิเมียร์บอกว่า เขาสัมผัสได้ถึง อารมณ์ด้านมืด อันเก็บกดไว้

แถมฟันธงว่า เธอคุมมันไม่อยู่, จึงฝึกฝนวิถีเจได ไม่บรรลุ

โอช่ารู้สึก เห็นด้วยในใจ, แต่ยังเล่นตัว ไม่ยอมรับ

เครื่องสื่อสารมีปัญหา ทำให้โซล (พร้อมเมย์) มุ่งสู่เบรนด็อก, เพื่อติดต่อกลับไป สภาเจได

โอช่าเห็นเมย์ ผ่านนิมิต และขอให้คิเมียร์, ยอมพาไปเบรนด็อก

โดยไม่รับรู้ว่า มีใครบางคน (ดาร์ธพลากัส/Darth Plagueis อนาคตอาจารย์ ของดาร์ธซีเดียส) จ้องมองจากเงามืด

ณ เบรนด็อก, โอช่าเผชิญหน้าเมย์ ส่วนโซลดวลเดือด กับคิเมียร์

เมย์เปิดโปงความจริง เกี่ยวกับโซล (เช่นว่า มันฆ่าแม่เรา) ให้โอช่าทราบ

และเพื่อให้พี่สาว ยอมเชื่อ, เมย์หาจังหวะ แทรกคิเมียร์

ปลดอาวุธ อาจารย์โซล แล้วชักจูงจน หมอนั่นสารภาพบาป

โอช่าที่เดือดดาล เพราะอดีตอาจารย์ ปิดบังเธอมาตลอด, หยิบไลท์เซเบอร์ (ที่เสียหาย) ของโซลขึ้นมา

แล้วพลัง 'ด้านมืด' อันคุมไม่อยู่ ของโอช่า, ก็ย้อมสีดั้งเดิม (น้ำเงิน) ของมัน ให้กลายเป็นสีแดง

โอช่าฆ่าโซล ยอมฝากตัวเป็น ศิษย์ของคิเมียร์, โดยมีเงื่อนไขว่า นายต้องปล่อยเมย์ เป็นอิสระ

คิเมียร์ตกลง และใช้พลัง ลบความทรงจำของเมย์ซะ

'เวอร์เนสตรา' เยือนเบรนด็อก ในจังหวะที่, เกือบ จับพวกคิเมียร์ได้

เธอสัมผัสพบตัวตน อดีตลูกศิษย์ลาง ๆ, ก่อนคิเมียร์ 

สวมหมวกเกราะ (ที่มีคุณสมบัติ ปิดบังพลังด้วย) และชิ่งหนี

เวอร์เนสตรา นำตัวเมย์กลับไปสอบปากคำ ณ วิหารเจได, แต่ไม่ได้ความอะไร จากคนความจำเสื่อม

เวอร์เนสตรารับมือ แรงต้านจากพวกนักการเมือง (วุฒิสภา) บนคอรัสซอง, ต่อเหตุเจไดตายหมู่

ด้วยการอ้างว่า ทั้งหมดเป็นความผิดโซล, ผู้สำนึกตัว แล้วฆ่าตัวตายทีหลัง

เมื่อสภาเจได รอดพ้นแรงกดดัน จากฝั่งผู้แทนประชาชน

ซึ่งกำลังระแวงว่า เจไดมีอำนาจ มากเกินไป (ชั่วคราว ?)

เวอร์เนสตรา ก็รายงานทุกอย่าง ให้ท่านอาจารย์ 'โยดา' ทราบ