เรื่องราวโดยย่อ >>ของ Dune: Part Two

แม้จักรพรรดิพาดิชา ชาดดัมที่ 4 แห่งตระกูลคอร์ริโน ผู้ครองบัลลังก์ราชสีห์ทองคำ คือหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลัง ความพยายามจะ ล้างบางตระกูลอะเทรดีส...

แม้จักรพรรดิพาดิชา ชาดดัมที่ 4 แห่งตระกูลคอร์ริโน ผู้ครองบัลลังก์ราชสีห์ทองคำ

คือหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลัง ความพยายามจะ ล้างบางตระกูลอะเทรดีส

แต่พระองค์ทรงมองว่า เลโทเสมือนบุตรชาย ที่ตนไม่เคยได้มี, เช่นกัน

จึงอดสลดมิได้ เมื่อรับรู้ข่าวว่า, บ้านอะเทรดีส พบกาลวิบัติ กลางทะเลทรายดาวอาร์ราคิส

แต่ข่าวนั่น มิใช่ความจริงทั้งหมด, พอล อะเทรดีส และมารดา (เลดี้เจสสิกา) ยังมีชีวิต

พวกเขารวมถึง หน่วยรบเฟรเมน ของชายชื่อ "สติลการ์" จัดการหน่วยลาดตระเวน ของฮาร์คอนเนน

แล้วดิ่งสู่ซีตช์ (สถานหลบภัยของเฟรเมน) ชื่อทาเบรอ (Sietch Tabr)

ณ ที่พักดังกล่าว, เฟรเมนบางคน ยังคงตั้งแง่ใส่ สงสัยว่าพอลกะเจสสิกา อาจเป็นสายลับ

ขณะที่คนอื่น ๆ (เช่น สติลการ์) มองเห็นสัญญาณ บ่งชี้ว่าแม่ลูกคู่นี้ คือบุคคลตามคำทำนาย

สติลการ์จึงจัดแจงให้ เจสสิกาได้เข้าพบ แม่ใหญ่อธิการ (ของเฟรเมน) ผู้แก่งั่ก ๆ

เพื่อเข้ารับการทดสอบ ว่าเหมาะสมจะสืบทอดตำแหน่ง แม่ใหญ่คนใหม่, แทนคนเก่าที่จะตายไป (หากหล่อนสอบผ่าน) หรือไม่

โดยเจสสิกาต้องดื่ม 'น้ำแห่งชีวิต' ที่เปี่ยมด้วยสไปซ์เข้มข้น และพิษ, ซึ่งทำคนปกติ ตายอย่างว่องชัวร์

(อนึ่ง, น้ำแห่งชีวิต สกัดจากหนอนทรายตัวเล็ก ที่ถูกจับกดวารีฆ่า)

ระหว่างใช้ทักษะขั้นสูง ของเบเนเจสเซริต, เพื่อเปลี่ยนองค์ประกอบ น้ำแห่งชีวี ให้หมดพิษ

ข้อมูลวิญญาณและความทรงจำ ของเหล่าแม่ใหญ่รุ่นก่อน ๆ ถูกถ่ายทอดสู่เจสสิกา...

เรื่องควรมีแค่นั้น หากไม่เพราะว่า หล่อนกำลังตั้งครรภ์

ตัวอ่อน น้องสาวของพอล (อาเลีย) โดนบังคับให้ รับข้อมูลมหาศาลด้วย

เมื่อรวมกับการ รับสไปซ์เข้มข้น ในพิธีทดสอบ, อาเลียจึงเกิดการ 'ตื่นรู้' และถูกปลุกพลังจิต กลายเป็น 'แม่ใหญ่' เถื่อน

สามารถสื่อสาร กับขุ่นแม่ (เจสสิกา) โต้ตอบคำพูด (ผ่านกระแสจิต) กันได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ

แม่ใหญ่ทั้งสอง ปรึกษาหารือกัน ว่าจะใช้ตำแหน่ง (และพลัง) ใหม่, ช่วยเหลือพอลอย่างไร

แล้วพบข้อสรุปว่า ควรโน้มน้าวชาวเฟรเมน ฝั่งแดนเหนือ (ซึ่งความงมงาย เบาบางกว่า)

ให้ศรัทธาในคำพยากรณ์ เกี่ยวกับพระผู้มาโปรด หนักข้อกว่านี้

ชนิดไม่ยิ่งหย่อนกว่า พวกเฟรเมนที่ศรัทธาแรงกล้า, ณ ทางใต้

ฝ่ายพอล เรียนรู้และปรับตัว เข้าสู่วิถีชีวิต ของนักรบชาวเฟรเมน

ไม่ว่าจะในแง่ภาษา วัฒนธรรม ทักษะการขี่หนอนทราย

เขาได้รับชื่อเฟรเมน 2 อย่างคือ อูซุล กับม๊วดดี๊บ (หรือมอดดีบ) 

เข้าทีมเฟดายคิน (หน่วยกล้าตาย) ช่วยทำลาย อุตสาหกรรมขุดสไปซ์ ของพวกฮาร์คอนเนน

แถมผูกสัมพันธ์รัก กับสาวท้องถิ่น ผู้กล้าแกร่ง อย่าง "ชานี่" 

แร็บบานผู้คุม การขุดสไปซ์, ให้รอดพ้นการบ่อนทำลาย ของพวกเฟรเมนไม่ไหว ต้องตกกระป๋อง

บารอนวลาดิเมียร์ ฮาร์คอนเนน, สั่งหลานชายอีกคน ซึ่งหน่วยก้าน (และความโหดอำมหิต) ดีกว่า

อย่างเฟย์ด-รอทา (Feyd-Rautha) เข้ามาแทนที่, ทั้งในฐานะผู้สืบทอด ตำแหน่งบารอน และการควบคุมอาร์ราคิส

และดูทรงแล้ว, เฟย์ดถือว่า พันธุกรรมดีเลิศ ไม่ยิ่งหย่อนกว่าพอล มากเท่าไหร่

เพราะเบเนเจส ส่งคนของตัวเอง (เลดี้เฟนริง) ไปยั่วยวนหมอนั่น, เพื่อผลิตลูกนอกสมรส เก็บเชื้อพันธุ์ เผื่อไว้ด้วย

วกกลับมาที่พอล, เขาเจอะสหายเก่าเข้า (เกอร์นีย์ ฮัลเลก) แล้วเกอร์นีย์ก็ 

นำทางไปหา คลังเก็บระเบิดปรมาณู (สมบัติตระกูลอะเทรดีส) ที่ซุกซ่อนอยู่

ก่อนเฟย์ดบุกถล่ม ซีตช์ทาเบรอเละเทะ, จนเห็นได้ชัดว่า ศึกตัดสิน กำลังใกล้เข้ามา

พอลจึงดื่ม น้ำแห่งชีวิต เพื่อกระตุ้นพลังหยั่งรู้, จนสลบเหมือดยาว

เพื่อปลุกพอล จากการติดแหงก ณ กระแสธารแห่งนิมิต

ชานี่ผสมน้ำตาตัวเอง กับน้ำชีวี, และเอาไป แตะริมฝีปากพอลซะ

ปรากฏว่า พอลที่ฟื้นมา, เปล่าเห็นแค่อนาคต หนึ่งใน 14,000,605 รูปแบบ อันเป็นหนทางชนะ

แต่ยังประจักษ์ "อดีต" จนทราบว่า, มารดาตน คือลูกสาว ของวลาดิเมียร์ ฮาร์คอนเนน

ซึ่งหมายถึง เขาเองก็สืบสายเลือด, มาจากตระกูล ที่เกลียดชังหนักหนาด้วย

เพื่อหนีภัยเฟย์ด, พอลแลเหล่าเฟรเมน ถอยจากแดนเหนือ รวมพลเตรียมโต้กลับ กันที่ทางใต้ของดูน (อาร์ราคิส)

ชาวใต้ผู้ยึดติด ธรรมเนียมดั้งเดิม, พากันส่งเสริมให้พอล ฆ่าสติลการ์ เพื่อขึ้นเป็น ผู้นำสูงสุดรายใหม่

ทว่าพอลชี้ถึง ความสำคัญยิ่งกว่า ของสงคราม ที่ใกล้บังเกิด, ความมีประโยชน์ ของสติลการ์ ต่อตัวเขา

และปลุกระดม ส่งเสริมความงมงาย, พยายามให้เฟรเมนทุกคน เชื่อว่าตนคือ พระผู้มาโปรด 

เรียกได้ว่า พอล (และแม่กะน้อง ที่ช่วยปูทาง เสริมความศรัทธา ชาวเหนือไว้ล่วงหน้า) ทำสำเร็จ

ชาวเฟรเมนเกือบทุกผู้ กลายเป็นนักรบคลั่งศาสนา, บูชามอดดีบ (ศาสดาพยากรณ์) หัวปักหัวปำ

ยกเว้น "ชานี่" ที่ไม่โอเคกับ การจงใจสร้าง กองทัพสาวก โดยพวกคน บ้านอะเทรดีส, และหวาดกลัว สิ่งที่อาจตามมา

พอลส่งสาส์นท้า ถึงจักรพรรดิชาดดัม, ซึ่งตอบรับด้วยการ

เยือนดูนพร้อม ธิดาองค์โต (เจ้าหญิงอิรูลาน), แม่ใหญ่โมไฮแอม (ที่รู้จักพอล กะเจสสิกา), และซาดูการ์กองทัพใหญ่

พอลใช้กลวิธี ระเบิดช่องใน แนวภูเขายักษ์, เพื่อเปิดทางให้ พายุลูกเบ้อเร่อ พัดเข้ากลางสนามยุทธ์

พร้อมส่งทัพเฟรเมน ไปบนหลังหนอนทราย ตัวมหึมา (หลายตัว)

พวกซาดูการ์ แม้ฝึกมาจนมั่นใจ ในความเป็นยอดทหาร, แต่เจอจัดหนักขนาดนี้ ก็ถึงกับแตกพ่าย

ชาดดัมที่ย่ามใจ เชื่อมั่นในความแข็งแกร่ง ของกองทัพพระองค์

จนมัวแต่สน การเรียกบารอน ไปต่อว่า (โทษฐานปกปิด เรื่องพอลกะแม่รอด รวมทั้งที่กำราบ ดาวดวงนี้ไม่อยู่)

จึงต้องแปลกใจเมื่อ, พอลสามารถเดินอาด ๆ เข้าสู่ท้องพระโรงชั่วคราว ของพระองค์

แล้วเข้าประชิด สวัสดีท่านตา (บารอนวลาดิเมียร์) ก่อนฆ่าทิ้ง

อีกด้านของสนามรบ, เกอร์นีย์ได้ สังหารแร็บบาน เพื่อล้างแค้น

เท่ากับแทบไม่เหลือ ใครจะมาท้าทาย พอลกะเหล่านักรบเฟรเมน

พอลท้าทายชาดดัม ให้มาประลองต่อสู้, ผู้รอดชีวิต ได้สิทธิ์เหนือบัลลังก์

พอลหยุดกองกำลัง ของมหาสมาชิกภาพ (เกรทเฮ้าส์) ที่มาถึง แถววงโคจรดวงดาว

บีบให้พวกเขา ได้แค่ลอยแกร่ว เหนือชั้นบรรยากาศ

ด้วยการขู่ว่า จะใช้ปรมาณู ทำลายทุ่งสไปซ์เกลี้ยงดูน, หากพวกเอ็ง แส่เข้ามายุ่ง

แต่ชาดดัม ยังเหลือไพ่เด็ด, นั่นคือ "เฟย์ดรอทา" ผู้ถูกเลือก ในฐานะตัวแทน ฝ่ายจักรพรรดิ

เฟย์ดประลองมีด กับพอล, และโชว์ความเก่งกาจ 

ถึงขั้นเกือบปลิดชีพ ศาสดาพยากรณ์ไหว, ก่อนพ่ายแพ้ สิ้นใจตาย ในท้ายที่สุด

เมื่อเห็นเช่นนั้น องค์หญิงอิรูลาน, จึงเสนอว่าจะ สมรสกับพอล

หากเขายอม ไว้ชีวิตชาดดัม, ก็จะได้ครอง บัลลังก์จักรพรรดิ ผ่านการแต่งงาน ทางการเมือง

พอลยอมรับข้อเสนอ, และบีบให้ชาดดัมคุกเข่า เพื่อแสดงความสวามิภักดิ์

ชานี่ช้ำรัก, เดินหนีจากไป มุ่งสู่ทะเลทราย อันเวิ้งว้างกว้างใหญ่

ในขณะที่เกรทเฮ้าส์ ลงมติไม่ยอมรับ, การขึ้นครองราชย์ ของจักรพรรดิองค์ใหม่

พอลจึงสั่งให้ ชาวเฟรเมนใต้สังกัด แห่ขึ้นยานอวกาศ

เปิดฉากสงครามศักดิ์สิทธิ์ (ญิฮาด) ที่จะก่อความเสียหาย ชนิดแผ่ไพศาล ทั่วเอกภพ