เรื่องราวก่อน Halloween Ends >>ฉบับเรียงตามลำดับเหตุการณ์

หลังภาพยนตร์ชุดเกี่ยวกับฆาตกรคลั่ง, สวมหน้ากากขาว, แลนิยมก่อเรื่องก่อราววันฮาโลวีน ถูกยกเครื่องใหม่มากี่รอบไม่ทราบ Halloween Ends กำลังจะมอบ...

หลังภาพยนตร์ชุดเกี่ยวกับฆาตกรคลั่ง, สวมหน้ากากขาว, แลนิยมก่อเรื่องก่อราววันฮาโลวีน ถูกยกเครื่องใหม่มากี่รอบไม่ทราบ

Halloween Ends กำลังจะมอบบทสรุป ให้กับการรีบูทรอบล่าสุด 

(อย่างน้อยก็สำหรับการปะทะกันระหว่าง ไมเคิล ไมเยอร์ส, กับคู่ปรับแบบ ลอรี่ สโตรด)

บทความจะทบทวนเหตุการณ์ ของภาพยนตร์ 3 ภาคก่อนหน้านี้ ซึ่งได้แก่ Halloween (1978), Halloween (2018) และ Halloween Kills (ที่ฉายค.ศ. 2021)

**เตือนเผื่อๆ จากนี้ สปอยล์หนังสามเรื่องดังกล่าว**

 

1963...

เด็กชายไมเคิล ไมเยอร์ส วัยเพียงไม่กี่ขวบ, กระซวกพี่สาววัยรุ่นตายคาบ้าน, ในคืนวันฮาโลวีน กลางเมืองเล็กๆ ชื่อ "แฮดดอนฟิลด์" รัฐอิลลินอยส์

จึงถูกหนีบไปหย่อนไว้ที่ โรงบาลจิตเวชสมิธส์โกรฟ, เพื่ออยู่ภายใต้การดูแลของดร.แซม ลูมิส

1978...

จิตแพทย์ลูมิส "มิอาจ" ดึงการตอบสนองที่เป็นประโยชน์ใดๆ ออกจากจิตใจของไมเคิลได้สำเร็จ, แม้ใช้เวลาถึง 15 ปี

ลูมิสกะพาไมเคิลขึ้นไต่สวนคดีความ (ถ้าตัดสินว่าผิดจริง คงเจอทัณฑ์ขังตลอดชีวิต) 

แต่อย่างที่รู้กันว่า สำหรับหนังสยอง, การพยายามขนย้ายนักโทษ มันไม่ต่างอะไรกับบอกว่า เอ็งจงเผ่น

ไมเคิลขโมยรถแล้วซิ่งไปที่ แฮดดอนฟิลด์ ในคืนก่อนฮาโลวีน

ราตรีวันถัดมา, ไมเคิลเริ่มการเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์, โดยหลักคือคนรอบตัวของสาววัยรุ่นชื่อ "ลอรี่ สโตรด" พี่เลี้ยงของเด็กชาย 'ทอมมี่ ดอยล์'

หนึ่งในผู้ตกเป็นเหยื่อคือ 'แอนนี่' สหายสตรี (ที่รับงานพี่เลี้ยงเช่นกัน) ซึ่งคอยดูแลเด็กหญิงชื่อ 'ลินด์ซีย์ วอลเลซ' อยู่

ลูมิสผู้ตามมาที่แฮดดอนฟิลด์ กล่อมให้นายอำเภอแบรกเค็ต (Brackett) เชื่อว่าไมเยอร์สคือปีศาจ

ลอรี่รอดผ่านการล่าสังหาร, ช่วยชีวิตทอมมี่ ดอยล์ได้อย่างหวุดหวิด

หลังการเผชิญหน้า, ลูมิสยิงปืนใส่ไมเคิล จนเขาหล่นจากระเบียงบ้าน

แต่เมื่อเมียงมองตามลงมา ดันปรากฏว่า ไม่เจอศพฆาตกรโฉด

ไมเยอร์ส มุ่งหน้าสู่บ้านเก่าของตัวเอง ที่ถูกปล่อยทิ้งร้างไร้คนอาศัย

พอดีได้เจอนายตำรวจผู้นึง อยู่ในห้องพี่สาวของไมเคิลที่ตายไป, ยืนทอดสายตาสู่นอกหน้าต่าง 

จึงรุดเข้าหาจับล็อคคอ, และพอดีตร.หนุ่มอีกนาย (แฟรงค์ ฮอว์กินส์) เห็นเข้า

เขาว่าจะเซฟคู่หู, แต่ด้วยความหวาดหวั่นลนลาน เลยยิงพลาดโดนเพื่อนตัวเองดับ

ไมเคิลสูญเสียตัวประกัน และโดนตำรวจจำนวนมากห้อมล้อม ไม่อาจหนีต่อ

คุณหมอลูมิส ว่าจะใช้ปืนในมือ ลั่นไกสังหารฆาตกรต่อเนื่อง

ทว่าแฟรงค์ ฮอว์กินส์ ผู้ถูกความรู้สึกผิดจากการฆ่าเพื่อนกลืนกิน คิดตรงข้าม

เขาไม่อยากให้เกิด การเสียเลือดเนื้อมากกว่านี้ จึงห้ามมิให้ลูมิสปลิดชีพไมเยอร์ส

2018...

ไมเคิล ไมเยอร์ส กลับไปติดแหงกคา โรงพยาบาลจิตเวชสมิธส์โกรฟ ร่วม 40 ปี

ผู้ดูแลเขาเปลี่ยนจากลูมิส (ที่สงสัยแก่ตาย) เป็นดร.รันบีร์ ซาร์เทน (Ranbir Sartain)

ชายที่เคยเป็นลูกศิษย์ของลูมิส มิสามารถดึงผลลัพธ์น่าพึงใจจาก เดรัจฉานในร่างมนุษย์, เช่นเดียวกับครูของเขา

เค้าจึงชักใยให้เกิดสถานการณ์ที่ไมเคิล หนีพ้นการคุมขังซะ, เพราะหวังจะศึกษาไมเยอร์ส ในสภาพแวดล้อมที่ไร้การจองจำดูบ้าง

 

ฟากแฮดดอนฟิลด์, ลอรี่ สโตรด เปลี่ยนบ้านตัวเองเป็นป้อมปราการ 

และกินอยู่ตัวคนเดียว, ใช้ชีวิตอย่างสันโดษ แม้เธอมีทั้งลูกสาว (แคเรน) และหลานสาว (อัลลิสัน) แล้ว

เนื่องจากหวาดระแวงว่าสักวัน ไมเคิลจะกลับมา ก่อเหตุเชือดสยองรอบใหม่

"แฟรงค์ ฮอว์กินส์" เตือนนายอำเภอคนปัจจุบันว่า ไอ้หน้ากากฮาโลวีนมันอันตรายแค่ไหน

แต่คำเตือนถูกเพิกเฉย และตัวเขาเองโดนไมเยอร์ส ทำร้ายภายหลัง

ไมเคิลไล่เจี๋ยนคนอย่างสนุกสนานอีกครั้ง, รวมทั้งฆ่าดร.ซาร์เทน และสามีของแคเรน

ลอรี่, แคเรน, อัลลิสัน หลอกล่อไมเคิลสู่ป้อมปราการของลอรี่

สตรี 3 เจเนอเรชั่นผนึกกำลัง จนกระทั่งดักจับไอ้หน้ากากฮาโลวีน ไว้ในบ้าน, แล้วจุดไฟเผาได้สำเร็จ

2018...

แคเรน & อัลลิสัน พาลอรี่ที่บาดเจ็บ จากการต่อสู้กับเดรัจฉานในร่างคน, ส่งโรงพยาบาล

แต่เหล่าพนักงานดับเพลิง ดันมุ่งไปดับไฟที่ลุกโชน ณ บ้านของลอรี่ให้ โดยที่พวกเธอไม่ได้ขอ

ทีมดับเพลิงผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ จึงช่วยไมเคิลก่อนถูกเผาตายทั้งเป็น, แล้วโดนไอ้หมอนั่น เก็บเรียบยกก๊วน

ไมเคิลเริ่มเข่นฆ่า ชาวแฮดดอนฟิลด์ต่อ ด้วยความกระหายเลือดยิ่งกว่าเก่า

ขณะเดียวกัน 'ทอมมี่ ดอยล์' วัยผู้ใหญ่ ยังจำฝันร้ายสมัยเยาว์ได้ฝังใจ

เขาถ่ายทอดประสบการณ์ดังกล่าว ผ่านคำพูด, สู่งานโศกนาฏกรรมรำลึก ที่จัดขึ้นแถวร้านเหล้าท้องถิ่น เนื่องในวาระครบรอบ 40 ปี

และในบรรดาเหยื่ออารมณ์ไมเคิล เมื่อครั้งกระโน้น, ก็มี 'ลินด์ซีย์ วอลเลซ' ที่โผล่มาร่วมงานด้วย

เมื่อได้ข่าวว่าไมเคิลลงมือซ้ำ, ทอมมี่โน้มน้าวบรรดาเหยื่อ และผู้เกี่ยวข้อง

ให้รวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน เพื่อออกตระเวนล่า เจ้าฆาตกร

แต่กลุ่มนักล่ามือสมัครเล่นบางส่วน ดันตกเป็นฝ่ายถูกเล่นงานซะเอง

ลินด์ซีย์ที่รอด แต่บาดเจ็บ โดนหามส่งโรงพยาบาล

ที่นั่นทอมมี่ซึ่งอยู่ร่วม คณะหามคนเจ็บ, ได้คุยกับนายอำเภอเก่า (แบรกเค็ต) ผู้สูญเสียลูกสาว (แอนนี่) เมื่อคราวค.ศ. 1978

'แฟรงค์ ฮอว์กินส์' เองก็มารักษาตัวที่โรงพยาบาล

เขาได้เปิดอกคุยกับลอรี่ เผยเรื่องที่ตนเอง, เป็นต้นเหตุหายนะครั้งใหม่ (เพราะเคยไว้ชีวิตไมเคิล)

และยิ่งราตรีนั้นผ่านไปนาน, คนเจ็บและสูญหาย ก็รังแต่จะเพิ่มจำนวนขึ้นทุกที

เมื่อผู้คนที่รวมตัวกันแน่นขนัด, เข้าใจผิดว่าผู้ชายที่ไหนไม่ทราบ คืออีตาไมเคิล, การจลาจลจึงบังเกิด

ความหวาดหวั่นของคนหมู่มาก ผลักดันให้ชาย 'ที่ไม่ใช่ไมเคิล' ถึงกับต้องตายเพราะเรื่องเข้าใจผิด

ฝั่งทีมล่าสมัครเล่น เกิดการรู้แกวขึ้นมาว่า, เป้าหมายแท้จริงของไมเคิลไม่ใช่ลอรี่ แต่คือบ้านเก่าของเขา

เจ้าหมอนี่แค่เจี๋ยนคนที่อยู่ กลางเส้นทางของตน เป็นของแถม

อัลลิสันกับพ่อลูกคู่นึง ลองไปหาไมเคิล, และแน่นอนว่าแทนที่จะชนะฆาตกร, พ่อลูกคู่นั้นดันโดนฆาตกรรมแทน

อัลลิสันเกือบแย่ แต่แม่ (แคเรน) โผล่มาช่วยทัน

แคเรนหลอกล่อไมเคิล ให้เข้าไปอยู่กลางวงล้อม ของผู้คนท้องถิ่นติดอาวุธ

ไมเยอร์สเจอสามัคคีรุมประชาทัณฑ์ และทำท่าว่างวดนี้พี่แก เสร็จมะก้องด้องแหง

แต่แล้วไอ้หน้ากากฮาโลวีน ก็แสดงความอึดเหนือมนุษย์ให้ประจักษ์

ลุกขึ้นมาสังหารหมู่ผู้คนท้องถิ่น ที่ล้อมอยู่สิ้น, ทั้งทอมมี่และแบรกเค็ต ดับอนาถ

แคเรนปลีกตัวจากวงล้อมรุมประชาทัณฑ์ ก่อนทันได้เห็นจุดจบของไมเยอร์ส

เธอตรงไปยัง "ห้องของพี่สาวไมเคิล" แล้วยืนจ้องออกนอกหน้าต่าง เพราะความสงสัยใคร่รู้

แต่ไม่ทันไรไมเคิลก็โผล่มาข้างหลัง และเด็ดชีพแคเรนด้วยความเหี้ยมโหด

ด้านลอรี่ สโตรด (ที่ยังรักษาตัวในโรงบาล) เริ่มตระหนักว่าไมเคิล มีคำสาปบางอย่างติดตัว

ยิ่งมันแพร่กระจายความหวาดกลัว ยิ่งฆ่าคนมากเท่าไหร่ ยิ่งแกร่ง, และไม่ใช่ศัตรูที่เอาชนะด้วยกำลังได้

2022...

สี่ปีหลังฮาโลวีนสังหาร (Halloween Kills) เหมือนไมเคิลจะหายเข้ากลีบเมฆ

แต่พี่แกยังกลับสู่แฮดดอนฟิลด์อีก และพร้อมตัดสินชี้ขาดกับไม้เบื่อไม้เบา อย่างลอรี่

ปรับปรุงจากบทความของ: cineworld