Thor: The Dark World Prelude คือเนื้อหาเสริมของ MCU ที่ช่วงเวลา ครอบคลุมทั้งก่อน, ระหว่าง และหลังจาก ภาพยนตร์เรื่อง The Avengers มันทบทวนใ...
Thor: The Dark World Prelude คือเนื้อหาเสริมของ MCU ที่ช่วงเวลา
ครอบคลุมทั้งก่อน, ระหว่าง และหลังจาก ภาพยนตร์เรื่อง The Avengers
มันทบทวนให้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อทางด่วนอวกาศ (สะพานไบฟรอสต์)
ของเครือข่ายอิกดราซิลพังลง (เพราะเหตุการณ์ในหนัง Thor ภาคแรก)
และอธิบายเหตุผลว่าทำไมธอร์ ผู้ไปช่วยอเวนเจอร์ส ปราบน้องชาย (โลกิ) บนโลก จึงดูอ่อนแอกว่าปกติ
พอชาวบ้านชาวช่องเขารู้กันทั้งบาง ตอนสะพานไบฟรอสต์แหลกสลายใหม่ ๆ
อาณาจักรทั้ง 9 ก็เริ่มระส่ำระสาย เนื่องจากชาวแอสการ์ด ที่เคยทำตัวเป็นสายตรวจอวกาศมาตลอด
มิอาจออกลาดตระเวน ปราบปรามขั้วอำนาจทางทหารอื่น ๆ
หรือปัดเป่าทุกข์ภัย จากบรรดาโจรผู้ร้าย ตามอาณาจักรโน้นนี้, ได้ทันท่วงทีเช่นแต่ก่อน
ธอร์เพิ่งตระหนักว่า เพื่อจะช่วย 1 อาณาจักร (โยทันไฮม์/ถิ่นยักษ์น้ำแข็ง)
เขากลับทำให้อีกสารพัดภพ ตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่
แต่เทพบิดรโอดินปลอบโอรสว่า อย่างไรเสียจักรวาลก็กำลังเข้าใกล้
ความพินาศตามคำทำนาย (แร็คนาร็อค) ยิ่งขึ้นไป ทุกเมื่อเชื่อวันอยู่แล้ว
เหตุการณ์นี้ก็แค่ ทำให้มันทำท่าจะมาถึง เร็วกว่าเดิมนิดหนึ่ง
ขณะเดียวกัน, 'เจน ฟอสเตอร์' นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์สาว ชาวมิดการ์ด
เปล่าคอยผู้ชายต่างดาวที่รักใคร่ (ให้เขาหาทางหวนคืนสู่ดาวโลก) เฉยๆ โดยไม่ทำอะไร
เธอหมกมุ่นกับการค้นหา วิธีเปิดไบฟรอสต์แถวรัฐนิวเม็กซิโก ของประเทศอเมริกา
เธอล้มเหลวหลายครั้งหลายครา ทว่าไม่ยอมถอดใจ
"1 ปีต่อมา" ฟริกก้า/พระมเหสีของโอดิน นิมิตเห็นโลกิ (โอรสบุญธรรม)
เธอพยายามโทรจิต คุยกับบุตรชาย แต่ปลายสายกลับไม่ยอมสนทนา
ฟริกก้าจึงระแคะระคายว่า โลกิวางแผนร้ายบางอย่าง
เลยแจ้งพระสวามีกับคนอื่นๆ เรื่องโลกิยังมีชีวิต
และดูท่าว่าอยากใช้เทสเซอแรคท์, ที่เป็นหนึ่งในขุมพลังระดับจักรวาล, ทำบางสิ่ง
โลกิบุกโลกทางประตูมิติ ที่เปิดด้วยเทสเซอแรคท์ ซึ่งหน่วย 'ชิลด์' ค้นคว้าวิจัยอยู่
เจ้าหน้าที่ชิลด์ (ฟิล โคลสัน) จึงใช้ข้อมูลเท็จ, ลวงให้เจน ฟอสเตอร์
เชื่อว่าห้องแล็บของประเทศนอร์เวย์ ต้องการความช่วยเหลือด้านวิทยาศาสตร์
เพื่อล่อเธอออกนอกอเมริกา (ที่โลกิโผล่มาอาละวาด) โดยละมุนละม่อม
แฟนของธอร์บนโลก ปลอดภัยเพราะสหายในหน่วยชิลด์
ส่วนธอร์ & โอดิน ทราบเรื่องโลกิ รุกรานมิดการ์ด
ผ่านคำเตือนของ 'ไฮม์ดัล' ผู้มองเห็นทุกสรรพสิ่ง
โอดินจึงดำริว่า ควรใช้พลังงานมืด (Dark Energy) ที่เก็บสำรองไว้
ส่งโอรสองค์โตของตน สู่ดาวโลกโดยไวที่สุด
โอดินไม่เคยอยากใช้วิธีนี้ เนื่องจากมันจะ "บั่นทอน" ทั้งตัวพระองค์เอง แลโอรส
แต่วาระนี้หากมัวชักช้า จะเสียการหมด
โอดินเลยร่ายคาถา ส่งธอร์ข้ามจักรวาล โดยไร้สะพานไบฟรอสต์ซะ
แม้พระองค์จะต้องประชวร (ล้มป่วย) และธอร์ต้องไปสู้น้อง ในสภาพอ่อนแอกว่าปกติ
ธอร์รวมพลัง กับกลุ่มวีรชนบนโลก ในฐานะทีมอเวนเจอร์ส
เขาช่วยพวกพ้องต่อสู้กับ กองทัพชิทอรี่ (Chitauri) ของโลกิ
ขณะเขาทำศึก ณ เมืองนิวยอร์ค ก็มีสื่อใจกล้า, ถ่ายทอดเหตุการณ์ในสนามรบ ทางอินเตอร์เน็ต
เจนจึงรู้ตัวว่า โดนชิลด์หลอก, และเสียโอกาสพบหน้า เทพสายฟ้ายอดรัก (ภาพบนสุดของบทความ)
"วันต่อมา" ธอร์ไม่รอช้า ที่จะพาโลกิ (ผู้โดนจับกุมเรียบร้อย) กลับไปรับโทษทัณฑ์ ณ ดินแดนแอสการ์ด
ฟริกก้ายังมองโลกิ ว่าเป็นโอรส, แต่โอดินทรงพิโรธหนัก ตัดพ่อตัดลูกแล้วสั่งจำคุกตลอดชีวิต
ไฮม์ดัลใช้เทสเซอแรคท์ ซ่อมแซมสะพานไบฟรอสต์สำเร็จ
ธอร์เลยขึ้นเป็นผู้นำกองทัพชาวแอสการ์ด และพาพวกเขาออกไปกำราบภัยร้าย ทั่ว 9 อาณาจักร
ด้านเจน ฟอสเตอร์ ตระหนักว่าธอร์อุตส่าห์มาโลกแล้ว แต่ก็ดันรีบกลับ
แถมหลังเหตุการณ์นิวยอร์ค ยังไม่คิดหาเวลาติดต่อบ้าง เสียด้วยซ้ำ
เธอสัมผัสได้ถึงความห่างเหิน โดยแจ่มชัด
จึงเลิกเฝ้ารอธอร์ และหยุดพยายามจะ เปิดไบฟรอสต์เอง
คอมมิคจบลงโดยชี้ว่า ธอร์มัวยุ่งกับราชกิจ (งาน)
จนความสัมพันธ์ของคู่พระนาง (ธอร์ & เจน) ง่อนแง่น
แต่ในตอนจบภาพยนตร์ Thor: The Dark World ทั้งสองปรับความเข้าใจ และคืนดีกันได้สำเร็จ
ทว่าหนังธอร์ภาค 3 (Ragnarok) ดันบอกว่า หลังคืนดี, พวกเขาไปกันไม่รอด
แล้วความสัมพันธ์ของคู่นี้ ในหนังธอร์ภาค 4 (Love and Thunder) จะเป็นเช่นไรต่อหว่า ?
COMMENTS