ก่อนหน้า Doctor Strange เข้าร่วม สำนักเวทมนตร์มีตัวตนอยู่มาตั้งนมนานมากแล้ว แม้ภาพลักษณ์ที่คนภายนอกมองพวกเขา ไม่ต่างอะไรจากลัทธิปาหี่ แต่อย่...
แม้ภาพลักษณ์ที่คนภายนอกมองพวกเขา ไม่ต่างอะไรจากลัทธิปาหี่
แต่อย่างที่เราทราบดีว่า ความแตกต่างคือคนพวกนี้เป็นของจริง
พวกเขาฝึกตนในศาสตร์เฉพาะทาง และขัดเกลาวิชาต่อสู้ราวกับพระวัดเส้าหลิน
เพราะมีภัยคุกคามหลายประการ ที่ต้องคอยตามไปจัดการตลอด, ต่อให้ไม่มีกองทัพเอเลี่ยน ยกพลมาบุกโลกก็เหอะ
Doctor Strange Prelude จะบอกเราว่า ปกติภารกิจประจำของเหล่าจอมเวท
คือเก็บกู้วัตถุเวทมนตร์อันตราย ที่กระจัดกระจายอยู่มากมายทั่วพิภพ
จากมือของเหล่าผู้กวัดแกว่งมัน โดยไร้การควบคุมอย่างเหมาะสม
มาสะสมในอาศรมจอมเวท เพื่อดูแลรักษา, และพิทักษ์ความสงบสุขของโลกา
บทต้น
สตรีสวมผ้าคลุมลึกลับ ทำตัวลับๆ ล่อๆ ด้วยการท่องคาถาแปลกประหลาดอะไรไม่ทราบ แถวหน้าพิพิธภัณฑ์อังกฤษกลางวันแสก ๆ
แต่เมื่อ "หว่อง" อาจารย์เวทมนตร์สังกัดคาร์มาทาช เดินดุ่มๆ เข้าไปหา
หล่อนก็เปลี่ยนท้องฟ้าเป็นสีดำ อย่างฉับพลัน
ประชาชนตาดำๆ ต่างพากันหวาดกลัวจ้าละหวั่น นึกว่าดาร์คเอล์ฟบุกเหมือนใน Thor: The Dark World ซ้ำสอง
หลังปล่อยเอฟเฟ็กต์น่าตื่นตะลึงแป๊บนึง รู้ตัวอีกทีผู้หญิงคนนั้นดันอันตรธานไปเสียละ
จึงถือได้ว่าหว่องผู้ควรกำราบหล่อน และยึดคทาแห่งความมืด (Dark Scepter) จากแม่มดมือใหม่มา, พลาดท่าอย่างน่าอนาถ
เมื่อกลับถึงคาร์มาทาช, ไคซิเลียสตำหนิหว่องอย่างไม่เกรงใจ
แม้หว่องพยายามอธิบายว่า, พลังคทามันโหดเฟ้ย ถึงคนถือจะฝีมืออ่อนหัดก็เหอะ
แดเนียล ดรัมม์ (Daniel Drumm) กับทีน่า มิโนรุ (Tina Minoru)
อาจารย์เวทซึ่งตอนนั้น เป็นเจ้าอาศรมนิวยอร์ค กะฮ่องกงตามลำดับ
ก็คิดว่าไม่ควรมองหว่องเป็นไอ้อ่อน และเราควรร่วมมือกันหลายคน, เพื่อโค่นล้มแม่มดผู้ถือคทาความมืด
อย่างไรก็ตาม ไคซิเลียสไม่เชื่อ, เลยเปิดประตูเวทวาร์ป ไปสู้กับแม่มดคนเดียวอย่างด่วน
การณ์ปรากฏว่าไคซิเลียส โดนตบจนสลบล้มคว่ำ คาดาดฟ้าตึกในลอนดอน
ทำเอาศักดิ์ศรีร่วงหล่นแตกกระจาย แม้ไม่มีใครเห็นภาพตอนแกพ่าย
เมื่อไคซิเลียสลืมตาตื่นอีกที ก็พบว่าพวกพ้องอาจารย์เวทจากคาร์มาทาช ตามมาสมทบ
มิโนรุอธิบายว่า ที่ขนาดคนเก่งแบบเอ็งยังแพ้, เพราะคทาเปล่าดูดเฉพาะแสงสว่างทางกายภาพ
แต่มันดูดกระทั่งแสงสว่างภายในจิตใจคน และเพิ่มพูนความหวาดหวั่นให้ล้นปรี่ด้วย
ไคซิเลียสจึงยอมทำตามแผน สามัคคีคือพลัง (ไม่ใช่หมาหมู่)
ปะทะกับแม่มดมือใหม่อีกหน พร้อมหว่อง, ดรัมม์ และมิโนรุ ที่หอดูดาวหลวงกรีนิช (ภาพบนสุดของบทความ)
เมื่อคราวนี้มีเป้าหมายเยอะเกิน, ผู้ใช้ที่ขาดความช่ำชอง จึงคุมคทามืดให้สูบแสงได้ไม่ดีพอ และต้องพ่ายแพ้
สุดท้ายคทาถูกริบ เอาไปเก็บรักษา ในอาศรมสาขานิวยอร์ค
บทปลาย
ณ มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน, แก๊งมังกรนักปล้น (Dragon Raiders) เข่นฆ่าประชาชน และบุกค้นบ้านชายชราผู้หนึ่ง
พวกลูกสมุนช่วยกันควานหา จนเจอของที่ลูกพี่ใหญ่ต้องการ นั่นคือคันธนูกับศรของเทพอะพอลโล่ (Bow and Arrow of Apollon)
จากนั้นเพื่อทดสอบว่า ใช่วัตถุวิเศษของจริงหรือไม่ ? และข่มขู่พวกชาวบ้านพร้อมกัน, ลูกพี่แก๊งมังกรจึงลองยิงพลังศรขึ้นฟ้า
การณ์ปรากฏว่าอานุภาพร้ายกาจสมคะเน แค่นัดเดียวทำเอาบ้านคนอื่นเขาไฟไหม้ พินาศไปหลายหลัง
บรรดาคนรากหญ้าได้แต่ตัวสั่นงันงก, ยอมก้มหัวสวามิภักดิ์กลุ่มโจร และโดนรีดไถค่าคุ้มครอง
ประมาณ 8 ชั่วโมงต่อมา, ข่าววัตถุวิเศษเดินทางถึงคาร์มาทาช
มอร์โดแจ้งให้แองเชี่ยนวันทราบเรื่อง ก่อนวาร์ปไปกุ้ยโจวด้วยกัน
แองเชี่ยนวันพยายามกล่อมหัวหน้าแก๊งโจร ให้ยอมส่งมอบวัตถุอันตรายแก่ลัทธิเวทมนตร์โดยดี
แต่มีหรือมิจฉาชีพจะฟังคำ, ว่าแล้วก็ยิงศรมรณะ ใส่แองเชี่ยนวันโดยตรง
ทว่าแองเชี่ยนวันทักษะโหดจัด ถึงขั้นเบี่ยงวิถีลูกธนูที่ทำลายหมู่บ้านได้
ให้พุ่งขึ้นท้องฟ้าสูงลิ่ว เสียจนพ้นรัศมีที่พลังระเบิดของมัน จะสามารถทำอันตรายใครได้
หัวหน้าโจรยังไม่ยอมแพ้ สั่งลูกน้องรุมกระทืบมอร์โดกับแองเชี่ยนวัน
แต่สองคนนั้นดันเป็นฝ่าย ซัดกองทัพลิ่วล้อคว่ำแทน
แล้วภารกิจเก็บกู้ คันธนูกับศรของเทพอะพอลโล่ ก็สำเร็จ
COMMENTS