ความจริงคอมมิคซึ่งวางขาย ณ ช่วงก่อนภาพยนตร์ BvS ออกฉาย และน่าจะจัดอยู่จักรวาลเดียวกับหนังได้ ยังมีอีกหลายเล่ม แต่จากที่ลองเช็คดู, นอกจากเซ็ต...
ความจริงคอมมิคซึ่งวางขาย ณ ช่วงก่อนภาพยนตร์ BvS ออกฉาย และน่าจะจัดอยู่จักรวาลเดียวกับหนังได้ ยังมีอีกหลายเล่ม
แต่จากที่ลองเช็คดู, นอกจากเซ็ตของ Batman v Superman: Dawn of Justice Prequel แล้ว
ก็แลคล้ายจะตีพิมพ์ออกมากัน เพื่อโหนกระแสตอนนั้นเฉย ๆ
(เช่น เล่มที่เป็นแค่การถกเถียงในวงสนทนา ของเด็กน้อยกลุ่มนึงว่า, ใครคือฮีโร่ผู้ยอดเยี่ยมกว่า ระหว่างแบทแมนกับซูเปอร์แมน)
ส่วนของ Batman v Superman: Dawn of Justice Prequel เอง เนื้อหาโฟกัสไปยังตัวละครหลัก 5 ราย, ซึ่งมีบทบาทเฉิดฉายในภาพยนตร์
โดยเหตุการณ์ 4 จาก 5 ตอน จะเกี่ยวข้องกับตัวร้ายสายพหูสูต "เล็กซ์ ลูเธอร์" ทางใดทางหนึ่งเสมอ
เป็นการตอบคำถามสำหรับ ผู้เคยรับชมเพียงภาพยนตร์ได้อย่างดี
ว่าตกลงไอ้หมอนี่ อยู่เบื้องหลังมันเกือบทุกเหตุการณ์ในหนัง จริงหรือไม่ ?
แบทแมน
ขณะอาชญากรระดับลูกกระจ๊อก 2 ราย เป็นลูกมือให้ซูเปอร์วายร้ายไฟร์ฟลาย (Firefly) ผู้ชอบเล่นกับไฟ
ร่วมกันก่อเหตุวางเพลิงทำลายคลังเก็บสินค้าแห่งหนึ่ง ตามที่ได้รับคำสั่งจากผู้จ้างวาน ซึ่งไม่ประสงค์ออกนาม
ความหวาดหวั่นว่ามนุษย์ค้างคาวจะเจอเข้า ก็เริ่มคุกคามจิตใจ
อาชญากรที่แก่หน่อยจึงเริ่มเล่าความหลัง ให้คนอายุน้อยกว่าฟัง
เพื่อฆ่าเวลาระหว่างรอให้ พ่อไฟร์ฟลายเขาปิดงาน
อาชญากรสูงวัยโม้ว่าสมัยเขาละอ่อน แบทแมนผู้เพิ่งเริ่มต้น เดินบนเส้นทางศาลเตี้ย
จัดการเขาโดยเน้นประสิทธิภาพ, ด้วยความรวดเร็วฉับไวชนิดที่ ไม่ทันรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ต้องรอตำรวจมารับตัวละ
แต่หลังจากเหตุการณ์ที่ทำเมืองเมโทรโปลิสเกือบล่มสลาย (ใน Man of Steel) จู่ๆ มนุษย์ค้างคาวก็ก้าวร้าวขึ้น
โจรกระจอกที่รู้จักกันคนนึง ซึ่งแค่หันปืนใส่แบทแมนด้วยความหวาดกลัว
โดนหักขาอย่างรุนแรงจนถึงขั้น การขึ้นบันไดกลายเป็นความลำบากชั่วชีวิตไป
จากนั้นความกลัวของพวกลูกกระจ๊อก เกิดเป็นจริง, แบทแมนโผล่มา
ไฟร์ฟลายใช้เครื่องพ่นเพลิง กดดันบุรุษค้างคาวสบาย เพราะตัวเองใส่ชุดกันไฟ
แต่นั่นไม่พอจะหยุดแบทแมน จากการฉีกเกราะศัตรู และแจกลูกถีบ
ลูกกระจ๊อกทั้งสอง เห็นลูกพี่นักวางเพลิงโดนซัดหมอบ จึงยอมศิโรราบไม่ขัดขืน
ทั้งสองยังอยู่ครบ 32 แต่ก็ถูกแบทแมนอัดประมาณนึง ก่อนจับมัดรอตำรวจก็อตแธมมารับ
'เล็กซ์ ลูเธอร์' เฝ้ามองการกระทำเกินกว่าเหตุของแบทแมน, และฟังเรื่องราวทั้งหมด ผ่านเครือข่ายกล้องวงจรปิด
เหตุการณ์บ่งชี้ว่า ผู้จ้างวานซึ่งไม่ประสงค์ออกนาม คือหมอนี่
เขาจัดฉากทุกอย่างขึ้น เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับแบทแมน
โลอิส เลน
ขณะคลาร์ก เคนท์ (ซูเปอร์แมน) ไม่อยู่ เพราะช่วยเหลือเหล่าผู้ประสบภัย จากเหตุน้ำท่วมใหญ่ในบังคลาเทศ
นักข่าวสาวมั่น โลอิส เลน, ไม่คิดว่าจำเป็นต้องพึ่งแฟนยอดมนุษย์ และมุ่งสู่เส้นทางอันตรายตามสายอาชีพ
ด้วยการบุกเดี่ยวไปหา ซีอีโอของบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่ง ถึงกลางห้องทำงาน
แล้วเริ่มเปิดโปงการกระทำผิดกฎหมาย ของชายที่เป็นผู้บริหารสูงสุด
โลอิสรวบรวมหลักฐาน ได้แน่นหนาพอสำหรับเรียกหมาต๋า มาหิ้วซีอีโอเข้าซังเตอยู่แล้ว
ด้วยข้อหาลักลอบนำวัตถุต่างดาว (เทคโนโลยีคริปตอน) ที่เก็บกู้จากซากนครเมโทรโปลิส ไปขายตลาดมืด
แต่เพราะเธอยังขาด ข้อมูลที่ต้องการอีกหนึ่งประการ นั่นคือชื่อ 'ผู้รับซื้อ'
จึงมาต่อรองว่า หากยอมเปิดเผยชื่อ, เธอจะเล่าเนื้อหาคดีโดยเข้าข้างซีอีโอ เพื่อช่วยลดหย่อนโทษให้
แต่อีตาซีอีโอดันเลือกจะ ขู่ฆ่าโลอิส เลน แทน
จึงโดนนักข่าวสาว ตีเข่าใส่จนจุกหนัก ลงไปนอนกองกับพื้นห้องทำงาน
เหตุการณ์จึงจบโดยโลอิส ไม่ทราบชื่อผู้ซื้อเทคโนโลยีคริปตอน ผ่านตลาดมืด
สัปดาห์ต่อมา, 'เล็กซ์ ลูเธอร์' ซื้อกิจการของบริษัทนี้ มาบริหารงานต่อ
วุฒิสมาชิก ฟินช์
ณ สถานที่ประชุมของรัฐสภาอเมริกัน ในกรุงวอชิงตันดีซี
ส.ว.หญิงฟินช์ทำหน้าที่เป็นผู้นำ ของคณะกรรมาธิการซึ่งสุมหัวกันหารือว่า ควรทำอย่างไรกับซูเปอร์แมน ?
เพราะพี่แกโหดขนาดประเมินกันว่า สามารถทำลายเมืองทั้งเมือง, และคร่าชีวิตผู้คนครึ่งนครได้ ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง
เกิดวันไหนเข้าไปยุ่งกับความขัดแย้งระดับชาติ, แทรกแซงสงครามในประเทศใดสักแห่งเข้า
สมดุลอำนาจโลกอาจพังทลาย และก่อความวุ่นวายขนานหนัก
ทว่าก็มีทั้งคนที่คิดว่าควรไว้ใจเขา เช่น ส.ว.ของรัฐที่ซูเปอร์แมน ช่วยหลายร้อยชีวิตจากภัยพิบัติไฟป่า
และคนที่อยากจับตามองพี่แกทุกฝีก้าว ด้วยความหวาดระแวง, แต่กลัวว่าซูเปอร์แมนจะเคืองอยู่
ผลลัพธ์การประชุมจึงลงเอยที่ มีมติเป็นเอกฉันท์, ให้อนุมัติงบประมาณ สำหรับตั้งคณะกรรมการ
เพื่อศึกษาซูเปอร์แมน และผลกระทบที่เขามีต่อโลกซะ
หรือเว้ากันซื่อๆ คือยังไม่มีใคร กล้าทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า, จนเฮียซุปฯ อาจไม่ปลื้มหรอก
ซูเปอร์แมน
ซูเปอร์แมนหยุดรถไฟเบรคแตก และมีผู้โดยสารเต็มขบวน ด้วยความละเอียดรอบคอบอย่างที่สุด
เขาแยกตู้โดยสารออกทีละส่วน, เลือกจะไม่ใช้แรงหยุดหัวขบวนโดยตรง จนมันอาจตกราง
หิ้วรถไฟไถลที่ไหลไม่หยุด แบบเรี่ยตามพื้น, เพื่อเลี่ยงการกลิ้งกระดอนจนทำร้ายผู้โดยสาร
และสุดท้ายคือลำเลียงผู้บาดเจ็บ ส่งหน่วยพยาบาล, โดยเรียงจากผู้อาการหนักไปหาเบา
รายการโทรทัศน์สไตล์ถกแบบ (ไม่) เถียง เชิญผู้ร่วมรายการ 2 ฝ่าย มาถกเกี่ยวกับเหตุดังกล่าวภายหลัง
ฝ่ายเข้าข้างเฮียซุปฯ ชี้แจงขั้นตอนการกู้ภัยของยอดมนุษย์ต่างดาว ตามลำดับ
เพื่อย้ำเตือนกับประชาชนว่า ซูเปอร์แมนใส่ใจมนุษย์โลกแค่ไหน, และการที่เขาไม่แทรกแซงสงคราม ถือว่ากระทำเหมาะสม
แต่ฝ่ายเห็นแย้งโต้ว่า เขาอาจทำเพียงเพื่อสร้างภาพ, เพราะในสงครามคนตายเยอะกว่าจม
หากสนใจชาวโลกจริง ควรยุ่งกับความขัดแย้งระดับชาติด้วย, ไม่ใช่มัวช่วยคนแบบเก็บเล็กผสมน้อย ไปวัน ๆ
ฝ่ายแย้งสำทับด้วยว่า ผู้สนับสนุนซุปฯ ลืมมองการณ์ไกลกัน
หากวันหนึ่งซูเปอร์แมน ทนมองมนุษย์ฆ่าฟันกันเองไม่ไหว
แล้วเลือกแทรกแซงเต็มกำลังขึ้นมา, มันจะน่ากังวลปานไหน
รายการจบไปโดยทิ้งให้คนดู เกิดความเคลือบแคลงใจ ตามความต้องการของ 'เล็กซ์ ลูเธอร์'
ซึ่งแอบควบคุมทิศทางของรายการ ด้วยการติดต่อผ่านหูฟังกับพิธีกรอย่างลับ ๆ
เล็กซ์ ลูเธอร์
ณ ตึกของบริษัทเล็กซ์คอร์ปซึ่งพังพินาศ เพราะการต่อสู้ของซ็อดกับซูเปอร์แมน
เล็กซ์ ลูเธอร์ ประกาศออกสื่อสาธารณะว่า มันไม่ใช่เรื่องเศร้า
และเขายินดี กับการมีโอกาสได้สร้างตึกหลังใหม่ ให้สูงใหญ่และโดดเด่นกว่าเก่า
พร้อมกับต่อว่าเหล่าบริษัทห้างร้านต่างๆ ที่ทอดทิ้งนครเมโทรโปลิสไป หลังศึกวันทรงชัย ของชาวคริปตอน
นักข่าวคนหนึ่งถามยั่วอารมณ์เล็กซ์ว่า เขาจะได้กำไรมหาศาล
จากการขายอสังหาริมทรัพย์ หลังซื้อมาในราคาถูกกว่าปกติ (ตอนเป็นซากตึก) ไม่ใช่หรือ ?
เล็กซ์ก็มิได้นำพา มาเป็นอารมณ์อะไร
ทว่าเมื่อนักข่าวอีกราย เปรียบเขาว่าเป็นฮีโร่ผู้ช่วยเมโทรโปลิส 'เหมือนซูเปอร์แมน'
เล็กซ์กลับแสดงอาการหงุดหงิดออกมา
นักข่าวสังเกตเห็นความผิดปกติ แต่เล็กซ์กลบเกลื่อนสำเร็จ
ด้วยการเฉไฉไปว่า ไม่อยากถูกเปรียบเทียบกับเฮียซุปฯ เพราะทางนั้นคือบุรุษเหล็กเหนือมนุษย์
และต้องการให้ผู้คนตระหนักว่า ตัวเขาและปุถุชนอย่างเราๆ ก็ทำให้เกิดสิ่งที่ยอดเยี่ยมได้ ในแบบของตน
แล้วเล็กซ์ก็ตรงดิ่งกลับ ตึกอีกแห่งของบริษัท, เข้าสู่ห้องทำงานลับ และสั่งเลขาฯ ว่าหลังจากนี้ทั้งวันห้ามรบกวน
ก่อนจะเริ่มหมกมุ่นกับ ยานอวกาศจากต่างดาว, ศพนายพลซ็อด และข้อมูลรหัสพันธุกรรมของชาวคริปตอน
COMMENTS