เรื่องราวโดยย่อของแดเนียล เคร็ก เจมส์ บอนด์ >>ก่อน No Time to Die

ในขณะที่หนังพยัคฆ์ร้ายสายลับ ของบอนด์รุ่นพี่ (เช่น ฌอน คอนเนอรี่, โรเจอร์ มัวร์ เป็นต้น) ดูแยกกันได้อิสระ และความต่อเนื่องแค่ระดับหลวมๆ ไม่ส...

ในขณะที่หนังพยัคฆ์ร้ายสายลับ ของบอนด์รุ่นพี่ (เช่น ฌอน คอนเนอรี่, โรเจอร์ มัวร์ เป็นต้น) ดูแยกกันได้อิสระ และความต่อเนื่องแค่ระดับหลวมๆ ไม่สนใจก็ไม่ผิด

แต่นับจากแดเนียล เคร็ก กลายเป็นเจมส์ บอนด์มา, ภาพยนตร์ชุดนี้มีเนื้อหาที่ต่อเนื่องยิ่งกว่าเคย 

เรื่องราวก่อน Casino Royale (ตามลำดับเหตุการณ์)

สมัยเจมส์ บอนด์เป็นเด็กกำพร้าในวัยเพียง 12 ปี เพราะบิดามารดาแบบ แอนดรูว์ บอนด์ และโมนิค เดลาครัวซ์ (Andrew Bond and Monique Delacroix) เสียชีวิตระหว่างปีนเขา

เด็กชายเจมส์ต้องอยู่อย่างเหงาๆ ใน "สกายฟอลล์" (Skyfall) บ้านของครอบครัวเค้า ที่สก็อตแลนด์ 

ก่อนฮานเนส โอเบอร์เฮาเซอร์/นักปีนเขาและนักสกีชาวออสเตรีย จะรับอุปการะไปอยู่ด้วย

โดยบุตรชายของฮานเนส/ฟรานซ์ โอเบอร์เฮาเซอร์ ไม่ปลื้มกับเรื่องนี้, เพราะคิดว่าน้องชายบุญธรรม มาแย่งความรักความอบอุ่น จากพ่อแท้ๆ ของตน

ฟรานซ์จึงลงมือกระทำปิตุฆาต ชิ่งหนีออกจากบ้านแล้วใช้นามสกุลข้างมารดา 

เปลี่ยนนามเป็น "เอิร์นส์ สตาฟโร โบลเฟลด์"

หลายปีให้หลัง โบลเฟลด์รุ่งโรจน์ในโลกมืด ถึงขนาดนั่งแท่นผู้นำลับๆ ขององค์กรสเปคเตอร์ (Spectre) ที่ชักใยเบื้องหลังเครือข่ายอาชญากรรมระดับโลก

ส่วนบอนด์มีโอกาสเข้าร่วม หน่วยสืบราชการลับเอ็มไอซิกซ์ (MI6) ผ่านการรับราชการทหารในราชนาวี

เขามีคุณสมบัติเหมาะสม จนได้เข้าร่วมหน่วยลับระดับสูงสุดของอังกฤษ

ซึ่งสมาชิกบางคน รัฐบาลจะมอบอภิสิทธิ์เต็มที่ ถึงขนาดออกใบอนุญาตฆ่า (license to kill) ให้เลยทีเดียว

Casino Royale: บอนด์ตกหลุมรักเวสเปอร์ ลินด์ & ตระหนักเรื่ององค์กรควอนตัม (Quantum)

เป้าหมายของเจมส์ บอนด์ใน Casino Royale คือเลอ ชีฟร์ (แมดส์ มิคเคลเซ่นส์) ผู้สนับสนุนด้านเงินทุนสำหรับผู้ก่อการร้าย

บอนด์ถูกส่งไปเล่นพนันโป๊กเกอร์เดิมพันสูง ณ คาสิโนรอยัล (Casino Royale) ประเทศมอนเตเนโกร

เพื่อสืบเรื่องธุรกิจมืดของเลอ ชีฟร์ รวมถึงหาทางสยบวายร้ายผู้นี้ให้สิ้นลาย

เงินเดิมพันบนโต๊ะพนันของบอนด์นั้น เวสเปอร์ ลินด์ (เอวา กรีน) เบิกจากกระทรวงการคลังอังกฤษ 

และระหว่างภารกิจ บอนด์ได้ผูกมิตรกับสายลับฝรั่งเศสชื่อมาธิส (จิอันคาร์โล จานนีนี) และเจ้าหน้าที่ซีไอเอ เฟลิกซ์ ไลเตอร์ (เจฟฟรีย์ ไรท์)

เจมส์หลงรักลินด์, แต่ในไม่ช้าเขาก็รู้ว่า เธออยู่ภายใต้การควบคุมขององค์กรมืดเดียวกับ ที่เลอ ชิฟร์รับใช้

เลอ ชีฟร์โดน 'มิสเตอร์ไวท์' (เจสเปอร์ คริสเตนเซน) สมาชิกระดับสูงขององค์กรดังกล่าว ทำการประหาร

เวสเปอร์ฆ่าตัวตายเพราะรู้สึกผิด, เจมส์เชื่อว่านอกจากเพราะเธอทรยศเขา เธอยังไม่เคยรักเขาตอบอย่างแท้จริงด้วย

อย่างไรก็ตาม, เจมส์พบเบอร์โทรศัพท์ของมิสเตอร์ไวท์ ในโทรศัพท์มือถือของเวสเปอร์ และแกะรอยจนเจอตำแหน่ง

ชายผู้ได้ใบอนุญาตฆ่าและรหัส 007 มาครอง ยิงมร.ไวท์ตรงขา และจับกุมเจ้าวายร้ายจากควอนตัม

Quantum Of Solace: ขมวดปมของ Casino Royale

เหตุการณ์เกิดขึ้นต่อเนื่องทันที หลังจากตอนจบของภาคก่อน

เจมส์ บอนด์ และหัวหน้าของเขา/เอ็ม (จูดี้ เดนช์) ได้เรียนรู้ว่าองค์กรของมิสเตอร์ไวท์ เครือข่ายกว้างไกลกว่าที่คิด 

ถึงขนาดมีสมาชิกแฝงตัวปะปน ในหมู่เจ้าหน้าที่ MI6 ด้วย

บอนด์แกะรอยควอนตัมต่อ สู่ประเทศโบลิเวีย 

และพบกับชายนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมชื่อ โดมินิค กรีน (แมติเยอร์ อมัลริก) 

ซึ่งพยายามฆ่าคามิลล์ มอนเตส (โอลกา คูริเลนโก) อดีตคู่รักของเขา และกำลังวางแผนโค่นล้มรัฐบาลโบลิเวีย

บอนด์สะกดรอยตามโดมินิค ไปยังโรงละครโอเปร่าในออสเตรีย และแทรกซึมสู่การประชุมผู้บริหารระดับสูง ขององค์กรโฉด

ในเวลาถัดมา, บอนด์สอบปากคำโดมินิค เกี่ยวกับควอนตัม

ก่อนที่บอนด์กับคามิลล์จะปล่อยโดมินิค ทิ้งไว้ให้แห้งตายกลางทะเลทราย

บอนด์สืบทราบพบความจริงเกี่ยวกับเวสเปอร์ ลินด์ และตัดสินใจให้อภัยคนตาย หลังรู้ว่าเธอทำเพราะโดนผู้ชายที่เป็นแฟนเก่าหลอก

Skyfall: พักจากเรื่องควอนตัม และตัดตอนเอ็ม (จูดี้ เดนช์)

หลายปีหลังเหตุการณ์ใน Casino Royale กับ Quantum of Solace

เจมส์ บอนด์ถูกเพื่อนร่วมงานหญิง/อีฟ มันนี่เพนนี (นาโอมี่ แฮร์ริส) ยิงโดนโดยอุบัติเหตุ ระหว่างทำภารกิจที่อิสตันบูลด้วยกัน

บอนด์เลยเปลี่ยนสถานะ กลายเป็นคนตายหายสาบสูญ, และถือโอกาสใช้ชีวิตสบายๆ สไตล์คนติดเหล้า ไม่แคร์โลกภายนอกอยู่พักนึง

ต่อมาผู้ก่อการร้ายไซเบอร์/ราอูล ซิลวา (ฮาเวียร์ บาเด็ม) เปิดโปงข้อมูลปกปิด สะเทือนหน่วยสืบราชการลับอังกฤษ

บอนด์จึงเลิกแกล้งตายกลับมารับใช้ชาติ, เพื่อช่วยสะสางปัญหาจากอดีตสายลับรหัส 00 ผู้มีความแค้นส่วนตัวกับเอ็ม 

บอนด์จับตัวซิลวาสำเร็จและพากลับลอนดอน โดยหารู้ไม่ว่าหมอนี่แกล้งแพ้ นี่แค่ส่วนหนึ่งของแผนลอบสังหารเอ็ม

แม้เอ็มรอดหวุดหวิด แต่ผู้ร้ายซึ่งแทรกแซงเทคโนโลยีได้หมด ยากรับมือที่กลางดงอารยธรรมโลกาภิวัฒน์

บอนด์จึงหนีบเอ็มกลับเรือนเก่า "สกายฟอลล์" แล้ววางกับดักต่างๆ รอบบ้าน ท้าชนศัตรูด้วยยุทธวิธีแบบดั้งเดิม 

สกายฟอลล์

บอนด์ปลิดชีพซิลวาลง, ทว่าเอ็ม (จูดี้ เดนช์) โดนทำร้ายสาหัส และสิ้นใจเพราะพิษบาดแผล

กาเร็ธ มัลลอรี่ (เรล์ฟ ไฟนส์) คือเอ็มคนใหม่ และเจมส์ บอนด์หวนคืนสู่งานจารชน ใต้สังกัด MI6 เต็มตัวอีกหน

Spectre: เชื่อมโยงบอนด์, โบลเฟลด์ และควอนตัมเข้าด้วยกัน

หน่วยสืบราชการลับอังกฤษกำลังสุ่มเสี่ยงจะโดนยุบ และแทนที่โดยระบบเครือข่ายข้อมูลชนิดใหม่ ซึ่งเรียกว่าไนน์อายส์ (Nine Eyes)

ส่วนเจมส์ บอนด์ ออกปฏิบัติภารกิจเอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก MI6 

เขาไปยังเม็กซิโกซิตี้ (เมืองหลวงของเม็กซิโก) เพราะข้อมูลที่เอ็มผู้ล่วงลับทิ้งไว้ให้, จึงโดนเอ็มคนปัจจุบันสั่งพักงาน

แต่ถึงกระนั้นพ่อพยัคฆ์ร้ายก็มิเข็ดขยาด และตามเบาะแส ปราดสู่กรุงโรมต่อ

บอนด์แทรกซึมสู่การประชุมสุดยอด ขององค์การลับสเปคเตอร์

ซึ่งพี่ชายบุญธรรมบอนด์/ฟรานซ์ โอเบอร์เฮาเซอร์ คือหัวโจก

บอนด์เจอนักฆ่าขององค์กร แต่หลบหนีและรอดพ้นเงื้อมมือมารได้

แล้วเจอ มร.ไวท์เจ้าเก่า, ผู้ฝากฝังให้เขาดูแลลูกสาวนามแมเดอลีน สวอนน์ (เลอา แซดู) 

ก่อนมร.ไวท์จะสิ้นลม เนื่องจากกระทำอัตวินิบาตกรรม เพราะความหวาดกลัวต่อ Spectre

บอนด์กับแมเดอลีน ติดตามเบาะแสที่พ่อของหล่อนทิ้งไว้ ไปยังศูนย์บัญชาการกลางทะเลทรายของ Spectre

พวกเขาพบโอเบอร์เฮาเซอร์ ผู้แจ้งว่าบัดนี้ชื่อข้าคือ "เอิร์นส์ สตาฟโร โบลเฟลด์"  

พร้อมเคลมว่าตนอยู่เบื้องหลัง ความเจ็บปวดที่บอนด์ต้องประสบทั้งหมดในชีวิตสายลับ, 'ควอนตัม' เองก็อยู่ภายใต้สังกัดของสเปกเตอร์

โบลเฟลด์เผยอีกว่า ตนอยู่เบื้องหลังโครงการไนน์อายส์ด้วย, จากนี้สารพัดข้อมูลลับของโลก จะตกใต้การควบคุมของ Spectre

แต่โบลเฟลด์คงนึกไม่ถึง ว่าบอนด์จะทำลายแผนเขา, ถล่มศูนย์บัญชาการซะเละเป็นโจ๊ก และพาแมเดอลีนหนีกลับลอนดอน

บอนด์ไม่ยอมลงมือฆ่าพี่ชายบุญธรรม, โบลเฟลด์ถูก MI6 จำขัง

บอนด์ขอเกษียณจากหน้าที่ในฐานะ 007 ออกจากหน่วยสืบราชการลับอังกฤษ ไปใช้ชีวิตกับรักใหม่แบบแมเดอลีน

แต่เรื่องราวของเจมส์ บอนด์ ฉบับแดเนียล เคร็ก ยังไม่จบลง

และคาดว่า No Time to Die คงเป็นสถานีปลายทางของพ่อพยัคฆ์ร้าย

ที่มา: screenrant