หลังจากซีซั่นแรกที่เน้นเล่าเหตุการณ์รอบตัวพระเอก, The Mandalorian ซีซั่น 2 ขยายขอบเขตของตัวเองออกไป อีกทั้งเริ่มดึงเอาตัวละครเก่าจากเนื้อหาเ...
หลังจากซีซั่นแรกที่เน้นเล่าเหตุการณ์รอบตัวพระเอก, The Mandalorian ซีซั่น 2 ขยายขอบเขตของตัวเองออกไป อีกทั้งเริ่มดึงเอาตัวละครเก่าจากเนื้อหาเสริมอื่นๆ ของแฟรนไชส์ภาพยนตร์ชุด Star Wars มาข้องแวะมากขึ้น
ซึ่งเหล่าตัวละครในลักษณะดังกล่าว ที่มีข่าวว่าจะปรากฏตัวก็ได้แก่ โบบา เฟตต์, อาโซก้า ทาโน่ และโบ-คาธาน ครีซ
โบบา เฟตต์วัยเด็กเคยโผล่ในหนังภาค Attack of the Clones และปรากฏตัวตอนโต (แบบสวมเกราะเต็มยศ) ใน Empire Strikes Back กับ Return of the Jedi
อาโซก้า ทาโน่ ที่เป็นอดีตเจไดหญิง ก็อาจทำให้คนไม่รู้จัก ตระหนักความสำคัญของหล่อนง่ายๆ ได้ ด้วยการบอกเพียงว่าเป็น "ลูกศิษย์ของอนาคิน สกายวอล์คเกอร์"
แต่กับโบ-คาธาน ครีซนี่ ถ้าไม่เคยติดตามอนิเมชั่นซีรีส์ The Clone Wars กับ Rebels ผลงานเก่าของเดฟ ฟิโลนี่/หนึ่งในผกก.ของซีรีส์คนแสดง คงมิอาจทราบว่าหล่อนจะมีความสำคัญต่อเรื่องราวของ The Mandalorian ได้มากน้อยแค่ไหน
* สปอยล์ The Mandalorian ซีซั่น 2 ตอน 3, The Clone Wars กับ Rebels *
โบ-คาธาน ปรากฏกายาคราแรกสุดใน The Clone Wars, สถานะของหล่อนคือน้องสาวของ 'ซาทีน' ผู้ปกครองดาวแม่ของชาวแมนดาลอร์
แต่โชคร้ายหน่อยที่สองศรีพี่น้องไม่ค่อยถูกกัน เพราะซาทีนชี้นำชาวแมนดาลอร์สู่ทิศทางแห่งความศิวิไลซ์ มิหวังให้ประชาชนร่วมสงครามใหญ่หรือใช้การต่อสู้แก้ปัญหาใด
เรื่องนี้โบ-คาธานไม่เห็นด้วย จึงไปเข้ากลุ่มหัวรุนแรงชื่อเดธ วอช (Death Watch) ที่ต้องการพาแมนดาโลเรี่ยนกลับสู่ความรุ่งเรือง ในฐานะเผ่านักสู้นามกระเดื่องเหมือนเมื่ออดีตกาล
ด้วยความที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามของพี่สาว ผู้เป็นกิ๊กเก่าของโอบีวัน เคโนบี (โอบีวันเคยมีประวัติเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ในลักษณะเดียวกับอนาคิน แต่สุดท้ายเขาเลือกเส้นทางสันโดษของเจได ไม่เหมือนพ่อลูกศิษย์)
โบ-คาธานเลยมีโอกาสเจอะเจอโอบีวันกับอาโซก้า (ทั้งในฐานะมิตรและศัตรู) เป็นระยะ
โดยช่วงแรกคือยืนอยู่คนละฝักฝ่าย... แต่ในช่วงหลังๆ ของซีรีส์สงครามโคลน ผู้นำเดธ วอชดันคิดสั้น ไปขอยืมกำลังดาร์ธ มอล (คนที่ไม่ยอมตายแม้ตัวขาดครึ่งนั่นแหละ) มาช่วยในการทำรัฐประหารโค่นอำนาจซาทีน
แล้วผลลัพธ์ที่ตามมาคือทั้งผู้นำเดธ วอชกับซาทีน ต้องสิ้นชีพ, ส่วนมอลได้ครองอำนาจชั่วร้ายแบบเบ็ดเสร็จ บนดาวของแมนดาลอร์
ทว่าในคราวเคราะห์ เธอยังปะเหมาะพบตัวช่วยฉุกเฉินเข้าพอดี
นั่นคืออาโซก้า ทาโน่ ที่ตอนนั้นเลิกเป็นเจไดแล้ว แต่ยังอยากทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อกาแล็คซี่
โบ-คาธานเห็นเธอกำลังว่างพอดี จึงร้องขอให้อดีตเจไดช่วยเหลือ
โบ-คาธาน & อาโซก้า ที่ได้รับกองทัพโคลนกับอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนหนึ่งจากโอบีวัน & อนาคิน บุกไปชิงดาวแมนดาลอร์คืนจากมอลสำเร็จ
ด้วยเหตุฉะนี้เธอจึงมีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรกับเจไดหญิง ตั้งแต่ก่อนจะปรากฏตัวในซีรีส์ The Mandalorian
ต่อมาใน Rebels (ที่เหตุการณ์เกิดก่อนภาพยนตร์ภาค A New Hope) โบ-คาธานคือหนึ่งในนักสู้แมนดาโลเรี่ยน ผู้ต่อต้านการแผ่อำนาจมาครองดาวของกองทัพจักรวรรดิ
ณ ขณะนั้นจักรวรรดิงัดเอาอาวุธชนิดพิเศษ ที่ตัวเอกคนนึงของอนิเมชั่นซีรีส์อย่าง ซาบีน เร็น (Sabine Wren) เป็นคนคิดค้น มาใช้
สมัยซาบีน เร็นเรียนวิชาทหารกับจักรวรรดิ เธอประดิษฐ์อาวุธพลังแรงสูงที่จะแผดเผาร่างกายศัตรูให้เป็นเถ้าธุลี โดยที่เล็งเฉพาะผู้สวมเกราะเบสคาร์ได้ ด้วยความคึกคะนอง
ก่อนจะตระหนักทีหลังว่า หาเรื่องให้นักรบแมนดาลอร์ล่องจุ๊นยกก๊วนซะแล้ว และทำลายแผนผังบอกวิธีสร้างกับอาวุธต้นแบบทิ้ง ทว่าจักรวรรดิกลับยังผลิตอาวุธพิเศษนี้ออกมาได้อยู่
อย่างไรก็ดี ด้วยความร่วมมือของโบ-คาธานกับชาวประชาแมนดาลอร์, ซาบีน เร็นก็หาโอกาสดัดแปลงอาวุธพิเศษนี้ ให้สาดพลังใส่เฉพาะเกราะสตอร์มทรูเปอร์แทน
ฉะนั้นหลังทำลายแผนผังกับอาวุธชิ้นใหม่ และทำให้ทัพจักรวรรดิรู้ตัวว่าอานุภาพของอาวุธร้ายแรง สามารถย้อนกลับไปเล่นงานพวกมันเองได้เช่นกัน อาวุธนั่นจึงถูกปิดผนึกไปอย่างสมบูรณ์
หลังเหตุการณ์นี้, ซาบีน เร็นที่ถือครองกระบี่แสงสีดำ/สัญลักษณ์แห่งอำนาจ ตัดสินใจยกกระบี่ให้โบ-คาธาน
เพื่อหล่อนจะรวมพลังแมนดาโลเรี่ยนต่อต้านจักรวรรดิ และทวงความเป็นไทคืนแก่เหล่านักรบอีกครา
ทว่ายังไม่รู้อีท่าไหน, ความคิดดังกล่าวล้มเหลว แมนดาโลเรี่ยนถูกจักรวรรดิสั่งล้างบาง
และกระบี่ดำกลายเป็นของมอฟฟ์ กิเดียน/ผู้ร้ายหลักของซีรีส์ The Mandalorian ทีหลัง
ที่มาหลักๆ ของข้อมูล: Yahoo
COMMENTS