[สปอยล์คอมมิค] Darth Vader: Dark Lord of the Sith บทที่ 4 >> ภารกิจที่ล้มเหลว

ในช่วงเวลาเดียวกับที่บรรณารักษ์ลอบเข้าหอสมุดภายในวิหารเจไดเก่า เหล่าเจ้าพนักงานดูแลความปลอดภัย ของท่าจอดยานอวกาศบนดาวคอรัสซัง ได้รายงาน...

ในช่วงเวลาเดียวกับที่บรรณารักษ์ลอบเข้าหอสมุดภายในวิหารเจไดเก่า

เหล่าเจ้าพนักงานดูแลความปลอดภัย ของท่าจอดยานอวกาศบนดาวคอรัสซัง

ได้รายงานให้บุคคลยศพันตรีทราบ เรื่องยานลำหนึ่งระเบิดข้างในท่าจอดที่ล็อคไว้

และเมื่อมีการตรวจพบเครื่องหมายของพวกเจได บนเศษซากซึ่งหลงเหลือจากการระเบิด

นายพันตรีจึงแจ้งเรื่องนี้แก่บุคคลระดับสูงยิ่งกว่าเขา อย่าง 'ลอร์ดเวเดอร์' ให้รับทราบอีกทอดหนึ่ง

ดาร์ธเวเดอร์จัดแจง สั่งให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยบนดาวคอรัสซัง ทำการกระจายตัวออกค้นหาเจไดทั่วราชอาณาจักร

ส่วนวิหารเจไดเก่าให้เอาทหารไปปิดล้อมภายนอกไว้ทุกด้านก็พอ ไม่ต้องตรวจข้างใน

เพราะเขาตั้งใจจะเข้าไปสำรวจ จุดที่เจไดควรอยู่มากสุดด้วยตนเอง

แกรนด์ อินควิซิเตอร์ ต่อสู้กับโจคาสต้า นู โดยมีทั้งอารมณ์เดือดดาลและสนุกสนานระคนกัน

เขารู้สึกเหมือนโดนดูถูกเพราะโจทก์เก่าจำหน้าไม่ได้ แต่ในอีกด้านหนึ่งก็สุขใจที่จะได้สังหารยัยป้าบรรณารักษ์ซะที

อดีตเจไดดำริว่าตนชนะแน่ เพราะรู้ว่าโจคาสต้าหาใช่ผู้สามารถด้านการดวลกระบี่แสงไม่

ผู้ไต่สวนใหญ่กำชัยตามความคาดหมาย ทว่าขณะจะลงดาบเพื่อปลิดชีพคุณป้า, ดาร์ธเวเดอร์ดันมาถึงและห้ามไว้ทันพอดี

ผู้ไต่สวนใหญ่ไม่เข้าใจ... เพราะเหตุใดลูกศิษย์จักรพรรดิจึงอยากรักษาชีวิตของเจได

เขาถามหาคำตอบแต่ก็มิได้รับการแถลงไข, เวเดอร์ไม่ยอมชี้แจงเหตุผลใดๆ

พอโจคาสต้าเห็นซิธกับอินควิซิเตอร์มัวขัดขากันเองดังนั้น เธอก็ไม่ปล่อยโอกาสหลุดมือ

โจคาสต้าใช้พลังดึงหนังสือจำนวนมาก ลงจากชั้นวางซึ่งตั้งอยู่บนที่สูง บันทึกข้อมูลหนักๆ ร่วงกรูใส่เวเดอร์กับผู้ไต่สวนใหญ่

เธอฉวยจังหวะใส่เกียร์หมา ถอยไปตั้งหลัก

แกรนด์ อินควิซิเตอร์เจอหนังสือทับนอนสลบไสล แต่เวเดอร์ที่ค่าความอึดเหนือกว่า ลุกขึ้นมาล่าเจไดต่อแทบทันที

โจคาสต้าเห็นสถานการณ์เริ่มจวนตัวเลยตัดใจ วิ่งเข้าห้องลับกดปุ่ม 'ลบ' ข้อมูลดิจิตอลเกลี้ยงหอสมุด

งานนี้ข้อมูลหลายอย่างที่ซิธต้องการ จึงสูญหายไปโดยที่พวกเขาไม่ทันได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์มากพอ

เวเดอร์เริ่มฉุนและเดินตามทิศทางที่โจคาสต้ามุ่งไป จนเจอห้องลับ

เขาพบหุ่นอารักขาซึ่งมีระบบแสกนข้อมูลชีวภาพติดตั้งอยู่ เพื่อคัดกรองเฉพาะบุคคลที่ได้รับอนุญาต

เจ้าหุ่นตรวจสอบแล้วทราบว่านักรบเกราะดำคือ 'อนาคิน สกายวอล์คเกอร์'

โจคาสต้า นู เลยพลอยรู้ตัวจริงของดาร์ธ เวเดอร์ด้วยอีกคน

หุ่นอารักขาห้ามอนาคินเข้าห้องสมุดจึงโดนพังทิ้ง แต่สิ่งที่มันทำไม่สูญเปล่าเพราะช่วยซื้อเวลาให้เจ้านาย ดึงอาวุธโบราณซึ่งถูกเก็บซ่อนภายในกรุลับ ออกมาใช้สู้ได้ทัน

สิ่งนั้นคือปืนยาวที่ใช้ไลท์เซเบอร์เป็นตัวจ่ายพลังงาน

ลำแสงของไลท์เซเบอร์ไรเฟิล ทั้งรุนแรงและทรงประสิทธิภาพ ถึงขนาดทำให้อนาคินกลายเป็นฝ่ายโดนไล่ต้อนแทน

...แต่ความเทพของอาวุธทรงพลังเป็นของไม่จีรัง, ไลท์เซเบอร์ไรเฟิลยิงต่อเนื่องได้เพียงไม่นาน ก็ออกอาการชำรุดหมดสภาพ

โจคาสต้ากลับเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ เธอโกยแน่บออกนอกวิหาร

ทว่ากองทหารโคลนที่ล้อมรอบวิหารเจไดอย่างแน่นหนา ทำให้วิ่งหนีไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่ ก่อนเวเดอร์จะจับกุมเธอไว้สำเร็จ

จากการค้นตัวโจคาสต้า, เวเดอร์พบคริสตัลข้อมูล อันบรรจุรายชื่อเด็กที่มีพรสวรรค์ด้านพลังทั่วกาแล็คซี่

เวเดอร์ผู้เป็นฝ่ายชนะเวลานี้ สอบสวนหล่อนเพิ่มเติม "เจ้าตั้งใจทำอะไร ? จะไปรวบรวมพวกเขาด้วยตัวเองหรือ ?"

"พัลพาทีนสั่งจับเป็นข้า ทว่าเจ้ากลับไม่รู้อะไรเลย, เด็กน้อยเอ๋ย

ไม่ว่าเขาบอกอะไรเจ้า ที่จริงเขาคงต้องการรายชื่อนั่นตั้งแต่แรก

สมัยเป็นสมุหนายกเขารู้เรื่องรายชื่อ, เขารู้ว่าพวกแมวมอง จะมอบหมายให้ข้าเป็นผู้เก็บรักษา

ส่วนเหตุผลที่อยากได้มันน่ะ หนีไม่พ้นการเพิ่มจำนวนคนแบบเจ้าหรอก

แล้วตัวเจ้าเองละมองเรื่องนี้ยังไง, ไอ้หนู" โจคาสต้ายั่วยุ

เวเดอร์ไม่ทันได้ตอบ ทหารโคลนที่คุมตัวโจคาสต้าอยู่ก็ขัดกลางปล้องขึ้นมา "ท่านครับอยากให้ข้ายิงนางสลบไหม ? ข้าจะยินดียิ่งที่ได้สงบปากเจไดจอมปลิ้นปล้อน"

ทหารโคลนนายนี้ไม่ทราบล่วงหน้า ว่าการขัดคอผู้อื่นงวดนี้จะพาตนชะตาขาด เนื่องจากการตอกกลับของโจคาสต้า "เจไดปลิ้นปล้อน ? ไอ้โง่เอ๊ย แกด่าผิดคนซะแล้วละ ไม่รู้รึว่าตัวเองกำลังรับคำสั่งจากเจได!

ไอ้หมอนี่คืออัศวินเจได, อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ไง"

ดาร์ธเวเดอร์ที่อยากเก็บตัวตนแท้จริงเป็นความลับ ถึงขนาดปิดบังแม้กระทั่งกับพวกอินควิซิเตอร์ทุกคน

จึงสังหารทหารโคลนทุกนายบนอากาศยาน ที่ใช้คุมตัวโจคาสต้าไปส่งพัลพาทีน

อากาศยานไร้คนขับดิ่งพสุธาตามแรงโน้มถ่วง และเวเดอร์ก็ปล่อยให้ป้าบรรณารักษ์ที่ตั้งใจว่ายอมตายดีกว่ายอมโดนจับ

ร่วงลงไปพร้อมกับเครื่องบิน โดยไม่ช่วยเหลือ

ดาร์ธเวเดอร์รายงานอาจารย์ว่าภารกิจล้มเหลว, โจคาสต้า นู เสียชีวิตเนื่องจากการดิ้นรนขัดขืน ระหว่างถูกขนตัวไปคุมขัง

เวเดอร์ปิดบังเรื่องรายชื่อเช่นกัน, เขาทำลายคริสตัลทิ้ง และรายงานซีเดียสว่าไม่ได้ข้อมูลอะไรจากเธอ แม้แต่อย่างเดียว

ภารกิจควานหาตัวเจไดทั่วกาแล็คซี่แล้วเจี๋ยนทิ้งยังคงดำเนินต่อ แล้วในวันหนึ่งลอร์ดเวเดอร์ก็จับคู่กับผู้ไต่สวนหญิงลำดับ 9 (Ninth Sister) ออกทำภารกิจร่วมกัน ณ เขตอาณานิคมชื่อคาบาร์เรีย (Cabarria)

และนั่นทำให้ไนน์ซิสเตอร์ไม่ใคร่สบายใจสักเท่าไหร่ เพราะคนยศใหญ่ดันมาด้วย ตอนทำงานที่อาจเป็นแค่เรื่องไร้แก่นสารประจำวัน

"เบาะแสเกี่ยวกับเจไดส่วนมากจะพาไปพบทางตัน หลังจากจักรวรรดิตั้งค่าหัวเจได เราก็ได้รับแจ้งเบาะแสปลอมตลอดเวลา

ตัวอย่างเช่นกระบอกน้ำบนเข็มขัด ถูกมองผิดว่าเป็นไลท์เซเบอร์ อะไรเทือกนั้น

ข้าควรมาตรวจเช็คคนเดียว แต่จู่ๆ ท่านก็มาอยู่นี่ซะงั้น"

เวเดอร์อ้างว่าเพราะฝีมือของผู้ไต่สวนหญิง ยังอ่อนด้อยเกินกว่าจะจัดการเจไดคนเดียวไหว แต่หล่อนไม่เชื่อ 

"ท่านทราบอะไรหลายอย่างเรื่องเจได แต่คงไม่รู้ว่าพวกเรามีหลายประเภท ผู้คนในนิกายเราเขามีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านกัน

บางคนก็สามารถทางการใช้ไลท์เซเบอร์, บางคนเก่งเรื่องแทรกซึมสู่จิตผู้อื่น

ตัวข้าอยู่สายจิตสัมผัส, ข้าถนัดด้านอ่านอารมณ์ และตอนนี้สัมผัสมันก็คมกล้ายิ่งขึ้น หลังเข้าถึงด้านมืดของพลัง

ท่าน... ท่านน่ะ 'กระหาย' จะได้ประมือกับเจไดจนตัวสั่น"

เวเดอร์ไม่สบอารมณ์จนสั่งให้ไนน์ซิสเตอร์รอคำสั่งเฉยๆ และเขาจะเข้าไปตรวจสอบเบาะแสในบาร์ตามที่ได้รับแจ้งมา เพียงลำพัง

ซึ่งนั่นก็มิได้ทำให้ไนน์ซิสเตอร์ ผู้สูญเสียดวงตาระหว่างการฝึกกับเวเดอร์ ใส่ใจนัก

"อสูรจอมซาดิสม์ที่น่าสงสาร ไม่เข้าใจตนเองอย่างถ่องแท้ 

มันรนหาที่เพื่อสู้ และมุ่งสู่ความตาย" ไนน์ซิสเตอร์บ่นพึมพำลับหลังเจ้านาย