Mission: Impossible – Ghost Protocol (2011) ภารกิจคุ้มกันอีธาน ฮันท์กับจูเลียโดยไม่ให้ทั้งคู่รู้ตัว ของ เจ้าหน้าที่ IMF "วิล...
ภารกิจคุ้มกันอีธาน ฮันท์กับจูเลียโดยไม่ให้ทั้งคู่รู้ตัว ของเจ้าหน้าที่ IMF "วิลเลี่ยม แบรนด์ท" ประสบความล้มเหลว, จูเลียโดนสังหาร แบรนด์ทนึกเสียใจที่ไม่เตือนอีธานแม้ขัดคำสั่งเบื้องบน จนเลิกทำงานภาคสนาม
แบรนด์ท
ต่อมา เจ้าหน้าที่ IMF ชายคนหนึ่งถูกนักฆ่ารับจ้างหญิง-มอโรว์ฆ่า หล่อนหนีีไปพร้อมรหัสสำหรับปล่อยนิวเคลียร์ของรัสเซีย โดยมีเจตนาจะส่งมันแก่นักยุทธศาสตร์นิวเคลียร์ผู้บ้าคลั่งของรัสเซียที่ IMF รู้จักในฉายาว่า 'โคบอลต์'
IMF จึงจัดแจงส่งเบนจี้ ดันน์กับเจน คาร์เตอร์-แฟนเจ้าหน้าที่ผู้ถูกฆ่าไปช่วยอีธาน ฮันท์ผู้นอนติดคุกในมอสโกแหกคุก (อีธานมานอนคุกมอสโกเพื่อตีสนิทนักโทษชื่อบ็อกดัน ซึ่งช่วยให้เขาเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับโคบอลต์บางเรื่องได้)
หลังอีธานพาบ็อกดันแหกคุกออกมาด้วยก็แยกย้ายกัน อีธานรับภารกิจเปิดโปงตัวจริงของโคบอลต์ โดยร่วมทีมกับเบนจี้และเจนบุกเข้าพระราชวังเครมลิน เพื่อชิงไฟล์ข้อมูลเกี่ยวกับตัวจริงโคบอลต์ออกมา ก่อนโคบอลต์ทำลายทิ้ง ทว่าโคบอลต์เจอพวกอีธาน และจุดระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นขณะกำลังทำภารกิจ
พระราชวังเครมลินพังพินาศ ความสงสัยของทางการรัสเซียมุ่งเป้าสู่องค์กร IMF ของอเมริกาที่ส่งคนเข้าไปทำภารกิจพอดี
อีธานเข้าพบ 'รัฐมนตรี' และรับทราบว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ สั่งเริ่ม 'ปฏิบัติการไร้เงา' (Ghost Protocol)
เปลี่ยนสถานะหน่วยงาน IMF ให้ไม่มีตัวตน+โยนความผิดให้ทีมอีธานเป็นผู้ร้ายวางระเบิดเครมลิน
แต่สั่งการในทางลับให้ทีมอีธานออกล่าโคบอลต์ต่อแทน
โชคร้าย คนของทางรัสเซียเข้าจู่โจมตอนรับคำสั่งพอดี รัฐมนตรีจึงเสียชีวิต และหัวหน้านัักวิเคราะห์ "วิลเลี่ยม แบรนด์ท" ผู้อยู่กับรัฐมนตรีด้วยพอดี ก็ตกกระไดพลอยโจน กลายเป็นส่วนหนึ่งในทีมอีธานโดยปริยาย
ทีมอีธานมุ่งหน้าสู่ชั้นที่ร้อยกว่า บนอาคารสูงเสียดฟ้า-เบิร์จ คาลิฟาในดูไบ เพื่อแทรกแซงการส่งรหัสปล่อยนิวเคลียร์รัสเซียของมอโรว์แก่โคบอลต์
แต่ผลลัพธ์ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ โคบอลต์หนีไปพร้อมรหัสปล่อยนิวเคลียร์ และเจนทำมอโรว์ตกตึกตอนสู้กันทำให้สอบปากคำหาข้อมูลโคบอลต์เพิ่มไม่ได้(เพราะตายซะแล้ว)
อีธานหันกลับไปดึงข้อมูลทางบ็อกดัน และได้รู้ว่าโคบอลต์จะใช้ดาวเทียมยุทธศาสตร์ของผู้ประกอบธุรกิจด้านการสื่อสารโทรคมนาคม-บริจ นาถ เพื่อควบคุมการยิงนิวเคลียร์
ทีมอีธานปฏิบัติการล้วงรหัสดาวเทียมจากบริจ นาถ ชิงการควบคุมดาวเทียมเพื่อขวางการยิงหัวรบนิวเคลียร์ และไล่ล่าโคบอลต์
แม้ขวางการยิงนิวเคลียร์ไม่ทัน แต่สามารถหยุดการจุดระเบิดของหัวรบได้ทันแบบฉิวเฉียด ส่วนโคบอลต์เสียชีวิต
หลังกู้วิกฤติร่วมกัน อีธานตัดสินใจเผยความลับเรื่องจูเลียยังไม่ตาย แก่แบรนด์ท (เธอใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยด้วยตัวตนใหม่ หลังจัดฉากว่าตายแล้ว)
จากนั้นอีธานก็รับภารกิจถัดไป เกี่ยวกับองค์กรร้ายลึกลับที่ยังระบุไม่ได้ว่ามีจริงหรือไม่ชื่อ "ซินดิเคท"
Mission: Impossible – Rogue Nation (2015)
หลังปฏิบัติการชิงแก๊สทำลายประสาท ซึ่งคาดว่าองค์กรซินดิเคทส่งให้กลุ่มก่อการร้ายของเชเชนประสบผล
อีธานไปรับภารกิจใหม่ในร้านขายแผ่นเสียงที่เป็นฉากบังหน้าจุดรับงานของ IMF แต่กลับโดน "โซโลมอน เลน" หัวหน้าซินดิเคท เล่นงานและจับตัวไปทรมาน
ทว่า "อิลซา เฟาสท์" สายลับแฝงตัวจากหน่วยลับเอ็มไอซิกซ์ (MI6) ของอังกฤษได้ช่วยเหลืออีธานไว้
อิลซา เฟาส์ท
ในกรุงวอชิงตันดีซี, หัวหน้าหน่วยซีไอเอ "อลัน ฮันลีย์" และเจ้าหน้าที่ IMF-วิลเลียม แบรนด์ท เข้าร่วมการไต่สวนโดยคณะกรรมการของรัฐบาล
ฮันลีย์มองว่า IMF ซึ่งปฏิบัติการตามใจชอบ ไร้การตรวจสอบ ชอบสร้างความเสียหายตามมา (ขโมยรายชื่อสายลับซีไอเอตอนภาค 1, เครมลินพังพินาศ, หัวรบนิวเคลียร์ตกลงในเขตแดนอเมริกา แม้ปลดชนวนแล้ว)
ด้านแบรนด์ทไม่สามารถชี้แจงแก้ตัวอะไรได้ เพราะขาดคำสั่งจากรัฐมนตรี(ยังไม่มีใครมาแทนคนที่ตายไป)
IMF จึงโดนยุบรวมองค์กรเข้าเป็นส่วนหนึ่งของซีไอเอ
ฮันลีย์เชื่อว่าซินดิเคทไม่มีจริง และเป็นเพียงเรื่องโกหกของอีธาน ฮันท์ซึ่งกุขึ้นเพื่อให้ IMF มีงานทำ เลยสั่งตามล่าตัวอีธาน
อีธานจึงต้องตัดขาดจากทุกคน, หายตัวไป และหาหนทางพิสูจน์ตัวตนของซินดิเคท
อีธานพยายามยับยั้งการก่อการร้ายที่มีซินดิเคทอยู่เบื้องหลังด้วยตัวคนเดียวนาน 6 เดือน แต่พลาดตลอด ทำให้ตัดสินใจแอบเรียกตัวเบนจี้จากซีไอเอมาช่วยขวางการลอบสังหารรัฐมนตรีออสเตรีย
อีธานขวางกลุ่มมือสังหารของซินดิเคทตอนซุ่มยิงไว้ได้ แต่รัฐมนตรีออสเตรียเจอซินดิเคทดักทางล่วงหน้า วางระเบิดรถจนตาย
อย่างไรก็ตามเบนจี้ตัดสินใจไม่กลับซีไอเอ และช่วยอีธานต่อ
ก้าวต่อไปของอีธานและเบนจี้ คือไปช่วยอิลซา เฟาส์ทที่โมรอคโค ทำภารกิจขโมยข้อมูลลับอันเกี่ยวข้องกับซินดิเคท จากอาคารคอมพิวเตอร์ความปลอดภัยสูงระดับเทพ
แต่พอได้มา อิลซากลับขโมยข้อมูลจากอีธานและเบนจี้ แล้วสลัดหนีการไล่ล่าของทั้งอีธานและซินดิเคท
อีธานซิ่งมอเตอร์ไซค์ไล่ตามอิลซา
อิลซาเอาข้อมูลไปส่งผู้อำนวยการเอ็มไอซิกซ์ 'แอ็ตลี่' เพื่อขอจบภารกิจแฝงตัว
แต่แอ็ตลี่ไม่ยอม เค้ายืนกรานให้เธออยู่กับซินดิเคทต่อ
ด้านแบรนด์ทเรียกตัวลูเธอร์มาช่วยหาอีธานให้เจอก่อนซีไอเอ และไปรวมตัวกับอีธาน+เบนจี้
เบนจี้เปิดเผยว่าคัดลอกข้อมูลไว้ก่อนอิลซาขโมย แต่พอเช็คดูก็พบว่าเป็น 'กล่องแดง' ข้อมูลลับที่ต้องใช้คำสั่งเสียง และสแกนลายนิ้วมือกับม่านตานายกรัฐมนตรีอังกฤษเพื่อดูเนื้อหา
ต่อมา โซโลมอน เลนจับตัวเบนจี้ และอิลซา บังคับอีธานเปิดกล่องแดงให้เขา
อีธานจึงสวมหน้ากากพิเศษปลอมเป็นแอ็ตลี่ เข้าพบนายกฯ อังกฤษพร้อมแบรนด์ทและอลัน ฮันลีย์ผู้ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย
เมื่อแบรนด์ทพูดถึงชื่อซินดิเคทกับโซโลมอน เลนขึ้น นายกฯ อังกฤษก็เปิดเผยว่าซินดิเคทคือแนวคิดของแอ็ตลี่ ที่จะเกณฑ์อดีตสายลับจากประเทศต่างๆ มามอบตัวตนใหม่ ให้กำจัดศัตรูของอังกฤษทั่วโลก โดยซ่อนงบทำงานไว้ต่างแดน ซึ่งข้อมูลบัญชีงบทั้งหมดอยู่ในกล่องแดงนั่นเอง (เท่ากับนายกฯ สั่งได้ทุกอย่างแบบไม่ต้องรับผิดชอบผลลัพธ์)
นายกฯ อังกฤษปฏิเสธโครงการไป แต่แอ็ตลี่ดำเนินงานโดยพลการ แล้วโซโลมอน เลนก็ยึดซินดิเคทเป็นของตัวเองทำตามใจชอบ
โซโลมอน เลน
พอทราบทุกอย่าง อีธานในมาดแอ็ตลี่จึงยิงลูกดอกใส่ยาชนิดพิเศษเข้าใส่นายกฯ เพื่อให้เขาคล้อยตาม และยอมเปิดกล่องแดง
จากนั้นก็ยิงลูกดอกใส่แอ็ตลี่ตัวจริงผู้เข้าพบนายกฯ จนได้คำสารภาพจากแอ็ตลี่โดยตรง
เมื่อเห็นทุกสิ่งดำเนินไปดังนี้ อลัน ฮันลีย์เลยเชื่อเรื่องซินดิเคทมีจริง และยอมรับการทำงานของ IMF
เพื่อไม่ให้ซินดิเคทได้เงินทุนมหาศาล และช่วยอิลซากับเบนจี้
อีธานใช้วิธีจดจำข้อมูลบัญชีงบประมาณในกล่องแดง ก่อนทำลายมันทิ้ง แทนการส่งกล่องแดงแก่ซินดิเคท โซโลมอน เลนจึงต้องพยายามจับเป็นอีธานเท่านั้น
สร้างแต้มต่อให้อีธานมีโอกาสหลอกล่อ+กำจัดพวกซินดิเคทร่วมกับอิลซา และวางกับดักจับตัวโซโลมอน เลนได้สำเร็จ
ฮันลีย์กับแบรนด์ท เข้าประชุมชี้แจงภารกิจทำลายซินดิเคทแก่คณะกรรมการ ฮันลีย์ชี้ให้เห็นความจำเป็นของการมีหน่วย IMF แต่พอคณะกรรมการขอให้แบรนด์ทชี้แจงเพิ่มเติม เขายืนกรานว่าไม่สามารถพูดอะไรเรื่องภารกิจได้หากไม่มีคำสั่งรัฐมนตรี
องค์กร IMF จึงกลับมาอีกครั้งโดยมีอลัน ฮันลีย์เป็นรัฐมนตรีคนใหม่
COMMENTS