[อารัมภบท] ในอนาคต การแข่งขันเพื่อความเป็นอมตะ จะมาใน 3 รูปแบบ ไซบอร์ก: มนุษย์ที่เสริมด้วยเทคโนโลยีไซเบอร์, ซินธ์: สิ่งมีชีวิตที่มีปัญญาปร...
[อารัมภบท] ในอนาคต การแข่งขันเพื่อความเป็นอมตะ จะมาใน 3 รูปแบบ
ไซบอร์ก: มนุษย์ที่เสริมด้วยเทคโนโลยีไซเบอร์, ซินธ์: สิ่งมีชีวิตที่มีปัญญาประดิษฐ์, และไฮบริด: สิ่งมีชีวิตสังเคราะห์ ที่ถูกอัปโหลดจิตสำนึกของมนุษย์
เทคโนโลยีไหนชนะ ก็จะได้กำหนดว่า บริษัทไหนจะได้ครองจักรวาล
[สปอยล์] แม้ในโลกเก่าของจักรวาล Alien ก็มีสิ่งที่เรียกว่า รัฐบาล, ที่เมื่อก่อนคนจะไปเลือกคนที่ คอยตัดสินใจให้
แต่ถึงจุดหนึ่ง มันไม่เวิร์ค, แล้วบริษัทห้าแห่ง ก็เติบโตขึ้น และปรากฏว่าพวกเขาสามารถ แก้ปัญหาทุกอย่างได้
ตอนนี้ (ค.ศ. 2120 ก่อนหนังเอเลี่ยนแรกสุดสองปี) “ห้ายักษ์” ร่วมมือกันบริหารโลก แบ่งกันปกครองระบบสุริยะ, รวมทั้งแข่งกันพัฒนา เทคโนโลยีสู่ความเป็นอมตะ
“พรอดิจี” น้องใหม่สุดในหมู่ ห้ายักษ์ใหญ่ (อีกสี่ได้แก่ เวย์แลนด์-ยูทานิ เธรชโฮลด์ ไดนามิก ลินช์), คือผู้บุกเบิกด้านการ ผลิตไฮบริด
บอย คาเวเลียร์ (เจ้าของพรอดิจี) ผู้เห็นได้ชัดว่า ชื่นชอบนิยายเกี่ยวกับ “ปีเตอร์แพน”
ได้สั่งให้มีการวิจัยย้ายร่าง บนเนเวอร์แลนด์ (เกาะลับ), ซึ่งตัวอย่างทดลอง มีแค่เด็ก ๆ
โดยด.ญ.มาร์ซี่ เฮอร์มิต คือไฮบริดคนแรก, และเธอก็ใช้ชื่อใหม่ ในร่างใหม่ว่า “เว็นดี้”
ขณะทีมงานของบอย ฟูมฟักเหล่าไฮบริด, ยานวิจัยอวกาศห้วงลึก ชื่อแมจิโนต์ ของบริษัทเวย์แลนด์-ยูทานิ
ได้พุ่งชนโลก กลางเมืองนิวสยาม (โดยบอยแอบชักใยเบื้องหลัง ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น)
เสนารักษ์ประจำหน่วยทหาร ของพรอดิจีอย่าง โจ เฮอร์มิต (พี่ชายของเว็นดี้), จึงเร่งรี่สู่สถานที่เกิดเหตุ พร้อมพวกทีมค้นหากู้ภัย
เว็นดี้ที่ทราบเรื่อง เสนอให้บอย ยอมส่งทีมไฮบริดออกเสี่ยงภัย, เก็บกู้พวกสัตว์ทดลองต่างดาว ในซากยานวิจัย
เว็นดี้ได้เจอกับ พี่ชายผู้เคยพลัดพราก, ช่วยเขาไว้โดย กำจัดซีโนมอร์ฟตัวเต็มวัย ที่ออกอาละวาด
หลังจากนั้นพรอดิจี นำทั้งตัวอย่าง 5 สายพันธุ์ กับโจ เฮอร์มิต (ที่บาดเจ็บหนัก) ไปผ่าตัดรักษา, ณ เนเวอร์แลนด์
ณ เกาะวิจัยลับดังกล่าว หลังเคิร์ช (ที่ปรึกษาและผู้ฝึกสอน ของพวกไฮบริด ที่เป็นเอไอ), กรีดไข่ซีโนฯ แยกตัวอ่อนออกมา ทำการทดลอง
เสียงในแล็บทำเว็นดี้ปวดหัว ถึงขั้นสลบเหมือด, อาเธอร์ ซิลเวีย (นักวิทยาศาสตร์ และสามีของเดม ซิลเวีย) จึงปิดการได้ยินของหล่อน เพื่อทำการปรับจูน
พอเธอฟื้นขึ้นมา บอย อาเธอร์ และโจ (ที่ผ่าตัดเสร็จ), จึงทราบว่าเว็นดี้ ได้ยินเจ้าซีโนมอร์ฟ จำนรรจา
แถมเว็นดี้ยังสามารถ แปลภาษา (เฉพาะเอเลี่ยนพันธุ์นี้), ได้ในระดับงู ๆ ปลา ๆ (ออกแนวสัมผัสว่า เจ้านั่นอารมณ์ไหน)
โจตรึกว่า เดี๋ยวจะพาน้องสาวกลับบ้าน, แต่อะตอม ไอนส์ (บุรุษที่เป็น พนักงานอาวุโส ของพรอดิจี) ห้ามไว้
อะตอมข่มขู่ว่า ถ้าคุณไม่ยอมทำงาน ภายใต้พรอดิจี ตลอดชีวิต
ก็เตรียมเจอหนี้ท่วมหัว ค่าอวัยวะเทียม (ปอด) ที่เพิ่งผ่าเปลี่ยนไป, และเตรียมใจจะ อดเจอน้องสาว ตลอดชีพซะ…
ด้านเคิร์ชทดสอบ เอเลี่ยนลูกตา (ที่จะดึงลูกตา ของสิ่งมีชีวิตเป้าหมายหลุด, แล้วไชเข้าสมอง เปลี่ยนเป็นหุ่นเชิด) โดยการใช้แกะรับบาป
และพบว่ากิจกรรมในสมอง ของร่างแกะ เพิ่มพูนขึ้น, ซึ่งหมายถึงที่จริงไอ้ลูกตา มีสติปัญญาสูง
ส่วนนิบส์ (ไฮบริดนารี) ที่อ่อนไหวง่าย, ถูกความกลัว พวกสัตว์ทดลอง ทำให้เกิดแผลใจ
เลยกลายเป็น คนอารมณ์ร้อน, พูดจาเพ้อเจ้อ และชอบใช้ความรุนแรง
เมื่อเดม ซิลเวีย รายงานเรื่องนี้แก่อะตอม ไอนส์, หมอนั่นจึงสั่งให้ทำการ ลบความทรงจำนิบส์
เพื่องานเปิดตัว โครงการย้ายจิตเข้าร่างหุ่น ต่อสายตาชาวโลก ซึ่งจะจัดขึ้นในอีกไม่นาน, จักราบรื่น
ดร.อาเธอร์ ซิลเวีย ปฏิเสธหัวชนฝา, ขณะที่ภรรยาของเขา (เดม ซิลเวีย) อธิบายว่า การเปลี่ยนแปลงตัวตนไฮบริด มันไร้ประโยชน์ในแง่การวิจัย
แต่ไอนส์ใช้อำนาจ เบ่งทับใส่, ไล่อาเธอร์ออกจากงาน ให้เก็บข้าวของออกจากเกาะ ภายในเวลา 1 วัน
(ส่วนเดม ซิลเวีย ยอมทำตามคำสั่ง จึงได้อยู่ต่อ)
เว็นดี้เมื่อทราบว่าเพื่อน (นิบส์) ถูกล้างข้อมูล ในช่วงหลายวันทิ้ง ก็ไม่พึงใจ, และได้ต่อว่าคุณนายซิลเวีย อย่างรุนแรง
ณ ช่วงเวลาเดียวกับที่ บอย แคเวเลียและเคิร์ช (เอไอ), มีธุระต้องเดินทาง ออกนอกเนเวอร์แลนด์
มอร์โรว์ (ไซบอร์กผู้ภักดียูทานิ ผู้รอดชีวิตหนึ่งเดียว จากแมจิโนต์) จับครอบครัวของสไลต์ลี (ไฮบริดชาย) เป็นตัวประกัน, เพื่อบังคับให้ เด็กในร่างผู้ใหญ่ (สังเคราะห์) ทรยศต้นสังกัด
เขาใช้ช่องทางสื่อสารลับ ติดต่อสไลต์ลี, สั่งให้หามนุษย์ตัวเป็น ๆ ที่ร่างกายมีความร้อน ไปยืนหน้าไข่ซีโนมอร์ฟสักใบ
เพื่อสร้างร่างพาหะสำหรับ ขนซีโนฯ ออกมาสักตัว, และก่อกวนความสงบ จุดประกายความโกลาหล
ขณะที่โจ เฮอร์มิต ยังคงอยากพาน้องสาว หนีจากเนเวอร์แลนด์
เขาสังเกตเห็นว่าอาเธอร์ ใส่ใจพวกไฮบริด, เลยเลียบ ๆ เคียง ๆ ถาม ว่าควรเผ่นดีไหม และอย่างไร
อาเธอร์ที่กำลังเก็บของ (แบบว่า โดนไล่ออก) จึงแอบบอกรหัสเรือ สำหรับออกจากเกาะ, และลอบปิดเครื่องติดตาม บนตัวของเว็นดี้ให้
แต่ระหว่างเช็คสัญญาณชีพ ของเว็นดี้นั่นเอง, ที่อาเธอร์เหลือบไปเห็น ว่าสัญญาณชีพของทูเทิลส์ (ไฮบริดชาย ที่ตั้งชื่อตัวเองว่า ไอแซค) ดับลง
เหตุผลคือ ทูเทิลส์ผู้รู้สึกภูมิใจ กับการได้เป็นผู้ช่วยในห้องแล็บ (ของเคิร์ช), เกิดความมั่นใจแบบผิด ๆ
เขาคิดจะดูแล การให้อาหารพวกตัวอย่าง เพียงลำพัง, ระหว่างเคิร์ชไม่อยู่
ก่อนจะพบว่า ช่องส่งอาหารของกรง ที่ขังเดอะ ฟลาย (เอเลี่ยนอันคล้าย แมลงวันตัวบักเอ้บ) พัง
ทูเทิลส์เลยเปิดประตูกรง เดินเข้าไปวางอาหารเอง ระหว่างแมลงวันหลับในรัง, ทว่าเจ้าดวงตา (กรงข้าง ๆ) ฉวยจังหวะนี้ทำเสียงดัง ทูเทิลส์จึงพลาดท่า
อาเธอร์รีบวิ่งสู่แล็บ และเห็นสไลต์ลี นั่งจ๋องอยู่ก่อน, เลยชวนเข้าไป เช็คร่างทูเทิลส์ด้วยกัน แบบไม่ทันนึกสงสัย
อาเธอร์ไม่เฉลียวใจว่า เขาเจอจังหวะนรกปานใด, เพราะสไลต์ลีกำลังกลุ้มพอดี ที่ไม่กล้าหามนุษย์มาเป็นเหยื่อ แก่เฟซฮักเกอร์
เมื่อการกระทำผิด สะดวกขึ้นเช่นนี้ สไลต์ลีถึงก้าวข้าม ความรู้สึกผิด
ปล่อยเฟซฮักเกอร์ เพื่อเล่นงานอาเธอร์ ก่อนจะลากร่างของดร.ซิลเวีย ออกจากแล็บ…
ระหว่างสไลต์ลี ย้ายร่างอาเธอร์ ที่มีเอเลี่ยนเกาะหน้า, ด้วยความทุลักทุเล
ความก็แตกอย่างว่องไว ด้วยสมี (ไฮบริดเพื่อนซี้) ได้แวะไปเยี่ยม ณ ห้องส่วนตัว
แต่สไลต์ลียังอุตส่าห์ กล่อมให้สมีใจเย็นลง แล้วยอมเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด, ช่วยแบกหามร่างไร้สติ ของอาเธอร์ สู่ชายหาด (จุดที่นัดหมาย กับนายมอร์โรว์)
ทางห้องแล็บที่ “แมลงวัน” เพิ่งอาละวาด จนทำทูเทิลส์ตาย
เคิร์ชใช้ทีมงานพรอดิจี เก็บกู้สิ่งมีชีวิตที่ ย่อยอาหารนอกร่างกาย (ฉีดกรดละลาย) ได้, อย่างรัดกุม
ส่วนสไลต์ลี & สมี เหมือนจะอับโชค ตรงที่ลาก ๆ อาเธอร์อยู่ แล้วดันเจอเคิร์ช, เข้ากลางทาง
อย่างไรก็ตาม เคิร์ชกลับอนุญาตทั้งคู่, พร้อมทั้งชี้ทิศสู่ชายหาด ด้วยเส้นทางที่ลัดสั้นสุด
ทว่าสไลต์ลียังคง ปฏิบัติภารกิจหนอนบ่อนไส้ ไม่ลุล่วงทันกาล
เนื่องจากซีโนมอร์ฟ วัยทารก ทะลวงหน้าอกอาเธอร์ตาย, แล้ววิ่งหนีหายไปก่อน
แต่มอร์โรว์เลิกใส่ใจสไลต์ลี และเดินหน้าอีกแผน, คือสั่งลูกน้อง (พวกทหารของยูทานิ ที่ดำน้ำมาขึ้นเกาะด้วยกัน) บุกห้องแล็บ
อย่างไรซะ ปรากฏว่าเคิร์ชเตรียมกองทัพ จำนวนมากกว่า, ดักรอ ณ ปลายทางเรียบร้อย
เคิร์ชสั่งจับมอร์โรว์ และหน่วยติดอาวุธของยูทานิ, สั่งจับทารกซีโน กลับมาได้, และไม่ลืมลงโทษจำขัง สไลต์ลี & สมี
อีกด้าน ในช่วงเวลาคู่ขนานกัน, ฝ่ายเว็นดี้ที่รู้เรื่อง ทูเทิลส์ตาย (ตอนเคิร์ช & บอย เพิ่งเคลียร์แมลงวันเสร็จ) โกรธทั้งสอง (ที่เคยหลอกว่า เกาะนี้ปลอดภัย) จัด
เว็นดี้ผู้เคยต่อต้าน หันมาเห็นด้วยกับโจ (พี่ชาย) เรื่องการหนีออกจากเนเวอร์แลนด์ และชวนนิบส์ไปด้วย
เว็นดี้ใช้ความสามารถพิเศษ แฮ็กคอมพิวเตอร์ (แบบไม่ใช้เครื่องมือใด ๆ) ระยะไกล
เปิดกรงซีโนมอร์ฟ ตัวที่เคยตีสนิทไว้, เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ พวกคนของพรอดิจี
สถานการณ์นี้ ควรจะทางสะดวก, ทว่าก็อุตส่าห์เจอ พวกทหารของยูทานิ (อีกหน่วย ที่ไม่มีมอร์โรว์) เข้า
เว็นดี้จึงเบิกใช้แต้ม พลังมิตรภาพ ข้ามสายพันธุ์
ส่งเสียงเรียกสหายซีโน มาเชือดสยองกองพลยูทานิ, ขณะที่โจทำได้แค่มองน้อง ด้วยความพรั่นใจ
แต่เมื่อถึงท่าเรือ พวกเขาพบว่ากองทหารพรอดิจี (ที่มีอดีตเพื่อนร่วมงาน ของนายโจอยู่), มาดักรอล่วงหน้า
นิบส์ผู้ยังคง สติแตกง่ายสุด ในหมู่ไฮบริด, เลยปลดปล่อยตัวเอง จากภาวะกดดัน (ปืนจ่อหน้า) โดยใช้มือเปล่า ฆ่าคนที่ใกล้สุด
เว็นดี้พลอยผสมโรง ต่อสู้กับทหารพรอดิจีชุลมุน และตั้งท่าจะเรียกสหายซีโนซ้ำ, แต่คุณพี่โจ รีบสั่งห้าม
ก่อนจะหยิบปืนไฟฟ้า มายิงนิบส์ จนเว็นดี้ต้องยอมแพ้ตาม, แบบไม่วายทั้งเคลือบแคลง และเคืองใจโจ
ปรากฏว่าพวกของไซบอร์ก (มอร์โรว์) ตัดสายเคเบิลใต้น้ำ, การสื่อสารกับโลกภายนอก ของเกาะเนเวอร์แลนด์ จึงถูกตัดขาด
มอร์โรว์อยู่ในห้องขัง เดียวกับโจ, ส่วนพวกไฮบริดทั้งหมด อยู่ในห้องควบคุมตัว (กรง) ขนาดใหญ่อีกแห่ง
แต่เหล่าผู้เกี่ยวข้องกับพรอดิจี ที่เปล่าโดนคุมขัง, กลับดูจะสถานการณ์ น่าเป็นห่วงยิ่งกว่า
เนื่องจากพวกเขา ไม่อาจควบคุมตัว เจ้าซีโนมอร์ฟตัวเต็มวัย (ซึ่งโตจากปอดโจข้างที่เสีย และเว็นดี้ตีซี้)
มันเพ่นพ่านไปทั่วเกาะ จนเหล่าพนักงานพรอดิจี ต่างเสียวสันหลังวาบ, ขยาดว่าซีโนมอร์ฟ จะลอบจู่โจม ตลอดเวลา
มาร์ซี่ (ชื่อจริงเว็นดี้) จัดประชุมความเห็น ของพวกไฮบริด, ประเมินสถานการณ์ว่าพวกเรา มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
มาร์ซี่อ้างอิง เรื่องที่เว็นดี้ (ตัวละครในนิยายฝรั่ง) เคยเป็นคนโปรดของปีเตอร์ แพน, ทว่าก็ไปมีปัญหา ผิดใจกันหนักหนา ตอนเธอโตขึ้น
มาร์ซี่ชี้ว่าเราถูกขัง เพราะพวกเราเป็นเด็กไม่ได้แล้ว, แต่พวกเค้า ไม่ยอมให้เราโต
สไลต์ลีกับสมี (ไฮบริดชาย) ต่างเห็นพ้อง ว่าพวกเขาต้องทำเรื่องแย่ ๆ กับอาเธอร์, เพราะผู้ใหญ่บีบบังคับ
นิบส์ที่รู้ตัวว่า โดนลบความทรงจำ ก็เช่นกัน, ส่วนเคิร์ลลี่ (ไฮบริดสตรี) นั้น เออออตาม หลังฟังทุกอย่างจากคนอื่น ๆ
แก๊งไฮบริดรู้สึกตัว ว่าผู้ใหญ่ถ้าไม่มองพวกเขา เป็นทรัพย์สิน, ก็เห็นแล้วหวาดกลัว
เลยวางแผนกันจะ ทำให้พวกนั้นกลัวซะ ให้หนำใจ
เว็นดี้เริ่มจากใช้จิตสั่ง แฮ็กเครื่องจักรระยะไกล, เปิดห้องขังของ โจกับมอร์โรว์
มอร์โรว์กรากไป ลอบสังหาร (ทำลาย) เคิร์ช แต่ไม่สำเร็จ, แม้สู้กันจนสะบักสะบอม ทั้งสองฝ่าย
บอยแวะเยี่ยม กรงขังไฮบริด, ที่เว็นดี้กลับเป็นฝ่าย แฮ็กเปิดกรง เพื่อต้อนรับ (แสดงให้เห็นว่า พวกอั๊วะเปล่าคิดหนี และรอลื้ออยู่)
นิบส์ฆ่าบอดี้การ์ด (ตัวประกอบ) ที่คุ้มกันบอย โดยง่ายดาย, นายตัวร้าย เร่งหันหลังกลับ แล้วโกยแน่บ
เว็นดี้ทำการ จัดสรรหน้าที่, ให้นิบส์ไปตามหา เดม ซิลเวีย (ภรรยาของอาเธอร์ ที่มีมุมเลือดเย็น) ผู้ลบความทรงจำ
ให้เคิร์ลลี่จัดการ พวกทหาร, ส่วนสมี สไลต์ลี ไปหาเคิร์ชกับไซบอร์ก เพื่อจับกุมทั้งคู่
ฝ่ายเว็นดี้เอง ควานหาพี่ชาย, และบุกเข้าช่วยเขาทัน ก่อนกลายเป็นร่างสิง ของเอเลี่ยนลูกตา
โจเกือบเสียท่า เพราะอะตอม ไอนส์, ล่อให้มาเจอ ไอ้ลูกตา
แต่ขณะเว็นดี้ กำลังจะพาพี่เผ่น, อะตอมได้เข้าปะทะ กับเว็นดี้ (ที่พละกำลังเหนือมนุษย์) ตรง ๆ และเหวี่ยงจนเธอกระเด็น
อะตอมเผยธาตุแท้ ว่าเขาคือซินธ์ของพรอดิจี, แต่ตอนที่กำลังจะชนะ เขาดันต้องหยุดชะงัก
ด้วยเว็นดี้ค้นพบว่า เธอสามารถแฮ็กซินธ์ (ที่เป็นจักรกลชนิดนึง) ได้เช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์
แม้ยังโกรธโจ (เรื่องยิงนิบส์) แต่เว็นดี้เลือกจะ มองข้ามเรื่องนั้นก่อน
และพาพี่ไปร่วมเยาะเย้ย นายบอย แคเวเลีย, ที่โดนซีโนมอร์ฟเพื่อนยาก (ของเว็นดี้) ไล่ตามเจอ แลจับตัวได้
พวกผู้ใหญ่ (+หุ่นยนต์) ซึ่งเคย ทำผิดต่อแก๊งไฮบริด, ต่างถูกยัดเข้ามุ้งสายบัว (ซึ่งเพิ่งใช้ขังพวกไฮบริด มาหมาด ๆ) แทนจนครบ
เว็นดี้ประกาศกร้าว ว่าจากนี้พวกเขา เป็นฝ่ายครองเกาะ
ที่แม้พืชประหลาดกับลูกตา หนีจากกรงไปได้ (ฝ่ายหลังเร่ร่อน จนไปสิงศพของอาเธอร์), แต่พวกนี้ก็ไม่ทำร้ายไฮบริด
มิหนำซ้ำ ซีโนมอร์ฟสองตัว (ตัวเพื่อนยากของเว็นดี้ กับตัวที่เคยระเบิดอกอาเธอร์) ยังเป็นมิตรกับนางเอก
อย่างไรก็ตาม ยูทานิตัดสินใจเปิดฉาก การโจมตีระลอกสอง, เลิกทำอะไรอ้อมค้อม ใช้เครื่องบินส่งทหารกำลังเสริม สู่เนเวอร์แลนด์ แบบโฉ่งฉ่าง
COMMENTS