บทความนี้แปลจากข้อมูล ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของ [ Variety ] ณ วันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 2025, ตามเวลาต่างประเทศ ก่อนหนัง Superman ของเจมส์ กันน...
บทความนี้แปลจากข้อมูล ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของ [Variety] ณ วันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 2025, ตามเวลาต่างประเทศ
ก่อนหนัง Superman ของเจมส์ กันน์ ฉายรอบปฐมทัศน์โลก เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม, ผู้บริหารร่วมของสตูดิโอ DC (ปีเตอร์ ซาฟราน)
ได้ขึ้นบนเวที แถลงขอบคุณบุคคลที่สำคัญสุด ซึ่งนั่งอยู่ท่ามกลางกลุ่มผู้ชม — นั่นคือเดวิด ซาสลาฟ ประธานกรรมการบริหารของ วอร์เนอร์บราเธอส์ดิสคัฟเวอรี — “สำหรับความเชื่อและศรัทธา ในตัวเจมส์กับผม ที่สร้างหนังเรื่องนี้ และที่ได้เริ่มยุคใหม่ของดีซี”
อันที่จริง, ยังมีตัวแทนแห่ง DC ยุคเก่า รวมอยู่ในโรง TCL Chinese Imax ด้วยอีกเล็กน้อย
เช่น ไมเคิล โรเซนบอม ผู้รับบทเล็กซ์ ลูเธอร์ ในซีรีส์ที่ออกฉายยาวเรื่อง สมอลวิลล์ (Smallville),
วิล รีฟ บุตรชายของคริสโตเฟอร์ รีฟ ผู้ล่วงลับ และทูตของริชาร์ด ดอนเนอร์ ผู้สร้างหนัง Superman (ของสมัยก่อนนู่น)
ค่ำคืนดังกล่าว ถือเป็นจุดสตาร์ทใหม่ของแฟรนไชส์ภาพยนตร์ 58 เรื่อง อันทำรายได้รวมถึง 16.8 พันล้านดอลลาร์ (แบบว่าถ้าอิงคอมมิคดีซีนับหมด ยันเลโก้แบทแมน หรือ Road to Perdition)
แม้ว่าช่วงไม่กี่ปีหลังมานี่ ถูกค่ายคู่แข่งที่ชื่อมาร์เวล แซงหน้าบนบ็อกซ์ออฟฟิศ
แต่กันน์ซึ่งมารับช่วงคุมดีซี ด้วยกันกับซาฟรานในปี 2022 แถมกำกับและอำนวยการผลิตภาพยนตร์, ได้ทำให้แฟรนไชส์ เครื่องยนต์สตาร์ทติด จริงฤๅไม่ ?
สิ่งที่สื่อได้ยินจาก วอร์เนอร์บราเธอส์ในเบอร์แบงก์ และทั่วฮอลลีวูดคือ “ได้อยู่”, พร้อมแว่วเสียง ถอนหายใจโล่งอก
เมื่อผลงานของกันน์ ทำรายได้ช่วงแรกถึง 220 ล้านดอลล์ทั่วโลก, กรุยทางสู่อนาคตตามแผน 10 ปีของดีซี
ซาสลาฟฉลองชัยชนะ ตั้งแต่ผลชี้ชัดของ ตัวเลขบนบ็อกซ์ออฟฟิศ ยังไม่ออก, บอกว่ามันทำผลงานได้ดี และนี่ “เป็นเพียงก้าวแรก”
แต่ท่าทางของเขา ทำให้หลายผู้, รู้สึกว่าแปลก และเร็วเกินไป
เนื่องจากหายาก สำหรับคนตำแหน่งซีอีโอ ที่จะแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับสุดสัปดาห์เปิดตัวของหนัง, ต่อสาธารณะ
“ซูเปอร์แมน ประสบความสำเร็จอย่างงามในบ้าน, แต่รายได้ในต่างประเทศ กลับน่าผิดหวัง”
เจฟฟ์ บ็อค นักวิเคราะห์บ็อกซ์ออฟฟิศจาก Exhibitor Relations, หมายถึงรายได้เปิดตัว 95 ล้านเหรียญ นอกอเมริกาเหนือ
“การที่ Superman จะเป็น 1 ในภาพยนตร์ทำเงินสูงสุด ของช่วงซัมเมอร์ — และไม่ต้องพูดถึง การพลิกโฉมจักรวาลหนัง — มันจำเป็นต้องสร้างความประทับใจแรก ที่ตราตรึงยิ่งกว่านี้
ก็จริงหรอกว่า ระยะทางพิสูจน์ม้า, รายได้สัปดาห์ถัด ๆ ไปต่างหาก ที่จะชี้ว่ามันทำได้ดี
แต่ยังต้องยอมรับว่า นี่เป็นการเริ่มต้นที่ ไม่ปังพอ สำหรับดีซีกับวอร์เนอร์”
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นตอบสนอง ในทางบวก, หุ้นของวอร์เนอร์บราเธอส์ดิสคัฟเวอรี พุ่งขึ้น 2.4%
จาก 11.73 ดอลลาร์สหรัฐฯ ณ สิ้นวันที่ 11 กรกฎาคม, เป็น 12.01 ณ สิ้นวันที่ 14
แดน ไอฟส์ นักวิเคราะห์วอลสตรีท จากเว็ดบุช ซีเคียวริตีส์, กล่าวถึงประสิทธิภาพของผลงานนี้ว่า
“น่าประทับใจมากในประเทศ และสร้างแรงส่งที่สูงสำหรับแฟรนไชส์ ท่ามกลางปัญหาที่จัดได้ว่ารุมเร้า”
เขาเสริมว่า “ผลตอบรับนอกบ้าน ผสมกัน, แต่โดยรวมแล้วคือ สัปดาห์ระดับ A- สำหรับ Superman”
และตัวแทนจำหน่าย ระดับท็อปรายนึง เข้าใจความรู้สึกซาสลาฟ, ว่าทำไมต้องโอ้อวดกันเล็กน้อย
“เมื่อพิจารณาว่า, สื่อทำเหมือนเขาเป็นไอ้โง่ ไม่ก็กระสอบทรายในศาลากลาง มาตั้งนาน
คุณโทษเขาไม่ได้หรอก หลังจากที่สามารถ คว้าข่าวดีมาได้บ้าง” ตัวแทนกล่าว
ทุนสร้างหนังคือ 225 ล้านเหรียญ และมีงบการตลาดทั่วโลกอีก 125 ล้าน, งบการตลาดที่ว่า ครอบคลุมถึงการใจป้ำ ทำท่ายาก
นำหุ่นพี่ซุป ไปแขวนลอยเหนือยอด ของเดอะ ชาร์ด (The Shard) ตึกระฟ้าในลอนดอน, เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม
ผู้บริหารสตูดิโอคู่แข่งรายหนึ่ง ประเมินว่าแค่กลยุทธ์เดอะ ชาร์ดนั่น ก็ถลุงงบประมาณไปถึงเลข 7 หลัก
สะท้อนสิ่งที่วอร์เนอร์ ดูจะเชื่อเสมอว่า ซูเปอร์แมนขายตลาดนอกเมกายาก, เนื่องจากซูเปอร์ฮีโร่รายนี้ เชื่อมโยงกับ “วิถีอเมริกัน” แบบแยกไม่ออก
โดยทั่วไป ดาราภาพยนตร์ จะเป็นผู้ได้ค่าเหนื่อยสูงสุด, แต่ในกรณีนี้ กันน์ต่างหากที่ค่าจ้างเยอะสุด อย่างไม่ต้องสงสัย
คือสูงกว่า เดวิด คอเรนสเว็ต (ซูเปอร์แมน/คลาร์ก เคนท์) และเรเชล บรอสนาฮาน (โลอิส เลน) ที่ได้คนละ 750,000 มากถึง 20 เท่า
หรือก็คือ กันน์ได้ 15 ล้านดอลล์ ตามที่แหล่งข่าวอ้าง (อ้อ นี่ยังไม่นับรวมเงินเดือนเจ็ดหลัก ในฐานะผู้บริหารระดับสูงของสตูดิโอด้วยเอ้า)
สำหรับนิโคลัส เฮาลต์ ผู้รับบทวายร้ายตัวฉกาจ อย่างเล็กซ์ ลูเธอร์, ได้ค่าแรง 2 ล้านดอลลาร์
ขณะที่วอร์เนอร์ สนใจการสร้างภาคต่อ ที่ใช้บริการคอเรนสเว็ต กับบรอสนาฮาน, แต่นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญสุด เพลานี้
เพราะแหล่งข่าวกล่าวว่า สตูดิโออยากเร่งเกียร์ หนัง “Wonder Woman” เรื่องใหม่ก่อน
และพวกเขาก็ตื่นเต้น กับบทฉบับร่างของภาคต่อ The Batman ของแมตต์ รีฟส์, ซึ่งเพิ่งส่งให้ต้นสังกัดดู ไม่นานนี้
ทางวอร์เนอร์บราเธอส์ ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น ต่อเรื่องพวกนี้
อย่างไรซะ Man of Steel ของแซ็ค สไนเดอร์ อันเคยเป็นจุดรีเซ็ต จักรวาลดีซีเช่นกัน, ทำผลงานได้ดีกว่า เมื่อปรับตามอัตราเงินเฟ้อ
โดยทำรายได้ 200 ล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลก ในช่วงเปิดตัว, หรือ 276 ล้าน หลังแปลงสู่ค่าเงินปัจจุบัน
Superman จำเป็นต้องทำให้คนดู ยังคงแห่เดินเข้าโรงหนัง, ก่อนจะพูดได้เต็มปาก ว่าประสบความสำเร็จแบบแท้จริง
แต่ก็เป็นไปได้อยู่ เมื่อพิจารณากระแสจากนักวิจารณ์ และแฟน ๆ
รวมทั้งคะแนนนิยม ชนิดปากต่อปาก (CinemaScore) ระดับ A-
สุดท้ายแล้ว การที่ Superman บินหลบ สงครามต่อต้านด้านวัฒนธรรมมาได้ จนกระทั่งตอนใกล้ฉาย, ได้สร้างความแตกต่าง (จากหนังเรื่องอื่น อันเจ๊งหลังเหตุเทือกนี้)
ฌอน กันน์ (น้องชายเจมส์ กันน์) ผู้สวมบท แมกซ์เวลล์ ลอร์ด (อันปรากฏในหนัง) บอกสื่อ Variety ในรอบปฐมทัศน์ว่า
“เรารักผู้อพยพของเรา, ใช่ ซูเปอร์แมนเป็นพวกต่างด้าว, และใช่ ผู้คนในประเทศนี้ที่เราสนับสนุน คือผู้อพยพ และถ้าคุณไม่ชอบแบบนั้น คุณก็ไม่ใช่คนอเมริกัน”
เหตุการณ์ชวนทัวร์ลงอีกอย่าง มาจากแฟรงค์ กริลโล, ผู้สวมบทริค แฟล็ก ซีเนียร์
ที่จุดชนวน กระแสต่อต้านแนวทาง อเมริกาต้องกลับมาใหญ่ (Make America Great Again)
หลังเขากดไลก์ โพสต์บนโซเชียลมีเดีย ที่ทำเนียบขาวเผยแพร่, ในช่วงสุดสัปดาห์เปิดตัว
โดยมันคือภาพประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในชุดซูเปอร์แมน, พร้อมแคปชั่นอธิบายว่า
“สัญลักษณ์แห่งความหวัง ความจริง ความยุติธรรม วิถีแบบอเมริกัน ซูเปอร์แมนทรัมป์”
ยังมีประเด็นร้อนอีกอันหนึ่ง ซึ่งเขย่าจิตผู้ชม, นักเคลื่อนไหวและอินฟลูเอนเซอร์ ที่สนับสนุนปาเลสไตน์ ต่างพากันยี้หนัง บนโซเชียลมีเดีย
เนื่องจากพวกเขามองว่า เป็นการประณามอิสราเอล อย่างโจ่งแจ้ง, หลังเหตุนองเลือด ที่ฉนวนกาซา
ในภาพยนตร์ เล็กซ์ ลูเธอร์ จุดชนวนสงครามระหว่างประเทศ, และทำเงินหลายพันล้าน ได้จากเหตุขัดแย้งนั่น
ประเทศผู้รุกราน อันมีชื่อว่าโบเรเวีย, ทิ้งระเบิดและกรีฑาทัพ สู่ดินแดนเพื่อนบ้านในทะเลทราย ก่อนซูเปอร์แมนจะมาช่วยไว้ได้
Hasan Piker สตรีมเมอร์บน Twitch ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก, มองว่าหนังเป็น
“สองชั่วโมงกับประมาณสิบนาที ที่ชี้ว่าอิสราเอลเชี่ย ตลอดเวลา” — นี่จัดว่าคือตัวอย่าง ความรู้สึกอันสะท้อนก้อง บนโลกออนไลน์ ช่วงเพิ่งฉาย
อย่างไรก็ตาม ไทม์ไลน์การผลิตบ่งชี้ว่า อิสราเอลไม่น่าใช่โบเรเวีย
เพราะกันน์ส่งบทภาพยนตร์ ให้ต้นสังกัด พฤษภาคม 2023, หลายเดือนก่อนเหตุขัดแย้ง อิสราเอล-กาซา จะทวีความรุนแรงขึ้น จนส่งผลสืบเนื่องต่อมา
ยังไงซะ แม้แต่พวกข่าวเสีย ๆ หาย ๆ ก็อาจช่วยให้ Superman ได้อยู่ในกระแสต่อ, แม้หลังสุดสัปดาห์แรก
แบบที่บ็อค (นักวิเคราะห์บ็อกซ์ออฟฟิศ) ว่า “จะเป็นการดีต่อ DCU ทีเดียว ถ้าหนังเหมือนนักมวย ที่ชกได้นาน 12 ยก, ยืนระยะในโรงยาว ยันสิ้นเดือนสิงหา”
COMMENTS