ขณะอดีตศิษย์ของ อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ (อาโซก้า ทาโน่) พยายามจับกุม "มอร์แกน เอลส์เบธ" สมุนผู้ยังภักดี ของจอมพลธรอว์นที่หายสาบสูญ ...
ขณะอดีตศิษย์ของ อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ (อาโซก้า ทาโน่)
พยายามจับกุม "มอร์แกน เอลส์เบธ" สมุนผู้ยังภักดี ของจอมพลธรอว์นที่หายสาบสูญ
และแม่มด ผู้เหลือรอดของ เหล่านารีราตรี (Nightsisters ผู้ใช้พลัง ในอีกรูปแบบ)
'ดิน จาร์ริน' ชาวแมนดาลอร์ พ่อลูกอ่อน ก็เข้าสนับสนุน
เพื่อแลกกะการ ช่วยเหลือเรื่องบุตร (ใน The Mandalorian ซีซั่น 2 ตอน 5)
หลังจับกุมแม่มด ทั้งคู่ยังแวะเวียน ไปเจอกันบ้าง, ก่อนที่ฟากอาโซก้าเอง ต้องเคลื่อนไหว
พร้อม "ฮูแยง" ดรอยด์รุ่นเก่าแก่ ที่เคยช่วยเรื่อง ฝึกสอนเจไดให้นิกาย อยู่หลายศตวรรษ, ก่อนมันล่มสลาย
และเหล่าสหายเก่า ที่เคยสู้กับ กองทัพจักรวรรดิด้วยกัน (ในอนิเมชั่น Rebels)
เพราะ "เบย์ลัน สกอล" อดีตเจได กับ "ชิน ฮาที" ลูกศิษย์, จู่โจมยานขนนักโทษของรัฐใหม่ เพื่อชิงตัวมอร์แกน
ที่ต้องปล้นนักโทษกัน เนื่องจากมอร์แกน มีความรู้เรื่อง วิธีเดินทางสู่ "กาแล็กซี่เพื่อนบ้าน" ซึ่งน้อยคนนักจะทราบ
แถมหล่อนยังเหลือเส้นสาย ในไลน์ผลิต เครื่องยนต์ไฮเปอร์ไดร์ฟ, บนดาวที่คือ ลานเศษเหล็กขนาดใหญ่
อันจำเป็นสำหรับ ใช้เติมเต็ม "ดวงตาแห่งไซออน" ให้สมบูรณ์
โดยหากวงแหวนบูสเตอร์ ขนาดมโหฬาร สร้างเสร็จเมื่อใด
การเดินทางข้ามกาแล็กซี่ เพื่อทวงคืนธรอว์น ก็จะได้เริ่มต้น
อนึ่ง, ด้านอาโซก้า และเหล่าสหายเก่า อันประกอบด้วย
"ซาบีน เร็น" อดีตศิษย์ ชาวแมนดาลอร์ (ที่เคยไปเรียนไปสอนกัน นอกฉาก) กับนายพลหญิง "เฮร่า ซินดุลล่า"
นอกจากต้องการหยุดยั้ง ภัยจักรวรรดิรอบใหม่, พวกเขายังมี แรงจูงใจส่วนบุคคล ร่วมกันอีกอย่าง
นั่นคือค้นหา "เอสร่า บริ๊ดเจอร์" เจไดหนุ่ม มากพรสวรรค์, พวกพ้องที่หายตัวไป
เพราะใช้เพอร์กิล (วาฬดวงดาว) ลากบอส (ธรอว์น) ออกนอกฉาก, เพื่อให้เพื่อนๆ ชนะสงครามในกาลก่อน
การชิงตัวนักโทษ ของคู่ศิษย์อาจารย์ ทหารรับจ้าง เจไดนอกคอก, สัมฤทธิ์ผล
ไลน์ผลิตไฮเปอร์ไดรฟ์ ของแม่มดมอร์แกน อันเคยหงุดชะงัก จึงขยับอีกครั้ง, จนเข้าสู่ขั้นตอนสร้าง อะไหล่ชิ้นสุดท้าย
แต่ก่อนขนย้าย อาโซก้าพบเบาะแส ระแคะระคาย
จึงแท็กทีม กับนายพลซินดุลล่า และช็อปเปอร์ (ดรอยด์นิสัยนักเลง ของเฮร่า) ดิ่งเยือนลานเศษเหล็ก ขนาดมหึมา ของสาธารณรัฐใหม่
แต่นายพลเฮร่า ทำไหวแค่ติดเครื่อง ส่งสัญญาณ, หยุดการขนย้าย อะไหล่ชิ้นสุดท้าย ไม่สำเร็จ
ฉะนั้นสิ่งต่อมาที่ เธอพยายามทำ คือขออนุมัติทางวุฒิสภา
เพื่อสั่งเดินหน้ากองทัพ ขยับไปรบกับ, มอร์แกนกะพลพรรค ผู้มักธรอว์นหลาย
ทว่าเหล่านักการเมือง ของรัฐอัน ขาดความเข้มแข็ง ดันสั่งห้าม
เนื่องจากเรื่องแม่มด ขุนศึก (ธรอว์น) หรือกาแล๊คซี่อื่น ออกจะเหลือเชื่อเกิน
เฮร่าจึงแจ้งข่าวร้าย แก่ซาบีนที่ฝากตัว เป็นศิษย์อาโซก้าอีกครั้ง, ว่าพวกหล่อนต้องลุยเอง ไร้กำลังเสริม
ซาบีน & อาโซก้า ใช้เครื่องแกะรอย ตามสัญญาณ
สู่ดาว ซึ่งพวกวาฬวาร์ป (มีความสามารถ ในการเคลื่อนย้ายข้ามอวกาศ แต่กำเนิด) ชุมนุมกันอยู่
อาโซก้าเร่งรุด ดิ่งสู่ฐานอริ พร้อมศิษย์ชาวแมนดาลอร์
พวกเธอเปิดศึก จับคู่ดวล, กับชิน ฮาที และมาร์ร็อค (อินควิซิเตอร์)
อาโซก้า ฆ่ามาร์ร็อคได้, แม้ร่างอินควิซิเตอร์ สูญสลาย กลายเป็นควันสีเขียว อย่างน่าสงสัย
เห็นดังนั้นแล้ว ซาบีนจึงบอกอาจารย์ ว่าไม่ต้องช่วยหนูสู้, จงล่วงหน้าไปก่อน
ซาบีนใช้อาวุธ ของชาวแมนดาลอร์ ร่วมกับเพลงดาบไลท์เซเบอร์, ต้านรับชิน
ด้านอาโซก้า เข้าปะทะกระบี่กะเบย์ลัน แถวหน้าผาใกล้ทะเล, แต่พลาดท่า ร่วงลงเหว
ระหว่างนั้น แผนที่สำหรับ ใช้คำนวณพิกัด การเดินทาง, ได้หลุดสู่มือซาบีน ผู้วิ่งไล่หลัง
อย่างไรก็ตาม หากเธอทำลายมัน เพื่อไม่ให้ศัตรู เดินหน้าต่อ
ย่อมเท่ากับความหวัง ในการเจอเอสร่าซ้ำ ดับสูญตาม
ซาบีนจึงเมินอุดมการณ์ เสียสละเพื่อส่วนรวม แบบของอาจารย์อาโซก้า
และยอมส่งมอบ แผนที่ดวงดาว คืนแก่คุณศัตรู อย่างเบย์ลัน
เนื่องจากหมอนั่น สัญญิงสัญญาว่า, ถ้าอ่อนข้อเสร็จ เดี๋ยวลุงพาไปเจอะเอสร่าให้น่า
เบย์ลันเก็งว่า ซาบีนที่ตอนนี้ สนเพียงประโยชน์ส่วนตน (เอสร่า) คงมีประโยชน์ทีหลัง
จึงยอมรักษาสัจจะ และหิ้วซาบีนขึ้นพาหนะ (ดวงตาแห่งไซออน) โดยดี (แต่ฐานะคือนักโทษ ครับลูกพี่)
ส่วนอาโซก้า ที่รอดตาย เพราะเป็นเจ้าของชื่อซีรีส์
ลืมตาตื่นขึ้น ในมิติลี้ลับ แล้วประจักษ์กับ ผีอนาคิน
ผีอาจารย์ ทักทายจอมยุทธ์อาโซก้า ผู้ตกหน้าผา พอเป็นพิธี
ก่อนจะเปิดกระบี่แสง ท้าศิษย์เก่า เรียกเข้าระยะฟาดฟัน
อนาคินที่เฝ้ามอง ศิษย์ผ่าน 'พลัง' ตลอด, บอกใบ้ว่าเธอแพ้เจ้านั่น เพราะถูกอดีตเหนี่ยวรั้งไว้
เสร็จละเปิดคอร์สสุดท้าย เพื่อสอนอาโซก้า ผู้เคยหันหลังแก่นิกายเจได, ให้สำเร็จวิชาโดยสมบูรณ์ ในครานี้
เมื่อสติจางหาย อีกคำรบ, อาโซก้าลืมตา พบร่างตัวเองกำลัง ลอยอยู่กลางวารี
พอดีกับที่ กองยานค้นหา ของนายพลเฮร่า (เธอสั่งเคลื่อนทัพโดยพลการ) มาช้า, แต่ว่าช่วยนางเอกทัน
เพราะยานซึ่งบินต่ำ เลียบตามแนวชายฝั่ง สังเกตเห็นเจไดหญิงจนได้
ทั้งนี้ควรขอบคุณ การนำทาง โดยสัมผัส 'พลัง' ของเจสัน (Jacen)
ลูกชายเฮร่า, ผู้ติดสอยห้อยตามหม่าม๊า อย่างตัวแถม กิตติมศักดิ์
อาโซก้าล้าหลังหนัก จึงจำใจใช้วิธี ไล่ตามเบย์ลัน, อันไม่แน่นอน ต้องพึ่งพิงศรัทธา
นั่นคือใช้ 'พลัง' สื่อสารกับสัตว์ (วาฬดวงดาว) ขอให้พวกมัน พาวาร์ปไปด้วยใน เส้นทางอพยพข้ามอวกาศ
ณ อีกฟากจักรวาล, หลังข้ามผ่าน ระยะทางมหาศาล ในหมู่ดาว อันไกลโพ้น
เนตรไซออนพา, มอร์แกน แอนด์เดอะแก๊ง ถึง "เพอริเดีย"
โลกโบราณซึ่งเป็นที่พำนัก ของชาวดาเมีย บรรพชนแห่งแม่มด
มอร์แกนเผยว่า, บรรพบุรุษของเธอ คือพวกแรกๆ ที่ควบคุมวาฬได้
และพอพวกพ้อง มองวิวข้างนอก ยานอวกาศ, ก็เห็นซากกระดูกเพอร์กิล กระจายรอบดาว
เหตุเพราะเหล่าวาฬ มาที่นี่ เพื่อตาย
เพอริเดีย คือสุสานสัตว์, เป็นจุดสิ้นสุด การอพยพของพวกมัน
ก๊วนมอร์แกน นั่งยานกระสวย เข้าชั้นบรรยากาศ, โดยไม่ลืม พกซาบีนไปด้วย
เมื่อถึงจุดหมาย (ยอดหอคอย ป้อมปราการ) สตรีชุดแดง 3 ใบเถา ได้ออกมาต้อนรับขับสู้
พวกหล่อน = "มหาเทวี" อันท่าทางคือแม่มด และทรงอิทธิพลสุดแถวนี้
ซึ่งที่มหาเทวี มารอรับเนี่ย, เพราะเดิมทีพวกเธอ เป็นผู้ใช้เวทมนตร์ (พลัง)
ส่งสัญญาณ เรียกมอร์แกน ผ่านความฝัน, เองนั่นแหละ
แล้วธรอว์นก็โดยสาร ยานพิฆาตดารา (สตาร์เดสทรอยเยอร์) มาสมทบ
พร้อมกองทัพลิ่วล้อ (สตอร์มทรูเปอร์) ซึ่งโดนเนรเทศ สู่เพอริเดียด้วยกัน (เพราะเอสร่า)
อย่างไรซะ ท่านขุนศึกแจ้งว่า ยังต้อง เตรียมการบางอย่าง
เดินทางกลับ กาแล๊คซี่บ้านเกิด ไม่ได้ทันที, รอ 3 วันนะลูกพี่
ระหว่างนี้ธรอว์น ยอมมอบทั้งเสบียง, พาหนะ (หมายักษ์ฮาวเลอร์)
และข้อมูลล่าสุด เกี่ยวกับที่อยู่ของเอสร่า, แก่ซาบีนโดยง่าย
ธรอว์นทำตัว ใจกว้างปานนี้ เพราะกะว่า, จะให้เจไดนอกคอก กะลูกศิษย์ (เบย์ลัน & ชิน)
ตามสะกดรอยไปเก็บ ทั้งซาบีนกะเอสร่า, หลังทั้งสอง พบหน้ากันอีกครั้ง
แม้ธรอว์นชื่นชม เบย์ลันต่อหน้า, ว่าคุณทำดี ที่พกซาบีนมา
แต่ลับหลัง ธรอว์นกะจะ ปล่อยเบย์ลันกะชิน ทิ้งไว้นี่
ด้านซาบีน ขณะขี่ฮาวเลอร์, เธอเจอกลุ่มเร่ร่อน หัวรุนแรง ของดินแดนแสนรกร้าง (เพอริเดีย)
จึงควักกระบี่แสง หวดใส่เพื่อฆ่า และเอาชีวิตรอด
ก่อนเดินทางต่อ, ปะชนพื้นเมือง ซึ่งรูปลักษณ์ คล้ายปูเสฉวน
พวกนี้เป็นมิตรกว่า และสุดท้ายก็นำทางเธอ ไปเจอ "เอสร่า"
ฟากตัวร้าย จู่ๆ แม่มด 3 ใบเถา เขาสัมผัสได้ว่ามีเจได (อาโซก้า) ซื้อตั๋วรถเที่ยววาฬดวงดาว, เลยรีบแจ้งข่าว
จอมพล ผู้เลื่องลือด้าน ทำความเข้าใจศัตรู และวางกลยุทธ์
จึงเร่งมอร์แกนให้ บอกข้อมูลอาโซก้า ทั้งมวลที่รู้
ธรอว์นเคยเจอ อนาคิน ช่วงสงครามโคลน, ใน Star Wars ยุคดิสนีย์ แถวพวกเนื้อหาเสริมรายทาง
เลยไม่แปลกที่ พอรู้ว่าอาโซก้าเธอ คือศิษย์ผู้ใด, จะประเมินคุณค่าสูง
ทัพจอมพล หว่านทุ่นระเบิดรอไว้ รอบดาวเพอริเดียเพียบ
พวกวาฬเป็นกำบังให้ ได้แค่เดี๋ยวเดียว ก่อนเร่งวาร์ปหนีกัน ไปไหนไม่ทราบ
กองทัพสตอร์มทรูเปอร์อีกมาก รุกไล่เจไดนารีต่อ, ทว่าแค่พอหอมปากหอมคอ
เพราะธรอว์น อ่านออกแต่แรกว่า, ด้วยตัวหมาก อันเขาครอบครอง ณ ปัจจุบัน
มันช่างยากจะ จับอาโซก้าให้มั่น คั้นให้ตาย
ธรอว์นเลยคอยต้อน แค่พอประมาณ, เพื่อหลอกอาโซก้า เต้นตามจังหวะ
กว่าทาโน่จะ สมทบกับซาบีน และเอสร่า ช่วยพวกเขาจากเบย์ลัน & ชินได้, คือเสียเวลาหนัก
จนแทบไม่เหลือโอกาส ขวางการเดินทางกลับ ของท่านจอมพล
3 ตัวเอก กับกระบี่แสง 4 เล่ม, รีบพุ่งผ่านแนวยิงปืนใหญ่ เข้าในป้อมปราการ
และไล่สังหาร เหล่าลูกกระจ๊อก, อันโดนส่งมา ขัดตาทัพ
ทว่าศัตรูกลุ่มนี้ กะพลีชีพเพื่อจักรวรรดิ ตั้งแต่แรก
จะได้ให้มหาเทวี ร่ายมนตร์ควันเขียว ปลุกวิญญาณ, ลุกขึ้นสู้ต่อ ในฐานะกองทัพซอมบี้
ที่ฆ่าซ้ำยากเย็น เพราะต้องเล่นงานหัว ซึ่งมีหมวกเกราะปกป้อง
มอร์แกนเองก็ พร้อมเสียสละ เพื่อจักรวรรดิ
เธอควงดาบทัลซิน (อาวุธต้านไลท์เซเบอร์ได้ มหาเทวีอัญเชิญมาให้) เข้าสู้
ขณะยานใหญ่ของธรอว์น เชื่อมดวงตาแห่งไซออนเสร็จ พร้อมออกจากท่าจอด
อาโซก้าเลย ไล่ซาบีนกะเอสร่า ให้ล่วงหน้า ไปขวางจอมพล
เธอขอเหมาทั้ง มอร์แกน กับฝูงผีดิบ, เพียงลำพัง
ทว่าซาบีน ขัดคำสั่งจารย์, หล่อนส่งเอสร่า เข้าพาหนะกลับบ้าน
แล้ววกกลับไป ช่วยอาโซก้า, ผู้ใกล้สิ้นท่า
เจ้าของชื่อซีรีส์ ถึงพลิกชนะมอร์แกน และรอดชีวิต
แต่ศึกนี้ถือว่า บุรุษตัวฟ้ากำชัย, เขาหวนคืน ดาวดาโทเมียร์ แหล่งอารยธรรมแม่มด
กับมหาเทวี 3 ใบเถา ซึ่งจัดโปรลดราคา ขายเป็นเซ็ต, พร้อมคาถาชุบคนตาย
เท่านั้นไม่พอ เพราะโทรสั่งซื้อไว้ ตั้งกะเมื่อ 3 วันก่อน
จึงดูเหมือนว่า บนยานใหญ่ธรอว์น, จะเปี่ยมด้วยศพบรรจุโลง จำนวนมหาศาล จากสุสานใต้ดิน ของเพอริเดียด้วย
โดยอนึ่ง เอสร่า แอบแยกตัว, แว่บไปเจอ นายพลเฮร่า ซินดุลล่า
ฝั่งผู้ถูกทิ้ง แกร่วต่อบนเพอริเดีย, อาโซก้า ซาบีน ฮูแยง อาศัยร่วมกับ ชนพื้นเมืองรักสันติ (โนติ)
และผีอนาคิน (ที่ไม่ยอมพาลุค ไปบุกเอ็กซาโกล) ยังตามติดแจ
ฟากชิน ฮาที เข้าพวกกะ ชนเร่ร่อนหัวรุนแรง, เพราะโดนอาจารย์ของเธอ (เบย์ลัน) ปล่อยเกาะ
ส่วนเบย์ลัน ได้รับการชี้นำจากพลัง ให้ออกแสวงบุญ เยื้องย่างสู่เทือกเขา
แถวๆ ที่มีภูแกะสลัก เป็นรูปเทพบิดร (the Father) กับเทพบุตร (the Son) แห่งมอร์ทิส
COMMENTS