[เกริ่นนำ] เดิมทีข่าวเกี่ยวกับ ภาพยนตร์ชุด มหาวิบัติจักรกลสังหารถล่มจักรวาล (Transformers) ลำดับหก คือมันเป็นทั้งภาคแยก และภาคต้นของ พวกหน...
[เกริ่นนำ] เดิมทีข่าวเกี่ยวกับ ภาพยนตร์ชุด มหาวิบัติจักรกลสังหารถล่มจักรวาล (Transformers) ลำดับหก
คือมันเป็นทั้งภาคแยก และภาคต้นของ
พวกหนังหุ่นเหล็กแปลงร่าง บู๊ระห่ำ ทำลายสิ่งก่อสร้าง ล้างจักรวาล, ที่กำกับโดย "ไมเคิล เบย์"
แต่สุดท้ายแล้ว Bumblebee อันเผยแพร่ ณ ปีคริสต์ศักราช 2018, กลับมาแนวนับหนึ่งใหม่ (รีบู๊ท)
ในแง่รายได้ การรับทรัพย์ตลอดโปรแกรมฉาย 468 ล้านดอลลาร์ จัดว่าประสบความสำเร็จ (สำหรับหนังที่มีรายงานว่า ต้นทุน 102-135 ล้าน)
ทว่าตัวเลขดังกล่าว (468) ถ้ามองแบบรวมทั้งแฟรนไชส์ ก็เรียกได้ว่าตกต่ำ
เนื่องจากสู้ Last Knight (605) และภาคอื่นๆ ซึ่งบางครั้ง ทะลุหลักพันล้านไม่ไหว
อย่างไรซะ สาเหตุ 'อาจ' เกี่ยวเนื่องกับ ทิศทางนำเสนอของ Bumblebee เอง
ที่แก่นของมัน (ซึ่งต้องดูหนังเอง ถึงจะได้สัมผัส)
ว่าด้วยการ "ก้าวพ้นวัย" ของเด็กสาววัยรุ่น, มุ่งสู่ความเป็นผู้ใหญ่ พร้อมไอ้หุ่นเพื่อนรัก (บัมเบิ้ลบี)
ไม่ใช่รวมพลจักรกล ขนกันมาคับคั่ง เปิดสงครามบนจอใหญ่
เพื่อปกป้องโลกา พิทักษ์มนุษยชาติ จัดเต็มความมันส์, ดั่งเช่นในกาลก่อน (สมัยของไมเคิล เบย์)
เลยต้องใช้เวลาราว 4-5 ปี, กว่าทางผู้ผลิต จะขบคิดออกว่า อยากพาแฟรนไชส์ มุ่งหน้าสู่แห่งหนใดต่อ
และปล่อยหนังภาคใหม่ ในจักรวาลทรานส์ฟอร์เมอร์ส (สมัยที่สอง)
อย่าง Transformers: Rise of the Beasts ออกฉาย ณ ค.ศ. 2023
[เนื้อหาภาพยนตร์] ดาวไซเบอร์ตรอน อันเป็นมาตุภูมิของ เหล่า "สิ่งมีชีวิต" ชนิดจักรกล, เข้าใกล้การล่มสลาย
เพราะสงครามร้ายแรง ระหว่างหุ่นฝ่ายนิสัยดี (ออโต้บอทส์) อันนำโดย 'อ็อพติมัส ไพรม์', กับฝ่ายนิสัยเลว (ดีเซ็ปติคอนส์)
ออโต้บอทส์ที่ จวนเจียนจะแพ้เต็มทน, ตัดสินใจว่าควรถอยร่น
อ็อพติมัส ไพรม์จึงพยายามต้านรับ ทั้งสตาร์สครีม, ซาวด์เวฟ, ช็อคเวฟ และดีเซปฯ ตัวอื่นๆ เต็มที่
เพื่อเปิดโอกาสให้หุ่น "บี-127" ตัวสีเหลือง ขึ้นกระสวยลี้ภัย มุ่งหน้าสู่ดาวโลก
หน้าที่ของบี-127 โคตรสำคัญ เพราะโลกถือว่าอยู่ห่างไกล แลหาเจอยาก
เหมาะใช้สร้างฐาน เป็นแหล่งรวมพลใหม่สำหรับ พวกออโต้บอทส์ตนอื่น ๆ
ซึ่งหนีจากไซเบอร์ตรอน ไปก่อนหน้า และกระจายอยู่ทั่วกาแล็คซี่ เรียบร้อยละ
โชคร้าย บี-127 ลงจอดบนโลก อย่างไม่สวยงาม
แถมเป็นกลางพื้นที่ฝึก ของพวกทหาร ประจำหน่วยงานเซ็คเตอร์เซเว่น (Sector 7)
เซ็คเตอร์เซเว่นมีหน้าที่ เฝ้าระวังกิจกรรมของ สิ่งมีชีวิตจากนอกพิภพ
พวกนี้จึงไม่หวั่น แม้วันมามาก, พร้อมปะฉะดะกะ
เอเลี่ยนที่ตกลงมา กลางสนามฝึกของพวกเขา แทบจะในทันที ไม่รีรอใดๆ ทั้งสิ้น
เจ้าหน้าที่ 'แจ๊ค เบิร์นส์' นำกองกำลังทหารมนุษย์ ไล่ต้อนบี-127 จนมุม
แต่ขณะบี-127 ตั้งต้นจะพูดแก้ต่าง (เพื่ออธิบายว่า ข้ามาอย่างสันติ)
ดีเซ็ปติคอนส์ชื่อ บลิทซ์วิงก์ (Blitzwing) ดิ่งโจมตีใส่
เอาตัวบี-127 แยกไปเค้นถามว่า, อ็อพติมัสนั้นหนา อยู่แห่งหนใด ?
บี-127 ไม่ยอมบอก จึงตกเป็นเหยื่ออารมณ์ ของบลิทซ์วิงก์
โดนทำลายวงจรเสียง และหน่วยความจำ, กลายเป็นหุ่นยนต์ใบ้ สติปัญญาความรู้ถดถอย
แต่บี-127 ก็ฆ่าเจ้าบลิทซ์วิงก์ทิ้งได้, ก่อนตัวเองจะ หมดสภาพนิดหน่อย
[ค.ศ.1987 ตามท้องเรื่อง] นางสาว "ชาร์ลี วัตสัน" ยังติดอยู่ในภาวะหดหู่ เพราะสูญเสียพ่อกะทันหัน (หัวใจวายตาย)
แม้คุณแม่ (ซัลลี่) ก้าวข้ามจุดนั้นไปมีแฟนใหม่ (ชื่อรอน) และน้องชาย (โอทิส) ดูไม่อินังขังขอบ
แต่แล้วชาร์ลีก็บังเอิญค้นพบ, โฟล์คสวาเก้นบีเทิล สีเหลือง รุ่นปี 1967 ในป่าช้ารถท้องถิ่น
ซึ่งที่จริงคือร่างจำแลง ของเจ้าบี-127 ผู้บาดเจ็บและหลบซ่อน หลังการเผชิญหน้ากับบลิทซ์วิง, มาตลอด
เจ้าของป่าช้ารถ รู้จักเธอดี, จึงยอมมอบรถเก่า ที่เขาจำไม่ได้ว่าเคยมี เป็นของขวัญวันเกิด อายุครบ 18
นส.ชาร์ลี พยายามสตาร์ทรถ โดยไม่ทราบว่านั่นคือการ
ส่งสัญญาณให้ดีเซปติคอนส์ 2 ตน (แชตเตอร์กับดร็อปคิก) รู้ว่ามีออโต้บ็อทส์ อยู่บนดาวโลก
เมื่อทั้ง 2 ตนถึงโลก, ก็โกหกใส่เซ็คเตอร์เซเว่น ว่าเราคือฝ่ายดี
มาเพื่อไล่บี้ ไอ้วายร้ายอย่างบี-127, ขอความร่วมมือหน่อย
ทหารยศใหญ่ไม่ไว้ใจ ดีเซปฯ ทั้งสอง, แต่ก็ยอมอนุญาต
ให้พวกนี้เข้าถึง เครือข่ายดาวเทียมบางส่วน
เพื่อค้นหาเอนเนอร์จอน (สัญญาณชีวิตทรานส์ฟอร์เมอร์ส) ของบี-127
เพราะคิดว่าข้อมูล ที่เก็บได้จากพวกดีเซปฯ อาจนำไปพัฒนาเทคโนโลยี
สำหรับค้นหา สิ่งมีชีวิตจักรกลตนอื่นๆ ได้ ในภายภาคหน้า
ฟากบี-127 ที่ตอนนี้สภาพ ไม่ต่างจากเด็กเล็ก (แม้ตัวเบ้อเร่อ) ต้องการคนดูแล
ได้รับการรักษา (ซ่อมแซม) จากชาร์ลี, และตั้งชื่อใหม่ให้ว่า "บัมเบิ้ลบี"
ระหว่างใช้เวลาอยู่ร่วมกัน แลค่อยๆ กลายเป็นเพื่อนซี้ ต่างเผ่าพันธุ์
ไอ้หนุ่มข้างบ้านชื่อ 'เมโม่' ที่พยายามจีบชาร์ลี, ก็ทราบเรื่องบีไม่ใช่รถธรรมดาเข้า
แต่เลือกจะร่วมแชร์ความลับ ไม่ใช่เปิดโปงสาวเจ้าเขา
แล้ววันหนึ่ง ซึ่งบัมเบิลบี (ผู้เรียนรู้จะใช้ 'วิทยุ' แทนเสียงพูดสื่อสารละ) อยู่เฝ้าบ้าน ตามลำพัง
เจ้าหุ่นเหลืองเผลอส่ง สัญญาณเอนเนอร์จอนชุดใหม่ ในลักษณะแรงกว่าเก่า, โดยไม่ตั้งใจ
จนท.เบิร์นส์ กับเหล่าทหาร จากเซ็คเตอร์เซเว่น, จึงพุ่งมา ลักพาตัวบัมเบิลบีไป
ชาร์ลีกะเมโม่ เลยบุกรังของเซ็คเตอร์เซเว่น เพื่อชิงตัวไอ้หุ่นเพื่อนรักคืน
บัมเบิลบีโดน แชตเตอร์กับดร็อปคิกซ้อม เพื่อเค้นข้อมูล
ในที่สุดพวกดีเซปฯ ทั้งสอง ก็รู้ว่าอ็อพติมัสไพรม์, ตั้งใจจะใช้โลก เป็นฐานทัพ
ดร็อปคิกจึงฆ่าบีทิ้ง, ก่อนรีบออกนอกรังเซ็คเตอร์เซเว่น ไปกับคู่หู
เพื่อใช้เสาส่งสัญญาณของมนุษย์ ที่อยู่ใกล้แถวนั้นสุด, เป็นจุดส่งข่าว
บอกให้เหล่าดีเซปติคอนส์ มารวมพล, หวังล้างบางทั้งมนุษย์ และออโต้บอทส์รวดเดียวจบ
ชาร์ลีใช้ปืนไฟฟ้า กระตุ้นบัมเบิลบีจนคืนชีพ, ความทรงจำของหุ่นสีเหลือง ก็คืนมาจังหวะนี้เช่นกัน
ชาร์ลีกับบี รีบตามไปขัดขวาง แผนชั่วของดีเซปฯ คู่หู
โดยเมโม่กะครอบครัว (รอน, โอทิส, ซัลลี่) ช่วยดึงดูดความสนใจ
จากกองทหารเซคเตอร์เซเว่น, ที่ป่านนี้ก็ยังแยกไม่ออก ว่าฝ่ายไหนคือมิตรคือศัตรู
จนท.เบิร์นส์ก็มุ่งสู่ เสาส่งสัญญาณวิทยุด้วย, ก่อนที่จะโดน ดีเซปฯ ตัวนึงเล่นงาน
เขาเกือบตาย แต่บัมเบิลบีช่วยไว้, และย้ายฝ่าย กลายเป็นสหายร่วมรบ ของชาร์ลีกะบี
ทั้งสามช่วยกัน จนบีฆ่า แชตเตอร์กับดร็อปคิก
และหยุดการส่งข้อความ เรียกดีเซปติคอนส์ทั้งมวล มาถล่มโลก, ได้ทันท่วงที
ชาร์ลีตระหนักแล้วว่า บีแบกความรับผิดชอบ อันใหญ่หลวงไว้, จึงบอกลาไอ้หุ่นเพื่อนซี้
บัมเบิลบีสแกน, เชฟโรเล็ตคามาโร่ รุ่นปี 1977 ใช้เป็นร่างจำแลงใหม่
เขาไปพบอ็อพติมัส ที่ไหนซักแห่ง, และเฝ้ามองการมา ของกระสวยลี้ภัยลำอื่น ๆ
พวกออโต้บอทส์เริ่มต้นการ ใช้ดาวโลกต่างฐานใหม่, อย่างเป็นทางการ
COMMENTS