ในบทนำสู่ ภาพยนตร์ฉายเดี่ยวของพ่อแสงวาบสีแดง (The Flash) ตอนสุดท้าย หลังได้ทักษะโจมตีด้วยความเร็วเหนือเสียง จากการฝึกตนร่วมกับแบทแมน และได้ท...
ในบทนำสู่ ภาพยนตร์ฉายเดี่ยวของพ่อแสงวาบสีแดง (The Flash) ตอนสุดท้าย
หลังได้ทักษะโจมตีด้วยความเร็วเหนือเสียง จากการฝึกตนร่วมกับแบทแมน
และได้ทักษะเฟสซิ่ง (ทะลุผ่านวัตถุ) โดยข้ามพ้น อาการหลุดโฟกัส
แบรี่ อัลเลนจะใช้ทั้งสองอย่าง สร้างเทคนิคการวิ่งแบบใหม่, เพื่อพิชิตซูเปอร์วายร้ายที่ไว ระดับเดียวกับเขา
ณ ศูนย์นวัตกรรมด้านหุ่นยนต์ ของนครเซ็นทรัล (Central City Advanced Robotics)
หุ่นกระป๋องตัวนึงกะลังไล่ฆ่า ทุกสิ่งที่ขยับเขยื้อนภายในตึก (ซึ่งคือเหล่านักวิจัยผู้ผลิตมัน)
เนื่องจากมีผู้มือบอนรายหนึ่ง ทะลึ่งฉกหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) ของอาวุธอัตโนมัติไป
แล้วติดตั้งรีโมทที่หน้าตา "เหมือนลูกข่าง" ไว้เพื่อส่งสัญญาณ บังคับให้ไอ้กระป๋อง ทำงานต่อแบบไร้การควบคุม
แสงวาบสีชาด พาดผ่าน, แฟลชซัดหุ่นยนต์จนบุบบี้ แล้วดึงรีโมทออก
ฉากตัดไปที่รังลับของ รอสโค ดิลลอน (Roscoe Dillon) อดีตพนักงานศูนย์นวัตกรรมฯ
เค้าโดนไล่ออกเพราะเคยทำการทดลอง ซึ่งคนรอบข้างมองว่า ไม่น่าอภิรมย์
ปัจจุบันยอดมนุษย์ (เมตาฮิวแมน) รายนี้ จึงอยู่ระหว่างผลิตสุดยอดอาวุธ เพื่อวางขายทางตลาดมืด
ดิลลอนให้หุ่นยนต์ ป่วนที่ทำงานเก่า เพื่อดึงดูดความสนใจ
ขณะตนเข้าไปขโมย ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เกรดกองทัพ
ดิลลอนติดตั้งมันแถวรังลับ และดำเนินการผลิตยุทโธปกรณ์ สมอารมณ์หมาย
จากนั้นก็ดำริว่า ควรโฆษณาสินค้า ผ่านการสร้าง "พาดหัวข่าว"
ขณะแบรี่ อัลเลน อยู่ในแล็บนิติเวชเซ็นทรัลซิตี้
ก็พลันมีการระเบิด เกิดในเมือง, แรงสั่นสะเทือนทำข้าวของ แลอาคารเสียหาย
เขาอ้างกะเพื่อนร่วมงานว่า, เดี๋ยวไปเช็คว่าทุกคนในตึก ปลอดภัยเปล่าก่อนน้า
ทว่าความจริงแอบใช้ความเร็วเทพ เปิดฝาแหวนสวมชุดวีรชน, และห้อตะบึงสู่จุดที่เกิดการระเบิด
ดิลลอนประกาศกร้าวว่า ข้าคือเดอะ ท็อป (The Top) อันหมายถึงไอ้ลูกข่าง
เดอะ แฟลชเข้าปะทะ, แต่กลับไม่สามารถ แตะตัวหมอนั่นไหว
สาเหตุคือ 'พลังจิต' ของเดอะ ท็อป สามารถป่วนสมดุลร่างกายของแฟลช
ฮีโร่ของเราจึงซวนเซ เสร็จแล้วโดนชกใส่, ทุกครั้งที่เข้าประชิด และอีกฝ่ายมองเห็น
ครั้นจะหลบสายตาดิลลอน เพื่อโจมตีทีเผลอ, ก็เป็นไปบ่ได้
เพราะ 'ความเร็วการหมุนตัว' ของหมอนี่ ระดับเดียวกะ ความเร็วในการวิ่งของแฟลช
ซ้ำร้ายเมื่อจู่โจมล้มเหลว, แฟลชยังกระเด็นกระดอน ด้วยความแรงสูง
จนเกือบชนใส่ ประชาชนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่, แล้วโดนก่นด่าใส่
หลังเดอะ ท็อป เห็นชาวบ้านชี้หน้าต่อว่าแฟลช, เค้าเดินหน้าแผนสร้างพาดหัวข่าว ขั้นถัดไป
ดิลลอนเรียก "ลูกข่างยักษ์" ไซส์ใหญ่เท่าตึก ออกมาทั่วทิศ 4 มุมเมือง
ซึ่งถึงดูแล้วอาจตลก แต่เขายืนยันว่ามันทำเซ็นทรัลซิตี้ พินาศไม่เหลือไหวชัวร์ ๆ
ลูกข่างยักษ์ทั้ง 4 โชว์แสนยานุภาพแป๊บนึง ก่อนดิลลอนเก็บเข้ากรุ
เขาระบุว่า ชาวเมืองเซ็นทรัลต้องร่วมใจกันประกาศ กดดันให้เดอะ แฟลช
ยอมมอบกายถวายตัว เป็นเหยื่อบาทาต่อหน้าข้าอีกหน, ภายใน 24 ชั่วโมงซะ
มิเช่นนั้นจะเรียกลูกข่างยักษ์ซ้ำ ทำทั้งนคร กลายเป็นซากปรักหักพัง
เพื่อข้ามผ่านอุปสรรคใหม่ แบรี่ใส่ชุดแฟลช เริ่มการฝึกวิ่งลับ
เขากำหนดว่าตน ต้องใช้ทักษะไวเหนือเสียง (ซูเปอร์โซนิค) ที่ทำลายสิ่งแวดล้อมรอบข้าง, ถึงจะมีหวัง ได้แตะตัวไอ้ลูกข่างบ้าง
จากนั้นใช้การสั่นแบบเฟสซิ่ง (ขณะหักเลี้ยวเล็กน้อย) ไม่ใช่เพื่อทะลุวัตถุ
แต่เพื่อเปลี่ยนมุมที่มุ่ง เข้าหาศัตรู, จู่ลู่โดยความเร็วไม่ตก
เมื่อทำทั้ง 2 ทักษะสลับกันซ้ำๆ ก็พลันกำเนิดทักษะใหม่ นั่นคือคาถาร่างแยกเงา
เขาจะสร้าง "ภาพติดตา" ขึ้นมาป่วน และบุกถึงตัวดิลลอนสำเร็จ
ทว่าระหว่างใช้เทคนิคนี้ ถ้าผิดพลาด, คลื่นจากซูเปอร์โซนิค คงบดฝรั่งมุงเละเป็นโจ๊ก
แบรี่จึงไม่อยากเสี่ยง และคิดว่ายอมเป็นเหยื่ออารมณ์ของดิลลอน อาจดีกว่า
(*ภาพประกอบอยู่ บนสุดของบทความ)
แบรี่ไปเยี่ยมพ่อที่เรือนจำ เล่าว่าลูกรู้จักแฟลช ผ่านการทำหลายคดีที่เกี่ยวข้อง
แบรี่หยิบประเด็นวายร้าย กร่างใส่ชาวเมือง เพื่อล่อฮีโร่ออกมาของเดอะ ท็อป, ขึ้นสู่บทสนทนา
เขาเสนอความเห็นว่า บางทีถ้าไม่มีแฟลชแต่แรก เมืองคงปลอดภัยกว่านี้
แต่ป๊ะป๋าแย้งว่า โลกที่เราอยู่นี่ต่อให้ไม่มีแฟลช, ไอ้พวกซูเปอร์ผู้ร้ายก็โผล่
แบรี่ฟังแล้วจึงขอคำแนะนำ โดยการปรึกษาป๊าว่า, ลูกอยากบอกไรสักอย่างกับแฟลช และทำให้เขาไม่คิดมอบตัว
พ่อแบรี่เลยโอ่ว่า แฟลชควรเรียนรู้จากบุตรข้า, ที่ไม่กี่ปีมานี้ เผชิญปัญหาเยอะกว่าคนส่วนใหญ่
แต่ยังผ่านมาได้อย่างเข้มแข็ง ไม่ย่อท้อ
ฉากตัดสู่จัตุรัสของนครเซ็นทรัล, นายกเทศมนตรีของเมืองชื่อ ธอมป์สัน (Thompson)
เป็นตัวแทนราษฎร เข้าเจรจากับเดอะ ท็อป, หลังผ่านพ้นเวลา 24 ชั่วโมง
ปรากฏว่าถึงจะสุมหัวปรึกษากันแล้ว แต่ผู้คนยืนกรานจะแสดงจุดยืน เข้าข้างฮีโร่, ไม่ประกาศเรียกเดอะ แฟลช ออกมามอบตัว
เมื่อเห็นทุกคนแข็งข้อ ดิลลอนจึงอัญเชิญ ลูกข่างยักษ์ทั้ง 4 อีก
แบรี่ผู้ได้รับกำลังใจจากบิดา และชาวเซ็นทรัลซิตี้เต็มพิกัด
พุ่งปะทะเดอะ ท็อปอย่างไร้ความลังเล ด้วยคาถาแยกเงา
แบรี่ปราบไอ้ลูกข่างสำเร็จ แบบไร้ความผิดพลาด, บรรดาฝรั่งมุงจึงปลอดภัยดี
คนที่ด่าใส่คราวก่อน งวดนี้ก็ประกาศว่า, เค้าไม่ถือโทษ โกรธตัวเองแล้วน้า
ฟากลูกข่างยักษ์เมื่อไร้ดิลลอนคุม ก็เป็นแค่เป้าโจมตีที่หวานหมู ของชายผู้เร็วที่สุด
พอจบเรื่อง, แบรี่แวะไปขอบคุณพ่อ ถึงห้องขังในคุกด้วย (แบบใส่ชุดแฟลช แอ๊บเป็นเดอะ แฟลช)
COMMENTS