นอกจากตัวละครและพหุจักรวาล, แกนหลักของ Multiverse of Madness ก็คือสิ่งที่เรียกว่าดาร์คโฮลด์ (Darkhold) ซึ่งเป็นคัมภีร์มนตร์ดำ อันเคยปรากฏ...
นอกจากตัวละครและพหุจักรวาล, แกนหลักของ Multiverse of Madness
ก็คือสิ่งที่เรียกว่าดาร์คโฮลด์ (Darkhold) ซึ่งเป็นคัมภีร์มนตร์ดำ
อันเคยปรากฏโฉม ณ ซีรีส์ของช่อง Disney+
ปัจจุบันสถานะความเป็นเนื้อหาหลัก (Canon) ของซีรีส์ MCU ยุคก่อนดิสนีย์เปิดช่องสตรีมมิ่งเอง, ยังชวนกังขาอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตาม, หากพิจารณาความจริงของ Darkhold ที่เกี่ยวข้องกับภูเขาแห่งหนึ่ง ประกอบ
ควรถือว่าหนังสือเจ้าปัญหา, เคยป่วน MCU มาหลายหน จนปาเข้าไปตั้ง "สี่รอบ" แล้วจ้า
ทั้งใน Agents of S.H.I.E.L.D., Runaways, WandaVision และ Doctor Strange 2
**จากนี้มีสปอยล์ คอนเทนท์ของ MCU ทั้งสี่เรื่อง**
ประวัติจากคอมิค
ก่อนจะพิมพ์ถึงคัมภีร์เวอร์ชั่น MCU ขอย้อนไปเท้าความถึง
เรื่องหนังสือแห่งศาสตร์มืด ตามที่เว็บไซต์ทางการของมาร์เวล (marvel.com) ระบุเสียก่อน
Darkhold มีชื่อเรียกอื่นอีก เช่น หนังสือของผู้ถูกสาปแช่ง (Book of the Damned) หรือตำราแห่งบาป (Book of Sins)
มันคือบันทึกอันเก่าแก่แลชั่วร้าย, บรรจุคาถามืดที่ทรงพลัง และฤทธานุภาพสูงสุด เอาไว้มากมาย
ว่ากันว่าผู้ใดได้อ่าน จักต้องสังเวยจิตใจ... ไม่ก็จิตวิญญาณเสมอ
ต้นกำเนิดของคัมภีร์ สืบย้อนไปได้นานถึง หลายพันล้านปี
เมื่อเทพเจ้ายุคเก่านาม คะธอน (Elder God Chthon) ดำริว่า
ควรจารึกความรู้ด้านศาสตร์มืดของตน ลงบนแผ่นหนัง (ที่ทำลายไม่ได้)
เหล่าคาถาที่น่ารังเกียจ และน่าสะพรึงกลัวสุดขีดขั้นจินตนาการ บนบันทึกดังกล่าว
ถูกคธอน หย่อนทิ้งไว้บนโลก เป็นการปักหมุด
เพื่อเขาจะได้ใช้ต่างช่องทาง, สร้างอิทธิพลต่อมิติของมนุษย์ ในภายหลัง
คัมภีร์ของคธอน, เปลี่ยนมือผู้ถือครอง และก่อผลกระทบต่อโลกหลากยุคหลายสมัย
เช่น ถูกนำไปใช้ผลิตผีดูดเลือด (แวมไพร์) ตนแรก, กักขังปีศาจร้าย หรือสร้างมนุษย์หมาป่า (Werewolf)
บรรดาคนดังของมาร์เวล เช่น เรดสกัลล์, นิค ฟิวรี่, ด็อกเตอร์ดูม หรือบารอนซีโม่
ต่างก็เคยข้องแวะ (หรือพยายามจะข้องแวะกับมัน) ในทางใดทางหนึ่ง
Agents of S.H.I.E.L.D.
จัดเป็นเวลาหลายต่อหลายปี ที่ผู้คนตามหาดาร์คโฮลด์, รวมถึงโยฮัน ชมิดท์ (เรด สกัลล์) และนิค ฟิวรี่
แต่ครั้งแรกที่ตำรามนตร์ดำ โผล่มาก่อกวน MCU ให้ผู้ชมเห็น (ตามลำดับการเผยแพร่ของเนื้อหา) คือในซีรีส์ Agents of S.H.I.E.L.D.
เมื่อโจเซฟ และลูซี่ บาวเออร์ (Joseph and Lucy Bauer) ค้นพบมัน ณ ชั้นใต้ดินของบ้านที่ถูกทิ้งร้าง
สามีภรรยาคู่นี้กำลังพยายาม ผลิตเครื่องจักรกำเนิดอนุภาคควอนตัม
อยู่ที่สถาบันวิจัยชื่อโมเมนตัมแล็บ (Momentum Alternative Energy Laboratories)
เป้าหมายสำคัญคือ การผลิตเครื่องจักรแหกกฎฟิสิกส์, ที่สร้างสสารขึ้นมาได้จากความว่างเปล่า
แต่ดูเหมือนความฝันนั่น อาจไม่มีวันไปถึง, หากไม่พึ่งสิ่งที่อยู่นอกเหนือ ตำราวิทยาศาสตร์พื้นฐาน
หนังสือรวมคาถา (Book of Spells หรือก็คือดาร์คโฮลด์นั่นแหละ) ช่วยให้สมปรารถนา
โดยการดึงพลังจากต่างมิติมาใช้งาน (คล้ายการกระทำของพวกจอมเวทใน Doctor Strange)
แต่ต่อมาหนังสือก็เริ่ม บั่นทอนจิตใจของพวกเขา เช่นเดียวกะอีไล มอร์โรว์ (Eli Morrow) เพื่อนร่วมงาน
จึงเกิดเรื่องวุ่นวายตามมา ก่อนเหล่าเจ้าหน้าที่ชิลด์จะต้องช่วย เคลียร์ปัญหา
หลังเก็บกู้ดาร์คโฮลด์, ทีมชิลด์ที่นำโดยฟิล โคลสัน พยายามเก็บรักษามัน
แต่คัมภีร์ศาสตร์มืดยังไม่ยอม หยุดก่อเรื่องวายป่วง
ด้วยการครอบงำพันธมิตรของชิลด์... จนเกิดเหตุยื้อแย่งหนังสือรวมคาถาซ้ำ
สุดท้ายจึงต้องเป็นหน้าที่ของ ซูเปอร์ฮีโร่ร่างสถิตแห่งวิญญาณแค้น
"โกสต์ไรเดอร์" เกื้อหนุนชิลด์ ในภารกิจชิงหนังสือ
พอสำเร็จแล้วจึงเปิดประตูสู่นรก และเดินหายเข้าไปโดยถือมันไว้ในมือ
เพื่อยุติการทำลายชีวิตผู้บริสุทธิ์ ของคัมภีร์จอมป่วน
Runaways
ดาร์คโฮลด์ ควรติดแหงกในภพอื่น อยู่กับโกสต์ไรเดอร์แล้วแท้ ๆ
แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า จู่ๆ มันดันไปโผล่ แถวซีรีส์ Runaways โดยไร้คำอธิบายอันชัดเจนใด ๆ
ว่าอีท่าไหน แม่มดตัวร้ายอย่างมอร์แกน เลอ เฟย์ (Morgan le Fay) จึงครอบครองมันอยู่
มอร์แกน เลอ เฟย์ คือแม่มดผู้อาศัยในช่วงยุคกลาง ของทางยุโรป
หล่อนคือ อริตัวฉกาจ ของกษัตริย์อาเธอร์ผู้เป็นตำนาน
ก่อนถูกขังในมิติมืด (Dark Dimension) และค้างอยู่นั่นหลายศตวรรษ
เธอหาทางหลุดพ้นการจองจำอันแสนนานได้, ด้วยการหลอกล่อแม่มดยุคใหม่แบบนิโค มิโนรุ (Nico Minoru)
มอร์แกนที่ถูกปลดปล่อย & ถือครองดาร์คโฮลด์ พยายามรวมมิติมืดเข้ากับโลก
แต่แผนร้ายครั้งใหญ่ของหล่อน โดนหยุดยั้งโดยเหล่าซูเปอร์ฮีโร่วัยรุ่น (Runaways) กับพันธมิตร
แถมถูกขับไล่ไสส่ง กลับสู่มิติมืดอีกหน
WandaVision
อีกครั้งที่ดาร์คโฮลด์ ซึ่งไม่ควรอยู่บนโลกแล้ว ดันโผล่มาแบบไร้คำชี้แจง
รู้ตัวอีกที แม่มดซาร์เลม/อกาธ่า ฮาร์คเนสส์ ก็มีคัมภีร์มนตร์ดำ
และหนังสือมันชี้นำ ให้หล่อนเดินทางสู่เมืองเวสต์วิว
ด้วยการแสดงคำทำนาย เกี่ยวกับแม่มดแดง (สกาเล็ตวิช) ผู้พลังเวทสูงส่งเหนือล้ำ เหลือกำหนด
อกาธาผู้ทะนงตนว่า ประสบการณ์ความรู้ฉัน เยอะกว่าจม, ท้าดวลมนตรากับ วานด้า แม็กซิมอฟฟ์
ก่อนจะพลาดท่าแพ้พ่าย, โดนล้างสมองแปรสภาพสู่ เบี้ยล่างของวานด้า
หนังสือของผู้ถูกสาปแช่งเอง ก็เปลี่ยนมือเจ้าของ, สู่แม่มดแดง ผู้มีพลังเปลี่ยนแปลงความจริง
สกาเล็ตวิชยิ่งทรงพลังกว่าเดิม หลังจากเปิดมันอ่าน และเรียนรู้เนื้อหา
Doctor Strange in the Multiverse of Madness
หลังปล่อยซีรีส์ 3 เรื่อง ผลัดกันใช้ดาร์คโฮลด์ เป็นสารตั้งต้นของเหตุการณ์ตามใจชอบ (แถมเปลี่ยนหน้าตาของคัมภีร์)
จนชวนให้นึกว่า ทั้งสามกรณีไม่เกี่ยวข้องกัน, ซีรีส์ยุคก่อน Disney+ น่ะ อยู่คนละจักรวาล กับเส้นเวลาหลักของ MCU
แต่ดูเหมือนหนังหมอแปลกภาคสอง จะบอกว่าเร็วเกินไป สำหรับการด่วนสรุปเช่นนั้น
ณ ช่วงหนึ่งของภาพยนตร์, คัมภีร์มนตร์ดำดันโดนทำลาย ด้วยการเสียสละยอมพลีชีพ ของจอมเวทรายหนึ่ง
สกาเล็ตวิชซึ่งยังใช้ดาร์คโฮลด์ ทำตามความปรารถนาของตนไม่สำเร็จ
จึงบีบคั้นให้มหาจอมเวทแห่งคามาร์ทาจ, ยอมเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับดาร์คโฮลด์เพิ่มเติม
และได้ความว่า เดิมทีคะธอนสลักคาถาของตน บนวิหารที่ตั้งอยู่เหนือยอดเขาวันดากอร์ (Wundagore)
คัมภีร์ที่สกาเล็ตวิช ยึดจากอกาธ่า, เป็นเพียง 'สำเนา' ซึ่งคัดลอกผ่านจารึก มาอีกทอดต่างหาก
เท่ากับว่าดาร์คโฮลด์ทั้งหมด ที่เคยปรากฏใน Agents of S.H.I.E.L.D., Runaways, WandaVision... อาจเป็นสำเนาทั้ง 2 (หรือ 3 เล่ม)
และถูกคัดลอกจากต้นฉบับ (จารึกบนภูเขา) 2 หรือ 3 รอบ แบบต่างกรรมต่างวาระ
การเขียนบทเช่นนี้ของภาพยนตร์ ส่งผลให้ทุกอย่างยังคง เชื่อมโยงถึงกัน
แต่ปัญหาคือ มันอาจมีสำเนามากกว่านี้, และไม่วายก่อเหตุโกลาหลต่อได้ แบบไร้จุดสิ้นสุด
เพื่อยุติวงจรดังกล่าว, สกาเล็ตวิชผู้สามารถ สร้างผลกระทบข้ามจักรวาล
กลับใจและทำลายดาร์คโฮลด์ทั้งมวล (ทุกจักรวาล) ไปแล้ว ในตอนจบของ Multiverse of Madness
เราจึงไม่น่าเห็นทีมเขียนบทของมาร์เวล ทำตัวนึกอะไรใหม่ไม่ออก
และหยิบไอ้ตำรามนตร์ดำนี่ มาเล่นซ้ำต่อจนช้ำละ
แต่ก็มี ความเป็นไปได้อื่นๆ หลงเหลือเสมอ ไม่รู้จบแหละ
เช่น ซีรีส์ภาคแยกของอกาธา (Agatha: House of Harkness) ซึ่งยังไม่ทราบวันฉาย
อาจย้อนอธิบายว่าหล่อน มีดาร์คโฮลด์ในครอบครองได้อย่างไรอยู่
และอาจมีวายร้ายสักคน ย้อนอดีตไปเอาคัมภีร์ที่ยังไม่ถูกทำลาย
มาสร้างความวายป่วง ณ ช่วงปัจจุบันอีกก็ได้, ใครจะรู้ละ ?
COMMENTS