Scream คือแฟรนไชส์แนวเชือดสยองสไตล์อเมริกัน ซึ่งประกอบด้วยภาพยนตร์ (ปัจจุบันมี 5), ซีรีส์, เกม และสินค้าที่เกี่ยวข้อง เควิน วิลเลียมสัน จั...
Scream คือแฟรนไชส์แนวเชือดสยองสไตล์อเมริกัน ซึ่งประกอบด้วยภาพยนตร์ (ปัจจุบันมี 5), ซีรีส์, เกม และสินค้าที่เกี่ยวข้อง
เควิน วิลเลียมสัน จัดเป็นผู้ดูแลขาประจำ, เพราะเขียนบทให้ภาค 1, 2, 4 และอำนวยการสร้างอีกหลายครั้ง
'เวส คราเวน' คือผู้รังสรรค์หลัก เนื่องจากผลิตให้ตั้งสี่ภาค, และถ้าไม่ติดว่าแกเสียไปแล้วเมื่อค.ศ. 2015
ก็น่าจะไม่ต้องเปลี่ยนมือผู้กำกับ, เป็นแมตต์ เบตติเนลลี-โอลพิน กับไทเลอร์ กิลเลตกระมัง
เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของ Scream คือการล้อขนบธรรมเนียม ของผลงานแนวเดียวกัน
เช่น ให้ตัวละครในเรื่องแจกแจง 'กฎ' ของหนังเชือดสยอง ว่าทำแบบนั้นแบบนี้แล้วเดี๋ยวต้องซี้แหง
ทุนสร้างก็ต่ำ, ทั้ง 5 ภาครวมกันยังแค่แถว 140 ล้าน แต่รายรับรวมทั้งหมด (ยังไม่รวมภาคล่าสุด) คือเกิน 600 ล้านดอลลาร์
สี่ภาคแรกฉายปี 1996, 1997, 2000, 2011 ตามลำดับ และเนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกับฉบับซีรีส์
ศูนย์กลางหลักของเรื่องราว คือสตรีนาม "ซิดนีย์ เพรสคอตต์" ที่น่าจะติดอันดับบนๆ ตลอด
หากมีคนต้องการจัดอันดับ, ตัวละครหญิงที่ดวงซวยจัดหนัก บนโลกภาพยนตร์
เพราะเจอฆาตกรโรคจิต สวมหน้ากากแบบเดียวกัน หลายต่อหลายคน
ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกัน มาหลอกหลอนทุกภาค (แถมชะตาคนใกล้ตัวหล่อนก็ใช่จะดีอีก)
ภาคห้าซึ่งมาเข้าโรงต้นปี 2022 นี่, ซิดนีย์คนเดิมยังคงโดนลาก กลับมาพบความซวยเช่นเดิม
ถึงหนังจะเป็นของต่อจากเก่า แต่นี่ก็ทิ้งห่างภาคสี่นานเอาการ
คนที่ไม่เคยดูสักภาคคงมีดาษดื่น, ส่วนคนเคยดูคงลืมกันหมดละ
ฉะนั้นขอเชิญผู้ชมหน้าเก่ามาทบทวนแบบผ่าน ๆ
และชวนผู้ชมหน้าใหม่มาสัมผัสสักเล็กน้อย (ถ้าไม่กลัวสปอยล์ภาคก่อนๆ แบบจัดเต็มน่ะนะ)
***จากนี้สปอยล์สครีม ภาค 1 ถึง 4***
ก่อนอื่นเลยคือตัวจริงเจ้าฆาตกรต่อเนื่อง ของแฟรนไชส์นี้, จะเป็นใครในหมู่ตัวละครแต่ละภาค ก็ได้หมด
เพราะชุดดำชนิดสวมคลุมทั้งตัว กับหน้ากากผีสีขาวของโกสต์เฟซ (Ghostface) หาซื้อมาใส่อย่างง่าย, ในโลกของ Scream
ส่วนตัวเรื่องราวต้องย้อนเล่า ณ ก่อนเนื้อหาตามท้องเรื่องของภาคแรกดำเนิน สักปี
มัวรีน (Maureen) มารดาของซิดนีย์ เพรสคอตต์ โดนฆาตกรรม
ผู้ถูกกล่าวหาว่าลงมือคือ 'คอตตอน เวียรี่' ซึ่งได้รับการบ่งชี้ว่าบริสุทธิ์ทีหลัง
ฆาตกรตัวจริงคือใคร เป็นสิ่งที่กระจ่างในปีถัดไป
อย่างไรก็ตาม แม้พบความสูญเสีย, แต่ในระหว่างนั้นซิดนีย์ ทำได้เพียงก้าวไปข้างหน้า
ใช้ชีวิตสามัญต่อกับแฟนสุดหล่อนาม 'บิลลี่ ลูมิส' (อย่าเพิ่งสงสาร, อิจฉา หรือหมั่นไส้)
Scream (1996)
หลังจากเจ้าฆาตกรสังหารแฟน, เคซี่ เบ็คเกอร์ (ดรูว์ แบร์รี่มอร์) ก็เจอเจี๋ยนเอา ขณะอยู่บ้านลำพัง
ความตายของหล่อนเขย่าขวัญ เหล่าผู้พำนักในเมืองเล็กๆ อย่าง 'วูดส์โบโร่'
ซิดนีย์เองก็ชักหวั่น, เพราะวันครบรอบการตายของมารดา ใกล้เวียนมาถึง
ซ้ำร้ายยังเจอโทรศัพท์โรคจิต ต่อสายมาก่อกวน
ซิดนีย์เดาว่าคนโทรแกล้งคือแฟนจ๋า (บิลลี่), แต่ท่าทางไม่ใช่หรอก
เพราะต่อมาเขาคือผู้ต้องสงสัยคดีปลิดชีพเคซี่ เลยโดนจับ
ทว่าโทรศัพท์ก่อกวน, ยังคงมีมาต่อ ไม่ยอมหยุด
'สตู' เพื่อนบ้องตื้นของบิลลี่ และผู้นิยมชมชอบผลงานแนวเชือดสยอง
จัดปาร์ตี้ในบ้านของพ่อแม่ เพื่อฉลองการปิดโรงเรียนมัธยมท้องถิ่น (เนื่องจากมีเหตุฆาตกรรม)
ขณะที่นักข่าวหญิง 'เกล เวทเทอร์ส' พยายามสืบสวนคดี เหมือนผู้ช่วยนายอำเภอ 'ดิวอี้ ไรลีย์'
ทั้งสองได้เจอะเจอ และเริ่มปิ๊งกัน, ทว่าดันถูกขัดจังหวะ
โดยการลงมือสังหารน้องสาวของดิวอี้ กับเพื่อนซี้ของซิดนีย์, อย่างน่าสยดสยอง
มินานหลังจากนั้น ความจริงปรากฏว่าฆาตกรมีมากกว่าหนึ่ง
ทั้งบิลลี่กับสตูร่วมมือกัน แถมพวกนี้คือคนพรากมารดา ไปจากซิดนีย์ด้วย
ซิดนีย์พยายามปกป้องตัวเอง และลงเอยที่จำต้องฆ่าสตูกับบิลลี่
โดยคนหลังนี่ปราบมันสำเร็จ เพราะความช่วยเหลือของเกล
Scream 2 (1997)
ตามเนื้อเรื่องคือ 2 ปีให้หลัง, ซิดนีย์เริ่มต้นใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย
แต่โชคร้าย (ไม่หน่อย) ที่ฆาตกรรมต่อเนื่องครั้งใหม่เอง ก็เริ่ม
ครั้งแรกเกิดขณะคู่รักมหาลัยคู่หนึ่ง ไปรับชมรอบเปิดตัว, ของหนังเรื่อง "สแต็บ" (Stab) ที่สร้างจากเหตุสะเทือนขวัญในวูดส์โบโร่
ก่อนลางมรณะ จะลามสู่คนรอบๆ ตัวของซิดนีย์ทั้งหลาย, แม้กระทั่งเดเร็ค (แฟนใหม่ซิดนีย์) เองก็มิรอด
ผู้ร้ายคราวนี้คือมิคกี้ (เพื่อนสนิทของเดเร็ค) กับเด็บบี้ (แม่ของบิลลี่/แฟนเก่านางเอก) ที่เพิ่งโผล่มาดื้อ ๆ
เด็บบี้ต้องการแก้แค้นให้ลูกชาย ผู้ตายเพราะซิดนีย์ในภาคก่อน
ส่วนมิคกี้ไล่เชือดคนเพราะเด็บบี้จ้าง, และกะว่าเสร็จงานจะมอบตัว
แล้วแก้ต่างในชั้นศาลว่า เขาลงมือเพราะได้รับอิทธิพล จากความรุนแรงในภาพยนตร์, เพื่อลดโทษภายหลัง
แต่เด็บบี้หักหลัง สังหารอีตามิคกี้
และเด็บบี้ถูกคอตตอน เวียรี่ (Cotton Weary) ผู้พ้นผิดแล้ว จัดการ
Scream 3 (2000)
ซิดนีย์รับอาชีพที่ปรึกษาของสายด่วน สำหรับร้องเรียนเรื่องความรุนแรงต่อสตรี, แต่ใช้ชีวิตสันโดษและหวาดระแวง
ด้านคอตตอน เวียรี่ กลายเป็นนักพูดที่ประสบความสำเร็จ, และคบอยู่กับแฟนสาว
แต่ชีวิตดีได้ไม่ยาวนัก เพราะโกสต์เฟซคนใหม่ ผุดมาถามหาที่อยู่ของซิดนีย์
พอคอตตอนไม่ยอมปริปาก, โกสต์เฟซก็บุกบ้าน แล้วดับลมหายใจของทั้งเขาและแฟน
นี่คือการเปิดฉากฆาตกรรมต่อเนื่อง ณ ถิ่นฮอลลีวูด แถวกองถ่ายภาพยนตร์เรื่อง Stab ภาค 3
ระหว่างที่โรมัน บริดเจอร์/ผู้กำกับหนัง ตื่นเต้นเพราะได้เจอะเหล่าผู้รอดชีวิตอย่างเกล, ดิวอี้ และซิดนีย์ ตัวเป็น ๆ
ดาราของโรมันทั้งหลาย ต่างทยอยโดนเก็บกันไปเรื่อย ๆ
ทว่าช่วงไคลแม็กซ์กลับเฉลยแบบหักมุม ว่าโรมันคือฆาตกรตัวจริงเฉย
โรมันคือพี่ชายต่างบิดาของซิดนีย์ และหมอนี่คือผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง ฆาตกรรมต่อเนื่องทั้งหมดที่ผ่านมา (ใน Scream ภาค 1-3)
ทว่าโรมันก็สิ้นท่า เพราะซิดนีย์ร่วมมือกับดิวอี้
Scream 4 (2011)
หนึ่งทศวรรษผันผ่านหลังเหตุการณ์ใน Scream 3 และเข้าสู่วาระครบรอบ 15 ปี ของโศกนาฏกรรมดั้งเดิมที่วูดส์โบโร่
เป็นจังหวะเหมาะ สำหรับการคืนสู่บ้านเกิดของซิดนีย์, เพื่อโปรโมทเรียกยอดขาย หนังสือสร้างแรงบันดาลใจของหล่อน
แต่ดันกลายเป็น จังหวะนรกแทนเสียนี่, เนื่องจากโกสต์เฟซกลับมาอีกหน และออกดั้นด้นล่าเหยื่อรุ่นใหม่ ๆ
นอกจากเหล่าตัวประกอบดวงกุด, กระทั่งป้าของซิดนีย์ และเทรเวอร์ (แฟนของลูกพี่ลูกน้อง ของซิดนีย์) ยังพลอยติดร่างแห
จิล/ลูกพี่ลูกน้องของซิดนีย์ คือตัวละครหญิงหน้าใหม่
ที่ร่วมผจญภัยผ่านเส้นทางหฤโหด กับนางเอกเก่าจนสุดทางได้, ไชโย...
แต่โอ้ไม่! นั่นคือสิ่งที่จิลจัดฉาก, วางแผนไว้ให้ผู้อื่น มองเช่นนั้นต่างหาก
จิลทรยศโกสต์เฟซอีกคน (แฟนหนุ่มลับ ๆ), และเผยโฉมหน้าอำมหิตของตน ต่อซิดนีย์
แรงจูงใจของจิลล์คือความริษยา ต่อนางเอกขาประจำของแฟรนไชส์
เธออยากเด่นดังในฐานะผู้รอดชีวิต จากเหตุร้ายนองเลือดบ้าง...
อย่างไรก็ตาม จิลดันโดนซิดนีย์เก็บซะได้ ในท้ายที่สุด
แหล่งอ้างอิง: screenrant
COMMENTS