ภาพยนตร์ชุดคู่หูขวางนรก (Bad Boys) คือหนังแนวตำรวจคู่หู ซึ่งเคยประสบความสำเร็จเพราะความตลกปนมันส์ ภายใต้การแสดงนำของสองนักแสดงผิวสีอย่างวิล...
ภาพยนตร์ชุดคู่หูขวางนรก (Bad Boys) คือหนังแนวตำรวจคู่หู ซึ่งเคยประสบความสำเร็จเพราะความตลกปนมันส์
ภายใต้การแสดงนำของสองนักแสดงผิวสีอย่างวิล สมิธ กับมาร์ติน ลอว์เรนซ์
โดยฝีไม้ลายมือของผู้กำกับจอมระเบิดภูเขาเผาเมืองแบบไมเคิล เบย์
แต่หลังจากคลอด 2 ภาคแรกออกฉายเมื่อค.ศ. 1995 กับ 2003
คนดูก็ต้องรอนานประมาณ 15 ปี กว่าที่จะมีโอกาสได้รับชมภาคสาม
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันถึงได้ต้องรอนานซะขนาดนั้น ? ก่อนหน้านี้ทางผู้สร้างมัวทำอะไรกันอยู่ ? ไม่กลัวทิ้งห่างยาวจัดจนคนลืมว่าเคยมีหนังชุดนี้อยู่หรือไร ?
บทความนี้จะพาผู้อ่านย้อนรอยไปสำรวจดู เส้นทางการกลับมาของคู่หูขวางนรกนั่น...
ทว่าก่อนอื่น ขอชี้แจงให้ชัดว่า Bad Boys ภาค 1-2 ไม่ใช่ภาพยนตร์คำวิจารณ์ดี
ภาค 1 ซึ่งฉายปี 1995 คือหนังทุนต่ำ 19 ล้านดอลลาร์ สองดารานำเวลานั้นใช่ว่าชื่อดังกระฉ่อน
แต่ด้วยความโดนบางอย่างของมัน ก็ทำให้รายได้รวมเด้งไปอยู่ที่ 141 ล้าน ทำกำไรง๊ามงามซะงั้น
8 ปีให้หลัง ทั้งสมิธ, ลอว์เรนซ์, ไมเคิล เบย์ พร้อมใจกันกลับมา โดยนักวิจารณ์ต่างประเทศพากันยี้ซะส่วนมาก
เนื่องจากมีเพียง 23% จากพวกเขาเหล่านั้นในเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ที่ให้หนังอยู่ในเกณฑ์ดี
แต่พวกผู้ชมดูจะไม่เห็นด้วยกระมัง เพราะรายรับรวมทั่วโลกของภาคสองคือ 273 ล้าน
จึงไม่แปลกถ้าตอนนั้นทางผู้สร้างอยากผลิตภาค 3 ต่อแทบทันที
ทางวิล สมิธเองก็ดูจะเห็นด้วย เขาเคยร้องขอตอนค.ศ. 2008 ทำนองว่าป๋าเบย์ครับ ช่วยยอมกลับมากำกับภาคถัดไปทีเถิด
"พวกเราต้องการ Bad Boys 3 นะ ผมเพิ่งดู Bad Boys II ร่วมกับลูกชาย
พร้อมโม้ว่าไม่มีทางที่หนังเรื่องไหน จะสร้างฉากเปิดเรื่องได้ดีเท่านี้อีกแล้ว
นี่มันฉากเปิดหนังที่เจ๋งสุดตลอดกาลชัดๆ !"
เจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์/ผู้อำนวยการสร้างหนังสองภาคแรกเอง ก็เคยระบุตอนปี 2014 เช่นกันว่าอยากใช้บริการเบย์ต่อเป็นรอบที่ 3
"เราจะยินดีมากหากไมเคิล เบย์มาทำต่อ [แต่] เวลานี้เขาดูจะยุ่งมาก เลยได้เพียงคาดหวังว่าเราจะหาทางล็อคแขนเขาไว้ แล้วลากเค้าเข้ามาไหว"
อย่างไรก็ตาม สตูดิโอโซนี่เจ้าของโครงการ ดูจะกังวลกับปัญหาด้านงบประมาณ
ราคาค่าตัวของพวกนักแสดงนำ กับผู้กำกับอาจทำให้ความเสี่ยงสูงเกินไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากเบย์ประสบความสำเร็จกับ Transformers ในปี 2007 และสมิธกลายเป็นดาราแม่เหล็กแถวหน้าของวงการ
ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่ได้ปิดประตูทุกความเป็นไปได้ เพราะภาพยนตร์ 2 ภาคพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าแฟรนไชส์นี้คือตัวทำกำไรสำหรับสตูดิโอ
ล่วงเข้าปี 2015, นักเขียนบทหลายคนได้รับการเกณฑ์เข้ามาพัฒนาโครงการ
แต่ใช่ว่าค่ายหนังพยายามเดินหน้าจริงจังมากขึ้นแล้วทุกอย่างจะลงตัวไว
มีอุปสรรคบางอย่างเกิดขึ้นตอนค.ศ. 2017 สมิธจึงหันไปเซ็นสัญญารับเล่นบทจินนี่/ยักษ์ฟ้าในตะเกียง ของ Aladdin ฉบับคนแสดงของดิสนีย์
ส่วนมาร์ติน ลอว์เรนซ์ที่คิวว่างอยากเล่นอยู่ ก็ออกอาการตัดพ้อท้อใจว่าสงสัยหนังคงอดสร้าง
ตอน 2017 บทหนังน่าจะค่อนข้างพร้อมแล้ว หลังสตูดิโอจ้างผกก./ผู้เขียนบทอย่างโจ คาร์นาฮาน ที่อยู่เบื้องหลังผลงานแบบ Narc, The Grey และ The A-Team มาเติมเต็มพลังงานใหม่ให้แก่แฟรนไชส์
เพราะมีข่าวอยู่ว่า Bad Boys 3 จะเริ่มถ่ายทำหลังสมิธจบงานกับ Suicide Squad ในปี 2016, ตั้งกำหนดฉายกันที่มกราคม 2018 ก่อนเปลี่ยนแผนจะย้ายไปเผยแพร่ตอน 9 พฤศจิกายน 2018
(สปอยล์: กำหนดฉายดังกล่าวจะไม่มีวันได้เกิดขึ้นจริง)
เดือนมีนาคม 2017, Bad Boys 3 ประสบปัญหาอีกครั้งหลังคาร์นาฮานถอนตัวจากโครงการ
ด้วยสาเหตุอย่างเป็นทางการสุดคลาสสิค "ความเห็นต่างด้านทิศทางการสร้างผลงาน"
ส่วนสาเหตุแบบไม่เป็นทางการซึ่งไม่เคยได้รับการยืนยัน อาจเป็นเพราะทิศทางสร้างสรรค์ผลงานของเขาขัดแย้งกับวิล สมิธ
เพราะคาร์นาฮานเคยให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนเมษายนปี 2019 ว่าเขายังคงให้ความนับถือสมิธอย่างสูงเสมอ
แม้หนังที่เค้าอยากผลิตไม่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของดาราชื่อดัง
"ผมรักวิล, เขาคือบุรุษชั้นยอด...ผมแค่ตระหนักว่าตัวเองไม่เหมาะ
และมองว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ตอนนั้น จะทำให้การกลับมาอีกครั้งไม่ดีเท่าที่ควร
ผมมัวตื่นเต้นกับสิ่งที่ต้องการนำเสนอ จนไม่ได้ใส่ใจเนื้อเรื่องมากพอ แม้สตูดิโอจะให้ทำตามใจชอบก็เถอะ"
"ขอย้ำว่านี่ไม่ใช่การโยนบาปให้วิล--เมื่อหน้าของคุณอยู่บนโปสเตอร์, ชื่อของคุณปรากฏบนโปสเตอร์, คุณก็จำเป็นต้องแน่ใจว่าผลงานมันออกมาในแบบที่ต้องการ"
โซนี่ไม่ยอมถอดใจ พวกเขาจ้างคู่หูชาวเบลเยี่ยม/อดิล เอล อาบี กับบิลัล ฟัลลาห์
ซึ่งสร้างชื่อจากซีรีส์อาชญากรรมดราม่าเรื่อง Snowfall ที่ฉายทางช่อง FX ของอเมริกา มากำกับหนัง
และเรียกคริส เบรมเนอร์ มาเขียนร่างใหม่ให้บทภาพยนตร์
จนในที่สุดผู้คนก็ได้รับรู้ว่าคู่หูขวางนรกกลับมาแน่ เมื่อสมิธ กับลอว์เรนซ์ประกาศข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์ในเดือนพฤศจิกายน 2018
ฉะนั้นหลังผ่านอุปสรรคขวากหนามนานัปการ คู่หูตลอดกาลก็กลับมาขวางนรกอีกครั้งในเดือนมกราคม ค.ศ. 2019 จนได้
และสำหรับภาค 4 คงไม่ต้องรออีกสิบยี่สิบปีซ้ำรอยเดิม เพราะคริส เบรมเนอร์ เริ่มพัฒนาบทภาพยนตร์ภาคใหม่ไปแล้ว
ภายใต้การแสดงนำของสองนักแสดงผิวสีอย่างวิล สมิธ กับมาร์ติน ลอว์เรนซ์
โดยฝีไม้ลายมือของผู้กำกับจอมระเบิดภูเขาเผาเมืองแบบไมเคิล เบย์
แต่หลังจากคลอด 2 ภาคแรกออกฉายเมื่อค.ศ. 1995 กับ 2003
คนดูก็ต้องรอนานประมาณ 15 ปี กว่าที่จะมีโอกาสได้รับชมภาคสาม
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันถึงได้ต้องรอนานซะขนาดนั้น ? ก่อนหน้านี้ทางผู้สร้างมัวทำอะไรกันอยู่ ? ไม่กลัวทิ้งห่างยาวจัดจนคนลืมว่าเคยมีหนังชุดนี้อยู่หรือไร ?
บทความนี้จะพาผู้อ่านย้อนรอยไปสำรวจดู เส้นทางการกลับมาของคู่หูขวางนรกนั่น...
ทว่าก่อนอื่น ขอชี้แจงให้ชัดว่า Bad Boys ภาค 1-2 ไม่ใช่ภาพยนตร์คำวิจารณ์ดี
ภาค 1 ซึ่งฉายปี 1995 คือหนังทุนต่ำ 19 ล้านดอลลาร์ สองดารานำเวลานั้นใช่ว่าชื่อดังกระฉ่อน
แต่ด้วยความโดนบางอย่างของมัน ก็ทำให้รายได้รวมเด้งไปอยู่ที่ 141 ล้าน ทำกำไรง๊ามงามซะงั้น
8 ปีให้หลัง ทั้งสมิธ, ลอว์เรนซ์, ไมเคิล เบย์ พร้อมใจกันกลับมา โดยนักวิจารณ์ต่างประเทศพากันยี้ซะส่วนมาก
เนื่องจากมีเพียง 23% จากพวกเขาเหล่านั้นในเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ที่ให้หนังอยู่ในเกณฑ์ดี
แต่พวกผู้ชมดูจะไม่เห็นด้วยกระมัง เพราะรายรับรวมทั่วโลกของภาคสองคือ 273 ล้าน
จึงไม่แปลกถ้าตอนนั้นทางผู้สร้างอยากผลิตภาค 3 ต่อแทบทันที
ทางวิล สมิธเองก็ดูจะเห็นด้วย เขาเคยร้องขอตอนค.ศ. 2008 ทำนองว่าป๋าเบย์ครับ ช่วยยอมกลับมากำกับภาคถัดไปทีเถิด
"พวกเราต้องการ Bad Boys 3 นะ ผมเพิ่งดู Bad Boys II ร่วมกับลูกชาย
พร้อมโม้ว่าไม่มีทางที่หนังเรื่องไหน จะสร้างฉากเปิดเรื่องได้ดีเท่านี้อีกแล้ว
นี่มันฉากเปิดหนังที่เจ๋งสุดตลอดกาลชัดๆ !"
เจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์/ผู้อำนวยการสร้างหนังสองภาคแรกเอง ก็เคยระบุตอนปี 2014 เช่นกันว่าอยากใช้บริการเบย์ต่อเป็นรอบที่ 3
"เราจะยินดีมากหากไมเคิล เบย์มาทำต่อ [แต่] เวลานี้เขาดูจะยุ่งมาก เลยได้เพียงคาดหวังว่าเราจะหาทางล็อคแขนเขาไว้ แล้วลากเค้าเข้ามาไหว"
อย่างไรก็ตาม สตูดิโอโซนี่เจ้าของโครงการ ดูจะกังวลกับปัญหาด้านงบประมาณ
ราคาค่าตัวของพวกนักแสดงนำ กับผู้กำกับอาจทำให้ความเสี่ยงสูงเกินไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากเบย์ประสบความสำเร็จกับ Transformers ในปี 2007 และสมิธกลายเป็นดาราแม่เหล็กแถวหน้าของวงการ
ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่ได้ปิดประตูทุกความเป็นไปได้ เพราะภาพยนตร์ 2 ภาคพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าแฟรนไชส์นี้คือตัวทำกำไรสำหรับสตูดิโอ
ล่วงเข้าปี 2015, นักเขียนบทหลายคนได้รับการเกณฑ์เข้ามาพัฒนาโครงการ
แต่ใช่ว่าค่ายหนังพยายามเดินหน้าจริงจังมากขึ้นแล้วทุกอย่างจะลงตัวไว
มีอุปสรรคบางอย่างเกิดขึ้นตอนค.ศ. 2017 สมิธจึงหันไปเซ็นสัญญารับเล่นบทจินนี่/ยักษ์ฟ้าในตะเกียง ของ Aladdin ฉบับคนแสดงของดิสนีย์
ส่วนมาร์ติน ลอว์เรนซ์ที่คิวว่างอยากเล่นอยู่ ก็ออกอาการตัดพ้อท้อใจว่าสงสัยหนังคงอดสร้าง
ตอน 2017 บทหนังน่าจะค่อนข้างพร้อมแล้ว หลังสตูดิโอจ้างผกก./ผู้เขียนบทอย่างโจ คาร์นาฮาน ที่อยู่เบื้องหลังผลงานแบบ Narc, The Grey และ The A-Team มาเติมเต็มพลังงานใหม่ให้แก่แฟรนไชส์
เพราะมีข่าวอยู่ว่า Bad Boys 3 จะเริ่มถ่ายทำหลังสมิธจบงานกับ Suicide Squad ในปี 2016, ตั้งกำหนดฉายกันที่มกราคม 2018 ก่อนเปลี่ยนแผนจะย้ายไปเผยแพร่ตอน 9 พฤศจิกายน 2018
(สปอยล์: กำหนดฉายดังกล่าวจะไม่มีวันได้เกิดขึ้นจริง)
เดือนมีนาคม 2017, Bad Boys 3 ประสบปัญหาอีกครั้งหลังคาร์นาฮานถอนตัวจากโครงการ
ด้วยสาเหตุอย่างเป็นทางการสุดคลาสสิค "ความเห็นต่างด้านทิศทางการสร้างผลงาน"
ส่วนสาเหตุแบบไม่เป็นทางการซึ่งไม่เคยได้รับการยืนยัน อาจเป็นเพราะทิศทางสร้างสรรค์ผลงานของเขาขัดแย้งกับวิล สมิธ
เพราะคาร์นาฮานเคยให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนเมษายนปี 2019 ว่าเขายังคงให้ความนับถือสมิธอย่างสูงเสมอ
แม้หนังที่เค้าอยากผลิตไม่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของดาราชื่อดัง
"ผมรักวิล, เขาคือบุรุษชั้นยอด...ผมแค่ตระหนักว่าตัวเองไม่เหมาะ
และมองว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ตอนนั้น จะทำให้การกลับมาอีกครั้งไม่ดีเท่าที่ควร
ผมมัวตื่นเต้นกับสิ่งที่ต้องการนำเสนอ จนไม่ได้ใส่ใจเนื้อเรื่องมากพอ แม้สตูดิโอจะให้ทำตามใจชอบก็เถอะ"
"ขอย้ำว่านี่ไม่ใช่การโยนบาปให้วิล--เมื่อหน้าของคุณอยู่บนโปสเตอร์, ชื่อของคุณปรากฏบนโปสเตอร์, คุณก็จำเป็นต้องแน่ใจว่าผลงานมันออกมาในแบบที่ต้องการ"
โซนี่ไม่ยอมถอดใจ พวกเขาจ้างคู่หูชาวเบลเยี่ยม/อดิล เอล อาบี กับบิลัล ฟัลลาห์
ซึ่งสร้างชื่อจากซีรีส์อาชญากรรมดราม่าเรื่อง Snowfall ที่ฉายทางช่อง FX ของอเมริกา มากำกับหนัง
และเรียกคริส เบรมเนอร์ มาเขียนร่างใหม่ให้บทภาพยนตร์
จนในที่สุดผู้คนก็ได้รับรู้ว่าคู่หูขวางนรกกลับมาแน่ เมื่อสมิธ กับลอว์เรนซ์ประกาศข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์ในเดือนพฤศจิกายน 2018
ฉะนั้นหลังผ่านอุปสรรคขวากหนามนานัปการ คู่หูตลอดกาลก็กลับมาขวางนรกอีกครั้งในเดือนมกราคม ค.ศ. 2019 จนได้
และสำหรับภาค 4 คงไม่ต้องรออีกสิบยี่สิบปีซ้ำรอยเดิม เพราะคริส เบรมเนอร์ เริ่มพัฒนาบทภาพยนตร์ภาคใหม่ไปแล้ว
ที่มา https://www.digitalspy.com/movies/a30440042/bad-boys-3-release-date-delays-explained-for-life/
COMMENTS