ตลอดช่วงเวลา 10 กว่าปี, ภาพยนตร์ชุด The Fast and the Furious เปลี่ยนทั้งนักแสดงและแนวทางนำเสนออยู่เรื่อยๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ &...
ตลอดช่วงเวลา 10 กว่าปี, ภาพยนตร์ชุด The Fast and the Furious เปลี่ยนทั้งนักแสดงและแนวทางนำเสนออยู่เรื่อยๆ
แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ 'จี้ห้อยคอของดอม'
ตัวละครโดมินิค โทเรตโต (วิน ดีเซล) สวมสร้อยห้อยจี้รูปกางเขนสีเงินให้เห็นเป็นครั้งแรกในหนังภาคแรกเมื่อค.ศ. 2001
จากนั้นสร้อยก็เปลี่ยนที่อยู่บ่อยครั้ง รวมถึงค่อยๆ เพิ่มระดับความสำคัญขึ้นตามลำดับ
จี้ห้อยคอจัดเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่ดอมมีให้กับเล็ตตี้
และถือเป็นเครื่องเตือนใจว่าดอมนั้นเหมือนพระเยซูของเหล่าลูกทีม
(ตัวอย่างชี้นำก็เช่น การคืนชีพจากความตายช่วงท้ายภาค 7, ความศรัทธาที่คนรอบข้างมีต่อเขา
หรือบทพูดว่าจะไม่ทอดทิ้งคนในครอบครัวที่หันหลังให้เขา ซึ่งใจความมันละม้ายคล้ายกับประโยคหนึ่งในคัมภีร์ไบเบิ้ล)
จี้ห้อยคอปรากฏเกือบทุกภาคและมีเรื่องราวเล็กๆ ของตัวเอง จนดูราวกับนี่คืออีกตัวละครนึงของแฟรนไชส์
ซึ่งเรื่องราวของจี้ตั้งแต่เปิดตัวภาคแรกถึงภาค 8 ก็ได้ถูกรวบรวมไว้ในบทความนี้แล้ว
โดมินิค/ชายผู้เปิดร้านขายของชำและรับแต่งเครื่องรถยนต์ตามสั่ง แอบทำการออกปล้นเครื่องใช้ไฟฟ้าจากรถบรรทุกเพื่อหารายได้เสริม
และเมื่อตอนไบรอัน โอ คอนเนอร์ (พอล วอล์คเกอร์) ตำรวจสายลับ ปลอมตัวมาท้าแข่งรถด้วยที่เมืองลอสแองเจลิส ในภาพยนตร์ The Fast and the Furious ของปี 2001
ดอมก็ห้อยสร้อยกางเขนเงินบนคอให้เห็น ในฉากที่เขาสวมเสื้อยืดแขนกุดสีดำตัวเก่ง
ภาพยนตร์ภาค 2 ดอมกับสร้อยไม่มีบท
ส่วนตอนภาค 3 ที่ดอมโผล่แค่ไม่นานเท่าไหร่นั้น เขาไม่ได้สวมสร้อยไว้
ช่วงเปิดเรื่องของหนังภาค 4 (Fast & Furious ที่ฉายปี 2009) จะเห็นดอมกับลูกทีมใช้ชีวิตหนีหมายจับอยู่แถวสาธารณรัฐโดมินิกัน
คาดว่าก่อนหน้านั้นเล็กน้อย, เขาได้เข้าพิธีแต่งงานแบบเป็นส่วนตัวกับเล็ตตี้ ออร์ทิซ (มิเชลล์ โรดริเกซ) แฟนสาว
ซึ่งดอมให้บาทหลวงใช้สร้อยร้อยรอบมือของพวกเขาในพิธี แทนจุดที่ปกติคู่บ่าวสาวต้องสวมแหวนแต่งงาน
(แต่เหตุการณ์นี้คนดูไปเห็นในช่วงรำลึกความหลังของหนังภาค 7 ปี 2015 โน่น)
วกกลับมากล่าวถึงเหตุการณ์ที่ผู้ชมเจอตอนดูภาค 4 จริง, ดอมกับลูกทีมปฏิบัติภารกิจปล้นรถบรรทุกน้ำมันสำเร็จ
แต่ด้วยความที่พวกเขาใกล้โดนตำรวจสืบสาวมาถึงตัวเต็มทน
ดอมจึงตัดสินใจแยกทางกับเล็ตตี้เพื่อปกป้องเธอ และทิ้งสร้อยไว้ข้างเตียงเล็ตตี้ระหว่างเธอกำลังหลับ
เล็ตตี้กลับสู่ลอสแองเจลิส และได้ไปช่วยงานในคดีนึงของไบรอันเพื่อแลกกับการลบประวัติอาชญากรรมของดอม
อีกทั้งช่วยซ่อมรถของดอมอันพังเพราะเหตุการณ์ตอนท้ายของหนังภาค 1 ให้
เล็ตตี้ห้อยจี้ไว้กับกระจกมองหลัง และดอมมาพบมันหลังทราบข่าวเธอ 'ตาย'
จี้อยู่เป็นเครื่องประดับรถแบบนั้นเกือบตลอดเหตุการณ์ของภาค 4
ยกเว้นตอนเขาเอามันมาถือก่อนพบจีเซล ยาชาร์ (กัล กาด็อท) เพื่อให้หล่อนชี้ทางสู่ผู้รับผิดชอบการตายของเล็ตตี้
ช่วงต้นเรื่องภาค 5 (Fast Five 2011) ดอมปรากฏตัวพร้อมสร้อยและเสื้อสีดำตัวเก่งอีกครั้ง
จี้กางเขนได้แสดงตนว่ามันคอยใช้พลังเหนือธรรมชาติบางอย่าง ปล่อยออกมาคุ้มครองผู้สวมใส่
เพราะแม้ดอมขับรถพุ่งตกจากสะพานสูงลิบเหนือแม่น้ำพร้อมไบรอัน
แต่ทั้งสองก็ดันรอดแบบไม่บุบสลาย แถมสร้อยห้อยจี้ยัง 'ไม่' หลุดลอยไปตามแม่น้ำหรือหายจ้อยอีกต่างหาก
เมื่อดอมกับลูกทีมวางแผนปล้นครั้งใหญ่ในริโอ เดอ จาเนโร
ลุค ฮ็อบส์ (ดเวย์น จอห์นสัน) เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงฝ่ายการทูตสหรัฐฯ กับเอเลนา เนเวส (เอลซา พาทากี) ตำรวจท้องถิ่นหญิง พาเหรดกันไปบุกแหล่งกบดานดอม
ดอมหลบหนีสำเร็จ แต่อนิจจาสร้อยที่เกาะติดคออย่างดีคราวทิ้งดิ่งลงแม่น้ำ
คราวนี้ดันหลุดร่วงหล่นลงพื้นแบบงงๆ ซะอย่างงั้น
ดอมเสียดายสร้อยเงินถึงขนาดเสี่ยงโดนจับ บุกไปชิงคืนถึงบ้านตำรวจแบบเอเลนา และห้อยมันบนคอต่อยันจบเรื่อง
ส่วนเอเลนาที่เคยพบประสบการณ์สูญเสียรักแท้เหมือนดอม เกิดความเข้าอกเข้าใจเขา แล้วเค้าทั้งสองจึงกลายเป็นคนรักกัน
(ชะรอยความศักดิ์สิทธิ์ของสร้อย จะดลบันดาลให้ตัวเองหลุดจากคอดอม เพื่อทั้งสองจะได้พบรักกัน)
ดอมสวมสร้อยอยู่ตอนเริ่มภาค 6 (2013) และเมื่อฮ็อบส์แจ้งข่าวเล็ตตี้ยังไม่ตาย
เอเลนาก็เป็นฝ่ายบอกให้ดอมออกตามหาแฟนเก่า
เล็ตตี้ที่รอดผ่านเหตุร้ายแบบความจำเสื่อม เข้าร่วมกับโอเวน ชอว์ (ลุค อีแวนส์) อาชญากรตัวพ่อ และยิงปืนใส่ดอมตอนเจอหน้ากัน
แต่หลังจากนั้น ดอมได้พยายามดึงความทรงจำเล็ตตี้กลับมาด้วยการท้าแข่งรถข้างถนน ก่อนมอบจี้กางเขนเงินแก่หล่อน
เล็ตตี้ที่กลับรังของโอเวน ชอว์ ถือสร้อยบนมือและพิจารณามันอย่างสงสัย โอเวนเลยสอบถามถึงความภักดีของหล่อน
เล็ตตี้จึงทำท่าไม่แยแสเอามันให้โอเวน ซึ่งโอเวนก็โยนมันทิ้งบนโต๊ะตัวหนึ่ง
คนดูจะไม่พบสร้อยอีก กระทั่งความตายของฮาน หลิว (ซุง กัง) มาเยือน
เดคคาร์ด ชอว์ (เจสัน สเตแธม) พี่ชายของโอเวน ขับรถชนฮานจนพลิกคว่ำ
เดคคาร์ดโยนสร้อยลงไปใกล้ซากรถฮาน ก่อนที่จะเกิดการระเบิดเพราะน้ำมันรั่วเล็กน้อย
ในภาค 7, สร้อยวนกลับมาหาดอม ผ่านมือพระเอกภาค 3/ฌอน บอสเวลล์ (ลูคัส แบล็ค) ผู้ที่นำสมบัติฮานอันรอดผ่านอุบัติเหตุได้ มามอบให้
ดอมสัญญากับตัวเองว่าคนฆ่าฮานต้องชดใช้ แล้วพันสายสร้อยรอบคอใหม่อีกครั้ง
และช่วงท้ายของ Furious 7, ดอมผู้หยุดหายใจก็ได้สติกลับมา
หลังจากเล็ตตี้ที่ความทรงจำฟื้นคืนเรียกหา ขณะกำมือดอมกับจี้กางเขนเงินไว้แน่น
คราวภาค 8 (The Fate of the Furious 2017) ดอม, เล็ตตี้ กับจี้กางเขน ยกขบวนไปฮันนีมูนกันที่คิวบา
ซึ่งไซเฟอร์ (ชาลีซ เธอรอน) ผู้ก่อการร้ายไซเบอร์ตัวแม่ก็เข้าหาดอม
แล้วขู่บังคับให้เขารับใช้ เพื่อชีวิตของเอเลนากับลูกชาย (ที่ดอมไม่เคยรู้มาก่อนว่ามี) จะได้อยู่รอดปลอดภัย
ในฉากนึงเขาห้อยจี้แถวใกล้ๆ ห้องขังลูกชาย+เอเลนา ซึ่งปรากฏว่าเหตุผลซ่อนเร้นคือมันติด 'เครื่องส่งสัญญาณ' ไว้
และเดคคาร์ด ชอว์ ผู้เคยมีเรื่องบาดหมางกับไซเฟอร์ ก็ใช้มันแกะรอยหาไซเฟอร์จนเจอกับช่วยชีวิตลูกชายดอม
ทว่าชะตาเลวร้ายอันเกิดกับเอเลนานั้น หมายความว่าจี้นี้ไม่ได้มีพลังศักดิ์สิทธิ์ขนาดจะช่วยปกป้องทุกคนไหว
แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ 'จี้ห้อยคอของดอม'
ตัวละครโดมินิค โทเรตโต (วิน ดีเซล) สวมสร้อยห้อยจี้รูปกางเขนสีเงินให้เห็นเป็นครั้งแรกในหนังภาคแรกเมื่อค.ศ. 2001
จากนั้นสร้อยก็เปลี่ยนที่อยู่บ่อยครั้ง รวมถึงค่อยๆ เพิ่มระดับความสำคัญขึ้นตามลำดับ
จี้ห้อยคอจัดเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่ดอมมีให้กับเล็ตตี้
และถือเป็นเครื่องเตือนใจว่าดอมนั้นเหมือนพระเยซูของเหล่าลูกทีม
(ตัวอย่างชี้นำก็เช่น การคืนชีพจากความตายช่วงท้ายภาค 7, ความศรัทธาที่คนรอบข้างมีต่อเขา
หรือบทพูดว่าจะไม่ทอดทิ้งคนในครอบครัวที่หันหลังให้เขา ซึ่งใจความมันละม้ายคล้ายกับประโยคหนึ่งในคัมภีร์ไบเบิ้ล)
จี้ห้อยคอปรากฏเกือบทุกภาคและมีเรื่องราวเล็กๆ ของตัวเอง จนดูราวกับนี่คืออีกตัวละครนึงของแฟรนไชส์
ซึ่งเรื่องราวของจี้ตั้งแต่เปิดตัวภาคแรกถึงภาค 8 ก็ได้ถูกรวบรวมไว้ในบทความนี้แล้ว
**คำเตือน** สปอยล์หนังชุดเร็ว...แรงทะลุนรก เกือบทุกภาค
โดมินิค/ชายผู้เปิดร้านขายของชำและรับแต่งเครื่องรถยนต์ตามสั่ง แอบทำการออกปล้นเครื่องใช้ไฟฟ้าจากรถบรรทุกเพื่อหารายได้เสริม
และเมื่อตอนไบรอัน โอ คอนเนอร์ (พอล วอล์คเกอร์) ตำรวจสายลับ ปลอมตัวมาท้าแข่งรถด้วยที่เมืองลอสแองเจลิส ในภาพยนตร์ The Fast and the Furious ของปี 2001
ดอมก็ห้อยสร้อยกางเขนเงินบนคอให้เห็น ในฉากที่เขาสวมเสื้อยืดแขนกุดสีดำตัวเก่ง
ภาพยนตร์ภาค 2 ดอมกับสร้อยไม่มีบท
ส่วนตอนภาค 3 ที่ดอมโผล่แค่ไม่นานเท่าไหร่นั้น เขาไม่ได้สวมสร้อยไว้
ช่วงเปิดเรื่องของหนังภาค 4 (Fast & Furious ที่ฉายปี 2009) จะเห็นดอมกับลูกทีมใช้ชีวิตหนีหมายจับอยู่แถวสาธารณรัฐโดมินิกัน
คาดว่าก่อนหน้านั้นเล็กน้อย, เขาได้เข้าพิธีแต่งงานแบบเป็นส่วนตัวกับเล็ตตี้ ออร์ทิซ (มิเชลล์ โรดริเกซ) แฟนสาว
ซึ่งดอมให้บาทหลวงใช้สร้อยร้อยรอบมือของพวกเขาในพิธี แทนจุดที่ปกติคู่บ่าวสาวต้องสวมแหวนแต่งงาน
(แต่เหตุการณ์นี้คนดูไปเห็นในช่วงรำลึกความหลังของหนังภาค 7 ปี 2015 โน่น)
วกกลับมากล่าวถึงเหตุการณ์ที่ผู้ชมเจอตอนดูภาค 4 จริง, ดอมกับลูกทีมปฏิบัติภารกิจปล้นรถบรรทุกน้ำมันสำเร็จ
แต่ด้วยความที่พวกเขาใกล้โดนตำรวจสืบสาวมาถึงตัวเต็มทน
ดอมจึงตัดสินใจแยกทางกับเล็ตตี้เพื่อปกป้องเธอ และทิ้งสร้อยไว้ข้างเตียงเล็ตตี้ระหว่างเธอกำลังหลับ
เล็ตตี้กลับสู่ลอสแองเจลิส และได้ไปช่วยงานในคดีนึงของไบรอันเพื่อแลกกับการลบประวัติอาชญากรรมของดอม
อีกทั้งช่วยซ่อมรถของดอมอันพังเพราะเหตุการณ์ตอนท้ายของหนังภาค 1 ให้
เล็ตตี้ห้อยจี้ไว้กับกระจกมองหลัง และดอมมาพบมันหลังทราบข่าวเธอ 'ตาย'
จี้อยู่เป็นเครื่องประดับรถแบบนั้นเกือบตลอดเหตุการณ์ของภาค 4
ยกเว้นตอนเขาเอามันมาถือก่อนพบจีเซล ยาชาร์ (กัล กาด็อท) เพื่อให้หล่อนชี้ทางสู่ผู้รับผิดชอบการตายของเล็ตตี้
ช่วงต้นเรื่องภาค 5 (Fast Five 2011) ดอมปรากฏตัวพร้อมสร้อยและเสื้อสีดำตัวเก่งอีกครั้ง
จี้กางเขนได้แสดงตนว่ามันคอยใช้พลังเหนือธรรมชาติบางอย่าง ปล่อยออกมาคุ้มครองผู้สวมใส่
เพราะแม้ดอมขับรถพุ่งตกจากสะพานสูงลิบเหนือแม่น้ำพร้อมไบรอัน
แต่ทั้งสองก็ดันรอดแบบไม่บุบสลาย แถมสร้อยห้อยจี้ยัง 'ไม่' หลุดลอยไปตามแม่น้ำหรือหายจ้อยอีกต่างหาก
เมื่อดอมกับลูกทีมวางแผนปล้นครั้งใหญ่ในริโอ เดอ จาเนโร
ลุค ฮ็อบส์ (ดเวย์น จอห์นสัน) เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงฝ่ายการทูตสหรัฐฯ กับเอเลนา เนเวส (เอลซา พาทากี) ตำรวจท้องถิ่นหญิง พาเหรดกันไปบุกแหล่งกบดานดอม
ดอมหลบหนีสำเร็จ แต่อนิจจาสร้อยที่เกาะติดคออย่างดีคราวทิ้งดิ่งลงแม่น้ำ
คราวนี้ดันหลุดร่วงหล่นลงพื้นแบบงงๆ ซะอย่างงั้น
ดอมเสียดายสร้อยเงินถึงขนาดเสี่ยงโดนจับ บุกไปชิงคืนถึงบ้านตำรวจแบบเอเลนา และห้อยมันบนคอต่อยันจบเรื่อง
ส่วนเอเลนาที่เคยพบประสบการณ์สูญเสียรักแท้เหมือนดอม เกิดความเข้าอกเข้าใจเขา แล้วเค้าทั้งสองจึงกลายเป็นคนรักกัน
(ชะรอยความศักดิ์สิทธิ์ของสร้อย จะดลบันดาลให้ตัวเองหลุดจากคอดอม เพื่อทั้งสองจะได้พบรักกัน)
ดอมสวมสร้อยอยู่ตอนเริ่มภาค 6 (2013) และเมื่อฮ็อบส์แจ้งข่าวเล็ตตี้ยังไม่ตาย
เอเลนาก็เป็นฝ่ายบอกให้ดอมออกตามหาแฟนเก่า
เล็ตตี้ที่รอดผ่านเหตุร้ายแบบความจำเสื่อม เข้าร่วมกับโอเวน ชอว์ (ลุค อีแวนส์) อาชญากรตัวพ่อ และยิงปืนใส่ดอมตอนเจอหน้ากัน
แต่หลังจากนั้น ดอมได้พยายามดึงความทรงจำเล็ตตี้กลับมาด้วยการท้าแข่งรถข้างถนน ก่อนมอบจี้กางเขนเงินแก่หล่อน
เล็ตตี้ที่กลับรังของโอเวน ชอว์ ถือสร้อยบนมือและพิจารณามันอย่างสงสัย โอเวนเลยสอบถามถึงความภักดีของหล่อน
เล็ตตี้จึงทำท่าไม่แยแสเอามันให้โอเวน ซึ่งโอเวนก็โยนมันทิ้งบนโต๊ะตัวหนึ่ง
คนดูจะไม่พบสร้อยอีก กระทั่งความตายของฮาน หลิว (ซุง กัง) มาเยือน
เดคคาร์ด ชอว์ (เจสัน สเตแธม) พี่ชายของโอเวน ขับรถชนฮานจนพลิกคว่ำ
เดคคาร์ดโยนสร้อยลงไปใกล้ซากรถฮาน ก่อนที่จะเกิดการระเบิดเพราะน้ำมันรั่วเล็กน้อย
ในภาค 7, สร้อยวนกลับมาหาดอม ผ่านมือพระเอกภาค 3/ฌอน บอสเวลล์ (ลูคัส แบล็ค) ผู้ที่นำสมบัติฮานอันรอดผ่านอุบัติเหตุได้ มามอบให้
ดอมสัญญากับตัวเองว่าคนฆ่าฮานต้องชดใช้ แล้วพันสายสร้อยรอบคอใหม่อีกครั้ง
และช่วงท้ายของ Furious 7, ดอมผู้หยุดหายใจก็ได้สติกลับมา
หลังจากเล็ตตี้ที่ความทรงจำฟื้นคืนเรียกหา ขณะกำมือดอมกับจี้กางเขนเงินไว้แน่น
คราวภาค 8 (The Fate of the Furious 2017) ดอม, เล็ตตี้ กับจี้กางเขน ยกขบวนไปฮันนีมูนกันที่คิวบา
ซึ่งไซเฟอร์ (ชาลีซ เธอรอน) ผู้ก่อการร้ายไซเบอร์ตัวแม่ก็เข้าหาดอม
แล้วขู่บังคับให้เขารับใช้ เพื่อชีวิตของเอเลนากับลูกชาย (ที่ดอมไม่เคยรู้มาก่อนว่ามี) จะได้อยู่รอดปลอดภัย
ในฉากนึงเขาห้อยจี้แถวใกล้ๆ ห้องขังลูกชาย+เอเลนา ซึ่งปรากฏว่าเหตุผลซ่อนเร้นคือมันติด 'เครื่องส่งสัญญาณ' ไว้
และเดคคาร์ด ชอว์ ผู้เคยมีเรื่องบาดหมางกับไซเฟอร์ ก็ใช้มันแกะรอยหาไซเฟอร์จนเจอกับช่วยชีวิตลูกชายดอม
ทว่าชะตาเลวร้ายอันเกิดกับเอเลนานั้น หมายความว่าจี้นี้ไม่ได้มีพลังศักดิ์สิทธิ์ขนาดจะช่วยปกป้องทุกคนไหว
ที่มา: yahoo movies
COMMENTS