หลังภาพยนตร์ต้นกำเนิดซุปเปอร์แมน-Man of Steel (2013) ประสบความสำเร็จด้านรายได้ ค่ายหนังวอเนอร์ซึ่งถือครองสิทธิ์เหนือการ์ตูนค่ายดีซีก็เลือก ...
หลังภาพยนตร์ต้นกำเนิดซุปเปอร์แมน-Man of Steel (2013) ประสบความสำเร็จด้านรายได้
ค่ายหนังวอเนอร์ซึ่งถือครองสิทธิ์เหนือการ์ตูนค่ายดีซีก็เลือก "แซ็ค สไนเดอร์" ผู้กำกับ Man of Steel ทำหน้าที่วางแนวทาง, สร้างจักรวาลหนังฮีโร่ดีซี
และวางตัวให้เขากำกับภาพยนตร์ 2 เรื่องสำคัญที่นำตัว 2 ฮีโร่ชื่อดังมาปะทะกันอย่าง Batman v Superman: Dawn of Justice กับหนังรวมพลฮีโร่สมาคมยุติธรรมอย่าง Justice League
แต่ผลตอบรับด้านคำวิจารณ์ของ BvS เข้าขั้นเลวร้าย และแซ็ค สไนเดอร์ยังประสบปัญหาส่วนตัว (ลูกสาวฆ่าตัวตาย) ขณะสร้าง Justice League จนต้องถอนตัวกลางคัน
จากนั้นก็ดูเหมือนเขาไม่คิดจะกลับมาลุยงานเต็มตัว และวางมือจากการปลุกปั้นจักรวาลหนังฮีโร่ดีซีโดยปริยาย
เมื่อแซ็ค สไนเดอร์ปล่อยมือกลางทาง, เส้นทางอนาคตจักรวาลภาพยนตร์ดีซีย่อมถูกเปลี่ยนตาม
ดังนั้นเราอาจไม่มีวันทราบได้ว่าทิศทางดั้งเดิมที่เรื่องราวจะดำเนินไปเป็นอย่างไร หากเขาไม่ออกมาเปิดเผยด้วยตัวเอง
แซ็คจึงเปิดเผยข้อมูลโดยให้บรรดาแฟนๆ จับสังเกต, ตั้งสมมติฐานของตัวเองกัน แล้วสนทนาสอบถามทางสื่อสังคมออนไลน์ Vero กับเขา
ฉากหนึ่งใน BvS แสดงให้เห็นชุดโรบินที่โดนโจ๊กเกอร์พ่นสีใส่ บอกใบ้เรื่องแบทแมนเคยสูญเสียฮีโร่ผู้ช่วยเพราะวายร้ายตัวตลก
ทีแรกผู้คนต่างเข้าใจว่าเป็น 'เจสัน ทอดด์' ที่พบชะตากรรมดังกล่าวตามคอมิค
ทว่าความจริงโรบินผู้เสียชีวิตคือ ริชาร์ด จอห์น 'ดิ๊ก เกรย์สัน' ที่ในคอมิคไม่ได้ตาย แต่แยกตัวจากแบทแมนไปเป็นฮีโร่ฉายเดี่ยวชื่อไนท์วิง (Night Wing) ต่างหาก
และอนาคตแบทแมนจะรับเด็กผู้หญิงชื่อแครี่ (Carrie) มาสวมชุดโรบินช่วยเหลือเขา ซึ่งตามคอมิคแครี่ เคลลี่คือโรบินหญิงคนแรกบนหน้าหนังสือการ์ตูน
ที่มา
ค่ายหนังวอเนอร์ซึ่งถือครองสิทธิ์เหนือการ์ตูนค่ายดีซีก็เลือก "แซ็ค สไนเดอร์" ผู้กำกับ Man of Steel ทำหน้าที่วางแนวทาง, สร้างจักรวาลหนังฮีโร่ดีซี
และวางตัวให้เขากำกับภาพยนตร์ 2 เรื่องสำคัญที่นำตัว 2 ฮีโร่ชื่อดังมาปะทะกันอย่าง Batman v Superman: Dawn of Justice กับหนังรวมพลฮีโร่สมาคมยุติธรรมอย่าง Justice League
แต่ผลตอบรับด้านคำวิจารณ์ของ BvS เข้าขั้นเลวร้าย และแซ็ค สไนเดอร์ยังประสบปัญหาส่วนตัว (ลูกสาวฆ่าตัวตาย) ขณะสร้าง Justice League จนต้องถอนตัวกลางคัน
จากนั้นก็ดูเหมือนเขาไม่คิดจะกลับมาลุยงานเต็มตัว และวางมือจากการปลุกปั้นจักรวาลหนังฮีโร่ดีซีโดยปริยาย
เมื่อแซ็ค สไนเดอร์ปล่อยมือกลางทาง, เส้นทางอนาคตจักรวาลภาพยนตร์ดีซีย่อมถูกเปลี่ยนตาม
ดังนั้นเราอาจไม่มีวันทราบได้ว่าทิศทางดั้งเดิมที่เรื่องราวจะดำเนินไปเป็นอย่างไร หากเขาไม่ออกมาเปิดเผยด้วยตัวเอง
แซ็คจึงเปิดเผยข้อมูลโดยให้บรรดาแฟนๆ จับสังเกต, ตั้งสมมติฐานของตัวเองกัน แล้วสนทนาสอบถามทางสื่อสังคมออนไลน์ Vero กับเขา
โรบินหญิง
ฉากหนึ่งใน BvS แสดงให้เห็นชุดโรบินที่โดนโจ๊กเกอร์พ่นสีใส่ บอกใบ้เรื่องแบทแมนเคยสูญเสียฮีโร่ผู้ช่วยเพราะวายร้ายตัวตลก
ทีแรกผู้คนต่างเข้าใจว่าเป็น 'เจสัน ทอดด์' ที่พบชะตากรรมดังกล่าวตามคอมิค
ทว่าความจริงโรบินผู้เสียชีวิตคือ ริชาร์ด จอห์น 'ดิ๊ก เกรย์สัน' ที่ในคอมิคไม่ได้ตาย แต่แยกตัวจากแบทแมนไปเป็นฮีโร่ฉายเดี่ยวชื่อไนท์วิง (Night Wing) ต่างหาก
และอนาคตแบทแมนจะรับเด็กผู้หญิงชื่อแครี่ (Carrie) มาสวมชุดโรบินช่วยเหลือเขา ซึ่งตามคอมิคแครี่ เคลลี่คือโรบินหญิงคนแรกบนหน้าหนังสือการ์ตูน
แครี่ เคลลี่ โรบินหญิงจากคอมิค Batman: The Dark Knight Returns (1986)
ภาพนิมิตของแบทแมน
โลกอนาคตแสนเลวร้ายที่กองทัพอสูรพาราเดมอนส์กับกองทหารชุดดำ จับตัวแบทแมนไปรอรับการประหารของซุปเปอร์แมนไม่ใช่ความฝัน แต่คือเหตุการณ์อันเกิดขึ้นจริง (สังเกตได้จากกระดาษที่ยังปลิวอยู่หลังบรูซ เวย์น/แบทแมนตื่น)
แบรี่ อัลเลน/เดอะ แฟลช เดินทางข้ามเวลา ย้อนอดีตมาเพื่อเตือนภัย
บรูซ เวย์นจึงเห็นภาพนิมิต แต่เดอะ แฟลชย้อนอดีตไกลเกินเหตุ, เขามาถึงก่อนจะเกิดจุดวิกฤติที่ทำให้โลกกลายสภาพเป็นแบบนั้น
บรูซ เวย์นจึงเห็นภาพนิมิต แต่เดอะ แฟลชย้อนอดีตไกลเกินเหตุ, เขามาถึงก่อนจะเกิดจุดวิกฤติที่ทำให้โลกกลายสภาพเป็นแบบนั้น
บรูซ (และคนดู) เลยไม่เข้าใจทั้งความหมายของนิมิต และสิ่งที่เดอะ แฟลชพูด
คงเห็นกันอยู่โทนโท่เรื่องจุดวิกฤติ = ความตายของโลอิส เลน เพราะเดอะ แฟลชบอกไว้ว่าเธอเป็นกุญแจสำคัญ
ซุปเปอร์แมนเข้าด้านมืดทำตัวชั่วร้าย เนื่องจากเขาสูญเสียเธอ
และโดนวายร้ายผู้อยู่เหนือสเตพเพ่นวูล์ฟ 'ดาร์คไซด์' ครอบงำด้วย 'สมการ'
และโดนวายร้ายผู้อยู่เหนือสเตพเพ่นวูล์ฟ 'ดาร์คไซด์' ครอบงำด้วย 'สมการ'
"เมื่อคนๆ หนึ่งสูญเสียใครบางคนที่สำคัญยิ่งต่อเขาไป เขาย่อมสะเทือนใจเกินกว่าจะต่อต้านสมการ (Equation) ไหว และกล่าวโทษโยนความผิดให้ค้างคาว เหตุการณ์เหล่านั้นยังมาไม่ถึง บรูซจึงไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง" แซ็ค สไนเดอร์เขียนไว้บน Vero
สมการต่อต้านชีวิต
ใน Justice League มีฉากย้อนอดีตสมัยสเตพเพ่นวูล์ฟบุกโลกครั้งก่อน เขาทุบค้อนลงบนแผ่นดินจนลุกเป็นไฟ เกิดลวดลายบนผืนดินคล้ายสัญลักษณ์อะไรบางอย่าง
สัญลักษณ์เกี่ยวข้องกับสมการ ซึ่งหากพูดถึงสมการในคอมิคดีซี จะหมายถึง 'สมการต่อต้านชีวิต = Anti-Life Equation' ที่ดาร์คไซด์ใช้มันเป็นเครื่องมือล้างสมองและปกครองผู้คนบนดวงดาวต่างๆ
Anti-Life Equation คือสูตรคณิตศาสตร์เหนือธรรมชาติ อันพิสูจน์ว่าจักรวาลถูกออกแบบมาโดยที่ ชีวิตนั้นไร้ความหมาย ไร้ความสำคัญใดๆ และหน้าตาของมันเป็นดังนี้
ความโดดเดี่ยว + ความแปลกแยก + ความกลัว + สิ้นหวัง + หยิ่งทะนง ÷ เย้ยหยัน ÷ ไม่ลงรอยกัน ÷ เข้าใจผิด x ความรู้สึกผิด x อับอาย x ล้มเหลว x โทษทัณฑ์
n = y โดยที่ y = ความหวัง และ n = ความเขลา
ความรัก = ภาพลวง
ชีวิต = ความตาย
ตัวเรา = ด้านมืด
ไม่ว่าใครก็ตามได้รับรู้สมการ (ในคอมิคเรื่องหนึ่งดาร์คไซด์ใช้วิธีกระจายเสียงตามสาย) มันจะผลักดันให้เขาวิกลจริต, ชื่นชอบการทำลายล้าง
และเมื่อเพิ่มสูตร "only meaning in life is Darkseid = สิ่งเดียวที่มีความหมายในชีวิตคือดาร์คไซด์" เข้าเสริมตรงบรรทัดสุดท้าย ผู้รับรู้สมการจะต้องกลายเป็นทาสของดาร์คไซด์
จะร่ายสมการยาวๆ ให้ตัวละครในเรื่องกับคนดูหนังฟังมันไม่เข้าท่าชัวร์
จึงเป็นไปได้ว่าแซ็ค สไนเดอร์ตั้งใจใช้ภาพแทนสูตรคณิตศาสตร์
ที่พอดาร์คไซด์ (หรือสเตพเพ่นวูล์ฟ) สำแดงพลังตัวเองออกมา, สร้างลวดลายคล้ายสัญลักษณ์เฉพาะตัวให้ดูเมื่อไหร่ จะปลุกกระตุ้นความสิ้นหวังในตัวศัตรูและผู้พบเห็นเมื่อนั้น
Anti-Life Equation คือสูตรคณิตศาสตร์เหนือธรรมชาติ อันพิสูจน์ว่าจักรวาลถูกออกแบบมาโดยที่ ชีวิตนั้นไร้ความหมาย ไร้ความสำคัญใดๆ และหน้าตาของมันเป็นดังนี้
ความโดดเดี่ยว + ความแปลกแยก + ความกลัว + สิ้นหวัง + หยิ่งทะนง ÷ เย้ยหยัน ÷ ไม่ลงรอยกัน ÷ เข้าใจผิด x ความรู้สึกผิด x อับอาย x ล้มเหลว x โทษทัณฑ์
n = y โดยที่ y = ความหวัง และ n = ความเขลา
ความรัก = ภาพลวง
ชีวิต = ความตาย
ตัวเรา = ด้านมืด
ไม่ว่าใครก็ตามได้รับรู้สมการ (ในคอมิคเรื่องหนึ่งดาร์คไซด์ใช้วิธีกระจายเสียงตามสาย) มันจะผลักดันให้เขาวิกลจริต, ชื่นชอบการทำลายล้าง
และเมื่อเพิ่มสูตร "only meaning in life is Darkseid = สิ่งเดียวที่มีความหมายในชีวิตคือดาร์คไซด์" เข้าเสริมตรงบรรทัดสุดท้าย ผู้รับรู้สมการจะต้องกลายเป็นทาสของดาร์คไซด์
จะร่ายสมการยาวๆ ให้ตัวละครในเรื่องกับคนดูหนังฟังมันไม่เข้าท่าชัวร์
จึงเป็นไปได้ว่าแซ็ค สไนเดอร์ตั้งใจใช้ภาพแทนสูตรคณิตศาสตร์
ที่พอดาร์คไซด์ (หรือสเตพเพ่นวูล์ฟ) สำแดงพลังตัวเองออกมา, สร้างลวดลายคล้ายสัญลักษณ์เฉพาะตัวให้ดูเมื่อไหร่ จะปลุกกระตุ้นความสิ้นหวังในตัวศัตรูและผู้พบเห็นเมื่อนั้น
ความตายทั้ง 3
ฉากทอดกายนอนตายของซุปเปอร์แมนหลังพลีชีพปราบดูมส์เดย์ตัวร้ายสุดแกร่ง อันมีโลอิส เลน, แบทแมน และวันเดอร์วูแมนร่วมฉาก
จะแลเห็นซากสิ่งก่อสร้างที่ถูกทำลายจากการต่อสู้กองระเกะระกะ
และพบซากเหล็กรูปร่างคล้ายกางเขนเบื้องหลัง
และพบซากเหล็กรูปร่างคล้ายกางเขนเบื้องหลัง
กางเขนในฉากสื่อถึงความตายของซุปเปอร์แมนนั่นแหละ แต่กางเขน [มี 3 อัน] นั่นคือสื่อถึงความตายของตัวละครอื่นที่จะเกิดตามมาด้วย
คาดว่าหมายถึงความตายของฮีโร่ทั้ง 3 (ซุปเปอร์แมน, แบทแมน, วันเดอร์วูแมน ไม่นับรวมโลอิส เลนเพราะความตายของเธอได้รับการบอกใบ้ตอนฉากนิมิต)
แม้ความตายของวันเดอร์วูแมนไม่มีอะไรยืนยัน แต่ความตายของแบทแมน (ในอนาคต) ได้รับการยืนยันจากแซ็ค สไนเดอร์แล้ว
สรุป เส้นทางอนาคตจักรวาลภาพยนตร์ดีซีที่แซ็ค สไนเดอร์เคยวางแผนไว้ น่าจะเป็นดังนี้
[1] หลังแบทแมนรวมทีมฮีโร่จัสติสลีค, คืนชีพซุปเปอร์แมน และปกป้องโลกจากสเตพเพ่นวูล์ฟไว้ได้ แบทแมนก็รับเด็กผู้หญิงชื่อแครี่มาทำหน้าที่ฮีโร่ผู้ช่วย/โรบิน (อาจจะในหนังฉายเดี่ยวแบทแมน)
[2] วายร้ายระดับสูงกว่าสเตพเพ่นวูล์ฟ 'ดาร์คไซด์' ลงพื้นที่หน้างาน, กระทำการรุกรานโลกด้วยตนเอง
[3] ระหว่างศึกครั้งใหญ่ ชีวิตโลอิส เลนตกอยู่ในอันตราย, แบทแมนคงตกอยู่ในฐานะผู้ตัดสินใจว่าจะช่วยเธอหรือทำภารกิจสำคัญอื่น
ซึ่งถ้าเขาไม่เลือกดูแลชีวิตโลอิส เลน เธอจะตาย
ส่งผลให้ซุปเปอร์แมนดำดิ่งสู่ห้วงแห่งความสิ้นหวัง เพราะสะเทือนใจเกินจะขัดขืนสมการต่อต้านชีวิตไหว หันไปกล่าวโทษแบทแมน, เป็นสมุนดาร์คไซด์ ปกครองโลกด้วยความหวาดกลัว
[4] เดอะ แฟลชข้ามเวลามาเตือนแบทแมนอีกครั้ง คราวนี้เขาเข้าใจสถานการณ์
เลือกช่วยชีวิตโลอิส เลน หลีกเลี่ยงอนาคตสุดเลวร้ายสำเร็จ แต่ต้องสังเวยชีพตัวเองระหว่างการต่อสู้
เลือกช่วยชีวิตโลอิส เลน หลีกเลี่ยงอนาคตสุดเลวร้ายสำเร็จ แต่ต้องสังเวยชีพตัวเองระหว่างการต่อสู้
(ส่วนวันเดอร์วูแมนอาจเสียชีวิตตอนปะทะดาร์คไซด์เหมือนแบทแมน หรือพลีชีพในเหตุการณ์อื่นภายหลัง)
ที่มา
https://comicbook.com
https://www.cinemablend.com
https://screenrant.com/
https://www.reddit.com/r/DCcomics/comments/7v6e0q/antilife_equation/
COMMENTS