ภาพยนตร์รวมพลซุปเปอร์ฮีโร่ค่ายดีซี "สมาคมยุติธรรม-Justice League-จัสติสลีค" นั้นมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้กำกับกะทันหันระหว่างถ่ายทำ ...
ภาพยนตร์รวมพลซุปเปอร์ฮีโร่ค่ายดีซี "สมาคมยุติธรรม-Justice League-จัสติสลีค" นั้นมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้กำกับกะทันหันระหว่างถ่ายทำ โดยเปลี่ยนมือจากแซ็ค สไนเดอร์เจ้าเก่า(Man of Steel, Batman v Superman: Dawn of Justice) เป็นจอส วีดอนผู้เคยสร้างหนังรวมพลฮีโร่ค่ายมาร์เวลอย่าง The Avengers และ Age of Ultron
มุมมองอันแตกต่างกันของสองผู้กำกับ ย่อมทำให้เกิดการบิดผันเนื้อหาบางส่วน จนรายละเอียดด้านเนื้อเรื่องบางประการของ Justice League ฉบับแซ็ค สไนเดอร์ตกหล่นบ้าง
แถมแซ็คยังมีนิสัยชอบเล่าเรื่องผ่านภาพ สอดแทรกรายละเอียดชวนตีความ ไม่เล่าเรื่องผ่านบทพูดตรงๆ ตลอด
จึงได้รวบรวมการตีความเนื้อหา และเนื้อเรื่องซึ่งทราบเพิ่มเติมภายหลัง(จากฉากโดนตัดทิ้งก่อนหนังฉาย)
ทำเป็นบทความเก็บตกเรื่องน่ารู้หลังดู Justice League เพื่อเสริมความเข้าใจในเนื้อหาแก่ผู้สนใจ โดยหวังว่าจะช่วยให้เข้าถึงภาพยนตร์เรื่องนี้มากยิ่งขึ้น
1) 'เดอะแฟลช-แบรี่ อัลเลน' กับ 'ไอริส เวสต์'
หญิงสาวเค้าชื่อ 'ไอริส เวสต์' หากอิงตามเนื้อหาซีรีส์กับคอมิค เธอคือคนรักและภรรยาในอนาคตของ 'เดอะแฟลช-แบรี่ อัลเลน' ไอริสทำอาชีพนักข่าว มีพ่อเป็นตำรวจ
คาดว่าฉากนี้คือการพบกันครั้งแรกของทั้งสองคน แบรี่บังเอิญเห็นเธอประสบอุบัติเหตุเลยช่วยชีวิต แล้วไอริสต้องการตอบแทนบุญคุณ
จึงไปขอให้พ่อเธอฝากแบรี่เข้าทำงานกรมตำรวจ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่นิติเวช(ใช้วิทยาศาสตร์ตรวจสอบหลักฐานอาชญากรรม)
เพราะฉากสุดท้ายของแบรี่ในหนังจัสติสลีค เขาพูดกับบิดาผู้ติดคุกว่า เพื่อนช่วยออกจดหมายแนะนำตัว-หางานให้
2) สมาคมยุติธรรมรวมตัวกันไปสุสาน
ในหนังจัสติสลีคเราเห็นแค่ไซบอร์กกับเดอะ แฟลชขุดหลุมศพซุปฯ เท่านั้น
ภายหลังแซ็ค สไนเดอร์ โพสต์ภาพทาง Vero (สื่อสังคมออนไลน์ที่แซ็คชอบใช้)
แสดงฉากที่ถ่ายทำไว้แต่ไม่ได้ใช้ในหนังจัสติสลีคฉบับฉายโรงเพิ่มเติม
เป็นภาพทีมจัสติสลีค 4 คน(เดอะแฟลช, ไซบอร์ก, อควาแมน, วันเดอร์วูแมน) ยืนอยู่หน้าโลงศพของคลาร์ก เคนท์-ซุปเปอร์แมน
มีเพียงแบทแมนผู้เดียวไม่ยอมโผล่ คงเพราะเขารู้สึกผิด คิดว่าตนเป็นสาเหตุให้ซุปฯ ตาย เลยไม่กล้ามาร่วมวงขุดสุสาน กระทำการลบหลู่ศพซุปเปอร์แมน-ผู้เสียชีวิต
3) การคืนชีพของซุปเปอร์แมน
หลายคนคงสะกิดใจตอนดูกันอยู่ ผู้ใช้นามแฝงในทวิตเตอร์ว่า @JNapierrr ลองเทียบดูแล้ว พบว่าฉากซุปฯ คืนชีพในจัสติสลีคนั้น รำลึกถึงฉากกำเนิดดูมส์เดย์ใน BvS
ทั้งสองออกมาจากยานคริปตันพุ่งสู่ท้องฟ้า, ลงสู่เบื้องล่าง, หันหลังกลับไปมองฮีโร่เหมือนกันเป๊ะ
สื่อว่าซุปฯคืนชีพมาแบบ 'วายร้าย' นั่นเอง (สื่อเรื่องราวด้วยภาพตามสไตล์แซ็ค สไนเดอร์เค้าละ)
4) ความหมายของนิมิตจาก BvS
เห็นเรื่องซุปฯคืนชีพในแบบวายร้ายแล้วนึกออก
การที่แบทแมนให้อัลเฟรดนำตัว 'โลอิส เลน' มาหยุดซุปฯ น่าจะเกี่ยวเนื่องกับฉากนิมิตซึ่งใส่มาตอน BvS
เพราะตามนิสัยแบทแมน(จากที่เห็นใน BvS) ควรเตรียมคริปโตไนท์ไว้เผื่อรับมือซุปมากกว่า
ทว่าแบทแมนรู้ถึงความสำคัญของโลอิส เพราะเห็นนิมิตซุปฯ ฉบับวายร้าย+เดอะแฟลชเคยเตือนเรื่อง "โลอิสคือกุญแจสำคัญ" ทำให้เรียกโลอิสมาหยุดซุปได้ก่อนเหตุการณ์บานปลายนั่นเอง
(เชื่อว่าหากแบทแมนใช้คริปโตไนท์คงกลายเป็นแบบในนิมิต คือเอาซุปไม่อยู่, ซุปกลายเป็นผู้ร้ายแบบกู่ไม่กลับ, ปกครองโลกร่วมกับกองกำลังเอเลี่ยนวายร้าย)
5) ชุดซุปเปอร์แมนสีดำ
แฟนหนังผู้ใช้ทวิตเตอร์ @nickalbright วิเคราะห์เพิ่มเติมอย่างน่าสนใจ เขาคิดว่าแซ็ค สไนเดอร์ตั้งใจรำลึกถึงคำพูดของโจนาธาน เคนท์พ่อบุญธรรมชาวโลกของซุปใน Man of Steel
" วันหนึ่งลูกจะต้องเลือก ว่าจะยืนหยัดอย่างภาคภูมิใจต่อหน้าเหล่ามนุษย์โลกหรือไม่ ? "
และในจัสติสลีคเวลานั้นก็มาถึง ซุปเลือกชุดน้ำเงินแดงเพื่อยืนหยัดอย่างภาคภูมิ แทนการเลือกชุดสีดำดูมืดหม่น
แซ็ค สไนเดอร์เห็นเข้าเลยตอบให้ว่าใช่ พร้อมเสริมว่าฉากนี้สื่อเรื่องการกำเนิดสองครั้งของซุปด้วย
ครั้งหนึ่งบนคริปตัน, อีกครั้งหนึ่งบนโลก ทำให้เขามีความเป็นชาวโลกมากกว่าเดิม
ซุปจึงเลิกมองว่าตัวเองเป็นเพียงคนนอกจากดาวอื่นเหมือนเช่นเคย
6) อัลเฟรดพบซุปเปอร์แมน
ซุปไปคุยกับอัลเฟรดหลังเลือกชุดเสร็จ ตามที่เคยเห็นบางส่วนในตัวอย่างก่อนหนังฉายโรง เนื้อหาการสนทนาไม่มีอะไรพิเศษ
ทั้งสองแค่ทำความรู้จักกันสั้นๆ อัลเฟรดพูดก่อนจบฉากอย่างที่รู้กัน "หวังว่าคุณคงไม่มาช้าเกินไป"
ในหนังก็ไม่ได้อธิบายว่าซุปตามไปช่วยทีมจัสติสลีคถูกที่ได้ยังไง
เสียเวลาบินหารอบโลกไม่เข้าท่าแน่ ดังนั้นหลังแนะนำตัวเสร็จ ซุปคงถามสถานการณ์โดยรวมกับอัลเฟรด-ผู้อยู่โยงเฝ้าบ้านนั่นแหละ
มุมมองอันแตกต่างกันของสองผู้กำกับ ย่อมทำให้เกิดการบิดผันเนื้อหาบางส่วน จนรายละเอียดด้านเนื้อเรื่องบางประการของ Justice League ฉบับแซ็ค สไนเดอร์ตกหล่นบ้าง
แถมแซ็คยังมีนิสัยชอบเล่าเรื่องผ่านภาพ สอดแทรกรายละเอียดชวนตีความ ไม่เล่าเรื่องผ่านบทพูดตรงๆ ตลอด
จึงได้รวบรวมการตีความเนื้อหา และเนื้อเรื่องซึ่งทราบเพิ่มเติมภายหลัง(จากฉากโดนตัดทิ้งก่อนหนังฉาย)
ทำเป็นบทความเก็บตกเรื่องน่ารู้หลังดู Justice League เพื่อเสริมความเข้าใจในเนื้อหาแก่ผู้สนใจ โดยหวังว่าจะช่วยให้เข้าถึงภาพยนตร์เรื่องนี้มากยิ่งขึ้น
1) 'เดอะแฟลช-แบรี่ อัลเลน' กับ 'ไอริส เวสต์'
ฉากโดนตัดทิ้งอันแรกที่จะขอพูดถึง คือฉากแบรี่ อัลเลน ใช้พลังสายฟ้า+ความเร็วเหนือมนุษย์แหวกกระจกร้านค้าข้างทาง
ผ่านไปหาหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งประสบอุบัติเหตุรถยนต์ร้ายแรง
ช่วยชีวิตเธอไว้ภายในช่วงเสี้ยววินาที
หญิงสาวเค้าชื่อ 'ไอริส เวสต์' หากอิงตามเนื้อหาซีรีส์กับคอมิค เธอคือคนรักและภรรยาในอนาคตของ 'เดอะแฟลช-แบรี่ อัลเลน' ไอริสทำอาชีพนักข่าว มีพ่อเป็นตำรวจ
คาดว่าฉากนี้คือการพบกันครั้งแรกของทั้งสองคน แบรี่บังเอิญเห็นเธอประสบอุบัติเหตุเลยช่วยชีวิต แล้วไอริสต้องการตอบแทนบุญคุณ
จึงไปขอให้พ่อเธอฝากแบรี่เข้าทำงานกรมตำรวจ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่นิติเวช(ใช้วิทยาศาสตร์ตรวจสอบหลักฐานอาชญากรรม)
เพราะฉากสุดท้ายของแบรี่ในหนังจัสติสลีค เขาพูดกับบิดาผู้ติดคุกว่า เพื่อนช่วยออกจดหมายแนะนำตัว-หางานให้
2) สมาคมยุติธรรมรวมตัวกันไปสุสาน
ในหนังจัสติสลีคเราเห็นแค่ไซบอร์กกับเดอะ แฟลชขุดหลุมศพซุปฯ เท่านั้น
ภายหลังแซ็ค สไนเดอร์ โพสต์ภาพทาง Vero (สื่อสังคมออนไลน์ที่แซ็คชอบใช้)
แสดงฉากที่ถ่ายทำไว้แต่ไม่ได้ใช้ในหนังจัสติสลีคฉบับฉายโรงเพิ่มเติม
เป็นภาพทีมจัสติสลีค 4 คน(เดอะแฟลช, ไซบอร์ก, อควาแมน, วันเดอร์วูแมน) ยืนอยู่หน้าโลงศพของคลาร์ก เคนท์-ซุปเปอร์แมน
มีเพียงแบทแมนผู้เดียวไม่ยอมโผล่ คงเพราะเขารู้สึกผิด คิดว่าตนเป็นสาเหตุให้ซุปฯ ตาย เลยไม่กล้ามาร่วมวงขุดสุสาน กระทำการลบหลู่ศพซุปเปอร์แมน-ผู้เสียชีวิต
3) การคืนชีพของซุปเปอร์แมน
ทั้งสองออกมาจากยานคริปตันพุ่งสู่ท้องฟ้า, ลงสู่เบื้องล่าง, หันหลังกลับไปมองฮีโร่เหมือนกันเป๊ะ
สื่อว่าซุปฯคืนชีพมาแบบ 'วายร้าย' นั่นเอง (สื่อเรื่องราวด้วยภาพตามสไตล์แซ็ค สไนเดอร์เค้าละ)
ดูมส์เดย์หันหลังมองซุปฯ
ซุปฯ หันกลับไปมองทีมจัสติสลีค
4) ความหมายของนิมิตจาก BvS
เห็นเรื่องซุปฯคืนชีพในแบบวายร้ายแล้วนึกออก
การที่แบทแมนให้อัลเฟรดนำตัว 'โลอิส เลน' มาหยุดซุปฯ น่าจะเกี่ยวเนื่องกับฉากนิมิตซึ่งใส่มาตอน BvS
เพราะตามนิสัยแบทแมน(จากที่เห็นใน BvS) ควรเตรียมคริปโตไนท์ไว้เผื่อรับมือซุปมากกว่า
ทว่าแบทแมนรู้ถึงความสำคัญของโลอิส เพราะเห็นนิมิตซุปฯ ฉบับวายร้าย+เดอะแฟลชเคยเตือนเรื่อง "โลอิสคือกุญแจสำคัญ" ทำให้เรียกโลอิสมาหยุดซุปได้ก่อนเหตุการณ์บานปลายนั่นเอง
(เชื่อว่าหากแบทแมนใช้คริปโตไนท์คงกลายเป็นแบบในนิมิต คือเอาซุปไม่อยู่, ซุปกลายเป็นผู้ร้ายแบบกู่ไม่กลับ, ปกครองโลกร่วมกับกองกำลังเอเลี่ยนวายร้าย)
5) ชุดซุปเปอร์แมนสีดำ
ฉากโดนตัดทิ้งของหนังจัสติสลีค เผยให้เห็นซุปฯ เดินเลือกชุดใส่ในยานสำรวจโบราณคริปตันจนพบกับชุดซุปฯ 'สีดำ'
ก่อนมองไปอีกทาง เห็นชุดซุปฯ สีน้ำเงินแดงแบบเดียวกับที่เขาเคยใช้
และใส่มันไปปะทะสเตพเพ่นวูล์ฟ
(ตอนซุปฯ ตายใน BvS ชุดเดิมซุปฯ เป็นรูจากฝีมือดูมส์เดย์จึงต้องหาชุดใหม่)
แฟนหนังผู้ใช้ทวิตเตอร์ @nickalbright วิเคราะห์เพิ่มเติมอย่างน่าสนใจ เขาคิดว่าแซ็ค สไนเดอร์ตั้งใจรำลึกถึงคำพูดของโจนาธาน เคนท์พ่อบุญธรรมชาวโลกของซุปใน Man of Steel
" วันหนึ่งลูกจะต้องเลือก ว่าจะยืนหยัดอย่างภาคภูมิใจต่อหน้าเหล่ามนุษย์โลกหรือไม่ ? "
และในจัสติสลีคเวลานั้นก็มาถึง ซุปเลือกชุดน้ำเงินแดงเพื่อยืนหยัดอย่างภาคภูมิ แทนการเลือกชุดสีดำดูมืดหม่น
แซ็ค สไนเดอร์เห็นเข้าเลยตอบให้ว่าใช่ พร้อมเสริมว่าฉากนี้สื่อเรื่องการกำเนิดสองครั้งของซุปด้วย
ครั้งหนึ่งบนคริปตัน, อีกครั้งหนึ่งบนโลก ทำให้เขามีความเป็นชาวโลกมากกว่าเดิม
ซุปจึงเลิกมองว่าตัวเองเป็นเพียงคนนอกจากดาวอื่นเหมือนเช่นเคย
6) อัลเฟรดพบซุปเปอร์แมน
ซุปไปคุยกับอัลเฟรดหลังเลือกชุดเสร็จ ตามที่เคยเห็นบางส่วนในตัวอย่างก่อนหนังฉายโรง เนื้อหาการสนทนาไม่มีอะไรพิเศษ
ทั้งสองแค่ทำความรู้จักกันสั้นๆ อัลเฟรดพูดก่อนจบฉากอย่างที่รู้กัน "หวังว่าคุณคงไม่มาช้าเกินไป"
ในหนังก็ไม่ได้อธิบายว่าซุปตามไปช่วยทีมจัสติสลีคถูกที่ได้ยังไง
เสียเวลาบินหารอบโลกไม่เข้าท่าแน่ ดังนั้นหลังแนะนำตัวเสร็จ ซุปคงถามสถานการณ์โดยรวมกับอัลเฟรด-ผู้อยู่โยงเฝ้าบ้านนั่นแหละ
ที่มา
Vero ของ Zack Snyder
https://twitter.com/JNapierrr/status/966604946152943617
https://twitter.com/nickalbright/status/967850051707031552
COMMENTS