มาเริ่มกันที่ผู้ให้กำเนิดเรื่องราวสงครามแห่งดวงดาว "สตาร์วอร์ส-Star Wars" นาม 'จอร์จ วอลตัน ลูคัส จูเนียร์'(George Walt...
มาเริ่มกันที่ผู้ให้กำเนิดเรื่องราวสงครามแห่งดวงดาว "สตาร์วอร์ส-Star Wars" นาม 'จอร์จ วอลตัน ลูคัส จูเนียร์'(George Walton Lucas Jr.) กันก่อน จอร์จ ลูคัสเกิดเมื่อ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1944 ณ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา บิดาเปิดร้านเครื่องเขียน มีพี่น้องผู้หญิงอีกสามคน ช่วงวัยรุ่นตอนปลายสนใจการแข่งรถมากจนฝันอยากเป็นนักแข่งรถมืออาชีพ แต่ประสบอุบัติเหตุจึงล้มเลิกความฝัน
เขาตัดสินใจเรียนต่อในมหาวิทยาลัยด้านภาพยนตร์แทน ระหว่างเรียนก็สร้างหนังสั้นหลายเรื่อง ปี 1967 ได้รับทุนการศึกษาจากวอเนอร์บราเธอร์ส(Warner Brothers) และเข้ารับชมการสร้างภาพยนตร์ของฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปล่า (ผู้กำกับที่สร้างหนังชื่อดังเรื่อง Godfather ภายหลัง) ลูคัสกับคอปโปล่ากลายเป็นเพื่อนกัน ร่วมกันจัดตั้งบริษัททำหนังขึ้น ก่อนลูคัสแยกมาสร้างบริษัททำหนังของตัวเองชื่อ "ลูคัสฟิล์ม-Lucasfilm"
ลูคัสทำสัญญาสร้างภาพยนตร์สองเรื่องให้แก่สตูดิโอยูนิเวอร์แซล(Universal Studios) เมื่อ 1971 จากนั้นหนังที่ลูคัสเขียนบท+กำกับเอง American Graffiti ก็เสร็จสมบูรณ์, ออกฉายปี 1973 หนังได้รับคำวิจารณ์แง่บวก และถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ (Academy Award) แม้ไม่ได้รางวัลแต่ย่อมถือว่าประสบความสำเร็จ
ต่อมา ลูคัสเริ่มเขียนบทร่างแรกของหนังเรื่องที่สอง 'บันทึกแห่งวิล - The Journal of the Whills' บอกเล่าเรื่องราวการฝึกฝนของชูอี้ ทู ธอร์ป (Chuiee Two Thorpe) เพื่อเป็นเจไดเบ็นดู (Jedi-Bendu) ทหารคอมมานโดอวกาศ โดยมีอาจารย์คือเจไดเบ็นดูระดับตำนานนาม เมซ วินดี้ (Mace Windy)
เมซ วินดี้ คาดว่าคือต้นแบบตัวละครเจได 'เมซ วินดู'
ยูนิเวอร์แซลปฏิเสธจะสร้างหนัง แต่ทเวนตี้เซนทูรี่ฟ็อกซ์ (20th Century Fox) กลับสนใจ ลูคัสเห็นว่าเรื่องราวที่เขาเขียนขึ้นเข้าใจยากเกินไป เลยเริ่มเขียนบทร่างใหม่ 13 หน้า ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจเพิ่มเติมจากภาพยนตร์ญี่ปุ่นปี 1958 เรื่อง
'The Hidden Fortress' ของอากิระ คุโรซาว่า (ผู้กำกับเจ็ดเซียนซามูไร-หนังที่ผู้กำกับฝรั่งหลายคนชื่นชอบ)
บทร่างนี้ชื่อว่า "เดอะ สตาร์ วอร์ส-The Star Wars"
* The Hidden Fortress คือภาพยนตร์ญี่ปุ่นอันกล่าวถึงนายทหารสองคน ถูกนายพลเกณฑ์ให้ไปช่วยเจ้าหญิง ตามท้องเรื่องมีผู้ใช้ 'ชี่-qi' ในการต่อสู้ ซึ่งลูคัสบอกว่าคือต้นแบบของ "พลัง-The Force"
ค.ศ.1974 ลูคัสขยายความบทร่างสู่บทหนัง เพิ่มองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น ซิธ, เดธสตาร์ และตัวเอกนามแอนนิคิน สตาร์คิลเลอร์ (Annikin Starkiller) หลังผ่านการเปลี่ยนแปลงมากมายจึงได้บทหนัง"สตาร์วอร์ส-Star Wars" ออกมาในที่สุด
ลูคัสมองว่าหนังสตาร์วอร์สที่จะสร้างให้ฟ็อกซ์เวลานั้น คือเรื่องราวเพียงส่วนหนึ่่งจากหนังทั้งหมด 9 ภาค และเป็นเนื้อหาภาคแรกของไตรภาคชุดที่สอง
เลยให้ทนายเขาทอม พอลล็อค(Tom Pollock) ร่างสัญญากับฟ็อกซ์ เพื่อรักษาสิทธิ์ในการสร้างหนังภาคต่อไว้กับตน กันไม่ให้ใครเอาเขาออกจากโครงการสตาร์วอร์ส
แม้เขาหวั่นใจอยู่ว่าหนังคงไม่ประสบความสำเร็จ (ยุคโน้นสตาร์วอร์สแปลกใหม่มาก คนอาจเข้าไม่ถึงจนหนังเจ๊งเอาง่ายๆ)
ทว่าสุดท้ายภาพยนตร์ Star Wars ที่่ออกฉายค.ศ. 1977 ประสบความสำเร็จระดับปรากฏการณ์ ผลการเดิมพันล่วงหน้าของลูคัสเมื่อครานั้น ออกผลจนสตาร์วอร์สยังอยู่ในมือเขาต่อ และด้วยวิสัยทัศน์อันยอดเยี่ยมซึ่งเขามีต่อโลกแห่งสงครามดวงดาว จึงสามารถรักษาความนิยมไว้ได้อีกยาวนาน ก่อนขายกิจการบริษัทลูคัสฟิล์มพร้อมสิทธิ์ถือครองสตาร์วอร์สทั้งหมดแก่ดิสนีย์(Disney)ตอนปี 2012
ที่มา
COMMENTS