ดูนของแฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต คือนิยายไซไฟคลาสสิก ที่ได้รับการดัดแปลงเป็น ทั้งภาพยนตร์และละคร เท่านั้นไม่พอ, เรื่องราวของมัน ยังแหกขนบ แตกต่างจาก...
ดูนของแฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต คือนิยายไซไฟคลาสสิก ที่ได้รับการดัดแปลงเป็น ทั้งภาพยนตร์และละคร
เท่านั้นไม่พอ, เรื่องราวของมัน ยังแหกขนบ แตกต่างจากผลงานอื่น ๆ ในแนวเดียวกัน
เนื้อหาที่ แปลแบบถอดความจาก cbr.com นี้จะชี้เป้า ถึงสาเหตุเหล่านั้น
แม้ต้นทาง แอบอวย, จนบางข้อความ อาจขัดความรู้สึกบางคน
แต่โดยรวมแล้ว, ข้อมูลเขา ทำให้เราเข้าใจ จักรวาลของ Dune อย่างที่มันเป็นมากขึ้น (หรืออาจถึงขั้น เพิ่งเข้าใจ หลังได้อ่าน)
**เนื้อหาบางส่วน สปอยล์นิยายต้นฉบับ (ซึ่งเท่ากับ สปอยล์หนัง Dune ไปในตัว)**
[10] พอล อะเทรดีส คือผู้กอบกู้ที่ล้มเหลว
ผลงานสาย นิยายวิทยาศาสตร์และแฟนตาซี, มักติดตามใครบางคน ที่เดินบนเส้นทาง สู่การเป็นยอดวีรชน
ผู้ช่วยอาณาจักรเวทมนตร์ หรือดาวทั้งดวง จากมหันตภัย, และนำทุกคนสู่ อนาคตที่ดีกว่า
อย่างไรก็ตาม ตัวเอกของดูน (พอล อะเทรดีส) มิใช่ผู้กอบกู้, และเขาจะรู้เรื่องนั้น ในไม่ช้า
พอลไม่ใช่แค่ ปราบเหล่าอริฮาร์คอนเนน -- เขาจู่โจมทั้งกาแล็คซี่ ด้วยกองทหารเฟรเมน
ซึ่งต่อสู้ ในนามของพอล, แต่ใช่ว่าอยู่ใต้คำสั่ง ของพอลเสมอไป
การทำเช่นนี้ ทำลายแนวความคิดว่า วีรบุรุษต้องสูงส่ง, เหมือนลุค สกายวอล์คเกอร์ อัศวินแห่งห้วงอวกาศ
[9] ไม่มีสายพันธุ์ต่างดาว ทรงสติปัญญา
ท่ามกลางหมู่ดาว ของละครสายไซไฟและหนัง, มักมีมนุษย์ต่างดาว ผู้ชาญฉลาด
เช่น วัลแคนที่รักสันติ ในสตาร์เทรค, วูคกี้ ณ สตาร์วอร์ส และอื่น ๆ อีกเพียบ
ขณะที่มหากาพย์ดูน เกี่ยวกับมนุษยชาติล้วน ๆ, และไร้ฉากการ ติดต่อครั้งแรก (first contact) กับอารยธรรมนอกโลก
เพราะงั้นดูนจึงสามารถ มุ่งเน้นไปที่ สภาวะของมนุษย์, ทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ
โดยไม่ต้องมัวพะวง เรื่องเอเลี่ยน โดยไม่จำเป็น
นี่อนุญาตให้ ความแตกต่าง ทางวัฒนธรรมของมนุษย์, ได้เปล่งประกาย
อาทิเช่น รายละเอียดเรื่องชื่อ หรือเสื้อผ้า ที่อิงอาหรับ, การมีปี่สก็อต เครื่องปั้น และสถาปัตยกรรมสไตล์กรีก
[8] ดูนไม่มีหุ่นยนต์ หรือคอมพิวเตอร์
ทั้งหนังและหนังสือ ขาดองค์ประกอบที่แฟน ๆ ของงานไซไฟ หาได้ดาษดื่น
นั่นคือหุ่นยนต์ขั้นสูง, คอมพิวเตอร์ และปัญญาประดิษฐ์
ผู้ชื่นชอบนิยายรู้ดีว่า เพราะเมื่อหลายพันปีก่อน ของดูน, เกิดบัทเลเรียน จิฮาด (Butlerian Jihad)
สงครามกวาดล้าง เครื่องจักรที่มีปัญญา, มันคือบทเรียนราคาแพง ของมนุษยชาติ
มนุษยชาติเคยพึ่งพา เครื่องจักรกับเอไอ มากเกินงาม, และเกือบกลายเป็น ทาสของพวกมัน
แต่เผ่าพันธุ์เรายัง โค่นล้มพวกมันไหว, และเพื่อให้แน่ใจว่า ประชาชนชาวดูน
จะไม่เจอสถานการณ์แบบใน Terminator หรือ Matrix อีก, พวกเขาจึงคิดเลิก พึ่งเครื่องจักร
[7] การฝึกจิตและร่างกาย นั้นขาดไม่ได้
นิยายวิทยาศาสตร์บางเรื่อง นำเสนอว่าทหาร ผ่านการฝึกเพิ่มความแกร่ง แลทักษะต่อสู้, เช่น Starship Troopers (1997)
แต่จักรวาลดูน โชว์เหนือยิ่งกว่า, ตัวละครอย่างเฟรเมน ทหารอะเทรดีส และมือสังหารนับไม่ถ้วน
เปล่าประสบความสำเร็จ ด้วยเทคโนโลยี, แต่เป็นเพราะการฝึก ที่เข้มงวดล้วน ๆ
ในจักรวาลนี้ จิตและร่างมนุษย์, คืออาวุธที่เลิศกว่า เครื่องจักรทุกชนิด
อาทิเช่น วิชาดาบ, ผัสสะที่เฉียบคม, และการควบคุมได้กระทั่ง กล้ามเนื้อที่ทำงานอัตโนมัติ จัดระเบียบการเต้นของหัวใจ
ขนาดทำเอาตัวละครใน จักรวาลไซไฟอื่น, ดูเกียจคร้าน และพึ่งพาเทคโนโลยี มากเกินไปเลยละ
[6] นักรบต้องพึ่งพา มีดดาบ
สำหรับผู้เพิ่ง ติดตามดูน, อาจรู้สึกว่า การที่นักสู้ใช้ดาบกับมีด
อย่างที่ ดันแคน ไอดาโฮ และเกอร์นีย์ ฮัลเลก ทำ, จัดว่าถอยหลังลงคลอง
แต่มันมีเหตุผลรองรับ, ว่าทำไมพวกเขามัวแกว่ง อาวุธอันดูล้าสมัย
ณ จักรวาลนี้, สนามพลังส่วนตัว หักเหอาวุธโปรเจคไทล์ (projectiles) ได้เกือบหมด
และการยิงเลเซอร์ ใส่โล่พลัง, คืออันตรายโคตร ๆ
หมายความว่า มีวิธีป้องกันอาวุธยิง, ที่แพร่หลาย
บรรดาทหาร มือสังหาร และสารพัดนักบู๊ ทุกหนแห่ง จึงหวนคืนสู่สามัญ (คือใช้มีดดาบ)
เท่านั้นไม่พอ, เคล็ดลับสำคัญคือต้อง โจมตีให้เร็วพอ จะไปถึงเป้าหมาย
แต่ "ช้าพอ" ที่จะผ่าน เกราะป้องกันโปรเจคไทล์ไปได้
[5] ทั้งจักรวาลพึ่งพิง สินค้าชนิดเดียว
เวลานิยายวิทยาศาสตร์อื่น หยิบเรื่องทรัพยากรมาถก หัวข้อจะวนเวียนตรง
เชื้อเพลิงยานอวกาศ, เสบียงสำหรับเดินทางไกล, หรือการขุดเหมืองบนดาวเคราะห์น้อย เพื่อโลหะ
ขณะที่จักรวาลดูน แสดงให้เห็นว่า สิ่งจำเป็นต่อทั้งกาแล็คซี่ มีเพียงอย่างเดียว: สไปซ์
สไปซ์พบได้ เฉพาะบนดูน/อาร์ราคิส, คือผลผลิตจาก หนอนทรายยักษ์ และขั้วอำนาจหลักทั้งหมด ต้องการมัน
ใครที่ควบคุม การผลิตสไปซ์ไว้ ย่อมทรงอิทธิพล
เลโทที่ 2 (ลูกชายของพอล) จะเป็นตัวอย่างอันสุดโต่ง สำหรับกรณีนี้, เมื่อเขากักตุนมัน ในเรื่องราวที่เกิดภายหลัง
[4] ดูนมีการรบในอวกาศ น้อยมาก
จักรวาลดูน มียานอวกาศมากมาย เช่น ไฮไลเนอร์ขนาดมหึมา ที่เคลื่อนย้ายไปรอบกาแล็กซี
มหากาพย์นี้ ไร้เอนเทอร์ไพรส์ (ยานสำรวจ) หรือเอ็กซ์วิงส์ (ยานจู่โจมอิสระ)
ยานอวกาศ ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่า เรือขนสินค้า หรือรถบัสขนาดใหญ่, สักเท่าไหร่ และการต่อสู้ส่วนใหญ่ เกิดขึ้นภาคพื้นดิน
นี่ช่วยให้ดูน ไม่ต้องสนใจความไฮเทค, และมุ่งเน้นไปที่การยุทธ์ แบบโลว์เทค ระหว่างผู้คน บนดาวเคราะห์ต่าง ๆ
แม้แต่การสู้รบยาวนานที่สุด ในประวัติศาสตร์ เหตุยังเกิดบนพสุธาซะมาก
เช่นเดียวกับ การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของพอล, เพื่อทวงคืนดูนจาก พวกฮาร์คอนเนน จอมวางแผน
[3] ดูนทำให้ศาสนา มีความสำคัญมากขึ้น
งานไซไฟอื่น บางครั้งอาจมีหัวข้อ เกี่ยวกับความเชื่อ เช่น ลัทธิบูชามนุษย์ต่างดาว
หรือใส่ *เดอร์เรียล บุ๊ค มา, แบบในรายการทีวี Firefly ที่อายุสั้น
(* ตัวละครสาย ที่ปรึกษาด้านจิตวิญญาณ ของซีรีส์เรื่องหนึ่ง ซึ่งยาวแค่ 1 ซีซั่น)
ขณะเดียวกัน Dune ตั้งคำถามต่อ ความหมกมุ่นในเทคโนโลยี และเอเลี่ยน, ของผลงานแนวไซไฟทั่วไป
โดยให้ความสนใจ กับศาสนา มากขึ้นแทน
ขณะที่ไซไฟอื่น เลี่ยงเรื่องศาสนาบ่อย, หรือไม่ก็ทำเหมือนมัน ล้าสมัย ไม่สำคัญ
ดูนกลับ ใช้เป็นธีมหลัก, ตัวละครจำนวนมาก และคนบางกลุ่ม
ใช้ศรัทธา พระเมสสิยาห์ และโชคชะตาทางศาสนา, เป็นเหตุผลในการติดตามผู้นำ ปกป้องกลุ่มของตนเอง หรือโจมตีผู้อื่น
[2] ดูนบอกว่า สงครามขนาดใหญ่ ล้าสมัยและหายาก
ภาพยนตร์ Dune มีฉากสงคราม ในพื้นที่เปิดโล่ง
เช่นที่กองกำลังผสม ของฮาร์คอนเนนกับจักรวรรดิ เข้าปะทะกองทัพอะเทรดีส ในค่ำคืนแห่งโชคชะตา, ทว่านั่นคือ ข้อยกเว้น
การโรมรันเช่นนั้น หายากนักในจักรวาลดูน, และสะท้อนว่าสิ่งที่เกิดนี้ สิ้นหวังแถมรุนแรง ขนาดไหน
ในเนื้อหาขยายความ ตำนานด้านอื่นของดูน, จะบอกว่าปกติ
พวกมหาอำนาจ ต้องพึ่งพานักฆ่า เพื่อกำจัดศัตรู, ไม่ใช่กองทัพ
มันคือวิธีต่อสู้ ที่สะอาดกว่าจม, เพราะได้ทั้ง ป้องกันการสังหารหมู่
เลี่ยงการทำลายล้าง และห่างจากความเสียหาย ทางเศรษฐกิจ, ที่จะเกิดเมื่อทำสงคราม แบบดั้งเดิมเช่นนี้
[1] ดูนทำให้ ภูมิศาสตร์มีความสำคัญ
นิยายวิทยาศาสตร์เกือบทั้งหมด ใช้ภูมิศาสตร์กับภูมิอากาศ จำแนกดวงดาว
โดยเฉพาะสตาร์วอร์ส ที่มีทาทูอีน (ทะเลทราย) ฮอธ (น้ำแข็ง) และเบสพิน (แก๊ส)
แต่ดูนเปล่าใช้ภูมิศาสตร์ เป็นแค่ฉากหลัง -- มันคือ ปมหลักของเรื่อง
ที่ตัวละครของ Dune ใส่ใจเกี่ยวกับทะเลทราย, ไม่ใช่แค่เรื่อง หาวิธีเอาชีวิตรอด บนดาวนั้น
แต่ยังเพื่อควบคุม สิ่งที่ดยุคเลโท อะเทรดีส, เรียกว่า "พลังแห่งทะเลทราย"
นอกจากนี้ยังมี กลุ่มบุคคลที่ปฏิบัติการ เพื่อพยายามเปลี่ยนดูน กลับเป็นโลกสีเขียว, เหมือนครั้งบรรพกาล
"เลียต ไคนส์" นักดาวเคราะห์วิทยา (นักนิเวศวิทยา) ที่สืบทอดเจตนารมณ์ของบิดา, ก็คือหนึ่งใน กลุ่มบุคคลดังกล่าว
COMMENTS