ช่วงระหว่างไตรภาคก่อน (Ep I-III) กับไตรภาคต้นตำรับ (Ep IV-VI) จัดว่าคือยุคมืด ของจักรวาลสตาร์วอร์ส เจไดถูกคำสั่ง 66 ล้างบาง, ใครที่เหลือรอด ...
ช่วงระหว่างไตรภาคก่อน (Ep I-III) กับไตรภาคต้นตำรับ (Ep IV-VI) จัดว่าคือยุคมืด ของจักรวาลสตาร์วอร์ส
เจไดถูกคำสั่ง 66 ล้างบาง, ใครที่เหลือรอด ก็โดนล่าสังหาร อยู่เนือง ๆ
สาธารณรัฐกลายเป็นจักรวรรดิ อันปกครองกาแล็คซี่ยาว ถึง 19 ปี (ก่อนเจอลูบคมจริงจัง)
อำนาจของ จักรพรรดิพัลพาทีน กะดาร์ธเวเดอร์, แข็งแกร่งเกินต้าน
แสงสว่าง แห่งความหวัง ที่ริบหรี่, เหลือเพียง 'กลุ่มกบฏ' ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพียง คนรากหญ้า
หลังการ ซื้อขายกิจการ ณ ค.ศ. 2012
รู้ตัวอีกที ลูคัสฟิล์ม ยุคดิสนีย์, ก็ดำเนินกิจการต่อ มาร่วมทศวรรษ
ออกคอนเทนท์ที่ ขยายความเนื้อหา, อันเวียนวน รอบช่วงเวลาดังกล่าว หลายต่อหลายอย่าง
บทความแปลจาก screenrant นี่, จะพาคุณ ย้อนมองคร่าว ๆ
ว่าจาก ตอนนั้นถึงตอนนี้, พวกเขาถักทอ ผืนผ้าแห่งเรื่องราว ไปจนยาวขนาดไหนแล้ว
15. จักรวรรดิ ทำลายคามิโน (Star Wars: The Bad Batch ซีซั่น 1)
ไม่นานนักหลัง สงครามโคลนจบ และสาธารณรัฐล่มสลาย, แหล่งผลิตกองทัพโคลนนิ่ง โดนจักรวรรดิบดขยี้
การตัดสินใจนี้เกิดเพราะ ทางจักรวรรดิต้องการ "ยึด" เทคโนโลยีโคลนนิ่ง ไว้เพียงผู้เดียว, เพื่อโครงการ ชีวิตอมตะของจักรพรรดิ
และเพื่อความชัวร์ว่า จะไม่มีใคร ไปทุ่มเงิน เปย์ชาวคามิโน
ให้พวกนั้น ผลิตขุมกำลัง สำหรับต่อต้านพวกเค้า, ในอนาคต
14. วุฒิสภาอนุมัติ โครงการสตอร์มทรูปเปอร์ ของพัลพาทีน (Star Wars: The Bad Batch ซีซั่น 2)
พลทหารโคลนนิ่ง ที่เคยรับใช้สาธารณรัฐ ยังรบเพื่อทัพจักรวรรดิ, แต่ความสำคัญกลับ ลดลงทุกที
จึงมีวุฒิสมาชิกบางคน ออกเคลื่อนไหว เพื่อพยายามการันตี, เรื่องสิทธิ และสวัสดิการให้
แต่พัลพาทีน หันเหความสนใจ ของเสียงในสภาส่วนใหญ่, สู่โครงการใหม่อย่าง "สตอร์มทรูเปอร์"
การเปลี่ยนแนวทาง ไปเน้นทหารเกณฑ์, ทำให้พวกโคลน เริ่มโดนปลดระวาง (ทอดทิ้ง) อย่างไม่แยแส
ซึ่งอย่างที่เรารู้กันดี, จากนี้ปัญหานี้ รังแต่จะหนักข้อ ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลา
13. พลเรือเอกธรอว์น เข้าร่วมกองทัพจักรวรรดิ (นิยาย Star Wars: Thrawn)
ชาวชิส (Chiss) ผิวสีคราม ชื่อธรอว์น, เริ่มตระหนักถึง ขั้วอำนาจใหม่ อันใหญ่คับฟ้า
จึงแล่นออกจาก ภูมิภาคตกสำรวจ (Unknown Regions) ของกาแล็กซี่, ไปสวามิภักดิ์พัลพาทีน
เพื่อสร้างพันธมิตร และมองหาผลประโยชน์, ที่จะเกิดกับผู้คนของเขา
พัลพาทีนเล็งเห็น คุณค่าของ นักกลยุทธ์อันชาญฉลาด, และความรู้เกี่ยวกับ แดนตกสำรวจ
จึงมอบตำแหน่ง ในกองทัพให้, ก่อนธรอว์นจะ ไต่เต้าอย่างไว ไปถึงยศพลเรือเอก
12. ดาร์ธ เวเดอร์ สร้างปราการ บนมุสตาฟาร์ (คอมมิค Star Wars: Darth Vader (2017) #19-25)
ดาร์ธเวเดอร์ ประสบความสำเร็จ ในการนำกองกำลัง อินควิซิเตอร์, ออกไล่เชือดเจได
องค์จักรพรรดิจึงทรง พระราชทานดาว ให้เป็นของรางวัล
เวเดอร์จงใจ เลือกมุสตาฟาร์ (ซึ่งเขาเคยพ่ายแพ้ แก่โอบีวันที่นั่น) แล้วสร้างป้อมปราการ
ปราสาทส่วนตัว (ที่ปรากฏในภาพยนตร์ Rogue One ด้วย) นี่, ก่อขึ้นเพื่อขยายและรวบรวม พลังด้านมืด บนดาวภูเขาไฟ
เอาไว้ใช้สำหรับ ทำพิธีคืนชีพ ภรรยาผู้ล่วงลับ
11. คาล เคสติส กลายเป็นอัศวินเจได และต่อสู้กับจักรวรรดิ (เกม Jedi: Fallen Order กับ Jedi: Survivor)
คาลเคยเป็นพาดาวัน (เจไดฝึกหัด) ที่รอดผ่าน คำสั่งล้างบาง 66
เขาพบเพื่อนพ้อง และพันธมิตรหลายคน, ขณะโดนเหล่าอินควิซิเตอร์ ไล่ล่า และฝ่าดงสตอร์มทรูเปอร์
เขาขัดเกลาตัวเอง จนกลายเป็น มีฝีมือระดับอัศวิน
รวมถึงมองหา โลกที่อยู่ไกลหูไกลตา จากจักรวรรดิ
มากพอจะใช้เป็น สถานหลบภัย, สำหรับ ผู้มีสัมผัสพิเศษ ในด้านพลัง
10. ฮาน โซโล พบชิวบัคก้า, และกลายเป็นเจ้าของ ยานมิลเลนเนียมฟัลคอน (Solo: A Star Wars Story)
หลังเข้าเรียน โรงเรียนนายเรือจักรวรรดิ ได้เพียงสั้นๆ (มาก)
ฮานวัยหนุ่มบาดหมาง กับกองทัพรัฐบาล, และพบชิวบัคก้า ที่เป็นนักโทษอยู่
พวกเขาปลดปล่อยตัวเอง แล้วไปเข้าร่วมกลุ่ม ของบุรุษชื่อโทไบอัส เบ็กเก็ตต์ (Tobias Beckett)
ฮานเจอรักแรก ที่เคยพลัดพรากกัน แบบคีร่า, รวมทั้งสหายอย่าง แลนโด คาลริสเซี่ยน วัยหนุ่ม
ก่อนชนะพนัน ได้ยานคู่ใจ (มิลเลนเนียมฟัลคอน) มาจาก นายแลนโด้
9. การเปิดเผยว่า ดาร์ธมอลคือ ผู้นำตัวจริง ของคริมสันดอว์น (Solo: A Star Wars Story)
คีร่าไม่ยอม หนีตามฮาน ณ ตอนจบของภาพยนตร์
เพราะหล่อนต้องการ เก้าอี้ผู้นำ (เบื้องหน้า) ขององค์กรอาชญากรรมใหญ่, หลังจากที่ คนเก่า (ไดรเด็น วอส) ตาย
คีร่าจึงได้สนทนา กับท่านหัวหน้า ของแท้ (ที่ปรากฏว่า รอดจากเหตุการณ์ใน Episode I) แบบเห็นหน้า
อนึ่ง หลังดาร์ธมอลเดี้ยง (จริง) ทีหลัง, ในเนื้อหาขยายความอื่น ได้ระบุว่า
คีร่ารับเอกสิทธิ์ เหนือคริมสันดอว์น มาดูแลต่อ
8. โอบีวันช่วยเจ้าหญิงเลอา และเผชิญหน้าดาร์ธเวเดอร์ (ซีรีส์ Obi-Wan Kenobi)
เลอาสมัยเด็ก โดนอินควิซิเตอร์ ลักพาตัว
โอบีวันจึงยอม ปลีกตัวจากการ อยู่โยงเฝ้าลุค บนดาวทะเลทรายทาทูอีน
ระหว่างทำภารกิจช่วยเหลือ, เขาถูกบีบให้ต้อง เผชิญหน้าอดีตลูกศิษย์ (อนาคิน สกายวอล์คเกอร์)
โอบีวันชนะการดวล กับดาร์ธเวเดอร์, แต่ปล่อยให้อีกฝ่าย รอดชีวิต
เขาส่งองค์หญิงน้อย คืนสู่อ้อมอกพ่อเลี้ยง, และสนทนากับ วิญญาณอดีตอาจารย์ (ไควกอน จินน์) ได้สำเร็จ
7. แคสเซียน เอนดอร์ ฝากตัวกับ ลูเธน ราเอล (ซีรีส์ Star Wars: Andor)
ท่ามกลางยุคมืด, เมล็ดพันธุ์แห่งการกบฏ เริ่มเติบโตไปทั่วกาแล็คซี่ อย่างช้า ๆ
ลูเธน ราเอล คือบุรุษลึกลับ มากความสามารถ ของกลุ่มกบฏ, ที่ยังอยู่ ในช่วงตั้งไข่
กล้าจะเลือกทำ สิ่งที่ตกลงใจยาก ขัดต่อศีลธรรม, หลายต่อหลายประการ
จนแคสเซียน เอนดอร์ ผู้ซึ่งปลุกความตั้งใจ, จะต่อสู้เพื่อคนรากหญ้า ให้ลุกโชนได้ในที่สุด
ยอมฝากตัวกับหมอนี่ เพื่อเรียนรู้วิธี ที่จะต่อต้านจักรวรรดิ อย่างมีประสิทธิภาพ
6. เอซร่า บริดเจอร์ เข้าร่วมกับ เดอะ สเปคเตอร์ส (Star Wars Rebels)
หลายปีก่อน Episode IV, 'เอซร่า บริดเจอร์' เด็กหนุ่มผู้ มีสัมผัสด้านพลัง
เข้าเป็นส่วนหนึ่ง ในหน่วยย่อย ของกลุ่มกบฏ, ที่ชื่อสเปคเตอร์ส (The Spectres)
เรียนรู้วิถีเจได จากผู้รอดผ่าน การล้างบาง, อย่าง 'เคนัน จาร์รัส'
เขาจะเติบโต มีวิชาแก่กล้า ขึ้นเรื่อยๆ ไปพร้อมกับพวกพ้อง
ที่ค่อยๆ มีบทบาทสำคัญ มากขึ้นเป็นระยะ, ในสงครามระหว่าง ฝ่ายกบฏกับจักรวรรดิ
5. อาโซก้า ดวลกับ ดาร์ธเวเดอร์ (Star Wars Rebels ซีซั่น 2)
'อาโซก้า ทาโน่' เจไดผู้เคยถูก ขับไล่จากนิกาย ก่อนสงครามโคลนจบ, คือสายข่าว และตัวช่วยของ ทีมสเปคเตอร์
เธอค้นพบความจริง เกี่ยวกับดาร์ธเวเดอร์ บนดาวของพวกซิธ ชื่อมาลาคอร์ (Malachor)
เธอดวลกับอดีตอาจารย์ (อนาคิน สกายวอล์คเกอร์) ระหว่างที่อาวุธโบราณ เดินเครื่องอยู่ใกล้ ๆ
สถานการณ์คับขัน จนดูไม่น่ารอด แต่ชะตาหล่อนก็เปลี่ยน, เพราะการเดินทาง 'ข้ามเวลา' ของเอซร่า
4. โอบีวัน ดวลกับ ดาร์ธมอล บนทาทูอีน (Star Wars Rebels ซีซั่น 3)
ขณะดาร์ธมอลพยายาม ชักจูงเอซร่า สู่ด้านมืด
เขาเห็นนิมิต ว่าคู่แค้นเก่า อยู่ที่ไหน, จึงดิ่งไปท้าดวล นัดล้างตา
ทว่ามอลสิ้นชีวี, ชัยชนะตกเป็น ของโอบีวัน เคโนบี
3. โบ-คาทาน ได้ครองดาร์กเซเบอร์ บนดาวแมนดาลอร์ (Star Wars Rebels ซีซั่น 4)
ลูกทีมสเปคเตอร์ ชื่อซาบีน เรน (Sabine Wren) ที่เป็น ชาวแมนดาลอร์
เก็บกระบี่แสงสีดำ (ดาร์กเซเบอร์) มาได้จากดาร์ธมอล, และมองว่าตัวเอง ไม่คู่ควรกับมัน
ดังนั้นระหว่างที่ ทีมสเปคเตอร์พยายาม ช่วยชาวแมนดาลอร์ ให้รวมเป็นหนึ่ง, ในศึกกับจักรวรรดิ
เมื่อเธอตระหนักว่า สมาชิกราชวงศ์แบบ องค์หญิงโบคาทาน ครีซ, น่าจะเหมาะสม
จึงมอบ 'สัญลักษณ์แห่งผู้นำ' นี่ ให้แก่หล่อน
2. ธรอว์น และเอซร่า หายสาบสูญ (Star Wars Rebels ซีซั่น 4)
หลังการเสียสละของ เคนัน จาร์รัส, และการปลดแอก ดาวโลธัล (Lothal)
เอซร่าที่เผชิญหน้าตรงๆ กับพลเรือเอก ธรอว์น, ใช้การเชื่อมจิต ผ่านพลัง
เรียกวาฬอวกาศ (ที่สามารถ เดินทางผ่านไฮเปอร์สเปซ ได้ตามธรรมชาติ)
มาพาวาร์ป แบบสุ่ม จุดหมายปลายทาง, เพื่อลากบอส (ธรอว์น) ออกนอกแผนที่
เขาช่วยพวกพ้อง สำเร็จดังนี้, แต่ก็กลายเป็นคนหาย แบบยิงยาว
1. สมรภูมิสคาริฟ (Scarif) และการชิงแผนผังเดธสตาร์ (Rogue One: A Star Wars Story)
จุดจบของยุคมืด คือจุดเริ่มต้นของ สงครามใหญ่ที่จะตามมา
"แคสเซียน เอนดอร์" กับทีมกบฏแหกคอก (Rogue One)
ยอมทำภารกิจพลีชีพ ไปขโมยแผนผังของ อาวุธพิฆาตดารา
จนเกิดการรบอันเดือดพล่าน ขึ้นบนดาวสคาริฟ, ซึ่งเป็นที่ตั้ง ฐานทัพจักรวรรดิ
สุดท้ายความรู้เรื่อง จุดอ่อนของเดธสตาร์ เลยตกถึงมือของ องค์หญิงเลอา
COMMENTS