เอเลี่ยนต่างมิติ, นาซี, วิหารอาถรรพ์ >>ลำดับเหตุการณ์ในจักรวาล Indiana Jones ฉบับเน้นหนังภาค 1-4

ว่าไปแล้ว ลักษณะการนำเสนอของ ภาพยนตร์ชุด อินเดียน่า โจนส์ แอบคล้าย ทรานส์ฟอร์เมอร์ส (สมัยผกก.ไมเคิล เบย์) อยู่อย่าง คือระหว่างการผจญภัย อันเ...

ว่าไปแล้ว ลักษณะการนำเสนอของ ภาพยนตร์ชุด อินเดียน่า โจนส์

แอบคล้าย ทรานส์ฟอร์เมอร์ส (สมัยผกก.ไมเคิล เบย์) อยู่อย่าง

คือระหว่างการผจญภัย อันเป็นเหตุการณ์หลัก กลางหนังทุกภาค

จะถูกสอดแทรก, เหตุการณ์เสริม (ซึ่งเกิดขึ้นในอดีต) เพิ่มตลอด

ส่วนมากถ่ายทอด ผ่านบทสนทนา, แต่ถ้าสำคัญหน่อย ก็มีมาให้เห็นเป็นฉาก ๆ

ดังนั้น แม้เวลาพินิจแบบแยกภาค, เราจะไม่รู้สึก ถึงความซับซ้อน

แต่จักรวาลอินดี้, ซึ่งจำนวนภาพยนตร์น้อย (เมื่อเทียบกับอายุ ของแฟรนไชส์)

ดันมีไทม์ไลน์ (ลำดับเหตุการณ์) ของทั้งจักรวาล 

ที่รายละเอียดแยะ เกินคาด, แถมมองออกยาก ว่าสิ่งใดเกิดก่อนหลัง

เท่านั้นไม่พอ สำหรับคนชอบพ่อ (หรือต้องเรียกว่าปู่ละ) นักผจญภัยรายนี้

คุณยังตามสืบ ประวัติเขาเพิ่มได้, ผ่านรายการโทรทัศน์ ในอดีตอีก (หมายถึง The Young Indiana Jones Chronicles)

อย่างไรก็ตาม จานหลักในเมนู (เนื้อหา) ของบทความนี่ (อันแปลจาก DigitalSpy) เน้นหนักที่หนังภาค 1-4

ส่วนรายละเอียด เกี่ยวกับซีรีส์, ถือเป็นเพียงจานรอง ของมื้ออาหาร

[5,000 ปีก่อนคริสตกาล] สิ่งมีชีวิตระหว่างมิติ 13 ตน ที่ต้องขอย้ำสักหน่อยว่า "ไม่ใช่มนุษย์ต่างดาว"

ตามคำกล่าวอ้าง ของสหายอินดี้ชื่อ แฮโรลด์ อ็อกซ์ลีย์ (รับบทโดยจอห์น เฮิร์ท ใน Crystal Skull)

มาเยือนนครแห่งขุมทรัพย์ หรือ อะคาธอร์ (เอลโดราโด้) ณ บราซิล

พวกเขามอบสิ่งมีค่า (ไม่ต่างจากทอง) มากมาย แก่ผู้คนท้องถิ่น 

เป็นต้นว่า ถ่ายทอดเทคโนโลยี, วิธีสร้างถนน หรือระบบชลประทานให้

สิ่งมีชีวิตชั้นสูง (อันมี อำนาจจิตลี้ลับด้วย) พวกนี้เอง 

ที่เป็นที่มาของ กะโหลกแก้ว ในหนังอินดี้ภาค 4

[1,400 ปีก่อนคริสตกาล] รายละเอียดของเหตุการณ์ ไม่ชัดเจน, เพราะยุคนั้น ไร้อินเทอร์เน็ตไวไฟ

แต่โมเสสกับพระเจ้า แชทคุยกัน แล้วลงเอยว่ามีการนำ

บัญญัติ 10 ประการ (กฎหมายที่พระเจ้าประทาน) บรรจุลงหีบ

หีบดังกล่าว ได้รับความศักดิ์สิทธิ์ กลายเป็น ขุมทรัพย์ที่สุดขอบฟ้า

อันภายหลัง ถูกเก็บซ่อน ในอุโมงค์ลับ 

ชื่อวังแห่งวิญญาณ (the Well of Souls) ณ เมืองแทนิส ประเทศอียิปต์

[ค.ศ. 30] จอกที่เชื่อว่า พระเยซูผู้โด่งดังใช้ ในพระกระยาหารมื้อสุดท้าย

ได้ถูกใช้รองรับ, โลหิตของพระองค์ ขณะโดนตรึงบนไม้กางเขน

อีกไม่กี่ปีให้หลัง โยเซฟชาวอาริมาเธีย (Joseph of Arimathea) ผู้จัดการพระศพ, พกมันไปอังกฤษ 

แล้วที่จุดนึงของประวัติศาสตร์, ภราดรภาพ แห่งดาบกางเขน (the Brotherhood of the Cruciform Sword) ก็ถูกก่อตั้งขึ้น 

ภายใต้คำสาบานว่า จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้อง จอกศักดิ์สิทธิ์

[ค.ศ. 1095] เซอร์ริชาร์ด (อัศวินครูเสด) และพวกพ้อง พบสถานที่เหมาะสำหรับ เก็บรักษาจอก

อัศวินคนหนึ่งรับอาสา อยู่แถวหุบผาจันทร์เสี้ยว (Canyon of the Crescent Moon) อย่างไร้กำหนด, เพื่อพิทักษ์วัตถุศักดิ์สิทธิ์

อำนาจของจอก ทำให้เมื่อคุณ ใช้มันรองน้ำที่นั่น, มาดื่ม จะได้รับชีวิตนิรันดร์

แต่เงื่อนไขสำคัญคือ ห้ามออกนอก เขตแห่งมหาลัญจกร 

หรือเว้ากันซื่อๆ คือ ถ้าอยากอมตะ อย่าออกนอกเขตอาคม (หุบผา)

แต่ใช่ว่า ก๊วนอัศวินครูเสด กะจะกั๊กจอก, ไว้ชั่วกัปชั่วกัลป์

พวกเขาเชื่อว่าสักวัน ย่อมมีผู้เหมาะสม มารับช่วงต่อ

อัศวิน 2 หน่อ จึงทิ้งเบาะแส เกี่ยวกับแหล่งสถิตของจอก (หุบผา) ไว้บนหลุมศพของพวกเขา

และปรากฏว่า หนึ่งในหลุมฝังศพนั่น อยู่ใต้ท่อระบายน้ำของเวนิส (อิตาลี)

[1546] ฟรานเชสโก้ เดอ ออเรลลาน่า (นักล่าอาณานิคมชาวสเปน) หายตัวลึกลับ, ระหว่างตามหาอะคาธอร์ ณ อเมซอน

[1872] เฮนรี่ โจนส์, ซีเนียร์ (สวมบทโดย ฌอน คอนเนอรี่ ใน Last Crusade) เกิดที่สก็อตแลนด์ เมื่อ 12 ธันวาคม

[1899] เฮนรี่ โจนส์ จูเนียร์ เกิดเมื่อ 1 กรกฎาคม, ตอนโตขึ้น เขาถือวิสาสะเปลี่ยนชื่อตัวเอง (เพราะไม่ชอบ)

แต่ก็เลือกใช้ "อินเดียน่า" ตาม 'หมาตัวโปรด' เพราะรสนิยมส่วนบุคคล

ผู้สวมบท อินเดียน่า โจนส์ (วัยเก๋า) ในภาพยนตร์, คือแฮริสัน ฟอร์ด

[1912] ปีเดียวกับที่ มารดาป่วยตาย, อินดี้ได้แผลเป็นบนคาง เพราะใช้แส้ครั้งแรก (แล้วพลาด)

เหตุการณ์ปรากฏ บนภาพยนตร์ Last Crusade, โดยริเวอร์ ฟีนิกซ์ คือผู้สวมวิญญาณอินดี้ (วัยหนุ่ม)

อินดี้วัยหนุ่ม ยังต้องเจอ การผจญภัยอีกมาก ในรายการโทรทัศน์

รวมทั้งพบสารพัด ดารารับเชิญ เช่น แดเนียล เคร็ก (007), แคทเธอรีน ซีต้า โจนส์, 

คริสโตเฟอร์ ลี (Star Wars, James Bond) หรือคลาร์ค เกร็ก (มาร์เวล เอเจนท์ โคลสัน)

[1926] ช็อตตี้ หรือช็อตราวด์ (Short Round) เด็กที่เป็นลูกไล่ของอินดี้ ใน Temple of Doom เกิดแถวปีนี้

เจ้าของบทคือ กวาน เก๊ ฮวี (หรือ Jonathan Ke Huy Quan) สมัยเป็นดาราเด็ก

ก่อนอีกหลายสิบปีให้หลัง, เส้นทางชีวิตจะพาเขา กลับมาเฉิดฉายบนจอใหญ่ 

ในภาพยนตร์ที่ ไม่เกี่ยวอะไรกะอินดี้เลย อย่างซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส (Everything Everywhere All at Once)

ณ ช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน, อินดี้มีสัมพันธ์เชิงชู้สาว กับลูกสาวของแอบเนอร์ (ผู้เป็นทั้งเพื่อนและอาจารย์)

แต่เพราะ "แมเรียน เรเวนส์วูด" ยังไม่บรรลุนิติภาวะ, นี่จึงไม่ใช่พฤติกรรม ที่เข้าท่าเท่าไหร่

[1935] อินดี้ ปิ๊งนักร้องไนท์คลับ ชื่อวิลลี่ สก็อต (เคท แคปชอว์) 

เพราะต้องผจญภัย ร่วมกับหล่อนและช็อตตี้ มุ่งสู่วิหารอาถรรพ์ในอินเดีย (Temple of Doom)

อินดี้นำศิวลึงก์ (ศิลาศักดิ์สิทธิ์) ที่โดน ลัทธิบูชาเจ้าแม่กาลีขโมย, กลับคืนหมู่บ้านแห่งหนึ่ง

รวมถึงปลดปล่อย เหล่าทาส, ที่ถูกลัทธิบูชากาลี เกณฑ์ไปใช้ซี้ซั้วด้วย

[1936] ด็อกเตอร์อินเดียน่า โจนส์, กระโจนสู้ 'นาซี' เพื่อแย่งชิงขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า (หีบศักดิ์สิทธิ์)

ระหว่างนั้น ถ่านไฟเก่าระหว่างเขา กับแมเรียน เรเวนส์วูด (คาเรน อัลเลน) ได้ปะทุ

ด็อกเตอร์โจนส์หลบพ้น ความพิโรธของพระเจ้า (ไม่เหมือนพวกนาซี ที่บังอาจเปิดหีบ) และส่งมันให้รัฐบาลอเมริกา

หีบถูกส่ง ตรงเข้าโกดังลับ (แอเรีย 51) เพราะอันตราย เกินกว่าจะศึกษา

[1938] แมเรียนเลิกกับดร.โจนส์, โดยไม่บอกฝ่ายชายว่า อุ้มท้องลูกของเขาอยู่

เฮนรี่ โจนส์ ที่สาม, ไม่ชอบชื่อตัวเอง เมื่อโตขึ้น เหมือนใครบางคน

จึงเปลี่ยนชื่อเป็น 'มัตต์' ตามหมา เหมือนใครบางคน อีกเช่นกัน

ปีเดียวกัน, ดร.โจนส์ กระโจนสู้นาซีซ้ำ เพื่อพ่อ (ฌอน คอนเนอรี่) ผู้โดนลักพาตัว

นาซีพยายาม บังคับให้ฌอน คอนเนอรี่, ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์

แต่สุดท้ายก็ปราชัยไป, เพราะความช่วยเหลือของ กำลังเสริมฝ่ายพระเอก

เช่น บอสที่มหาวิทยาลัยของอินดี้ อย่างคุณมาร์คัส โบรดี้ (เดนโฮล์ม เอลเลียต)

และเพื่อนชาวอียิปต์ ชื่อซัลล่าห์ (จอห์น รีส-เดวี่)

[1941-45] ดร.โจนส์ รับใช้ชาติ ในสงครามโลกครั้งที่ 2, ได้รับเหรียญเกียรติยศ กองเป็นพะเนิน

[1947] รัฐบาลอเมริกา เก็บกู้ศพเอเลี่ยนได้ ณ เมืองรอสเวลล์

อีกสิบปีให้หลัง, กองทัพโซเวียตนำโดย พันโทด็อกเตอร์หญิง เอริน่า สปัลโก้ (เคท แบลนเช็ตต์) จะพยายามขโมยมัน

[1951] เฮนรี่ โจนส์ ซีเนียร์ เสียชีวิต, ลูกชายเขา เก็บรูปพ่อไว้มอง ตอนนั่งโต๊ะทำงาน

[1952] มาร์คัส โบรดี้ สิ้นใจ (น่าจะแค่ แก่ตายอีกราย) 

มีการประดับ รูปปั้นกับภาพของเขา ไว้ที่มหาวิทยาลัยมาร์แชลล์

รูปถ่ายของมาร์คัส ตั้งอยู่บนโต๊ะของอินดี้ อีกเช่นกัน

[1957] อินดี้ต้องร่วมผจญภัย กับไอ้หนุ่มสิงห์มอเตอร์ไซค์ ชื่อมัตต์ วิลเลียมส์ (ไชอา เลอบัฟ)

โดยไปรู้ทีหลังว่า นี่คือลูกชายของเขา ที่เกิดกับแมเรียน

อินดี้กะมัตต์, ค้นหาแมเรียน กะแฮโรลด์ อ็อกซ์ลีย์ 

ที่กองทัพโซเวียตลักพาตัว เพื่อบังคับให้ช่วยหา อะคาธอร์

กองทัพโซเวียตหวังว่า ถ้าทราบเรื่องสิ่งมีชีวิตชั้นสูง (กะโหลกคริสตัล) กับอะคาธอร์มากพอ

จะใช้ต่อยอดงานวิจัย ด้านพลังจิตสำหรับ ล้างสมองผู้คนได้, แต่ลงท้ายก็ไม่สำเร็จ ตามสูตร

ส่วนอินดี้ ถ่านไฟเก่าปะทุ กับแมเรียน (อีกรอบ) และเข้าพิธีแต่งงานกะหล่อน

[1969] อินดี้โคจรพบ คู่ปรับเก่า (ซากทัพนาซี) ในภาพยนตร์ภาค 5 กงล้อแห่งโชคชะตา (the Dial of Destiny)

[1990s] หาก The Young Indiana Jones Chronicles ไม่ถูกปัดตก ออกนอกสารบบเนื้อหาหลัก (Canon) 

ดร.โจนส์จะยัง สอนวิชาโบราณคดี ที่มหาลัยมาร์แชลอยู่, ในช่วงอายุ 90