ในภาค 1.5 ที่ขยายความเรื่องราว ช่วงต้นของ The Way of Water บทแรก นายพลหญิงฟรานเชส อาร์ดมอร์ ได้นำกองยานของอาร์ดีเอ จำนวนกว่า 10 ลำ, มาบุกแพน...
ในภาค 1.5 ที่ขยายความเรื่องราว ช่วงต้นของ The Way of Water บทแรก
นายพลหญิงฟรานเชส อาร์ดมอร์ ได้นำกองยานของอาร์ดีเอ จำนวนกว่า 10 ลำ, มาบุกแพนดอร่า
และยื่นข้อเสนอให้พวกอาร์ดีเอเก่า (ที่เคยช่วยนาวี) ย้ายข้างกลับสู่พวกพ้องร่วมสปีชีส์, โดยจะยอมนิรโทษกรรม แถมจ่ายเงินเดือนย้อนหลัง
พรรคพวกมนุษย์จึงเทเจค ซัลลี่ทิ้ง เสียเกินครึ่ง, ทว่าเจคยังไม่ล้มเลิกความคิด ที่จะชิงลงมือก่อน
ด้วยการรุกใส่ตั้งกะปรปักษ์ ยังอยู่เหนือชั้นบรรยากาศของแพนดอร่า
แม้นเคยซักซ้อมกันมา หลายเพลา, ทว่าอากาศยานและทรัพยากร สำหรับภารกิจบนอวกาศ
เหลือพอสำหรับ เปิดการยุทธรอบใหญ่ เพียง 1 งวด
มันจึงเป็นภารกิจที่จะนาวี หรือมนุษย์ผู้ปฏิบัติการ, ล้วนพร้อมทุ่มหมดหน้าตักเพื่อพิชิต และ "สู่ขิต" กันหมด
ฉะนั้นแม้เนเทยัม (ลูกคนโตสุด) เรียนรู้วิธีรบบนโลกมืดแล้วอยู่, แต่ผู้ปกครองทั้งคู่ ก็มิยินยอมให้เข้าร่วม
ระหว่างครอบครัวซัลลี่เก็บข้าวของ เพื่ออพยพสู่แคมป์สูง (High Camp) ฐานที่มั่นใหม่ บนเทือกเขาลอยฟ้า
เจคสังเกตเห็นว่าคีรีไม่อยู่, ซึ่งเป็นเพราะเธอมัวตาม สไปเดอร์มาอพยพด้วยกัน
ทั้งที่ แนช แมกคอสเกอร์ (Nash McCosker) พ่อเลี้ยงและผู้อุปการะ (ตัวจริง) ของสไปเดอร์
เลือกยอมแพ้แลย้ายข้าง, เลยจะพาครอบครัวตน ไปร่วมวงกะนายพลอาร์ดมอร์โดยสันติ
แน่นอนว่าความเห็นของเด็กสองคน (คีรีกะสไปเดอร์) พ่ายแพ้ต่อผู้ใหญ่ (เจคกะแนช)
สไปเดอร์จึงโดนพ่อเลี้ยง ลากตัวแยกจาก, พ้นสายตาครอบครัวซัลลี่
แต่พอเจค & เนย์ทีรี่ ปลีกตัวจากพวกลูกๆ มุ่งสู่การเตรียมออกอวกาศ
คีรีนึกครึ้มยังไงไม่ทราบ, ชวนโลอัคกับทุค เผ่นพ้นขบวนอพยพ
(ส่วนเนเทยัมที่ควรคอยห้าม เพราะป๊าม๊าฝากดูแลน้องๆ ไว้ ดันหายหัวไปไหนไม่รู้)
ปรากฏว่าคีรี มองหาคำชี้แนะจากเอวา, หล่อนซาเฮย์ลู (เชื่อมต่อ) กับรุกขชาติแห่งวิญญาณ
เสร็จแล้วตกลงปลงใจได้ว่า จะอีท่าไหนก็ต้อง "ช่วยสไปเดอร์"
เธอกับพี่น้องบ่ายหน้าเยือน ฐานเก่าอาร์ดีเอ (เฮลส์เกต) ยามราตรี
แอบพาสไปเดอร์ หนีจากห้องนอน (หมอนี่โดนพ่อเลี้ยง กักบริเวณ)
...แต่ดันเจอะแนช แมกคอสเกอร์ กลางคัน, แผนหลบหนีพังพาบ
ขณะเดียวกับที่คีรี พยายามช่วยสไปเดอร์, "เนเทยัม" มุดออกจากลังเปล่า บนกระสวยอวกาศที่เจคกะเนย์ทีรี่โดยสาร
ป๊ะป๋ากับหม่าม้าโวยวายใหญ่ว่า เอ็งไม่ควรมานี่ และร่ำๆ จะถอนตัวจากภารกิจ, เพื่อส่งลูกกลับ
แต่เนเทยัมยืนกรานว่า เขาก็เป็นนักรบคนหนึ่ง (แถมเวลาก่อนเริ่มสู้ เหลืออีกไม่มาก)
สุดท้ายชาวนาวี หัวหน้าทีมปฏิบัติการย่อยรายนึง จึงอาสาเป็นพี่เลี้ยงนักรบเด็กให้, เพื่อจบปัญหา
ละครครอบครัวอลเวง ของพวกซัลลี่ เลยยุติลงชั่วคราว
เนเทยัมเข้าร่วมทีมลอบจู่โจม ซึ่งจะลอยตัวออกนอกกระสวยสู่โลกมืด โดยแทบจะตัวเปล่า (คือพกแค่ชุดอวกาศ กับอาวุธ)
ฟากเจค & เนย์ทีรี่ กับพวกพ้องหยิบมือหนึ่ง, แสร้งทำเป็นยอมเจรจาเพื่อสันติภาพ กับนายพลอาร์ดมอร์
แต่ที่จริงนี่ก็แค่ "การถ่วงเวลา" เพื่อรอให้พรรคพวก จัดวางกำลังพล (สำหรับตีทีเผลอ) จนเข้าที่
เจคเริ่มเปิดฉากเจรจา ผ่านการขู่นายพลหญิงว่า ถ้าไม่ยอมถอยทัพโดยดี
ทางอั๊วะจะระเบิดสิ่งก่อสร้าง ในฐานทัพอาร์ดีเอเก่า, ที่พวกลื้ออยากได้คืนหนักหนาทิ้ง (เป็นต้นว่า โรงงานหรือเหมือง)
เมื่อฝั่งมนุษย์จากดาวโลก ยังคงท่าทีกร่างใส่ (แม้หวั่นใจบ้าง)
จึงค่อยทิ้งไพ่ใบเด็ดกว่าเก่าลงโต๊ะ นั่นคือแร่อันอ็อบเทเนียมปริมาณมหาศาล มูลค่ากว่า 3.2 ล้านล้านดอลลาร์
แร่ที่อาร์ดีเอขุดทิ้งไว้สมัยก่อน จะโดนระเบิดบึ้มวินาศสิ้นเช่นกัน หากท่านนายพลไม่คิดถอย
ทว่าแทนที่อาร์ดมอร์จะอึ้งทึ่งเสียว พาพรรคพวกเลี้ยวกลับมาตุภูมิ, เพื่อรักษาผลประโยชน์มหาศาล
เธอดันขู่เจคคืนว่า ลูกๆ ของพวกสูเจ้า ตกอยู่ในกำมือข้าละหนา
สาเหตุเพราะ 'แนช แมกคอสเกอร์' รายงานเข้ามาว่า ตูทรยศพวกพ้องเก่า
ช่วยปลดชนวนระเบิด บนสิ่งก่อสร้างเลอค่า ให้ทั้งหมดแล้วน้า
แถมจับลูกๆ ของเจค ซัลลี่ (โลอัค, คีรี, ทุค) ได้อีกจ้า
สถานการณ์ดังนี้ ทำเอาเจค & เนย์ทีรี่ตกเป็นฝ่าย หน้าเหวอแทนเฉย
แต่ลงเอยที่เจคใจเด็ด, สั่งเพื่อนเริ่มการ ลอบโจมตียานของนายพล (แม้ทำให้ลูกๆ บนแพนดอร่า เสี่ยงโดนฆ่า)
จากนั้นการสัประยุทธ์ได้บังเกิด, เจคกับเมียรัก พาแฮ็คเกอร์มือดี (มนุษย์ชื่อจอช วินสโลว์)
ไปที่เซิร์ฟเวอร์ของยาน เพื่อยึดการควบคุมอาวุธ ป้อมปืนต่าง ๆ
ถ้าสำเร็จ ยานอีก 9 ลำ (ซึ่งไม่น่ากล้าฆ่านายพล กับพวกพ้องทิ้ง) จะจบสิ้นเรียบ
แต่ก่อนสั่งยิงเพียงเล็กน้อย พ่อแฮ็คเกอร์ใส่แว่นที่อุตส่าห์พิมพ์ชื่อให้, ดันตายเสียฉิบ
เจค ซัลลี่ ผู้ขาดแคลนกำลังพลฝ่ายมนุษย์, ไม่มีแผนสำรองอื่นใด จะใช้พยายามซ้ำอีกรอบ
ต้องจำใจสั่งให้พรรคพวกทั้งหลาย ถอยทัพคืนสู่แพนดอร่า
COMMENTS