แม้ภาพยนตร์เกี่ยวกับดูน (Dune) เมื่อครั้งอดีต (ค.ศ. 1984) ไม่ใคร่ประสบความสำเร็จ แต่ผู้กำกับ เดอนี วีลเนิฟว์ (Denis Villeneuve) จะรีเมคหนัง...
แม้ภาพยนตร์เกี่ยวกับดูน (Dune) เมื่อครั้งอดีต (ค.ศ. 1984) ไม่ใคร่ประสบความสำเร็จ
แต่ผู้กำกับ เดอนี วีลเนิฟว์ (Denis Villeneuve) จะรีเมคหนังสือปี 1965 ของแฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต (Frank Herbert) ขึ้นจอใหญ่อีกหน
Dune คือตัวพ่อของวงการนิยายไซไฟ (Science Fiction) ผลงานดังกล่าวสร้างแรงบันดาลใจ ให้นิยายไซไฟและภาพยนตร์อีกหลายต่อหลายเรื่อง
ซึ่งเมื่อพิจารณาจากสภาพของ (Dune 1984) ที่บทบรรยายยาวเหยียดเยอะแยะ จนชวนอึ้ง
จักรวาลแห่ง Dune ตามจินตนาการของเฮอร์เบิร์ต ค่อนข้างซับซ้อน, จนเผลอๆ อาจเป็นไปไม่ได้ที่จะนำมาสร้างหนังดีๆ
สตูดิโอผู้ผลิตภาพยนตร์ คงคิดถ้วนถี่เรียบร้อยว่า หากมีใครสักคนสามารถพอ... เขาคนนั้นต้องเป็น เดอนี วีลเนิฟว์ แหละ
อย่างไรก็ตาม ถ้ามีความเข้าใจในเรื่องราวก่อนดูหนังอยู่บ้าง
ยามรับชมย่อมสามารถ จดจ่อกับเหตุการณ์ตรงหน้าได้ง่ายกว่า และเพลิดเพลินกับสิ่งต่างๆ ได้อย่างสะดวกขึ้น, เลยนำพื้นฐานที่คิดว่าควรรู้ ก่อนเข้าสู่จักรวาล Dune มาเสิร์ฟ
แหล่งอ้างอิงหลักคือ Dune 1984 เพราะถึงแม้จะถูกดัดแปลงจากนิยาย
แต่เท่าที่เช็คแล้วก็ไม่ใช่ผลงานประเภท บิดเบือนต้นฉบับหนัก หรือเค้าโครงดั้งเดิมหดหายเกลี้ยง
ส่วนแหล่งข้อมูลอีกจุด คือบทความบนเว็บไซต์ screenrant
ประวัติศาสตร์ของจักรวาล Dune
ณ 'อนาคต' ของมนุษยชาติ แถวปี 6041, เวลานั้นความกว้างขวางทางสังคมของเผ่าพันธุ์เรา เหนือกว่าปัจจุบันนัก
เพราะมนุษย์กระจายตัวไปตั้งถิ่นฐาน อยู่ตามดาวต่างๆ ทั่วอวกาศ ภายใต้การบริหารงานโดยสมองจักรกล ที่บังคับด้วยจิตมนุษย์
ทีแรกการปล่อยให้หุ่นยนต์รับใช้ คอยปรนนิบัติ มันฟินเหลือหลาย
เหล่าผู้คนที่ถูกปรนเปรอด้วยความสะดวกสบาย (จากการใช้เครื่องจักร) จึงเฉยเมยต่อการใช้ชีวิต ตามเจตจำนงของตน
ลงท้ายเลยโดนผู้มีเครื่องจักร ปฏิบัติเยี่ยงทาสและเหยื่ออารมณ์ทีหลัง
แต่แน่นอนว่าพอเจอกดขี่หนัก พลเมืองก็ลุกฮือขึ้นมาต่อต้าน
พวกคลั่งศาสนารวมตัวกันก่อกบฏครั้งใหญ่ ต่อสู้กับหุ่นยนต์
เมื่อการปฏิวัติสัมฤทธิ์ผล ผู้คนตระหนักแล้วว่าต้องพัฒนาจิตใจ ไม่งั้นเจอหายนะซ้ำ
ศาสตร์แห่งการฝึกจิต เป็นวิชาใหม่ที่ถูกคิดค้น เพื่อสั่งสอนแลเผยแพร่เพื่อการนี้, และนี่จะพลิกโฉมประวัติศาสตร์
คาดว่าสถาบันติวเตอร์ด้านจิตจะผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ในช่วงที่ประชาชนแห่ตามกระแส
แต่มี 2 สถาบันที่อยู่ยั้งยืนยง เหลือรอดผ่านกาลเวลาจนเข้าขั้นเก่าแก่ และมีบทบาททางสังคมอีกมาก ในภายหลัง
ที่แรกคือสถาบันเบเนเจซ (The Bene Gesserit) ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อสอนสตรีโดยเฉพาะ... หน้าที่ของเบเนเจซคือจัดการโปรแกรม การเลือกกำเนิดของมนุษย์
ส่วนอีกสถาบันคือสเปซซิ่งกิลด์ (The Spacing Guild) หรือกิลด์, ขานี้มุ่งเน้นด้านคณิตศาสตร์ และควบคุมการสัญจรข้ามอวกาศ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า พวกเบเนเจซพัฒนาจิตและวิญญาณตน จน 'เหนือมนุษย์' ได้ครับท่าน (เพราะการคัดสรร ด้านการผสมพันธุ์มนุษย์ด้วย)
เบเนเจซเลือกคู่ครองของมนุษย์ หลายต่อหลายรุ่น เพื่อยกระดับเผ่าพันธุ์
โดยเป้าหมายสูงสุดคือการสร้างควิซัทซ์ ฮาเดรัค (Kwisatz Haderach) มนุษย์เพศชายที่รู้แจ้งทุกสรรพสิ่ง
เดิมทีการเดินทางข้ามอวกาศ ต้องใช้จักรกลคำนวณโน่นนี่นั่นให้
แต่ทั้งปัญญาประดิษฐ์, คอมพิวเตอร์ หรือสมองกล เคยพ่นพิษใส่สังคมเข้าเต็มเปา อย่างที่กล่าวไป
มนุษย์เลยพยายามตามหาวิธีอื่นมาทดแทน... แล้วทำสำเร็จ
เมื่อนั้น มนุษย์ก็ทำลายพวกจักรกลซะเกลี้ยง ก่อนหน้าเหตุการณ์ในภาพยนตร์ นานหลายพันปี
หนทางแทนที่เครื่องจักรทรงปัญญาดังว่า คือการใช้มนุษย์แบบใหม่ซึ่งเรียกว่าเมนแทตส์ (Mentats) กับของชื่อสไปซ์
เมนแทตส์คือมนุษย์ผู้ฝึกจิต จนสมองสามารถคำนวณและประมวลผล ได้ในระดับเดียวกับคอมพิวเตอร์ (แก้โจทย์ซับซ้อนได้ ภายในเวลาแสนสั้น แค่ระดับมิลลิวินาที)
ด้านระบอบการปกครองของจักรวาล Dune ซึ่งคืออนาคตนับหมื่นปีภายภาคหน้าสำหรับมนุษย์ (ตามจินตนาการของเฮอร์เบิร์ต) ก็กลับเข้าสู่สภาพลัทธิศักดินา
ดาวแต่ละดวงจะมีตระกูลขุนนาง (aristocratic house) เป็นผู้ชี้นำ
และสารพัดบ้าน (ตระกูล) ผู้ครองพิภพนี่ จะอยู่ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิ (Emperor) อีกที
ดาวอาราคิซ กับสไปซ์ (Planet Arrakis & Spice)
'ดูน' หรืออีกชื่อคืออาราคิซ เป็นดาวว่างเปล่า แห้งแล้ง และปกคลุมด้วยทะเลทราย
แต่พิภพกันดารแห่งนี้สำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นสถานที่แห่งเดียวในจักรวาล ที่มีการค้นพบสไปซ์
สไปซ์ (Spice) มีประโยชน์หลายสถาน เช่น
- ยืดอายุขัยมนุษย์
- ใช้ในการเดินทางข้ามอวกาศ
- หรือเพิ่มศักยภาพรับรู้ของประสาทสัมผัส ช่วยให้นักท่องอวกาศ หลบหลีกสิ่งกีดขวางระหว่างทางได้
แม้บนอาราคิซหาน้ำยาก แต่ดาวทะเลทรายใช่จะไร้สิ่งมีชีวิต
อันที่จริงมันมีทั้งหนอนยักษ์สุดอันตราย และชนพื้นเมืองอย่างฟรีเมน (Fremen) อาศัย
ไม่ทราบแน่ชัดว่าฟรีเมนมีเท่าไหร่ แต่ก็มีจำนวนเยอะอยู่
พวกเขาเอาตัวรอดบน 'ดูน' ได้ เพราะระบบชลประทานอันซับซ้อน และความศรัทธา
พวกเขาเชื่อเหลือเกินว่าสักวัน จะมีผู้มาโปรด (เมสสิยาห์/Messiah) ชนชาติฟรีเมนทั้งผอง และปลดปล่อยอาราคิซ
สรุป
ตามจินตนาการของแฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต, มนุษยชาติที่กระจายตัวไปอยู่ทั่วอวกาศในอนาคต
ลดการพึ่งพาเครื่องจักร และหันไปพึ่งผู้พัฒนาจิตจนเหนือมนุษย์ ร่วมกับสิ่งพิเศษที่เรียกว่า "สไปซ์"
จักรวาลของเฮอร์เบิร์ตใช้ระบอบจักรวรรดิ และระบบหนึ่งดาวหนึ่งบ้านขุนนาง
อำนาจหลักของจักรวรรดิมาจาก การผูกขาดวิธีเดินทางข้ามอวกาศไว้
ฉะนั้นผู้เหนือมนุษย์กับสไปซ์ เลยมีความสำคัญสุดขีดด้วย
จักรวรรดิต้องง้อ สถาบันเบเนเจซกับสเปซซิ่งกิลด์ เพราะพวกนี้คุมด้านผู้เหนือมนุษย์กับระบบสัญจรผ่านอวกาศ ตามลำดับ...
และคอยจ้องดาวชื่อดูน (หรืออาราคิซ) ตาเป็นมันเสมอ เนื่องจากสไปซ์หาได้ที่นั่นเท่านั้น
เหตุการณ์หลักของภาพยนตร์ จะเกิดขึ้นบนดาวทะเลทรายชื่อดูน
เพราะมีการแย่งชิงอำนาจเหนือดาวแห่งนี้ (เพื่อสไปซ์) ในขณะที่พระเอกอาจเป็น 'ผู้มาโปรด' ตามความเชื่อของชนพื้นเมือง
ซึ่งจะช่วยปลดแอกพวกเขาจากระบอบ อันคอยเอารัดเอาเปรียบ ดาวที่ผลิตสไปซ์ให้มาตลอด
ทั้งที่หากไร้สไปซ์ จักรวรรดิอาจไปต่อไม่ไหว และถึงคราวล่มสลาย
COMMENTS