กษัตริย์ลีชาร์ซึ่งไม่ทราบว่าใครเป็นคนระเบิดยานท่านทูต พยายามเจรจาขอสงบศึกกับทาร์คิน แต่ไม่สัมฤทธิ์ผล เขาเลยฝากให้ผู้บัญชาการมือฉมังทั้ง 2...
กษัตริย์ลีชาร์ซึ่งไม่ทราบว่าใครเป็นคนระเบิดยานท่านทูต พยายามเจรจาขอสงบศึกกับทาร์คิน แต่ไม่สัมฤทธิ์ผล
เขาเลยฝากให้ผู้บัญชาการมือฉมังทั้ง 2 อย่างแรดดัส (Raddus) กับอัคบาร์ พาทหารไปต้านรับทัพจักรวรรดิ และทำการศึกในลักษณะยืดเยื้อ
เพื่อถ่วงเวลาให้ประชาชนตาดำๆ มีโอกาสอพยพได้นานที่สุด
ลีชาร์มัวง่วนกับการเจรจาและบัญชาการศึก, ดาร์ธเวเดอร์และคณะจึงเข้าถึงตัวเขาง่ายๆ
แต่ในขณะที่ไนน์ซิสเตอร์ผู้ถนัดด้านพินิจใจ กำลังดึงข้อมูลแหล่งซ่อนตัวเจไดจากสมองของราชา
เขาก็งัดไพ่เด็ดที่แอบเก็บไว้ออกมา นั่นคือการเรียกใช้ 'สัตว์น้ำขนาดยักษ์'
กษัตริย์เรียกพวกปลาวาฬมากระโจนขึ้นเหนือน้ำใกล้เมืองท่า แล้วทิ้งตัวลงใส่เบื้องล่างโครมใหญ่
ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิเทียมซึ่งกวาดเอาทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองออกไป รวมถึงกองทัพของทั้งฝ่ายมิตรและศัตรู
แม้ต้องเสียกระทั่งพวกพ้องของตัวเองด้วย แต่สึนามิช่วยให้ลีชาร์หลุดพ้นจากเงื้อมมือพวกอินควิซิเตอร์กับเวเดอร์
และเหลือเวลาแจ้งเตือนเจไดผู้ให้คำปรึกษาด้านการทูตของเขา ว่าเหล่าเพชฌฆาตกำลังจะไปเยี่ยมเยือนในไม่ช้า
เนื่องจากราชาเผลอปล่อยตำแหน่งแหล่งกบดานของเจได ให้ไนน์ซิสเตอร์ทราบตอนโดนพินิจใจซะแล้ว
-------------------------------
หลังเฟอร์เรน บาร์ (Ferren Barr) อดีตพาดาวัน (เจไดฝึกหัด) รอดตายจากคำสั่งล้างบางของพัลพาทีน
เขาก็หมกมุ่นกับการขุดคุ้ยอดีต ไล่ตามหาบันทึกเหตุการณ์ที่หลงเหลืออยู่ เพื่อศึกษาดูว่าเพราะเหตุใดเหล่าเจไดจึงพบจุดจบ
เมื่อเขาพบคำตอบและมองเห็นนิมิตบอกเหตุแห่งการล่มสลายของพวกซิธ ที่อยู่ห่างไกลจากช่วงชีวิตปัจจุบันของตนออกไปนับสิบปี
หมอนี่ได้เริ่มออกตระเวนเกณฑ์ 'ผู้ช่วย' จากทุกสารทิศทั่วกาแล็คซี่
คนเหล่านี้เกือบทั้งหมดไร้พรสวรรค์ด้านพลัง แต่มาติดสอยห้อยตามเฟอร์เรนกันเพราะเห็นว่าจักรวรรดิจะนำอนาคตที่เลวร้ายมาสู่จักรวาล หรือไม่ก็เพราะพวกเขาศรัทธาในคุณงามความดีของนิกายเจได
(คนที่สัมผัสพลังได้ก็มีในกลุ่มอยู่ แต่ด้วยความที่เฟอร์เรนเคยเป็นแค่เจไดฝึกหัด เลยสอนใครไม่ไหว)
-------------------------------
เมื่อเฟอร์เรน บาร์ ทราบว่าทีมล่าเจไดรู้แหล่งซ่องสุม, เขากับชาวคณะผู้ติดตามเริ่มการอพยพลี้ภัยในทันที
แต่ทีมล่าเคลื่อนไหวไวยิ่ง จนกลุ่มผู้ช่วยตัดสินใจยอมพลีกายถวายชีพ คอยอยู่รั้งท้ายและต่อสู้ขัดขืน เพื่อถ่วงเวลาให้พวกเพชฌฆาตไล่เจี๋ยนได้แค่ทีละคนสองคน
เนื่องจากพวกเขาหวังแค่ว่าเฟอร์เรนหรือพรรคพวกสักคน จะสามารถหนีรอดไปใช้ชีวิตเพื่ออุดมการณ์ต่อได้
ส่วนสถานการณ์ยุทธนาวีระหว่างมอน คาลา กับจักรวรรดิ ค่อนข้างยืดเยื้อตามที่กษัตริย์ต้องการ
ทาร์คินที่ส่งป้อมปราการลอยฟ้าไปประจำการเหนือผืนมหาสมุทร เพื่อเป็นจุดพักของกองกำลัง กลับต้องเสียป้อมไปหลังใช้มันได้เพียงไม่นาน
เพราะอัคบาร์ใช้ทีมจู่โจมที่ว่องไว, โจมตีแบบสายฟ้าแลบใส่จากใต้น้ำ แล้วรีบฉากหลบจนทัพจักรวรรดิตามเอาคืน หรือตั้งรับไม่ทัน
ด้านแรดดัสก็เอายานอวกาศเกราะหนาจำนวนมากมารวมตัวกัน แล้วเคลือบด้วยฟองน้ำยักษ์เพื่อดูดซับการโจมตีอีกชั้น
ก่อให้เกิดปราการเหล็กใต้บาดาล ที่ฝ่ายจักรวรรดิพยายามประเคนสรรพอาวุธใส่ยังไง ก็ตีให้แตกไม่สำเร็จสักที
ทาร์คินชักรู้สึกจนปัญญา เขาจึงคิดว่าคงต้องงัดมาตรการสุดท้ายที่เตรียมไว้มาใช้
ทาร์คินติดต่อไปหาเวเดอร์โดยตรง และขอร้องให้ท่านลอร์ดช่วยจับกุมราชาดาววารีที
ซึ่งเวเดอร์ก็ปฏิเสธ เพราะภารกิจของเขามีเพียงการล่าเจได, เขาไม่มีเหตุผลอะไรจะต้องยอมทำตามคำสั่งใครแถวนี้
ทาร์คินเลยแจ้งว่านี่คือคำ 'ขอร้อง' ส่วนตัว, เขาจะถือว่าตนติดหนี้บุณคุณของเวเดอร์
เวเดอร์ยอมช่วยทาร์คิน จึงเหลือเพียงผู้ไต่สวน 3 คนกับทหารโคลนจำนวนนึง ที่ตามล่าเฟอร์เรนและพรรคพวกต่อ
เฟอร์เรนยังเสียพวกพ้องเรื่อยๆ และตอนที่เหลือเพียงเขากับผู้ช่วยหญิงอีก 1 คน ก็ดันพบว่าตัวเองจนมุมเพราะวิ่งหนีไปเจอทางตันซะงั้น
สถานการณ์ดูเหมือนว่าเฟอร์เรนกับผู้ช่วยสาวจะต้องตายลงเดี๋ยวนั้น แต่ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ซึ่งเขาสั่งสมมา กลับมีประโยชน์แบบคาดไม่ถึง
สิ่งที่เขาพูดขึ้นทำให้พวกอินควิซิเตอร์ถึงกับอึ้ง เพราะเฟอร์เรนเอ่ยว่า "จงทำตามคำสั่งที่ 66"
กลุ่มผู้ไต่สวนทุกคนคืออดีตเจได ฉะนั้นทหารโคลนทุกนายที่ไม่สามารถขัดขืนโปรแกรมอันฝังรากลึกภายในร่างกายได้ จึงเปิดฉากกราดยิงใส่เหล่าคนที่เคยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่
(ทหารโคลนพวกนี้เป็นล็อตท้ายๆ จากโรงงาน ยังไม่เคยผ่านสงครามโคลน และการเปิดใช้คำสั่ง 66 ครั้งแรกมาก่อน)
คำสั่ง 66 ครั้งที่ 2 ทำให้เทนบราเธอร์ต้องกระสุนปืนบลาสเตอร์สิ้นใจ, ไนน์ซิสเตอร์บาดเจ็บ และเฟอร์เรนกับผู้ช่วยสาวหนีสำเร็จ
เฟอร์เรนสามารถเอาชีวิตรอดต่อไปได้หากต้องการ แต่เขากลับเลือกจะตามหาเวเดอร์เพราะทิฐิบางอย่าง และบอกให้ผู้ช่วยที่ยังไม่ตายหนีไปคนเดียวซะ
เมื่อเวเดอร์ได้ตัวลีชาร์, ทาร์คินบัญชาการให้ยานรบเดสทรอยเยอร์หลายลำ อันลอยตัวอยู่เหนือดาวมอน คาลา
กระหน่ำยิงลำแสงพลังงานแรงสูงใส่พิภพวารี เพื่อทำลายทุกสิ่งให้ราบเป็นหน้ากลอง
ซึ่งที่เขาไม่ยอมใช้มาตรการนี้ตั้งแต่แรก ก็เพราะจุดประสงค์ของสงครามคือการ 'ครอบครอง' อำนาจ ไม่ใช่กวาดล้างพวกคนหน้าปลา
...แต่ถ้ายึดครองไม่ได้ มันก็ต้องทำลายล้างหนักๆ เพื่อแสดงศักยภาพของทัพจักรวรรดิให้ประจักษ์สักที
แม้ลีชาร์เห็นผู้คนบาดเจ็บล้มตาย, เขากลับยังดื้อแพ่งไม่ประกาศแจ้งให้ทัพตัวเองยอมจำนน
เพราะเขาเชื่อคำทำนายที่เฟอร์เรนบอก เรื่องมอน คาลา จะเป็นสาเหตุแห่งความพินาศของจักรวรรดิ
ทว่าศรัทธาของกษัตริย์กำลังจะพังทลายลง เนื่องจากการปรากฏตัวของบุรุษเจ้าของคำทำนาย
เฟอร์เรน บาร์ พกความหยิ่งผยองมาเต็มกระเป๋า เขาเข้าปะทะนักรบเกราะดำ
แม้รู้ว่าไร้โอกาสปลิดชีพอีกฝ่าย แต่เขาก็มาเพื่อประกาศชัยชนะของตัวเอง
เขาดวลกระบี่แสงไปพลางและเปิดเผยให้เวเดอร์กับลีชาร์ ทราบถึงแผนการที่แท้จริงของตนไปพลาง "ข้าจะกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิเน่าเหม็นของพัลพาทีน พังพินาศเป็นผุยผง"
"เจ้าคือคนลอบสังหารทูตของจักรพรรดิละสิ" เวเดอร์ตระหนักทันที
"ใช่แล้ว ข้านี่แหละ, ข้าไม่อยากเสี่ยงให้การเจรจาสัมฤทธิ์ผล จนความขัดแย้งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องล่าช้าออกไป
การมาของเจ้ากับเหล่าสุนัขล่าเนื้อ ทำให้ข้าเหลือเวลาไม่มาก... ข้าจึงลงมือทำเพราะจำเป็นต้องจุดประกายไฟ"
ลีชาร์ช็อคที่โดนหลอก แต่เฟอร์เรนกลับบอกว่าเขาเปล่าโกหก "หลายสิบปีหลังจากนี้เวลาจะมาถึง, กองยานของชาวมอน คาลา จะไปอยู่ในแนวหน้าของการก่อกบฏครั้งมโหฬาร ...และหลังจากนั้นอีกหลายสิบปีก็เช่นกัน
กองยานของผู้คนของท่าน จะเป็นดั่งสัญลักษณ์แห่งการกบฏและเสรีภาพของทั้งกาแล็คซี่ ...ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นที่นี่, องค์ราชา"
"แต่หลายพันล้านคนกำลังจะตายนะ" กษัตริย์โอดครวญ
"คนหลายพันล้าน จะสร้างแรงบันดาลใจให้คนอีกนับล้านล้าน ตามแผนของข้า"
"แกมันไม่ใช่เจได" เวเดอร์ดูถูก
"ก็คงไม่ใช่, ไม่อีกต่อไป เหมือนแกเลยว่ามั้ย ? แต่ข้าเลือกทางเดินของตัวเอง มันไม่ใช่วิถีเจได ทว่าสุดท้ายก็เอาชนะซิธได้"
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ของสงครามคือเฟอร์เรน บาร์โดนเวเดอร์สังหาร, ลีชาร์ประกาศยอมแพ้และถูกจับขัง ส่วนชาวมอน คาลาสิ้นอิสรภาพ
เกร็ดเพิ่มเติม
- ลีชาร์ที่โดนควบคุมตัวอีกยาวหลังจากนี้ จะสิ้นพระชนม์ในสมัยที่กองทัพกบฏกำลังต่อสู้ภายใต้การนำของเลอา
ทว่าความตายของเขาไม่เสียเปล่า เพราะคำสั่งเสียของเค้าปลุกระดมให้ชาวมอน คาลา ลุกฮือขึ้นปลดแอกดาวของตน จากการปกครองของจักรวรรดิเผด็จการ
- แรดดัสกับกองยานภายใต้การนำของเขา จะช่วยให้ภารกิจชิงแผนผังแสดงจุดอ่อนของเดธสตาร์ ของเหล่าผู้กล้าทีม Rogue One ในภาพยนตร์ภาคแยก ประสบผล
- อัคบาร์กลายเป็นบุคคลสำคัญของทั้งกองทัพกบฏและฝ่ายต่อต้าน, เขานำกองยานของชาวมอน คาลา ออกสู้รบในสงครามครั้งใหญ่กับทั้งจักรวรรดิและปฐมภาคี
ก่อนที่จะยุติบทบาทลง เพราะเหตุการณ์ในภาพยนตร์ภาค The Last Jedi
COMMENTS