11 เกร็ดภาพยนตร์ชุด X-Men ของค่าย 20th Century Fox

แม้สตูดิโอผลิตภาพยนตร์ 20th Century Fox เลิกทำหนัง X-Men เรื่องใหม่ หลังผนวกกิจการกับดิสนีย์ แต่ยังมีผลงานบางเรื่องซึ่งยังไม่ฉาย เหลือค้างท่...

แม้สตูดิโอผลิตภาพยนตร์ 20th Century Fox เลิกทำหนัง X-Men เรื่องใหม่ หลังผนวกกิจการกับดิสนีย์ แต่ยังมีผลงานบางเรื่องซึ่งยังไม่ฉาย เหลือค้างท่อ

และหลังจากเลื่อนกำหนดเปิดตัวหลายรอบ, The New Mutants ก็ได้เผยแพร่ตามโรงเสียที จึงถือว่าแฟรนไชส์มนุษย์กลายพันธุ์ของค่ายจิ้งจอกศตวรรษที่ 20 สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ

ในวาระส่งท้ายนี้ ขอรวบรวมเกร็ดของจักรวาล X-Men ฉบับฟ็อกซ์มาบอกกล่าวเพื่ออำลา

* หมายเหตุ * มีสปอยล์หนังบางเรื่อง แต่ที่ควรดูก่อนอ่านบทความ คือภาค Dark Phoenix

[1] 'ฮิวจ์ แจ๊คแมน' สารภาพว่าเขาไม่รู้จักวูล์ฟเวอรีนก่อนมาเล่น X-Men เลยสักนิด "ผมไม่รู้วูล์ฟเวอรีนคืออะไร ไม่เคยได้ยินชื่อสัตว์ชนิดนั้นด้วยซ้ำ คิดว่าเป็นชื่อเฉพาะที่ตั้งให้ตัวละครในคอมิค แถมไม่เคยอ่านการ์ตูน

ผมไม่เคยเห็นมันในสวนสัตว์ เพราะสวนสัตว์ออสเตรเลียมีสัตว์พิลึกพิลั่นเพียบ จึงนึกเอาเองว่าหมายถึงหมาป่า (wolf = วูล์ฟ) และเริ่มศึกษาเกี่ยวกับพวกมัน"

ตอนถ่ายหนังเขาเลยเอาจมูกดมหาอะไรตามพื้นเหมือนสุนัข

ผู้กำกับไบรอัน ซิงเกอร์เลยต้องบอกว่า มีสัตว์ชื่อวูล์ฟเวอรีนจริงๆ จงตรงดิ่งไปสวนสัตว์แล้วศึกษาเรื่องมันซะ

(ปล.) วูล์ฟเวอรีนเป็นสัตว์กินเนื้อไซส์เล็กแต่ห้าวเกินขนาดตัว ถิ่นอาศัยคือแถบซีกโลกเหนือซึ่งมีอากาศหนาว

https://www.youtube.com/watch?v=3zjD5qtkObE&t=238s

[2] ผู้กำกับรูเพิร์ต ไวแอตต์ (Rise of the Planet of the Apes) ที่เคยมีส่วนร่วมในการปลุกปั้นหนังภาคแยกเอ็กซ์เมนเรื่อง 'Gambit' ซึ่งดาราชายแชนนิ่ง เททัมถูกวางตัวไว้ให้รับบทนำ ได้เปิดเผยสาเหตุที่ทำให้โครงการพัฒนาล่าช้า จนถึงขั้นโดนระงับถาวรทีหลังว่า

"เราเกือบทำสำเร็จ ผมเชื่อว่าตอนนั้นอีกแค่ราว 10 อาทิตย์ก็เดินหน้าได้ แต่ดันเจอปัญหาเรื่องงบประมาณขาดหายเพราะนโยบายด้านการเงินเปลี่ยนกะทันหัน ก่อนตอนนั้น 1 เดือนหนัง Fantastic Four ออกฉายแต่รายได้ไม่สู้ดี งบพวกเราเลยโดนหั่นกระจายแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมมองว่าต้องปรับบทหนังใหม่ให้เหมาะสมกับงบประมาณ ทว่ากำหนดฉายที่ฟ็อกซ์ต้องการมันใกล้เกินไป"

https://www.comicsbeat.com/rupert-wyatt-on-how-the-fantastic-four-movie-messed-up-his-gambit-plans/

[3] แมทธิว วอห์น/ผกก. X-Men: First Class ระบุว่าที่จริงเขาวางแผนจะทำไตรภาคให้สตูดิโอ โดยเรื่องที่สองคือหนังของวูล์ฟเวอรีนวัยหนุ่มในยุค 70s และเรื่องที่สามคือ Days of Future Past... แต่เมื่อฟ็อกซ์อ่านบท Days of Future Past ของวอห์นก็ตาลุกวาว แล้วต้องการสร้างมันในทันที โดยมิสนใจจะปูทางเรื่องราวก่อน

วอห์นมองว่านี่ไม่เข้าท่า, สตูดิโอเร่งร้อน ผลักดันอีเวนท์ใหญ่ออกมาต่อเนื่องเกินไป

และเหมือนจะใช่ตามวิสัยทัศน์ของเขา เนื่องจากหลังจุดพีคใน DoFP, ภาคที่ตามหลังแบบ Apocalypse เริ่มทำเงินน้อยลง

https://www.comingsoon.net/movies/news/1071905-exclusive-matthew-vaughn-wanted-young-wolverine-for-first-class-sequel

[4] ช่วงท้ายของ X-Men: Days of Future Past, สไตรเกอร์พาตัววูล์ฟเวอร์รีนที่โดนถ่วงน้ำขึ้นมา แล้วตาของเขาก็เปลี่ยนสี

แฟนๆ สงสัยว่าทำไมมันจบด้วยฉากนั้น เลยสอบถามผู้กำกับหนัง-ไบรอัน ซิงเกอร์ดู

"ผมเห็นคำถามใน reddit จึงขอแถลงไข, ไอเดียที่ให้สไตรเกอร์ตาสีเหลืองถูกใส่เพิ่มตอนทำหนังเกือบเสร็จแล้ว

ผมชอบไอเดียนั่นเลยใส่ไว้ เพราะมันแสดงให้เห็นว่ามิสทีคแอบช่วยพวกมิวแทนต์แบบลับๆ อย่างที่ช่วยวูล์ฟเวอร์รีน และเธอยังคงทำแบบนั้นต่อไป จนเราได้ประจักษ์ชัดอีกทีที่ภาค Apocalypse" ซิงเกอร์อธิบายในอินสตาแกรมของเจ้าตัว

https://www.instagram.com/p/BkvvQdonL4D/?taken-by=bryanjaysinger

[5] ในรายการของ IGN 'ไซมอน คินเบิร์ก' ผู้เขียนบท X-Men: Days of Future Past ได้เปิดเผยความสัมพันธ์ลับซึ่งคุณอาจคาดไม่ถึง

ระหว่าง 'มิสทีค' แม่สาวนักเปลี่ยนร่าง กับ 'อซาเซล' มิวแทนท์นักเทเลพอร์ตแห่งกลุ่ม Hellfire Club

ฉากที่มิสทีคแทรกซึมเข้าทราสก์อินดัสตรี บริษัทที่คอยเล่นงานพวกมิวแทนท์เพื่อทดลองสร้างอาวุธมรณะ เราจะเห็นหล่อนดูแฟ้มข้อมูลของผู้เสียชีวิตหลายคน โดยหนึ่งในนั้นก็คืออซาเซลจากภาค First Class ซึ่งคินเบิร์กระบุว่า "เขาคือบิดาของหล่อน แต่เธอไม่มีโอกาสได้รู้หรอก"

ตามคอมมิค อซาเซลกับมิสทีคคือคู่รัก

ผู้ให้กำเนิดมิวแทนท์นักเทเลพอร์ตตัวสีน้ำเงินนาม 'ไนท์ครอเลอร์'

แต่เห็นได้ชัดเลยว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสามคนในหนังชุดนี้ แตกต่างจากการ์ตูนมาก

https://www.youtube.com/watch?v=CodGWCorX8I

[6] ไซมอน คินเบิร์ก/ผู้กำกับ Dark Phoenix เล่าว่า

ฉากรับเชิญของ สแตน ลี/ปูชนียบุคคลแห่งมาร์เวลผู้ล่วงลับ ที่เราเคยเห็นในภาค Apocalypse กองถ่ายได้ยกพลกันไปถ่ายทำหน้าบ้านของเขาจริงๆ

"ผมเคยใช้เวลาร่วมกับเขาหลายครั้ง ผมโชคดีเหลือเกินที่ได้ทำเช่นนั้น เราเคยไปเยือนบ้านเขาเพื่อถ่ายฉากรับเชิญของเขากับภรรยาใน Apocalypse ซึ่งสุดท้ายกลายเป็นฉากรับเชิญเดียวที่เขาปรากฏตัวร่วมกับภรรยา ทั้งสองคนผูกพันกันมาก เพราะชีวิตคู่ค่อนข้างยืนยาว"

ชีวิตแต่งงานของสแตนกับโจน ลี เริ่มต้นเมื่อปี 1947 และทั้งคู่ก็อยู่ด้วยกันยาวๆ ราว 70 ปีจนความตายมาพรากจาก

https://www.cinemablend.com/news/2469198/dark-phoenix-wont-have-a-stan-lee-cameo-but-it-will-have-a-tribute

[7] แต่เดิม 'ไบรอัน ซิงเกอร์' ผู้กำกับหนัง X-Men ต้องการเล่นประเด็นเกี่ยวกับดาร์คฟีนิกซ์ (ในลักษณะเดียวกับคอมิค) ตั้งแต่ภาค 2

ทว่า 'แซค เพนน์' ผู้เขียนบท เป็นคนโน้มน้าวซิงเกอร์ให้เปลี่ยนใจ เพราะเรื่องราวจักรวาลหนังเอ็กซ์เมนเพิ่งเริ่มต้น

ควรปูพื้นเนื้อหากับตัวละครจนเรียบร้อยเสียก่อน ค่อยใส่เรื่องนอกอวกาศเข้าสู่จักรวาลหนัง

การตัดสินใจนั้นถูกต้อง เพราะหนัง X-Men 2 ยังถูกกล่าวถึงในฐานะหนังเอ็กซ์เมนอันยอดเยี่ยมอยู่เนืองๆ

แต่แซค เพนกับซิงเกอร์เองก็คงนึกไม่ถึงหรอกว่าต้องรออีกสิบกว่าปี

เนื้อหาดาร์คฟีนิกซ์ (ที่ซื่อสัตย์ต่อคอมิคมากกว่า) จึงจะได้ฤกษ์เอามานำเสนอในจักรวาลหนัง

https://www.hollywoodreporter.com/heat-vision/ready-player-one-screenwriter-zak-penn-his-best-worst-movies-1097883

[8] คินเบิร์กบอกว่า Dark Phoenix ต้องถ่ายซ่อมเพราะตอนจบเดิมคล้าย Civil War แต่ก็ไม่ได้บอกรายละเอียดใดๆ ไว้ แล้วตอนจบเดิมนั่นมันเป็นอย่างไร ?

ไท เชอริแดน/ไซคลอปส์วัยหนุ่ม อ้างว่ามันเกี่ยวกับการแยกจากจีน เกรย์ช่วงท้ายเรื่อง และปูทางสู่การรุกรานโลกของพวกสกรัลล์ภายหลัง (เอเลี่ยนในคอมมิคมาร์เวลที่แปลงโฉมเก่ง และโผล่ในภาพยนตร์ Captain Marvel)

"ชาร์ลส์ เซเวียร์กับสก็อตต์ (ไซคลอปส์) ไป U.N. เพื่อเตือนประธานาธิบดีว่า 'เฮ้, พวกเรากำลังจะโดนมนุษย์ต่างดาวจู่โจม แถมตอนนี้พวกมันก็ได้ตัวจีน เกรย์ไป' และพูดกับประธานาธิบดีเรื่องอื่นๆ ตามสถานการณ์, ทันใดนั้นจีน เกรย์ก็มาปรากฏกายาหน้า U.N.

เกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ระหว่างหน่วยคุ้มกัน U.N. กับจีน ก่อนเผยให้เห็นว่าหน่วยคุ้มกันคือสกรัลล์ทุกคน, ระหว่างที่สก็อตต์ช่วยจีนสู้พวกสกรัลล์ เขาเสียท่าโดนโยนใส่น้ำพุหน้า U.N. แต่จีนช่วยจัดการสกรัลล์ที่เหลือทั้งหมดให้ จากนั้นเธอได้ร่ำลาสก็อตต์กับชาร์ลส์เป็นเรื่องเป็นราว ก่อนแยกจากพวกเขาเหาะขึ้นสู่อวกาศ"

https://www.cinemablend.com/news/2474641/original-dark-phoenix-ending-included-skrulls-and-a-huge-new-york-battle-according-to-tye-sheridan

[9] เหตุวุ่นวายจากการเยือนโลกของพวกต่างดาวกับพลังฟีนิกซ์ ทำให้สมาชิกครอบครัวเอ็กซ์เมนต้องตายไป 2 คน (มิสทีคกับจีน เกรย์) แต่เรื่องใครอยู่ใครตายใน Dark Phoenix นั้น หนังจักรวาลเดียวกันเรื่องก่อนหน้าแบบ 'Deadpool 2' ได้สปอยล์ไว้เรียบร้อย

ก็ฉากรับเชิญขำๆ ที่สมาชิกเอ็กซ์เมนอยู่กันเกือบพร้อมหน้า ขาดแค่มิสทีคกับจีนนั่นแหละ

มันคือการใบ้ล่วงหน้าว่าทั้งสองคนจะสิ้นชีพในหนัง (แม้ท้ายเรื่องของ Dark Phoenix แอบบอกว่า จีนแค่ตายชั่วคราวและเกิดใหม่ในฐานะสิ่งมีชีวิตที่เหนือล้ำกว่าเดิม)

https://screenrant.com/deadpool-2-xmen-dark-phoenix-deaths-spoilers/

[10] Deadpool 2 ปูทางสู่การมาของทีมฮีโร่มนุษย์กลายพันธ์ุหน้าใหม่ (บนโลกภาพยนตร์) อย่าง 'X-Force' เอาไว้ แต่ในที่สุดการผลิตหนังเรื่องดังกล่าวก็ต้องยกเลิกไป เนื่องจากฟ็อกซ์ขายกิจการให้ดิสนีย์ ซึ่งหากใครสงสัยว่าถ้าได้สร้างมันจะออกมาประมาณไหน ? ผู้ปลุกปั้นโครงการเมื่อสมัยก่อนเฉลยว่า

"ผมวางพล็อตหนังไตรภาคไว้ โดยมันจะเริ่มจากการแนะนำ X-Force แบบในคอมมิคยุค 90s ของร็อบ ลายเฟลด์ ซึ่งเหล่าเด็กๆ ต่อสู้ดิ้นรนเพื่อสิ่งที่พวกเขาเชื่อ และเมื่อไปถึงหนังภาค 3, คนกลุ่มนี้จะเติบโต, ผ่านการเปลี่ยนแปลง, สูญเสียสมาชิกบางคนไป, ได้คนใหม่เพิ่มเข้ามา จนทีม X-Force กลายเป็นแบบในคอมมิคยุค 2000s ของริค รีเมนเดอร์ ซึ่งตัวละครสับสนในชีวิต, บรรยากาศมืดมิดกว่าเดิม และมีการปฏิบัติภารกิจในเชิงลับ" เจฟฟ์ แวดโลว์กล่าว

ย้อนไปเมื่อปี 2013, แวดโลว์เคยถูกฟ็อกซ์แต่งตั้ง ให้รับหน้าที่เขียนบทและกำกับภาพยนตร์ชุด X-Force ซึ่งนั่นก็เป็นตอนก่อน Deadpool 2 จะกลายเป็นแบบที่เห็นกัน เพราะแผนเดิมของแวดโลว์จะให้ตัวละคร 'เคเบิล' ปรากฏครั้งแรกในไตรภาคของเขา

https://www.comicbookmovie.com/x-men/x-force/fantasy-island-director-jeff-wadlow-reveals-what-he-had-planned-for-his-x-force-trilogy-exclusive-a173523

[11] New Mutants เลื่อนฉายอยู่บ่อยครั้ง และการเลื่อนครั้งสุดท้าย ก็เพราะโรคระบาดชื่อโควิด-19 เล่นงาน

แต่คุณสงสัยบ้างหรือไม่ เพราะเหตุใดทางผู้สร้างไม่ยอมตัดใจ ส่งมันลงเปิดตัวในช่องสตรีมมิ่งแทนการเลื่อนเรื่อยเปื่อย ? แม้เป็นยุคที่วิธีดูออนไลน์เฟื่องฟู

จอช บูน/ผกก.หนัง สารภาพกับสื่อต่างประเทศว่า เป็นเพราะติดสัญญาบางอย่าง "สำหรับภาพยนตร์เกือบทั้งหมดที่มีการเซ็นสัญญาไว้ เพื่อการันตีว่าจะได้เผยแพร่ในโรง คุณต้องเปิดตัวในโรงให้ได้ก่อน จึงจะมีสิทธิ์ปล่อยของทางดิจิตอล ...เราเองก็ต้องการให้ผู้ชมได้เห็นมันบนจอใหญ่ แต่จำเป็นต้องรอต่อไปจนกว่าสถานการณ์ปลอดภัย และเวลาเหมาะสม"