ณ ดวงจันทร์แห่งน้ำของดาวอัลโดรีม (Al'doleem) ซึ่งอยู่ในอาณาเขตมิดริม (Mid-Rim) ของกาแล็คซี่ ขณะคิราค อินฟิล่า/เจไดนักพรตที่บ้าการต่อส...
ณ ดวงจันทร์แห่งน้ำของดาวอัลโดรีม (Al'doleem) ซึ่งอยู่ในอาณาเขตมิดริม (Mid-Rim) ของกาแล็คซี่
ขณะคิราค อินฟิล่า/เจไดนักพรตที่บ้าการต่อสู้ โชว์ความเทพทั้งด้านฝีมือเพลงดาบ+การใช้พลัง
ด้วยการควบคุมวัตถุรูปร่างซับซ้อนหลายชิ้นให้ลอยอยู่กลางอากาศ ไปพร้อมๆ กับฟาดฟันไลท์เซเบอร์ปะทะหุ่นยนต์ฝึกซ้อม (ถ้าคุณเป็นแค่เจไดธรรมดา จะฟันดาบหรือยกของ ก็ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)
เขาสัมผัสได้ถึงการบุกรุกเข้าสู่อาณาเขตส่วนตัว โดยศัตรูผู้มีกลิ่นอายแสนลึกลับและดำมืด
คิราคหาได้เกรงกลัวผู้ใช้พลังด้านมืดซึ่งมาเยือนถึงแหล่งกบดาน ตรงกันข้ามเขากลับรู้สึกยินดียิ่ง "หลังทำผิดจารีตแห่งเจได, ข้ารับปฏิญญาบาราชแล้วมาอาศัย ณ ที่แห่งนี้เพียงลำพัง โดยหวังว่าสักวันเส้นทางแท้จริงของตัวเองในฐานะเจได จะเบิกกว้างออกมาให้เห็นอยู่ตรงหน้า
ข้าตั้งใจไม่ยุ่งเกี่ยวใดๆ กับนิกาย ชนิดที่ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ขอวางเฉย ข้าว่าจะไม่ทำอะไรเลยต่อให้ลัทธิต้องพบจุดจบ
เจ้าคงรู้เรื่องนั้นจึงถ่อมาถึงนี่, ทว่าต่อให้เจ้าเจอข้าเข้าโดยบังเอิญก็ตามที แต่การที่เจ้าอยู่ตรงนี้ย่อมหมายความว่า ข้าคิดถูกที่ไม่เคยไปไหน
ผู้เข่นฆ่าเหล่าพี่น้องเจไดมายืนตรงหน้า ฉะนั้นนี่คือสัญญาณบอกเวลาสิ้นสุดการถือปฏิญญา... ชะตาชีวิตของเจ้าย่อมถึงฆาตแล้ว"
ดาร์ธเวเดอร์ผู้ไร้ไลท์เซเบอร์ ปีนขึ้นภูเขาเพื่อไปเผชิญหน้ากับคิราค ที่ยืนเอ่ยคำท้าทายจากด้านบนยอด
เวเดอร์กระชากแขนหุ่นฝึกซ้อมผู้พยายามช่วยเจ้านายออก, ขโมยดาบของหุ่นยนต์ และโยนมันลงหน้าผา
จากนั้นใช้ดาบที่ชิงมาดวลเพลงกระบี่กับคิราค ทว่าเวเดอร์พลาดท่าพ่ายแพ้อย่างหมดรูป และโดนผลักตกหน้าผา
ร่างกายเครื่องจักรของเวเดอร์เสียหายยับเยิน แต่โชคดีนักรบเกราะดำร่วงลงมาตรงจุดที่ไม่ห่างจากเจ้าหุ่นฝึกซ้อมมากนัก
อนาคิน สกายวอล์คเกอร์จึงโชว์ความเทพบ้าง เขาใช้พลังแยกส่วนหุ่นฝึกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แล้วเอามันมาซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ของชุดพยุงชีพ
คิราคชนะเวเดอร์ง่ายๆ เลยย่ามใจ เดินทางไปสู่เมืองริมเขื่อนของดาวอัลโดรีมเพื่อหายานอวกาศ โดยไม่เช็คสภาพศัตรูว่าตายสนิทหรือไม่ ให้เรียบร้อยเสียก่อน
คิราค อินฟิล่า มองว่าเวเดอร์อ่อนด้อยเกินกว่าจะเป็นต้นตอแห่งจุดจบของนิกายเจได (ซึ่งเขาเคยสัมผัสได้ผ่านพลัง) และตั้งใจจะเดินทางออกจากดาวนี้ไปตามหาผู้ล้างบางเจได, จัดการไอ้เจ้านั่น จากนั้นก็ฟื้นฟูนิกายใหม่
แต่ฝันดังกล่าวอยู่ได้เพียงไม่นาน... เนื่องจากนักรบเกราะดำปรากฏกายเหนือเขื่อน และขอสู้ศึกนัดล้างตา
อย่างไรก็ตามนี่เป็นแค่การหลอกล่อของเวเดอร์ เพราะเขาหาจังหวะที่คิราคเปิดช่องว่าง ใช้พลัง 'พังเขื่อน' จนคิราคต้องหันไปจดจ่อกับการช่วยเหลือชาวเมืองแทน
เจไดมัวแต่เป็นห่วงผู้บริสุทธิ์ จนเปิดช่องว่างหนักยิ่งกว่าเก่า เลยโดนฆ่าทิ้งและขโมยไลท์เซเบอร์เอาแบบง่ายๆ ...
เวเดอร์ปล่อยให้เขื่อนพัง และน้ำท่วมเมือง คนตายเกลื่อน
สำหรับขั้นตอนสุดท้ายในการแก้โจทย์การบ้าน, พัลพาทีนแนะนำให้อนาคินเดินทางสู่ดาวภูเขาไฟมุสตาฟา
เพราะสถานที่แห่งความปราชัยของอนาคิน มีพลังงานด้านมืดอยู่อย่างหนาแน่น
อนาคินแกะไคเบอร์คริสตัลออกจากกระบี่ที่ช่วงชิงมา และเมื่อสัมผัสกับมันเขาก็พลันมองเห็นนิมิต 'ด้านสว่าง'
ผลึกแห่งพลังทำให้อนาคินตระหนักว่าตอนนี้ยังไม่สาย เขาควรไปสังหารพัลพาทีน แล้วตามหาโอบีวันเพื่อคุกเข่าขอโทษ
อย่างไรก็ตาม, อนาคินมองว่าตนเองถลำลึกเกินกว่าจะหันหลังกลับ และปฏิเสธไม่ยอมทำตามโฆษณาชวนเชื่อ ที่เจ้าผลึกแห่งพลังด้านสว่างนำเสนอ
อนาคินถ่ายทอดความโกรธเคือง, เจ็บปวด และทุกข์ทรมานของตน ลงในคริสตัลอย่างต่อเนื่อง... ผลึกสีเขียวจึงเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน
อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ เดินทางกลับไปส่งการบ้านคุณครูพัลพาทีน บนดาวเมืองหลวง/คอรัสซัง (Coruscant)
คุณครูสงสัยเล็กน้อยว่าลูกศิษย์ทำอีท่าไหน ถึงกลับมาในสภาพงอมพระราม
แต่ด้วยความพอใจที่เห็นศิษย์ประสบผลสำเร็จ จึงไม่เซ้าซี้ถามหารายละเอียด ซึ่งเวเดอร์ออกอาการไม่อยากตอบ ให้มากความ
แถมอารมณ์ดีบอกว่าจะเรียกหุ่นยนต์ในสังกัดมา เพื่อช่วยซ่อมแซมชุดเกราะให้ด้วยอีกต่างหาก
ทว่าพ่อลูกศิษย์กลับถลึงตาใส่เมื่อได้ยินดังนั้น, ท่านอาจารย์ซีเดียสเลยตระหนักว่าเวเดอร์อยากซ่อมแซม และปรับแต่งชุดเกราะใหม่ให้เข้ากับร่างกายยิ่งขึ้นด้วยตนเอง
จึงปล่อยพ่อลูกศิษย์ทำตามชอบใจ แล้วบอกว่าเอ็งเสร็จกิจเมื่อไหร่ไปหาด้วยละกัน มีงานใหม่รออยู่
หลังเวเดอร์ปรับจูนชุดเกราะใหม่เสร็จ เขาก็ได้รับการแจ้งเตือนจากซีเดียสว่ามีคนอยู่ในวิหารเก่าของพวกเจได ที่ในปัจจุบันไม่สมควรจะมีใครอยู่
ดาร์ธ เวเดอร์ รีบรุดไปตรวจสอบตามคำสั่งของอาจารย์ และพบกับบุรุษปริศนาในห้องสมุด
บุรุษปริศนาเห็นเวเดอร์เข้า ขณะกำลังจะเอาหนังสือในห้องสมุดลงมาอ่าน
ก็ชักกระบี่แสงสีแดงรูปร่างแปลกตาออกมา เปิดฉากการต่อสู้ พร้อมกับเริ่มโวยวายว่า "ข้ารู้นะเจ้าต้องการอะไร, ความรู้ในคลังใหญ่แห่งนี้สินะ อยากได้ไว้เป็นของตัวเองคนเดียวละสิ
ไม่! ไม่มีทาง เขาสัญญาแล้วว่าจะมอบสิ่งเหล่านี้แก่ข้า"
ช่วงแรกบุรุษปริศนาดูได้เปรียบในการต่อสู้ แต่ปรากฏว่าที่เวเดอร์มัวเสียเวลา เพราะอยากลองทดสอบชุดเกราะที่เพิ่งผ่านการปรับจูนมา
พอเขาเอาจริงก็ล้มศัตรูได้ไม่ยาก
เวเดอร์ตั้งใจจะลงดาบปราบปฏิปักษ์ให้สิ้นซาก แต่จู่ๆ พัลพาทีนก็เข้ามาห้ามทัพอย่างได้จังหวะเหมาะเจาะยิ่ง
ราวกับดูอยู่ตลอดและรอโอกาสพูดนานแล้ว "ช้าก่อน ลอร์ดเวเดอร์ นี่คือผู้ไต่สวนใหญ่ (Grand Inquisitor) ของข้า"
ทั้งเวเดอร์และแกรนด์ อินควิซิเตอร์ ต่างงงงวยกับสถานการณ์
แกรนด์ อินควิซิเตอร์เอ่ยถามพัลพาทีนว่า "ข้าไม่เข้าใจ ท่านจักรพรรดิ ท่านอนุมัติให้ข้าเข้าถึงคลังข้อมูลเพื่อศึกษาพวกเจได จะได้เป็นประโยชน์ต่องานของศาลไต่สวน (Inquisitorius) มิใช่หรือ
เหตุไฉนเจ้า... อสูรกายนี่ จึงจู่โจมใส่ข้า, เขาไม่ใช่ข้ารับใช้ของท่านหรอกรึ"
จักรพรรดิชี้แจงว่า เค้าเป็นคนจัดฉากให้เวเดอร์ เจอกับแกรนด์ อินควิซิเตอร์เอง เพราะมองว่าถึงเวลาแล้วที่ทั้งสอง ควรพบหน้ากัน
อีกทั้งการได้ปะทะกันตรงๆ จนทราบความต่างของฝีมือ จะช่วยจารึกเรื่องที่ศาลไต่สวนมีอยู่เพียงเพื่อ 'รับใช้ซิธ' ให้สลักลึกลงในสมอง ของผู้ไต่สวนใหญ่
ลอร์ดเวเดอร์ยังมิสิ้นสงสัย เขาไม่เข้าใจว่าอาจารย์กับชายแปลกหน้ากำลังพูดเรื่องอะไร
ท่านอาจารย์เลยบอกจะนำทางสู่ที่ทำการของศาลไต่สวน และอธิบายเพิ่มความกระจ่างเมื่อเดินทางไปถึง
COMMENTS