ณ เหมืองบนดวงจันทร์ของดาวมิมบัน (Mimban) เหล่าอัศวินแห่งเรนได้จับกุมคนงานกลุ่มหนึ่งไว้ โดย 'เรน' ผู้นำอัศวิน คิดจะเชือดไก่ใ...
ณ เหมืองบนดวงจันทร์ของดาวมิมบัน (Mimban) เหล่าอัศวินแห่งเรนได้จับกุมคนงานกลุ่มหนึ่งไว้
โดย 'เรน' ผู้นำอัศวิน คิดจะเชือดไก่ให้ลิงดูด้วยการเจี๋ยนผู้ใช้แรงงานทิ้งสักคน เพื่อให้คนอื่นๆ ที่เหลือยอมบอกข้อมูลที่เขาต้องการ
แต่ 'เบน โซโล' ได้ห้ามปราม และขอลองใช้ 'พลัง' แทรกแซงเข้าสู่ความทรงจำของเป้าหมาย เพื่อจารกรรมข้อมูลออกจากสมองแทน
แม้เพิ่งทำเรื่องแบบนี้ครั้งแรกแต่เบนก็ประสบความสำเร็จ
เขาแจ้งตำแหน่งเครื่องบดจิต (Mindsplinter) ที่เรนอยากเอาไปขายทอดตลาดให้ทราบ
ซึ่งเรนก็พออกพอใจ เลยสั่งพวกอัศวินจัดการ 'ปลดปล่อย' เชลยทุกคน
ภาคีอัศวินแห่งเรนสังหารกลุ่มเชลยคนงานเสียหมดเกลี้ยง จนเบนต้องท้วงติงว่าเนี่ยเหรอการปล่อยพวกเขา
สโนคจึงอธิบายผ่านโทรจิตว่าการทำตามอำเภอใจนี่แล คือความสตรองของเหล่าอัศวิน
"เจไดเชื่อว่ากฎกับธรรมเนียมปฏิบัติมากมายของพวกมัน ทำให้ตนแข็งแกร่งกว่า ทั้งที่นั่นน่ะคือการไม่รู้จักปรับตัว จนส่งผลให้โดนทำลายได้ง่าย"
เรนนำก๊วนอัศวินกับเบน ยกขบวนกันลงไปในเหมืองส่วนที่ลึกขึ้น
ก่อนจะเจอกลุ่มชาวดาวมิมบัน ที่รวมตัวกันจับอาวุธลุกขึ้นสู้
เพื่อปกป้องเครื่องบดจิตซึ่งมีคุณค่าทางใจต่อพวกเค้ายิ่ง เนื่องจากเป็นสิ่งที่พวกเขาขุดเจอตั้งแต่เมื่อหลายร้อยปีก่อน
เรนเห็นเบนยังทำท่าลังเลที่จะเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์อยู่ เลยเตือนว่ากลุ่มอัศวินฆ่าคนนะไอ้หนู ถ้าจะเข้าร่วมกับเราเจ้ามัวรีรอตอนเชือดคนตลอด มิได้ดอกนะ
แล้วในขณะที่เรนกำลังพูดอยู่นั้นเอง, 'โว' กับ 'ไท' อัศวินเจไดฝึกหัด+สหายเก่าของเบน โซโล ก็โผล่มาพอดี
ไทยังเหลือศรัทธาในตัวเบนแม้ความหวังจะเลือนลาง
เขาจึงเห็นว่าตนควรดวลเดี่ยวกับเบน เพื่อต่อสู้ไปพลางและเกลี้ยกล่อมเพื่อนเก่าไปพลาง
ส่วนโวปลีกตัวไปช่วยกลุ่มคนงานเหมือง ต้านรับภาคีอัศวินแห่งเรนทั้ง 7 คน
ไท: "นายทำเหมือนตัวเองไร้ทางเลือก ทั้งที่ทุกย่างก้าวของชีวิตมันลิขิตได้โดยการตัดสินใจของนายเอง"
เบน: "ทางเลือก ? ฉันไม่มีทางเลือกและไม่เคยมีโอกาสเลือกสักครั้ง ขนาดชื่อยังไม่ใช่ของตัวเอง
แถมทั้งพลังด้านมืดและด้านสว่าง ก็พยายามแย่งกันยึดอำนาจเหนือตัวฉันตั้งแต่เกิดมาด้วยซ้ำ นายจะเข้าใจความรู้สึกนั้นได้ยังไงหา ?"
"จะลุค สกายวอล์คเกอร์หรือสโนคก็ตาม, ไม่มีคนไหนมองฉันในฐานะบุคคล, ฉันมันแค่มรดก แค่ศูนย์รวมของความคาดหวัง"
แต่ไทไม่ยอมสิ้นศรัทธา เขาตัดสินใจเดิมพันหมดหน้าตักครั้งสุดท้าย
ด้วยการเลิกต่อสู้ และเสนอให้เบนเลือกพรากชีวิตเขาไปซะเลยแบบจะไม่ขัดขืนใดๆ
หรือไม่ก็กลับใจเข้าด้านสว่าง ช่วยกันกำราบภาคีอัศวินแห่งเรน
ระหว่างเบนกำลังยืนชั่งใจ, จู่ๆ คอของไทก็หักดังเป๊าะ เพราะเรน (ที่ปล่อยให้ลูกน้อง 6 คนสู้กับโว แล้วปลีกตัวมาดู) ใช้พลังกระทำ
เรนแสดงออกชัดว่าไม่ปลื้มในตัวพ่อหนุ่มเบนอีกต่อไป
และบอกว่าแกไม่เหลือโอกาสพิสูจน์ตัวเองละ เพราะขัดขืนการถูกกลืนกินโดยด้านมืดทุกย่างก้าวเลยเนี่ย
เรน: "ความจริงเจ้าไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ใต้ 'เงา' สินะ"
เบน: "ใช่แล้ว, เพราะข้านี่แหละคือเงา"
เบนใช้พลังดึงไลท์เซเบอร์ของไทสู่มือ แล้วถือกระบี่แสง 2 เล่มเข้าฟาดฟันกับหัวหน้ากลุ่มอัศวินแห่งเรน
เบนปล่อยพลังด้านมืดไหลผ่านกายาเต็มที่ และเรียกสายฟ้ามาช่วยเสริมการโจมตี
การใช้พลังมืดครั้งนี้ส่งกระแสแห่งพลัง ไปกระทบกับสัมผัสของอีกหลายบุคคลในห้วงกาแล็คซี่
ไม่ว่าจะเป็นสโนคหรือ 'พัลพาทีน' ที่ออกอาการพอใจ, เลอาที่ปริวิตกต่อทางเลือกของบุตรชาย, หรือเรย์ผู้รู้สึกได้ถึงความหนาวสะพรึงบางอย่าง
เบนส่งมอบความตายแบบ 'มีคุณภาพ' ให้แก่เรนตามที่เขาเคยขอไว้จนได้
เรนสิ้นใจตาย เพราะโดนไลท์เซเบอร์ของไทเสียบเข้ากลางขั้วหัวใจ
และหลังจากกำจัดเรนลงไป, เบนก็หยิบไลท์เซเบอร์สีแดงของเรนมาใช้ฆ่าโวต่อ
สมาชิกอัศวินแห่งเรนทั้ง 6 คนที่เหลือ ก้มหัวยอมสวามิภักดิ์ให้กับผู้นำคนใหม่
เบนขึ้นยานของกลุ่มอัศวินเดินทางออกจากเหมือง ซึ่งโดนระเบิดไม่เหลือซากอยู่เบื้องหลัง (และคาดว่าพวกคนงานเหมืองตายเรียบ)
เบนเริ่มพิธีกรรมสำคัญของผู้ใช้พลังด้านมืด, เขาปล่อย 'เงา' ไหลผ่านคริสตัลสีฟ้าที่เคยใช้ประจำ เพื่อเปลี่ยนมันให้กลายเป็นสีแดง
ซึ่งขณะเบนทนรับความเจ็บปวดอย่างรุนแรง เขาได้เห็นภาพหลอนของเหล่าคนสำคัญแบบ ลุค สกายวอล์คเกอร์, ฮาน โซโล, แลนโด คาลริสเซี่ยน, ชิวบัคก้า, เลอา และไท
ไคเบอร์คริสตัลของเบนแตกหลังผ่านกระบวนการย้อมสี
จนกระแสพลังที่ผลิตใบดาบ พลอยแตกกระจายตาม ไม่ยอมรวมศูนย์กันดีๆ
ส่งผลให้ด้ามจับแบบปกติ มิอาจเปิดใช้งานได้
เขาจึงดัดแปลงด้ามจับกระบี่แสงของตน เป็นรูปร่างกางเขนเพื่อกระจายพลังงานออกด้านข้าง
และในวินาทีที่ทำสำเร็จ, ไคโล เรน จอมวายร้ายก็ได้ถือกำเนิด
เกร็ดเพิ่มเติม
แม้จบเรื่องแล้วคอมมิคก็ไม่ยอมอธิบายชัดๆ ว่าสมญานาม 'ไคโล' มาจากไหน
แต่ในตอนที่ 2 เบนเคยบอกว่ามันคือชื่อเล่นง่ายๆ ซึ่งเขาคิดได้เมื่อสมัยเยาว์วัย
ฉะนั้น Kylo จึงอาจเกิดจากการรวมนามสกุลของพ่อกับแม่ (Skywalker+Solo)
หรือไม่ก็มีความหมายว่าท้องฟ้า (Kylo = Sky) ตามคำศัพท์ในโลกแห่งความเป็นจริงแบบตรงๆ เลยครับ
เพราะรากศัพท์ของ Kylo มาจากคำว่า "Caelum" ซึ่งเป็นภาษาละตินของคำว่าท้องฟ้านั่นเอง
COMMENTS