ย้อนรอยประวัติศาสตร์ >>สารพัดเหตุขัดแย้งและแยกทาง ของเหล่าผู้เข้าชื่อกำกับหนัง Star Wars

หลังดิสนีย์ซื้อกิจการลูคัสฟิล์มเมื่อปี 2012, พวกเขาประกาศสิ่งที่เหล่าสาวกสตาร์วอร์สคงตั้งตารออยู่หลังจากนั้นไม่นาน นั่นคือการสร้างภาพยนตร์ไต...

หลังดิสนีย์ซื้อกิจการลูคัสฟิล์มเมื่อปี 2012, พวกเขาประกาศสิ่งที่เหล่าสาวกสตาร์วอร์สคงตั้งตารออยู่หลังจากนั้นไม่นาน นั่นคือการสร้างภาพยนตร์ไตรภาคใหม่
ซึ่งทุกวันนี้แฟรนไชส์ชื่อดังได้ขยับขยายเนื้อหาในส่วนที่ใช้คนแสดง ออกมามากกว่าไตรภาคหลักพอสมควร ทั้งในด้านหนังภาคแยกที่มี 2 เรื่อง และซีรีส์ The Mandalorian ที่ประสบความสำเร็จอยู่บนช่องสตรีมมิ่ง Disney+

ทว่า หากมองย้อนกลับไปในอดีตดูจะพบว่าการบุกเบิกเส้นทาง เพื่อสร้างเรื่องราวอันดำรงอยู่ในห้วงแห่งกาแล็คซี่แสนไกล มันช่างเจ็บปวดรวดร้าวเสียนี่กระไร
เพราะดูเหมือนทุกครั้งที่มีข่าวลือ หรือประกาศจะสร้างภาพยนตร์ Star Wars ทีไร ไม่พ้นต้องมีปัญหาบางอย่างตลอด

บทความนี้จะพาคุณย้อนมองเหตุการณ์ขัดแย้งด้านความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ และการประกาศแยกทางของเหล่าผู้กำกับอีกครั้ง ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างกว่ามหากาพย์สกายวอล์คเกอร์จะมาถึงภาคสุดท้ายจนได้



ภาพยนตร์ภาคแยกของโบบา เฟตต์ (Boba Fett) 


รายแรกนี่ต้องเท้าความกันพอสมควร เริ่มจากเมื่อตอนที่ประกาศสร้างไตรภาค Episode VII-IX ได้ไม่นานโน่น
เวลาดังกล่าวลูคัสฟิล์มมีแผนเตรียมจะสร้างภาคแยกเพิ่มอีก [3] เรื่อง เพื่อเพิ่มหนทางการเล่าเรื่องรูปแบบใหม่ อันไม่ยึดติดกับตระกูลสกายวอล์คเกอร์
โครงการแรกคือหนังเกี่ยวกับกลุ่มคนที่ขโมยแผนผัง บอกวิธีพิชิตอาวุธพิฆาตดารา/เดธสตาร์
โครงการสองว่าด้วยต้นกำเนิดของฮาน โซโล/ตัวละครยอดนิยม
ส่วนโครงการสามมีรายงานว่าเกี่ยวข้องกับ 'โบบา เฟตต์' นักล่าเงินรางวัล ผู้สวมเกราะทั่วตัวและเคยโผล่ในหนังภาค Return of the Jedi

แผนการที่ลูคัสฟิล์มวางไว้ คือใช้บริการผู้กำกับดาวรุ่งมากหน้าหลายตามาผลิตผลงาน
ซึ่งนอกจากเจ.เจ.อับรามส์ กับไรอัน จอห์นสัน ที่ทุกวันนี้พิสูจน์แล้วว่าร่วมงานกับผู้ดูแลหลักของแฟรนไชส์อย่างแคธลีน เคนเนดี้ได้ตลอดรอดฝั่ง ก็ยังมีอีกหลายคน
และเวลานั้นมีชื่อของ 'จอช แทรงค์' ผู้แจ้งเกิดจากหนังซูเปอร์ฮีโร่เขย่าขวัญทุนต่ำแห่งค.ศ. 2012 เรื่อง Chronicle รวมอยู่ด้วย


ไม่ว่าเบื้องหลัง, โครงการหนังโบบา เฟตต์ ภายใต้การกำกับของจอช แทรงค์ ไปได้สวย หรือคืบหน้ามากน้อยแค่ไหนก่อนเกิดปัญหา
ก็มีข่าวว่าในปี 2015 ลูคัสฟิล์มเกือบจะประกาศสร้างหนังโบบา เฟตต์อย่างเป็นทางการ
พร้อมกับฉายตัวอย่างชิมลาง ในงานเฉลิมฉลองของแฟนคลับสตาร์วอร์ส (Star Wars Celebration) เพื่อเรียกกระแส
เพราะในตารางเวลาของงาน มีกำหนดการพบปะแฟนๆ ของแกเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส์ กับจอช แทรงค์ เพื่อสนทนาเรื่องภาคแยกสตาร์วอร์สของพวกเขา

แทรงค์ยกเลิกกำหนดการก่อนงานเริ่มเพียงไม่กี่วัน และหลังจากงานจบแค่ 1 สัปดาห์ เขาก็โดนถอดจากโครงการโบบา เฟตต์
คนส่วนใหญ่เชื่อว่าสาเหตุเกี่ยวกับ [ข่าวลือ] เรื่องพฤติกรรมสุดจะไม่เป็นมืออาชีพ ที่เขาแสดงออกขณะถ่ายทำภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่เรื่อง Fantastic Four ฉบับ 2015
(แต่ต่อให้ข่าวลือมิใช่สาเหตุ, Fantastic Four 2015 ก็เป็นหนังฮีโร่ที่คนยี้กันถ้วนหน้า)

สาเหตุการแยกทางแบบเป็นทางการ ถูกระบุไว้ว่าเกี่ยวกับ "ทิศทางด้านความคิดสร้างสรรค์ไม่ตรงกัน" (ขอให้ท่านเตรียมเจอวลีนี้ซ้ำๆ ในบทความ)
แต่ตัวแทรงค์เองนั้นเคยกล่าวว่า เขาตัดสินใจถอนตัวออกจากโครงการเอง



Rogue One: A Star Wars Story

Rogue One ที่ฉายเมื่อปี 2016 ประสบความสำเร็จทั้งด้านรายได้และคำวิจารณ์ 
แม้ตัวผลงานของแกเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส์ ผ่านการแก้ไขแบบไม่ทราบปริมาณแน่ชัด
ด้วยฝีมือของผู้กำกับที่มากประสบการณ์กว่าอย่าง 'โทนี่ กิลรอย' 

แต่ถ้าพิจารณาจากคำพูดของโทนี่ กิลรอย ในอีก 2 ปีให้หลัง คาดว่าผลงานเรื่อง Rogue One เคยอยู่ในสภาพย่ำแย่ และต้องถ่ายซ่อมกันยกใหญ่ก่อนจะกลายเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของสตูดิโอภายหลัง

"เมื่อคุณมองไปยัง Rogue One จะเห็นทุกอุปสรรคที่กลุ่มคนนอกคอก (Rogue) ต้องเผชิญ กับความสับสนอลหม่านที่ตามมา
คุณจะเห็นคนฉลาดทั้งหลายกำลังพยายามรับมือ แต่ก็ยังยุ่งเหยิงไปหมด
และสุดท้ายเมื่อผมไปถึง ก็พบหนทางแสนธรรมดาสำหรับแก้ไข เพราะแก่นของมันคือ 'หนังที่ทุกคนต้องตาย' ฉะนั้นทำให้มันเป็นหนังแห่งการเสียสละสิ" โทนี่ กิลรอยกล่าว

"คำถามคือทำไมตัวละครเหล่านี้, ทำไมคนพวกนี้ต้องเสียสละตนเอง ? คุณจำเป็นต้องใส่แรงจูงใจให้พวกเขาอย่างเป็นธรรมชาติในทุกฉาก และผ่านการดำเนินเรื่องทั้งหมด นี่คือธีมของมัน"



Solo: A Star Wars Story

2 เคสแรกจัดว่าธรรมดา เพราะการแยกทางกับผู้กำกับตั้งแต่ก่อนเริ่มถ่ายทำ หรือผกก.วางมือจากโครงการหลังถ่ายจบ คือเรื่องปกติของวงการฮอลลีวูด
แต่เคสนี้สมควรแก่การฮือฮา เพราะว่าการถอนตัวกลางอากาศทั้งที่ยังถ่ายทำไม่เสร็จ คือเรื่องที่แทบไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อน
แปลว่าฟิล ลอร์ด กับคริส มิลเลอร์/คู่หูผู้กำกับที่สร้างชื่อจากภาพยนตร์อนิเมชั่น Cloudy with a Chance of Meatballs, The Lego Movie และหนังคนแสดงเรื่อง 21 Jump Street
น่าจะ "ทิศทางด้านความคิดสร้างสรรค์ไม่ตรงกัน" กับทางลูคัสฟิล์มอย่างรุนแรง

[ข่าววงใน] ชี้ว่าสาเหตุมีหลายประการ เป็นต้นว่าคู่หูผกก.ชอบทำอะไรด้นสดนอกบท
จนเข้าหน้าไม่ติดกับคนเขียนบทสตาร์วอร์สเก่าแก่แบบ ลอว์เรนซ์ แคสแดน
หรือรับความกดดันของการผลิตแฟรนไชส์ชื่อก้องไม่ไหว และถ่ายแก้ฉากเดิมซ้ำๆ ไม่รู้กี่รอบ เลยส่งผลให้โครงการคืบหน้าล่าช้ากว่ากำหนดมาก

มิลเลอร์เคยปฏิเสธข่าวลือจำพวกนี้บางประการ แต่เอาเป็นว่าลูคัสฟิล์มต้องเรียกตัวผู้กำกับที่ประสบการณ์สูงกว่า (รอน โฮเวิร์ด) มาจบงาน ซ้ำรอยเหตุการณ์ของ Rogue One



Star Wars: The Rise of Skywalker

เหมือนจะมีปัญหากันแค่ภาคแยกนี่แหละ เพราะถึง The Last Jedi จะทำคนดูเสียงแตก และเจอคำค่อนแคะว่าสงสัยเปลี่ยนเนื้อเรื่องที่วางไว้ล่วงหน้าซะเยอะ
แต่เจ.เจ.อับรามส์กับไรอัน จอห์นสัน ต่างเคารพบทที่อีกฝ่ายเขียน และต่างคนต่างกำกับหนังของตัวเองกันไปแบบไร้ดราม่า (อย่างน้อยคือต่อหน้าสาธารณชนน่ะนะ)

อย่างไรก็ตาม 'โคลิน เทรวอร์โรว์' ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นผู้พัฒนาโครงการสตาร์วอร์ส Episode IX มาตั้งแต่ช่วงแรก
ก็โดนแจกใบแดงไล่ออกจากสนามก่อนหน้า The Last Jedi จะฉายในปี 2017 เพียงเล็กน้อย
ส่วนสาเหตุแบบเป็นทางการไม่ต้องสืบคือ "ทิศทางด้านความคิดสร้างสรรค์ไม่ตรงกัน"
โคลิน เทรวอร์โรว์


แคธลีน เคนเนดี้บอกก่อน The Rise of Skywalker ฉายไม่นาน ว่าตอนนั้นเทรวอร์โรว์ผลิตบทร่างแรกยังไม่ทันเสร็จด้วยซ้ำ
แต่ [ข่าวลือ] เรื่องสาเหตุของใบแดง คือเทรวอร์โรว์เป็นคนร่วมงานด้วยลำบาก สตูดิโอจึงไม่อยากยุ่งยาก
ประกอบกับตัวแคธลีนเองเลยนี่แหละ ที่ผิดหวังกับบทของเทรวอร์โรว์
และไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใด สุดท้ายเจ.เจ.อับรามส์ ผู้เคยกำกับ Star Wars: The Force Awakens ก็ได้กลับมาปิดฉากไตรภาคที่เขาเริ่มต้นไว้



ไตรภาคไร้นามของ 2 ผู้สร้างซีรีส์ชื่อดัง

พวกเขากระโดดเข้ามามีส่วนร่วมกับแฟรนไชส์หลังสุด แถมเป็นกลุ่มบุคคลล่าสุดของตอนนี้ที่แยกทางกับลูคัสฟิล์มเช่นกัน
เดวิด เบนิออฟฟ์ กับดี.บี.ไวส์ (David Benioff and D.B. Weiss) โด่งดังเพราะซีรีส์แฟนตาซีย้อนยุคซึ่งเนื้อหาสุดจะรุนแรง เรื่องมหาศึกชิงบัลลังก์ (Game of Thrones)
และแม้จะสูญเสียรังวัดไปเยอะหลังซีซั่นสุดท้ายทำคนมากมายไม่ปลื้ม
แต่ชาย 2 คนนี้ถูกประเมินไว้สูงจากคนในวงการ ถึงขนาดได้รับ 2 ข้อเสนอใหญ่ไล่เลี่ยกัน

พวกเขารับงานพัฒนา Star Wars ไตรภาคถัดไป ที่จะฉายต่อจากหนังยุคมหากาพย์สกายวอล์คเกอร์ให้ทางลูคัสฟิล์ม
และตกลงใจจะรับอีกงาน คือพัฒนาซีรีส์ชุดใหญ่ให้ Netflix/ช่องสตรีมมิ่งเจ้าดัง ไปพร้อมกัน
แต่ดูเหมือนนั่นจะส่งผลให้พวกเขาต้องถอนตัวจากการทำ Star Wars ภายหลัง

คราวนี้สาเหตุทางการไม่เกี่ยวกับปัญหาขัดแย้งด้านความคิดสร้างสรรค์
มีการประกาศว่าทั้ง 2 ต้องใช้เวลากับซีรีส์ Netflix มากเกินคาด จึงจำใจแยกทางกับลูคัสฟิล์ม
และเผื่อใครยังไม่ทราบ เคยมี [ข่าววงใน] ระบุว่าไตรภาคของเดวิด เบนิออฟฟ์ กับดี.บี.ไวส์ จะเกี่ยวข้องกับ 'ประวัติการเกิดเจได'
เดวิด เบนิออฟฟ์ กับดี.บี.ไวส์


นอกจากสารพัดเหตุขัดแย้งและแยกทางที่ว่ามา
เคยมี [กระแสข่าว] ว่าลูคัสฟิล์มเตรียมสร้างหนังภาคแยกโบบา เฟตต์อีกครั้ง
และวางแผนผลิตภาคแยกของตัวละครเก่าในแฟรนไชส์ ออกมาหากินเพิ่มเติมอีกพอสมควร (เช่น ภาคแยกโอบีวัน หรือภาค 2-3 ของ Solo: A Star Wars Story)
ก่อนที่โครงการทั้งหมดจะถูกพับเก็บรวดเดียวเรียบวุธ เนื่องจากภาพยนตร์ Solo ทำรายได้ไม่เข้าเป้า

แม้ซีรีส์ The Mandalorian ผลตอบรับดี จนแทบจะแน่นอน 100% แล้วว่าแฟนคลับจะได้ดูซีรีส์ของตัวละครโอบีวัน เคโนบี กับพระเอก Rogue One
แต่ในช่วงท้ายค.ศ. 2019 นี้ ยังคงไม่มีความแน่นอน ว่าอนาคตของ 'ภาพยนตร์' สตาร์วอร์สยุคถัดไปจะเป็นเช่นไร
เนื่องจากปัจจุบัน แทบไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับไตรภาคของไรอัน จอห์นสัน นอกจากที่เจ้าตัวเคยโฆษณาว่ากำลังหาทางสร้างความสดใหม่
และเควิน ไฟกี/ผู้ดูแลหลักของ Marvel Cinematic Universe จะโดดมาทำหนัง Star Wars ให้อย่างน้อย 1 ภาค


ที่มา: cinemablendio9birthmoviesdeath


COMMENTS

ชื่อ

Analyze,11,Ant-Man,6,Aquaman,8,Assassin Creed,5,Avatar,9,Bad Boys,2,Black Panther,7,Black Widow,5,Blade Runner,4,Darth Vader,9,DC,51,DC Elseworlds,4,DCEU,31,DCEU tie-in comics,11,DCU,5,Doctor Strange,7,Dune,11,Eastrail 177 Trilogy,5,Fast & Furious,9,Films,33,Ghostbusters,3,Guardians of the Galaxy,5,Horror,14,How to Train Your Dragon,6,Indiana Jones,4,Infinity Saga,40,Interview,25,Introduce,37,Iron Man,2,James Bond,6,Jedi,8,John Wick,7,Jurassic Park,10,Marvel,101,Maze Runner,3,MCU Basic,4,MCU tie-in comics,14,Middle-earth,10,Mission Impossible,7,MonsterVerse,15,Multiverse Saga,29,Pacific Rim,4,Planet of the Apes,1,Predator,7,Resident Evil,4,Review,25,Shazam,11,Skywalker Saga,18,Spider-Man,17,Star Wars,66,Star Wars Galaxy,10,Star Wars Stories,18,Suicide Squad,3,Terminator,6,The Flash,6,The Matrix,4,The Meg,4,The Rise of Kylo Ren,4,Thor,5,Transformers,5,Wizarding World,7,X-Men,8,
ltr
item
Filmaneo: ย้อนรอยประวัติศาสตร์ >>สารพัดเหตุขัดแย้งและแยกทาง ของเหล่าผู้เข้าชื่อกำกับหนัง Star Wars
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ >>สารพัดเหตุขัดแย้งและแยกทาง ของเหล่าผู้เข้าชื่อกำกับหนัง Star Wars
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhyxaabksguwnVmm7VhPlKjMiWbh2P1nh400abV1qB1gyJ15pZRtfNVOLW39lpQUR803V7GZ6C_tQB0OXWuY4R3wDkit8-ujY0tcinWlrUunmHLEt8fz9OHDmU-HoBqOMSlsliQVfChefM/s640/Boba+Fett.jpeg
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhyxaabksguwnVmm7VhPlKjMiWbh2P1nh400abV1qB1gyJ15pZRtfNVOLW39lpQUR803V7GZ6C_tQB0OXWuY4R3wDkit8-ujY0tcinWlrUunmHLEt8fz9OHDmU-HoBqOMSlsliQVfChefM/s72-c/Boba+Fett.jpeg
Filmaneo
https://www.filmaneo.com/2019/12/those-times-when-directors-of-star-wars-movies-have-problems.html
https://www.filmaneo.com/
https://www.filmaneo.com/
https://www.filmaneo.com/2019/12/those-times-when-directors-of-star-wars-movies-have-problems.html
true
1920476370546547589
UTF-8
Loaded All Posts Not found any posts VIEW ALL Readmore Reply Cancel reply Delete By Home PAGES POSTS View All RECOMMENDED FOR YOU LABEL ARCHIVE SEARCH ALL POSTS Not found any post match with your request Back Home Sunday Monday Tuesday Wednesday Thursday Friday Saturday Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat January February March April May June July August September October November December Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec just now 1 minute ago $$1$$ minutes ago 1 hour ago $$1$$ hours ago Yesterday $$1$$ days ago $$1$$ weeks ago more than 5 weeks ago Followers Follow THIS PREMIUM CONTENT IS LOCKED STEP 1: Share to a social network STEP 2: Click the link on your social network Copy All Code Select All Code All codes were copied to your clipboard Can not copy the codes / texts, please press [CTRL]+[C] (or CMD+C with Mac) to copy Table of Content