ภาพยนตร์ชุด John Wick เริ่มต้นด้วยการแสดงให้ผู้ชมเห็นชายท่าทางธรรมดาดูไม่มีพิษมีภัย และกำลังอยู่ในสภาวะเศร้าสร้อยเนื่องจากเพิ่งสูญเสียภรรยา ...
ภาพยนตร์ชุด John Wick เริ่มต้นด้วยการแสดงให้ผู้ชมเห็นชายท่าทางธรรมดาดูไม่มีพิษมีภัย และกำลังอยู่ในสภาวะเศร้าสร้อยเนื่องจากเพิ่งสูญเสียภรรยา
ก่อนจะฆ่าหมาของเขาทิ้ง เพื่อกระตุ้นให้พระเอกผู้เคยเป็นสุดยอดนักสู้แห่งวงการมือสังหารคืนสู่สังเวียน
แล้วหลังจากนั้นก็เกิดผลกระทบต่อเนื่อง เรื่องราวต่างๆ มากมายเกิดขึ้นตามมา
แต่แน่ละว่าการล้างแค้นให้หมาไม่ใช่จุดเริ่มต้นที่แท้จริงของเขา
จุดเริ่มต้นแท้จริงของจอห์น วิค เกิดจากประสบการณ์เลวร้ายในวัยเด็ก
ซึ่งมันผลักดันให้เขาฝึกฝนตนเอง และแสวงหาประสบการณ์
จนเมื่อมั่นใจว่าตนสามารถพอจะล้างแค้นให้สำเร็จได้ เขาก็เริ่มลงมือเปิดศึกกับฝ่ายตรงข้าม
ความเป็นมาของจอห์น วิค ดังกล่าวถูกบอกเล่าในคอมิค 5 เล่มจบ (เผยแพร่เมื่อค.ศ. 2017-2019) ที่ใช้ชื่อ 'John Wick' เช่นเดียวกับภาพยนตร์
โจนาธานวัยหนุ่มก่อวีรกรรมครั้งใหญ่ ไล่ล่าสังหารพวกที่ทำเรื่องเลวชาติไว้
ซึ่งมันส่งผลให้เขาแจ้งเกิดและเข้าสู่วงการนักฆ่า ภายใต้สังกัดของแก๊งค์อาชญากรขาใหญ่อย่างเป็นทางการภายหลังด้วย
คอมิคเปิดเรื่องเวลากลางวัน ณ เมืองเอล พาโซ (El Paso) รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา
โจนาธาน วิค วัยหนุ่มที่เพิ่งออกจากคุกมา เดินเข้าร้านอาหารตามหลังชายท่าทางกร่างๆ คนนึง
แต่จอห์น วิค ไม่ได้หิวข้าว และตั้งใจสั่งมื้อใหญ่มากินแต่อย่างใด
เขาเข้าร้านอาหารเพื่อแอบฟังชายกร่างสนทนากับผู้หญิงคนหนึ่ง
ถึงสิ่งที่ชายกร่างกำลังจะไปทำร่วมกับคนชื่อ 'เพคอส' (Pecos) คืนนี้ต่างหาก
จอห์นเดินทางสู่ตึกที่เพคอสกำลังจะทำอะไรบางอย่างตอนกลางคืน
และเดินไปขอเข้าพักโรงแรมสภาพโทรมๆ ข้างๆ เพื่อดักซุ่มรอ
ขณะจอห์นนอนหลับ เขาฝันเห็นเหตุการณ์เมื่อ 12 ปีก่อน ตอนยังเด็ก
จอห์นเคยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนึงในเมืองเอล ซอเซล (El Sauzel) รัฐบาจา แคลิฟอร์เนีย (Baja California) ประเทศเม็กซิโก
และขโมยของจากเพคอส, 1 ในสมาชิกของกลุ่มอาชญากรที่เรียกตัวเองว่าทรีบิลส์ (The Three Bills)
แม้โดนยิงปืนขู่ไล่หลังหลายนัด แต่จอห์นวัยเด็กก็ไม่กริ่งเกรง, วิ่งหนีพวกทรีบิลส์ด้วยความคล่องแคล่วว่องไวน่าประทับใจ
ทว่าจู่ๆ ดันมีใครไม่รู้ใช้เครื่องยิงจรวดยิงใส่ดื้อๆ
เด็กชายจอห์นไม่เป็นอะไร, แต่เหตุการณ์รุนแรงนั่นกระตุ้นให้พวกทรีบิลส์นึกสนุก เริ่มกราดยิงปืนใส่เหล่าชาวบ้านผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่แถวนั้น เพื่อความบันเทิง
โจนาธานรู้สึกตัวตื่นเมื่อมีความเคลื่อนไหวในตึกเป้าหมาย
เขาต้องประหลาดใจ เพราะเห็นคนรู้จักอย่าง 'ชารอน' กับแมวของชารอนเดินเข้ามาในทัศนวิสัย
ทว่ายังไม่ทันไร, ชารอนก็โดนเพคอสกับพรรคพวกจู่โจมเพื่อขโมยตราพันธะ
และเมื่อแมวของชารอนถูกทำร้าย, จอห์น วิค จะไม่รีรออีกต่อไป
เขาบุกเข้าใส่ศัตรูทันใด พร้อมโชว์ฝีไม้ลายมือกวาดทุกคนในห้องให้ลงไปนอนกองกับพื้น รวมถึงสังหารเพคอสชำระแค้น
โจนาธานหยิบกระเป๋าสตางค์กับมือถือของเพคอสมาติดไม้ติดมือ
ชารอนขอบคุณที่ช่วยเค้ากับแมวไว้
ชารอนบอกจอห์นให้รู้ข้อมูลว่าพวกทรีบิลส์เป้าหมายความแค้นของจอห์นอีกสองคน (บัฟฟาโลกับบิลลี่)
เป็นสมาชิกคอนทิเนนทัลประจำท้องถิ่นอยู่ (สาขาเอล พาโซ ก่อตั้งมาตั้งแต่ค.ศ. 1909)
ซึ่งการที่จอห์นเป็นนักฆ่าอิสระไม่สังกัดใคร มันทำให้เสียเปรียบสองคนนั่นที่ขอรับบริการสนับสนุนของคอนทิเนนทัลได้
ฉะนั้นชารอนจึงอยากตอบแทนความช่วยเหลือของจอห์น โดยการพาเขาไปเยือนคอนทิเนนทัลสาขาเอล พาโซ
เมื่อชารอนกับจอห์น วิค ถึงโรงแรมนักฆ่า, ปรากฏว่า 'มาเรีย' อาชญากรหญิงตัวแม่ที่คุมแก๊งค์รัสเซียและใหญ่สุดแถวนั้น กำลังรอต้อนรับพวกเขาพร้อมนักฆ่าจำนวนมากอยู่แล้ว
ชารอนจึงเตือนให้จอห์น กับมาเรียตระหนักถึงกฎเหล็กที่ห้ามก่อเรื่องในคอนทิเนนทัลเด็ดขาดกัน
จากนั้นก็วกเข้าประเด็น, ถามมาเรียว่าเพคอสไปเล่นงานเค้าตามคำสั่งเธอใช่หรือไม่ ? เพราะเพคอสเคยเป็นคนในสังกัดมาเรียมาก่อน
มาเรียยืินยันว่าเพคอสไม่ใช่คนของหล่อนแล้ว และเพคอสเล่นงานชารอนตามอำเภอใจ
แถมหันไปขอบคุณจอห์น วิค ที่ช่วยจัดการเพคอส พร้อมยื่นข้อเสนอตอบแทน
ด้วยการรับจอห์น วิคเข้าทำงานภายใต้สังกัดของเธอ
ทว่าจอห์นปฏิเสธ และขอให้มาเรียแสดงน้ำใจโดยการปล่อยข้อมูลว่าเพคอสยังไม่ตายแทน
โจนาธานเดินเกมต่อ, เขามองหาทำเลเหมาะๆ แถบตึกร้างที่ไม่มีใครอยู่อาศัย
ส่งข้อความผ่านมือถือเพคอสไปหาบัฟฟาโลว่าบิลลี่หักหลัง
ตามด้วยส่งข้อความไปหาบิลลี่ว่าบัฟฟาโลหักหลัง
(ยุแยงตะแคงรั่ว ปั่นให้สองคนนั้นเข้าใจผิดคิดว่าอีกคนคือผู้หักหลัง ส่งจอห์น วิคไปพยายามสังหารเพคอส)
โจนาธานหลอกล่อให้พวกลูกน้องของบัฟฟาโล กับพวกลูกน้องของบิลลี่ตามเขาสู่พื้นที่เป้าหมาย
กลุ่มลูกน้องของทั้งสองฝ่ายวนเข้าไปในตึกร้างแต่ไม่เจอจอห์น วิค
กลับเจอลูกน้องของหัวหน้าอีกกลุ่มแทน จึงชี้ปืนเข้าใส่กันด้วยความสับสนในสถานการณ์
ก่อนเปิดศึกยิงใส่กันด้วยความเข้าใจผิด
บัฟฟาโลกับบิลลี่ที่รู้ตัวว่าติดกับจอห์น วิคเข้า เลิกซ่อนตัวและออกมาคุมพวกลูกน้องให้หยุดฆ่ากันเอง
จอห์น วิค เห็นสถานการณ์เป็นไปตามแผน เลยเริ่มลุยเดี่ยวเปิดศึกกับทั้งแก๊งค์ของบัฟฟาโลและบิลลี่ที่ลดจำนวนลงแล้ว
ลูกน้องของบัฟฟาโลกับบิลลี่ล้มตายเป็นใบไม้ร่วง และถูกจอห์น วิคไล่ต้อนจนเริ่มเห็นท่าไม่ดี
ทั้งสองจึงพยายามเอาตัวรอดโดยเผยให้โจนาธานทราบความจริงว่าสมาชิกแก๊งค์ของพวกเขาอีกคน, ผู้หญิงเพี้ยนๆ ชื่อ 'คาลามิตี้' คือคนที่ลั่นไกเครื่องยิงจรวดเผาหมู่บ้านเมื่อ 12 ปีก่อน
และพวกเขาก็ได้จัดการเธอแล้ว ฉะนั้นจอห์นควรปล่อยพวกเขาไป
แต่จอห์นยังจำได้ว่าบัฟฟาโลกับบิลลี่เองก็มีความผิด เพราะหลังจากคาลามิตี้ยิงจรวด
เจ้าพวกนี้กราดยิงปืนใส่คนในหมู่บ้านต่อเพื่อความสะใจล้วนๆ
บัฟฟาโลกับบิลลี่จึงต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน, ใช้ลูกน้องพลีชีพถ่วงเวลา ตามด้วยโทรศัพท์หามาเรียขอความช่วยเหลือ
มาเรียจัดแจงส่งคนไปรับทั้งสองพาหนีสู่เขตปลอดภัย, โรงแรมคอนทิเนนทัล
และส่งรถไปรับจอห์น วิค มาที่คอนทิเนนทัล เพื่อขอให้เขาทำงานกับเธออีกรอบ
มาเรียเล็งเห็นศักยภาพของจอห์นจึงยื่นข้อเสนอเก่าซ้ำสอง แถมต่อรองด้วยสัญญาจ้างเงื่อนไขงาม ที่ทั้งรายได้สูงและไม่ผูกมัดเท่าไหร่
จอห์นยังยืนกรานปฏิเสธและเดินจากไป
มาเรียเดินไปหาบัฟฟาโลกับบิลลี่ที่อยู่ในอีกห้องของโรงแรมต่อ และเรียกหาตราพันธะจากทั้งสองคนที่ติดหนี้บุญคุณหล่อน
ทว่าบัฟฟาโลกับบิลลี่ต้องสะดุ้งโหยง เมื่อมาเรียขอให้ใช้หนี้บุญคุณโดยการ 'ฆ่าจอห์น วิค' ซะงั้น
มาเรียอยากให้จอห์น วิคตาย เพราะคนฝีมิือระดับเขาถ้ายังลอยชายเป็นอิสระรังแต่จะสร้างความปั่นป่วนแก่วงการอาชญากรรม หรือถ้าปล่อยเขาเข้าสังกัดคู่แข่งหล่อนมันก็ยิ่งน่ากลัว
อย่างไรก็ตาม เธอไม่คิดว่าอย่างบัฟฟาโลกับบิลลี่จะสังหารจอห์นได้อยู่แล้ว เลยแนะนำให้พวกเขาปลดปล่อย 'คาลามิตี้'
บัฟฟาโลกับบิลลี่เดินทางสู่สถานบำบัดจิตที่อยู่ใต้ดินลึก 200 ฟุตใต้เมืองเอล พาโซ เพื่อทำเรื่องอนุญาตปล่อยตัวคาลามิตี้
ด้านคาลามิตี้ที่ถูกจองจำมานานถึง 10 ปีกับอีก 17 วัน ยังคงเป็นคนคลั่งไม่เปลี่ยน
ทันทีที่ได้รับอิสระก็จัดการสังหารหมอและบรรดาผู้ที่ทำงานในนั้นจนเรียบวุธ
ฝั่งจอห์นที่ยังไม่ยอมเข้าระบบง่ายๆ เดินแบกแผลกลับโรงแรมแสนโทรมข้างตึกที่ชารอนพัก
แต่ขณะกำลังพยายามเอากระสุนออกจากบาดแผลด้วยตนเอง (โดนยิงตอนทำศึกกับบัฟฟาโลและบิลลี่)
ชารอนผู้ยังรู้สึกติดค้างจอห์นอยู่ก็มาเคาะประตูห้อง พร้อมหมอจากคอนทิเนนทัล
จอห์นรับการรักษาจนฟื้นตัว ทว่ายังไม่ทันได้ขยับไปไหน
เหล่านักฆ่าที่หวังค่าหัวจอห์น วิค (ซึ่งคาลามิตี้ตั้งรางวัลขึ้นมา) ก็เข้าล้อมโรงแรมซอมซ่อที่วิคอยู่
แต่มีหรือจอห์น วิค จะโดนพวกที่มารวมตัวกันกะทันหันเล่นงานง่ายๆ
เขาไล่เก็บฝ่ายตรงข้ามทีละคนจนหมด และโทรศัพท์หาพวกทรีบิลส์
เรียกให้ไปเคลียร์กันที่เขตเหมืองปลอดคนแถบชานเมือง
ทว่านั่นกลับทำให้คาลามิตี้จอมเพี้ยน เริ่มใช้เครื่องยิงจรวดถล่มใส่ใจกลางเมือง เพื่อล่อจอห์น วิคเข้าหาหล่อน
การกระทำบ้าคลั่งและโฉ่งฉ่างดังนี้ขัดกับวิถีแห่งวงการ
ชารอนเลยบอกว่าจอห์นสามารถถอนตัวจากไปได้ คอนทิเนนทัลจะเก็บกวาดพวกทรีบิลส์ให้
แต่จอห์นยืนกรานจะจัดการเอง และมุ่งเข้าเผชิญหน้ากับทรีบิลส์ทั้งสามคน
หลังการต่อสู้ดำเนินไปพักหนึ่ง, ทรีบิลส์จับชาวเมืองมาจ่อปืนใส่ใช้เป็นตัวประกัน
จอห์น วิคที่ไม่อยากให้ผู้บริสุทธิ์ต้องรับเคราะห์ จึงหลบเข้าที่กำบังโทรศัพท์หามาเรีย บอกว่าเขาเปลี่ยนใจยอมร่วมงานกับเธอ
มาเรียเลยช่วยเหลือ ส่งคนไปนำตัวประกันออกมาอย่างปลอดภัย
เปิดโอกาสให้โจนาธานเอาชนะบิลลี่, บัฟฟาโล และคาลามิตี้ ได้สำเร็จ
หลังทรีบิลส์สามคนสิ้นชีพลง, จอห์น วิคเดินทางสู่คอนทิเนนทัลเข้าพบมาเรีย
แม้จอห์นขัดใจเพราะตัวเองโดนบังคับให้เต้นไปตามเกมของหล่อน
แต่มาเรียแย้งว่าสุดท้ายจอห์นก็ได้สิ่งที่ต้องการ (สังหารพวกทรีบิลส์ชำระแค้นสำเร็จ)
และการเข้าวงการที่มีกฎระเบียบให้ยึดถือมันดีต่ออนาคตของเขามากกว่า
จอห์น วิค จึงเข้าสู่สังคมของเหล่าคนแห่งโลกอาชญากรรมใต้ดินอย่างเป็นทางการในที่สุด
ก่อนจะฆ่าหมาของเขาทิ้ง เพื่อกระตุ้นให้พระเอกผู้เคยเป็นสุดยอดนักสู้แห่งวงการมือสังหารคืนสู่สังเวียน
แล้วหลังจากนั้นก็เกิดผลกระทบต่อเนื่อง เรื่องราวต่างๆ มากมายเกิดขึ้นตามมา
แต่แน่ละว่าการล้างแค้นให้หมาไม่ใช่จุดเริ่มต้นที่แท้จริงของเขา
จุดเริ่มต้นแท้จริงของจอห์น วิค เกิดจากประสบการณ์เลวร้ายในวัยเด็ก
ซึ่งมันผลักดันให้เขาฝึกฝนตนเอง และแสวงหาประสบการณ์
จนเมื่อมั่นใจว่าตนสามารถพอจะล้างแค้นให้สำเร็จได้ เขาก็เริ่มลงมือเปิดศึกกับฝ่ายตรงข้าม
ความเป็นมาของจอห์น วิค ดังกล่าวถูกบอกเล่าในคอมิค 5 เล่มจบ (เผยแพร่เมื่อค.ศ. 2017-2019) ที่ใช้ชื่อ 'John Wick' เช่นเดียวกับภาพยนตร์
โจนาธานวัยหนุ่มก่อวีรกรรมครั้งใหญ่ ไล่ล่าสังหารพวกที่ทำเรื่องเลวชาติไว้
ซึ่งมันส่งผลให้เขาแจ้งเกิดและเข้าสู่วงการนักฆ่า ภายใต้สังกัดของแก๊งค์อาชญากรขาใหญ่อย่างเป็นทางการภายหลังด้วย
คอมิคเปิดเรื่องเวลากลางวัน ณ เมืองเอล พาโซ (El Paso) รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา
โจนาธาน วิค วัยหนุ่มที่เพิ่งออกจากคุกมา เดินเข้าร้านอาหารตามหลังชายท่าทางกร่างๆ คนนึง
แต่จอห์น วิค ไม่ได้หิวข้าว และตั้งใจสั่งมื้อใหญ่มากินแต่อย่างใด
เขาเข้าร้านอาหารเพื่อแอบฟังชายกร่างสนทนากับผู้หญิงคนหนึ่ง
ถึงสิ่งที่ชายกร่างกำลังจะไปทำร่วมกับคนชื่อ 'เพคอส' (Pecos) คืนนี้ต่างหาก
จอห์นเดินทางสู่ตึกที่เพคอสกำลังจะทำอะไรบางอย่างตอนกลางคืน
และเดินไปขอเข้าพักโรงแรมสภาพโทรมๆ ข้างๆ เพื่อดักซุ่มรอ
ขณะจอห์นนอนหลับ เขาฝันเห็นเหตุการณ์เมื่อ 12 ปีก่อน ตอนยังเด็ก
จอห์นเคยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนึงในเมืองเอล ซอเซล (El Sauzel) รัฐบาจา แคลิฟอร์เนีย (Baja California) ประเทศเม็กซิโก
และขโมยของจากเพคอส, 1 ในสมาชิกของกลุ่มอาชญากรที่เรียกตัวเองว่าทรีบิลส์ (The Three Bills)
แม้โดนยิงปืนขู่ไล่หลังหลายนัด แต่จอห์นวัยเด็กก็ไม่กริ่งเกรง, วิ่งหนีพวกทรีบิลส์ด้วยความคล่องแคล่วว่องไวน่าประทับใจ
ทว่าจู่ๆ ดันมีใครไม่รู้ใช้เครื่องยิงจรวดยิงใส่ดื้อๆ
เด็กชายจอห์นไม่เป็นอะไร, แต่เหตุการณ์รุนแรงนั่นกระตุ้นให้พวกทรีบิลส์นึกสนุก เริ่มกราดยิงปืนใส่เหล่าชาวบ้านผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่แถวนั้น เพื่อความบันเทิง
โจนาธานรู้สึกตัวตื่นเมื่อมีความเคลื่อนไหวในตึกเป้าหมาย
เขาต้องประหลาดใจ เพราะเห็นคนรู้จักอย่าง 'ชารอน' กับแมวของชารอนเดินเข้ามาในทัศนวิสัย
ทว่ายังไม่ทันไร, ชารอนก็โดนเพคอสกับพรรคพวกจู่โจมเพื่อขโมยตราพันธะ
และเมื่อแมวของชารอนถูกทำร้าย, จอห์น วิค จะไม่รีรออีกต่อไป
เขาบุกเข้าใส่ศัตรูทันใด พร้อมโชว์ฝีไม้ลายมือกวาดทุกคนในห้องให้ลงไปนอนกองกับพื้น รวมถึงสังหารเพคอสชำระแค้น
โจนาธานหยิบกระเป๋าสตางค์กับมือถือของเพคอสมาติดไม้ติดมือ
ชารอนขอบคุณที่ช่วยเค้ากับแมวไว้
ชารอนบอกจอห์นให้รู้ข้อมูลว่าพวกทรีบิลส์เป้าหมายความแค้นของจอห์นอีกสองคน (บัฟฟาโลกับบิลลี่)
เป็นสมาชิกคอนทิเนนทัลประจำท้องถิ่นอยู่ (สาขาเอล พาโซ ก่อตั้งมาตั้งแต่ค.ศ. 1909)
ซึ่งการที่จอห์นเป็นนักฆ่าอิสระไม่สังกัดใคร มันทำให้เสียเปรียบสองคนนั่นที่ขอรับบริการสนับสนุนของคอนทิเนนทัลได้
ฉะนั้นชารอนจึงอยากตอบแทนความช่วยเหลือของจอห์น โดยการพาเขาไปเยือนคอนทิเนนทัลสาขาเอล พาโซ
เมื่อชารอนกับจอห์น วิค ถึงโรงแรมนักฆ่า, ปรากฏว่า 'มาเรีย' อาชญากรหญิงตัวแม่ที่คุมแก๊งค์รัสเซียและใหญ่สุดแถวนั้น กำลังรอต้อนรับพวกเขาพร้อมนักฆ่าจำนวนมากอยู่แล้ว
ชารอนจึงเตือนให้จอห์น กับมาเรียตระหนักถึงกฎเหล็กที่ห้ามก่อเรื่องในคอนทิเนนทัลเด็ดขาดกัน
จากนั้นก็วกเข้าประเด็น, ถามมาเรียว่าเพคอสไปเล่นงานเค้าตามคำสั่งเธอใช่หรือไม่ ? เพราะเพคอสเคยเป็นคนในสังกัดมาเรียมาก่อน
มาเรียยืินยันว่าเพคอสไม่ใช่คนของหล่อนแล้ว และเพคอสเล่นงานชารอนตามอำเภอใจ
แถมหันไปขอบคุณจอห์น วิค ที่ช่วยจัดการเพคอส พร้อมยื่นข้อเสนอตอบแทน
ด้วยการรับจอห์น วิคเข้าทำงานภายใต้สังกัดของเธอ
ทว่าจอห์นปฏิเสธ และขอให้มาเรียแสดงน้ำใจโดยการปล่อยข้อมูลว่าเพคอสยังไม่ตายแทน
โจนาธานเดินเกมต่อ, เขามองหาทำเลเหมาะๆ แถบตึกร้างที่ไม่มีใครอยู่อาศัย
ส่งข้อความผ่านมือถือเพคอสไปหาบัฟฟาโลว่าบิลลี่หักหลัง
ตามด้วยส่งข้อความไปหาบิลลี่ว่าบัฟฟาโลหักหลัง
(ยุแยงตะแคงรั่ว ปั่นให้สองคนนั้นเข้าใจผิดคิดว่าอีกคนคือผู้หักหลัง ส่งจอห์น วิคไปพยายามสังหารเพคอส)
โจนาธานหลอกล่อให้พวกลูกน้องของบัฟฟาโล กับพวกลูกน้องของบิลลี่ตามเขาสู่พื้นที่เป้าหมาย
กลุ่มลูกน้องของทั้งสองฝ่ายวนเข้าไปในตึกร้างแต่ไม่เจอจอห์น วิค
กลับเจอลูกน้องของหัวหน้าอีกกลุ่มแทน จึงชี้ปืนเข้าใส่กันด้วยความสับสนในสถานการณ์
ก่อนเปิดศึกยิงใส่กันด้วยความเข้าใจผิด
บัฟฟาโลกับบิลลี่ที่รู้ตัวว่าติดกับจอห์น วิคเข้า เลิกซ่อนตัวและออกมาคุมพวกลูกน้องให้หยุดฆ่ากันเอง
ซ้ายบัฟฟาโล, ขวาบิลลี่
จอห์น วิค เห็นสถานการณ์เป็นไปตามแผน เลยเริ่มลุยเดี่ยวเปิดศึกกับทั้งแก๊งค์ของบัฟฟาโลและบิลลี่ที่ลดจำนวนลงแล้ว
ลูกน้องของบัฟฟาโลกับบิลลี่ล้มตายเป็นใบไม้ร่วง และถูกจอห์น วิคไล่ต้อนจนเริ่มเห็นท่าไม่ดี
ทั้งสองจึงพยายามเอาตัวรอดโดยเผยให้โจนาธานทราบความจริงว่าสมาชิกแก๊งค์ของพวกเขาอีกคน, ผู้หญิงเพี้ยนๆ ชื่อ 'คาลามิตี้' คือคนที่ลั่นไกเครื่องยิงจรวดเผาหมู่บ้านเมื่อ 12 ปีก่อน
และพวกเขาก็ได้จัดการเธอแล้ว ฉะนั้นจอห์นควรปล่อยพวกเขาไป
แต่จอห์นยังจำได้ว่าบัฟฟาโลกับบิลลี่เองก็มีความผิด เพราะหลังจากคาลามิตี้ยิงจรวด
เจ้าพวกนี้กราดยิงปืนใส่คนในหมู่บ้านต่อเพื่อความสะใจล้วนๆ
บัฟฟาโลกับบิลลี่จึงต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน, ใช้ลูกน้องพลีชีพถ่วงเวลา ตามด้วยโทรศัพท์หามาเรียขอความช่วยเหลือ
มาเรียจัดแจงส่งคนไปรับทั้งสองพาหนีสู่เขตปลอดภัย, โรงแรมคอนทิเนนทัล
และส่งรถไปรับจอห์น วิค มาที่คอนทิเนนทัล เพื่อขอให้เขาทำงานกับเธออีกรอบ
มาเรียเล็งเห็นศักยภาพของจอห์นจึงยื่นข้อเสนอเก่าซ้ำสอง แถมต่อรองด้วยสัญญาจ้างเงื่อนไขงาม ที่ทั้งรายได้สูงและไม่ผูกมัดเท่าไหร่
จอห์นยังยืนกรานปฏิเสธและเดินจากไป
มาเรียเดินไปหาบัฟฟาโลกับบิลลี่ที่อยู่ในอีกห้องของโรงแรมต่อ และเรียกหาตราพันธะจากทั้งสองคนที่ติดหนี้บุญคุณหล่อน
ทว่าบัฟฟาโลกับบิลลี่ต้องสะดุ้งโหยง เมื่อมาเรียขอให้ใช้หนี้บุญคุณโดยการ 'ฆ่าจอห์น วิค' ซะงั้น
มาเรียอยากให้จอห์น วิคตาย เพราะคนฝีมิือระดับเขาถ้ายังลอยชายเป็นอิสระรังแต่จะสร้างความปั่นป่วนแก่วงการอาชญากรรม หรือถ้าปล่อยเขาเข้าสังกัดคู่แข่งหล่อนมันก็ยิ่งน่ากลัว
อย่างไรก็ตาม เธอไม่คิดว่าอย่างบัฟฟาโลกับบิลลี่จะสังหารจอห์นได้อยู่แล้ว เลยแนะนำให้พวกเขาปลดปล่อย 'คาลามิตี้'
บัฟฟาโลกับบิลลี่เดินทางสู่สถานบำบัดจิตที่อยู่ใต้ดินลึก 200 ฟุตใต้เมืองเอล พาโซ เพื่อทำเรื่องอนุญาตปล่อยตัวคาลามิตี้
ด้านคาลามิตี้ที่ถูกจองจำมานานถึง 10 ปีกับอีก 17 วัน ยังคงเป็นคนคลั่งไม่เปลี่ยน
ทันทีที่ได้รับอิสระก็จัดการสังหารหมอและบรรดาผู้ที่ทำงานในนั้นจนเรียบวุธ
ฝั่งจอห์นที่ยังไม่ยอมเข้าระบบง่ายๆ เดินแบกแผลกลับโรงแรมแสนโทรมข้างตึกที่ชารอนพัก
แต่ขณะกำลังพยายามเอากระสุนออกจากบาดแผลด้วยตนเอง (โดนยิงตอนทำศึกกับบัฟฟาโลและบิลลี่)
ชารอนผู้ยังรู้สึกติดค้างจอห์นอยู่ก็มาเคาะประตูห้อง พร้อมหมอจากคอนทิเนนทัล
ตอนถอดเสื้อทำแผล จะเห็นว่าจอห์นวัยหนุ่มยังไม่มีรอยสักกลางหลังแบบในหนัง
จอห์นรับการรักษาจนฟื้นตัว ทว่ายังไม่ทันได้ขยับไปไหน
เหล่านักฆ่าที่หวังค่าหัวจอห์น วิค (ซึ่งคาลามิตี้ตั้งรางวัลขึ้นมา) ก็เข้าล้อมโรงแรมซอมซ่อที่วิคอยู่
แต่มีหรือจอห์น วิค จะโดนพวกที่มารวมตัวกันกะทันหันเล่นงานง่ายๆ
เขาไล่เก็บฝ่ายตรงข้ามทีละคนจนหมด และโทรศัพท์หาพวกทรีบิลส์
เรียกให้ไปเคลียร์กันที่เขตเหมืองปลอดคนแถบชานเมือง
ทว่านั่นกลับทำให้คาลามิตี้จอมเพี้ยน เริ่มใช้เครื่องยิงจรวดถล่มใส่ใจกลางเมือง เพื่อล่อจอห์น วิคเข้าหาหล่อน
การกระทำบ้าคลั่งและโฉ่งฉ่างดังนี้ขัดกับวิถีแห่งวงการ
ชารอนเลยบอกว่าจอห์นสามารถถอนตัวจากไปได้ คอนทิเนนทัลจะเก็บกวาดพวกทรีบิลส์ให้
แต่จอห์นยืนกรานจะจัดการเอง และมุ่งเข้าเผชิญหน้ากับทรีบิลส์ทั้งสามคน
หลังการต่อสู้ดำเนินไปพักหนึ่ง, ทรีบิลส์จับชาวเมืองมาจ่อปืนใส่ใช้เป็นตัวประกัน
จอห์น วิคที่ไม่อยากให้ผู้บริสุทธิ์ต้องรับเคราะห์ จึงหลบเข้าที่กำบังโทรศัพท์หามาเรีย บอกว่าเขาเปลี่ยนใจยอมร่วมงานกับเธอ
มาเรียเลยช่วยเหลือ ส่งคนไปนำตัวประกันออกมาอย่างปลอดภัย
เปิดโอกาสให้โจนาธานเอาชนะบิลลี่, บัฟฟาโล และคาลามิตี้ ได้สำเร็จ
หลังทรีบิลส์สามคนสิ้นชีพลง, จอห์น วิคเดินทางสู่คอนทิเนนทัลเข้าพบมาเรีย
แม้จอห์นขัดใจเพราะตัวเองโดนบังคับให้เต้นไปตามเกมของหล่อน
แต่มาเรียแย้งว่าสุดท้ายจอห์นก็ได้สิ่งที่ต้องการ (สังหารพวกทรีบิลส์ชำระแค้นสำเร็จ)
และการเข้าวงการที่มีกฎระเบียบให้ยึดถือมันดีต่ออนาคตของเขามากกว่า
จอห์น วิค จึงเข้าสู่สังคมของเหล่าคนแห่งโลกอาชญากรรมใต้ดินอย่างเป็นทางการในที่สุด
COMMENTS