31 เกร็ดน่ารู้ >>ก่อนดู Godzilla: King of the Monsters

ภาพยนตร์เกี่ยวกับสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์อันโด่งดังที่สุดของญี่ปุ่น 'ก็อดซิลลา' ภาคแรก เป็นหนังขาวดำที่เผยแพร่เมื่อค.ศ. 1954 และมันก็ไ...

ภาพยนตร์เกี่ยวกับสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์อันโด่งดังที่สุดของญี่ปุ่น 'ก็อดซิลลา' ภาคแรก เป็นหนังขาวดำที่เผยแพร่เมื่อค.ศ. 1954
และมันก็ได้รับความนิยมอย่างสูงจนมีการผลิตผลงานซึ่งเกี่ยวข้องกับก็อดซิลลาออกมาอีกเรื่อยๆ

หลังภาพยนตร์ถูกเผยแพร่เกือบ 30 เรื่อง, หนังก็อดซิลลาของทางญี่ปุ่นก็หยุดพักได้ราว 10 ปี (ภาคสุดท้ายก่อนเว้นช่วงคือ Godzilla: Final Wars ที่ฉายค.ศ. 2004)
ก่อนภาพยนตร์ก็อดซิลลาฉบับฮอลลีวูดซึ่งคนฝั่งซีกโลกตะวันตกเป็นผู้ผลิต
'Godzilla' ปี 2014 ที่ผู้กำกับกาเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส์สร้าง จะได้ฉาย

แม้หนังใช้กลวิธีเล่าเรื่องแบบแอบซ่อนตัวก็อดซิลลากับศัตรูของมันเกือบตลอดเรื่อง
แต่ก็อดซิลลา 2014 ก็ทำรายรับรวมทั่วโลกสูงถึง 529 ล้านดอลลาร์
หนังทุนสร้าง 160 ล้านจึงถูกมองว่ามีศักยภาพพอจะจุดประกายแฟรนไชส์ใหม่

Godzilla 2014 เลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ 'จักรวาลหนังสัตว์ประหลาด' (The MonsterVerse)
และแผนการที่ทางผู้สร้างวางไว้ คือปล่อยหนังของสัตว์ประหลาดสุดโด่งดังฝั่งตะวันตก 'Kong: Skull Island' มาแนะนำตัววานรยักษ์ 'คิงคอง' ฉบับปี 2017
ตามด้วยฉายภาคต่อของก็อดซิลลา 2014 เรื่อง 'Godzilla: King of the Monsters' ในค.ศ. 2019 นี้
ก่อนพาราชาวานรเข้าปะทะก็อดซิลลาใน Godzilla vs. Kong ปีหน้า (2020)


Godzilla: King of the Monsters จะขนสัตว์ประหลาดตัวเด่นๆ จากในงานต้นฉบับของทางญี่ปุ่น อย่างนกยักษ์โรแดน, ผีเสื้อขนาดมหึมา/มอธรา และมังกร 3 หัว/กิโดรา มาพร้อมหน้า จึงถือเป็นผลงานน่าจับตามอง
และสื่อต่างประเทศก็ได้ทำหลายอย่างเพื่อตอบสนองความสนใจ เช่น เยี่ยมเยือนกองถ่าย, สอบถามนักแสดง และสัมภาษณ์ผู้กำกับภาคนี้ 'ไมเคิล โดเฮอร์ตี้' ไว้หลายเรื่อง


ข้อมูลจากภาพงานออกแบบ (Concept Art)

สื่อที่ไปเยือนกองถ่ายเล่าว่า ในห้องประชุมแผนการของทีมสร้าง มีภาพงานออกแบบวางไว้ให้เห็นเยอะแยะ และมันก็ทำให้พวกเขาเล็งเห็นว่า

[1] หนังเปิดเรื่องด้วยฉากโรงเก็บดักแด้ของมอธรา

[2] โรแดนและมอธรา จะปะทะกับก็อดซิลลาและกิโดราหลายต่อหลายครั้ง

[3] กิโดราจะถล่มเฟนเวย์ ปาร์คจนเละ (สนามกีฬาเบสบอลในเมืองบอสตัน/รัฐแมสซาชูเซตส์)

[4] ภูเขาไฟที่โรแดนผุดออกมาอยู่ในแถบประเทศเม็กซิโก

[5] หนังจะมีฉากไล่ล่ากลางเวหาของยานพาหนะที่คนของโมนาร์คใช้
ซึ่งมันถูกเรียกว่า 'อาร์โก้' (ชื่อเรือของเจสัน/วีรบุรุษในเทพนิยายกรีก ผู้ออกเรือเพื่อค้นหาขนแกะทองคำ)

[6] คิงคองจะไม่ปรากฏตัวในหนัง และมีเพียงฉากที่กล่าวถึงหรือบอกใบ้เกี่ยวกับมันไว้เท่านั้น

[7] น้ำแข็งที่กิโดราจะทลายออกมา อยู่ในฐานทัพแถบแอนตาร์กติก (ขั้วโลกใต้)


ฐานทัพขั้วโลกขององค์กรเฝ้าระวังสัตว์ประหลาด 'โมนาร์ค' (Monarch) 

[8] ฉากฐานทัพขั้วโลกไม่ได้ใช้หิมะของจริง แต่ใช้ดีเกลือฝรั่ง (Epsom salts/แมกนีเซียมซัลเฟต) กว่า 44,000 ปอนด์ (ประมาณ 20,000 กิโลกรัม) มาทำเป็นของเทียมแทน

[9] ณ จุดหนึ่งของภาพยนตร์, ตัวละครส่วนใหญ่ในหนังจะมารวมตัวกันที่นี่

[10] ฉากนี้ดูเหมือนเต็มไปด้วยหิมะ แต่เวลาย่ำจริงๆ รู้สึกเหมือนวิ่งบนทราย


รายละเอียดเกี่ยวกับภาพยนตร์ จากปากคำผู้กำกับไมเคิล โดเฮอร์ตี้ 

[11] หนังเรื่องนี้เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ภาคแรกที่ฉายเมื่อ ค.ศ. 2014 ประมาณ 5 ปี

"เวลาในหนังเรื่องนี้ใกล้เคียงกับความเป็นจริง เราวางเหตุการณ์ภาคแรกไว้แถวปี 2014  ฉะนั้นภาคสองก็อยู่ที่ราวๆ 5 ปีต่อมา แต่ไม่ใช่ว่าจู่ๆ พวกสัตว์ประหลาดพากันโผล่แบบไร้ที่มา พวกมันอยู่ที่นี่ก่อนหน้าพวกเรา  แนวคิดของหนังคือโลกเป็นของพวกมัน  พวกเราต่างหากคือสายพันธุ์ผู้รุกราน แล้วเพิ่งมาค้นพบสิ่งที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าตัวเองเข้า"

[12] Godzilla: King of the Monsters เป็นเหมือนหนัง Alien ภาค 2 ของผู้กำกับเจมส์ คาเมรอน (แปลว่าบู๊จัดหนักกว่าเก่า) และจะมุ่งเน้นไปที่องค์กรโมนาร์คซึ่งคอยศึกษาพวกสัตว์ประหลาดมากขึ้น

[13] โดเฮอร์ตี้อยากให้เหล่านักวิทยาศาสตร์ในหนังเป็นฮีโร่ที่จะช่วยมนุษย์จากภัยพิบัติสัตว์ประหลาด เหมือนที่พวกเขากำลังช่วยเราจากภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน

[14] เขาลงแรงตัดต่อคลิปรวมเสียงของพวกสัตว์ประหลาดในหนังต้นฉบับ(ญี่ปุ่น) ด้วยตนเอง แล้วส่งให้ทีมงานที่ดูแลเรื่องเสียงในภาพยนตร์ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นโครงการ

[15] เขาเปิดเสียงของเหล่าสัตว์ประหลาดให้บรรดานักแสดงฟังขณะถ่ายทำด้วย เพื่อช่วยให้นักแสดงเข้าถึงบทบาทง่ายขึ้น

[16] ทีมงานออกแบบสัตว์ประหลาดโดยเริ่มจากร่าง 'เงา' ของพวกมัน เพื่อให้เห็นภาพทั้งตัวชัดเจนและแน่ใจว่าสัตว์ประหลาดบางตัว เช่น กิโดรา จะดูเป็นมังกรแนวตะวันออกจริงๆ ไม่ใช่ไปดูเหมือนมังกรแนวตะวันตกแบบในซีรีส์ Game of Thrones

[17] ค่ายญี่ปุ่น 'โตโฮ' ที่ถือครองลิขสิทธิ์ก็อดซิลลา ได้ช่วยแนะนำว่าสัตว์ประหลาดแต่ละตัวควรหน้าตายังไง
เอกลักษณ์ของพวกมันนั้นสำคัญ มอธราแค่หน้าเหมือนผีเสื้อยักษ์หรือโรแดนแค่หน้าเหมือนไดโนเสาร์ไม่ได้

[18] การปรับรูปลักษณ์ของมอธรา/ผีเสื้อยักษ์ในตำนานให้ดูดี มีความยากที่สุดในบรรดาสัตว์ประหลาดที่ปรากฏในเรื่อง

"ความท้าทายใหญ่สุดคือมอธรา คุณลองนึกดูสิว่าจะทำให้ผีเสื้อยักษ์มันเท่ยังไง ? แค่ขยายไซส์ผีเสื้อหน้าตาปกติมันใช้ไม่ได้
ผมต้องค้นคว้าเรื่องผีเสื้ออย่างจริงจังอยู่หลายเดือน ผมพบว่าแมลงพวกนั้นช่างสวยงามและเจ๋งเป้งสุดๆ มีหลายสปีชีส์และสารพัดรูปร่าง
บางชนิดก็ดูคล้ายสัตว์นักล่าที่ขนเป็นมันเงากับดูน่ากลัวกว่ามอธราแบบญี่ปุ่นหน่อยๆ ซึ่งทำให้ผมได้ไอเดียเพิ่มเติมมา

เราต้องสร้างภาพของแมลงไซส์ใหญ่ยักษ์ให้ดูมีความสมจริงจากหลายๆ มุมมองรวมถึงตอนมันเคลื่อนไหว และพิจารณาว่าจะรังสรรค์ละอองปีกเรืองแสงให้ดูเป็นธรรมชาติได้อย่างไร
แล้วนึกย้อนไปที่แนวคิดว่าสัตว์ประหลาดพวกนี้คือเทพเจ้า เพื่อพิจารณาว่าหล่อนควรดูเป็นยังไงในท้องฟ้ายามค่ำคืน
เมื่อคุณเห็นมอธราเหินผ่านนภากาศ คุณจะเข้าใจผิดว่ากำลังมองนางฟ้า, มองเห็นเทพเสด็จมา"

[19] ภาคแรกก็อตซิลลากลายเป็นผู้กอบกู้เมืองของเหล่ามนุษย์จากสัตว์ประหลาด MUTO แต่ใน 'Godzilla: King of the Monsters' นั้น
มันจะถูกนำเสนอในฐานะเทพเจ้า (god) อีกครั้ง ตามแบบฉบับดั้งเดิมที่เคยถูกตีความไว้ในงานสร้างของทางญี่ปุ่น

"ผมและแซ็ค ชิลด์/คู่หูผู้ช่วยเขียนบท คุยกันตลอดว่าอยากใส่ความเป็น 'เทพ' คืนแก่ก็อตซิลลา ซึ่งความหมายของสิ่งที่ผมบอกคือ ตั้งแต่เล็กจนโตผมไม่เคยมองมันเป็นแค่สัตว์ประหลาด  ผมไม่ได้เห็นคนใส่ชุดยางเดินไปมา แต่เห็นสัตว์โบราณสุดทรงพลังระดับตำนาน

สำหรับผมสัตว์ประหลาดพวกนั้นคือสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาที่ต่อสู้กันมาตั้งแต่กาลก่อน
พวกมันเหมือนเหล่ามังกร, ยักษ์ และสัตว์ประหลาดที่คุณคงเคยอ่านเจอในคัมภีร์ไบเบิลกับเทพนิยายต่างๆ  และเราอยากใส่องค์ประกอบทำนองนั้นลงไป"

[20] King of the Monsters ไม่ใช่หนังสยองขวัญ แต่ก็มีองค์ประกอบของความสยองอยู่

[21] โดเฮอร์ตี้มองว่ามอธรา, โรแดน, กิโดรา และก็อดซิลลาคือเหล่า 'เพชรยอดมงกุฎ' ในบรรดาสัตว์ประหลาดมากมายของค่ายโตโฮ

[22] Godzilla 2014 มักถูกกล่าวถึงในแง่ที่มีฉากแอ็คชั่นของสัตว์ประหลาดน้อยเกินไป
แต่ไมเคิล โดเฮอร์ตี้ บอกว่าหนังของกาเร็ธมีข้อดีที่หลายคนคงมองข้าม
นั่นคือมันเป็นหนังสัตว์ประหลาดที่ให้อารมณ์สมจริงยิ่งนัก

"เราจะเห็นสัตว์ประหลาดในภาคสองเยอะกว่าภาคแรกมาก แต่ขอบอกหน่อยว่าผมชอบงานภาพในหนังของกาเร็ธ เขาถ่ายทอดมันออกมาได้อย่างน่าเชื่อถือ
คืองี้นะ, ในหนังมันไม่มีมุมกล้องเหินฟ้าแบบที่ต้องใช้ซีจีสร้างเลย  ทุกฉากที่สัตว์ประหลาดปรากฏตัวเหมือนถูกถ่ายด้วยมนุษย์ตัวเป็นๆ ตอนอยู่บนเครน, เฮลิคอปเตอร์ หรือใช้กล้องมือถือ
ไม่มีการเลื่อนมุมกล้องไหนที่ดูราวกับใช้เครื่องจักรประดิษฐ์ขึ้น

และนั่นก็เป็นสไตล์ที่พวกเราจะเอามาใช้ด้วยเช่นกัน เพื่อไม่ให้คุณหลุดจากความอินยามรับชมตอนเห็นฉากแบบที่ 'โอ้, มุมกล้องแบบนั้นไม่มีทางใช้คนถ่ายได้หรอก'
มันช่วยเพิ่มน้ำหนักของความสมจริง ซึ่งผมคิดว่าหนังฟอร์มใหญ่ในยุคหลังขาดหายไป"


สิ่งที่ทราบจากการสัมภาษณ์ 'ไคล์ แชนด์เลอร์' 

ใน Godzilla: King of the Monsters ครอบครัวนักวิทยาศาสตร์ตระกูล 'รัสเซลล์' (Russell) จะมีบทบาทสำคัญ
ซึ่งไคล์ แชนด์เลอร์ เจ้าของบท 'มาร์ค รัสเซลล์' ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการมารับบทนี้ของเขา และเรื่องของตัวละครเอาไว้ ดังนี้

[23] มาร์ค รัสเซลล์ คือตัวละครที่การตัดสินใจกระทำสิ่งต่างๆ ของเขา มักถูกผลักดันไปด้วยความรักที่มีต่อลูกสาวอย่าง เมดิสัน (เด็กผู้หญิงที่เราเห็นหน้าเธอเสมอในตัวอย่าง)

[24] แม้เขาเคยประสบเหตุการณ์แย่ๆ เพราะสัตว์ประหลาด แต่ความรู้สึกของมาร์คต่อพวกมัน จะซับซ้อนกว่าการอยากให้สัตว์ประหลาดตายไปหมดๆ "เขาไม่ได้มีแค่ความเกลียดชังต่อพวกมันเท่านั้น" แชนด์เลอร์บอก

[25] แชนด์เลอร์ ชอบหนังก็อดซิลลายุคแรกๆ ของญี่ปุ่นมาก เพราะมันสะท้อนถึงสังคมญี่ปุ่น ยุคพ่ายสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ดี

[26] King of the Monsters เอง ก็แฝงประเด็นทางสังคมไว้เหมือนในหนังก็อดซิลลาของทางญี่ปุ่น "สารที่จะสื่อถึงผู้ชม คือเราจะเยียวยาให้โลกใบนี้ดีขึ้นได้อย่างไร" แชนด์เลอร์อธิบาย "ผมว่าตอนดูหนังคุณจะรู้เลยว่าผู้กำกับใส่ใจเรื่องนี้แค่ไหน"

[27] แชนด์เลอร์ ค่อนข้างตื่นเต้นเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้บทเด่นในหนังฟอร์มใหญ่ (ก่อนหน้านี้เคยเป็นแค่ตัวละครระดับรองใน King Kong ฉบับปี 2005 กับหนังเรื่อง Super 8)

[28] ช่วงอาทิตย์แรกๆ ของการถ่ายทำ เหล่านักแสดงได้แต่วิ่งไปมา, โดนฉีดน้ำเย็นๆ ใส่ และถูกพัดลมยักษ์เป่าให้กระเด็น


เกร็ดเพิ่มเติม

[29] ดาราหญิง 'เวรา ฟาร์มิกา' ซึ่งเคยเล่นเป็นนักปราบผีในหนัง The Conjuring บอกใบ้ว่าตัวละครของเธอนั้น สามารถชี้นำพฤติกรรมพวกสัตว์ประหลาดได้

"ฉันเล่นเป็นนักชีววิทยาสัตว์โบราณ, เธอพยายามหาทางสื่อสารกับสัตว์ประหลาด และหาความเป็นไปได้ในการควบคุมพวกมัน โดยใช้การตอบสนองต่อคลื่นเสียงโซนาร์ของสัตว์เหล่านั้นให้เป็นประโยชน์  เธอเลยเป็นเหมือนดีเจสำหรับพวกสัตว์ประหลาด"

[30] ชื่อภาค Godzilla: King of the Monsters เคยถูกใช้เรียกภาพยนตร์ก็อดซิลลาญี่ปุ่นภาคแรกสุด (หนังขาวดำปี 1954) ฉบับที่ได้รับการตัดต่อใหม่ เพื่อฉายให้คนอเมริกาดูตอนค.ศ. 1956 มาก่อน

ยุคนั้นยังไม่มีเทคนิคคอมพิวเตอร์กราฟิกให้ใช้
การสร้างชุดสัตว์ประหลาดให้คนใส่, ไล่ทำลายแบบจำลองตึกรามบ้านช่องที่ทำด้วยมือของญี่ปุ่นจึงน่าตื่นตานัก
แต่ด้วยรสนิยมอันแตกต่างระหว่างคนดูฝั่งตะวันตกและตะวันออก  หนังจึงถูกตัดต่อใหม่, เพิ่มตัวละครนักข่าวอเมริกันเข้าไปคอยเล่าเรื่อง และตัดหลายๆ ฉากทิ้ง (หายไป 16 นาทีได้) เพื่อลดประเด็นทางสังคม, วัฒนธรรม และการต่อต้านนิวเคลียร์ของญี่ปุ่น ที่แฝงอยู่ในงานต้นฉบับ

[31] หนังจักรวาลสัตว์ประหลาดถูกวางแผนสร้างไว้ 4 ภาคด้วยกัน
แปลว่ามันจะจบลงที่การปะทะกันของคิงคองกับก็อดซิลลา
แต่ถ้าผลตอบรับดีแล้วมีโอกาสสร้างเพิ่มขึ้นมา จักรวาลควรเดินหน้าไปทางไหนต่อ?
ไมเคิล โดเฮอร์ตี้/ผู้กำกับ Godzilla: King of the Monsters บอกว่าอยากสำรวจโลกสมัยที่พวกสัตว์ประหลาดได้รับการบูชาดุจเทพเจ้า

"ผมชอบไอเดียที่จะย้อนเวลาไปเล่าเรื่องของพวกสัตว์ประหลาดในหลายๆ ยุคสมัย, Skull Island เคยจัดให้เจอคองตอนยุค 70s  แต่โดยส่วนตัวผมอยากทำ GODZILLA B.C. (ก็อดซิลลายุคก่อนคริสต์ศักราช) ย้อนสู่ยุคโบราณและแสดงโลกแห่งสัตว์ประหลาดในแบบของเรย์ แฮรี่เฮาเซน (Ray Harryhausen) ที่มนุษย์ดึกดำบรรพ์พยายามเอาตัวรอดในโลกของพวกสัตว์ประหลาด  บางทีเราอาจเห็นครั้งแรกที่มนุษย์พบก็อดซิลลาด้วย แล้วก็จะได้ดูกันว่าทำไมพวกเราถึงบูชามัน"

[ปล.] เรย์ แฮรี่เฮาเซน (1920-2013) ถือเป็นเจ้าพ่อหนังสัตว์ประหลาดยุคบุกเบิก ที่สมัยนั้นวิธีถ่ายทำหุ่นจำลองโดยเทคนิค Stop motion (ถ่ายภาพนิ่งหลายๆ ฉาก เพื่อเอามาทำภาพเคลื่อนไหว) ถือว่าล้ำ


ที่มา





COMMENTS

ชื่อ

Alien-Predator,11,Analyze,11,Ant-Man,6,Aquaman,8,Avatar,9,Bad Boys,4,Black Panther,7,Black Widow,5,Blade Runner,4,Darth Vader,9,DC,54,DC Elseworlds,7,DCEU,31,DCEU tie-in comics,11,DCU,5,Doctor Strange,7,Dune,11,Eastrail 177 Trilogy,5,Fast & Furious,9,Films,32,Ghostbusters,4,Guardians of the Galaxy,5,Horror,16,How to Train Your Dragon,6,Indiana Jones,4,Infinity Saga,45,Interview,25,Introduce,40,Iron Man,2,James Bond,6,Jedi,8,John Wick,7,Jurassic Park,10,Kingsman,4,Mad Max,5,Marvel,113,Maze Runner,3,MCU Basic,4,MCU tie-in comics,18,Middle-earth,12,Mission Impossible,7,MonsterVerse,15,Movies From Games,13,Multiverse Saga,32,Pacific Rim,4,Planet of the Apes,4,Review,25,Shazam,11,Skywalker Saga,18,Spider-Man,17,Star Wars,67,Star Wars Galaxy,10,Star Wars Stories,19,Suicide Squad,3,Terminator,6,The Flash,6,The Matrix,4,The Meg,4,The Rise of Kylo Ren,4,Thor,5,Transformers,6,Wizarding World,7,X-Men,10,
ltr
item
Filmaneo: 31 เกร็ดน่ารู้ >>ก่อนดู Godzilla: King of the Monsters
31 เกร็ดน่ารู้ >>ก่อนดู Godzilla: King of the Monsters
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjdp1MrYHSOQa__uBDXmidtHYP2n8p0q5mSkNKVIhHNlZFb-0TkXQaODHaUhnC83jFIYUJx-SL0_PF0k5ZGWChKxWGXrGJOv_DZs7Tzn4DUoiVrok3qUkxkH8Ze03Yxm6X_sEf6LCgrXl4/s640/Godzilla-King-of-the-Monsters-Dolby-Poster.jpg
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjdp1MrYHSOQa__uBDXmidtHYP2n8p0q5mSkNKVIhHNlZFb-0TkXQaODHaUhnC83jFIYUJx-SL0_PF0k5ZGWChKxWGXrGJOv_DZs7Tzn4DUoiVrok3qUkxkH8Ze03Yxm6X_sEf6LCgrXl4/s72-c/Godzilla-King-of-the-Monsters-Dolby-Poster.jpg
Filmaneo
https://www.filmaneo.com/2019/05/31-things-you-should-know-about-godzilla-king-of-monsters.html
https://www.filmaneo.com/
https://www.filmaneo.com/
https://www.filmaneo.com/2019/05/31-things-you-should-know-about-godzilla-king-of-monsters.html
true
1920476370546547589
UTF-8
Loaded All Posts Not found any posts VIEW ALL Readmore Reply Cancel reply Delete By Home PAGES POSTS View All RECOMMENDED FOR YOU LABEL ARCHIVE SEARCH ALL POSTS Not found any post match with your request Back Home Sunday Monday Tuesday Wednesday Thursday Friday Saturday Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat January February March April May June July August September October November December Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec just now 1 minute ago $$1$$ minutes ago 1 hour ago $$1$$ hours ago Yesterday $$1$$ days ago $$1$$ weeks ago more than 5 weeks ago Followers Follow THIS PREMIUM CONTENT IS LOCKED STEP 1: Share to a social network STEP 2: Click the link on your social network Copy All Code Select All Code All codes were copied to your clipboard Can not copy the codes / texts, please press [CTRL]+[C] (or CMD+C with Mac) to copy Table of Content