การนำองค์ประกอบและเรื่องราวจากการ์ตูนซุปเปอร์ฮีโร่มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์นั้นมีมายาวนาน แต่การวางโครงเรื่องขนาดใหญ่เป็น 'จักรวาลหนัง'...
การนำองค์ประกอบและเรื่องราวจากการ์ตูนซุปเปอร์ฮีโร่มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์นั้นมีมายาวนาน
แต่การวางโครงเรื่องขนาดใหญ่เป็น 'จักรวาลหนัง' ซึ่งประกอบด้วยภาคแยกและภาคต่อของตัวละครต่างๆ มากมาย เชื่อมโยงสัมพันธ์กันในหลายๆ ด้าน ให้ประสบความสำเร็จบนแผ่นฟิล์มอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย
ระดับผลิตหนังจากโครงเรื่องใหญ่เผยแพร่สู่สาธารณชนได้ 2-3 เรื่องต่อปี
เพิ่งมีหนังจากการ์ตูนค่ายมาร์เวลทำสำเร็จเป็นเจ้าแรก เพราะการดูแลจากหัวเรี่ยวหัวแรงหลักคนสำคัญ อย่าง 'เควิน ไฟกี' ที่ตอนนี้คนชอบดูหนังคงเคยได้ยินชื่อผ่านหูกันทุกคน
ความสำเร็จของมาร์เวลจุดประกายให้เกิดกระแสความนิยมแฟรนไชส์ (Franchise) ภาพยนตร์ขึ้น
ด้านผู้ผลิตหนังฮอลลีวูดก็พยายามสร้าง 'จักรวาลหนัง' หลายๆ แบบ และด้านผู้ชมก็เปลี่ยนพฤติกรรม ยอมรับหนังที่อยู่ในจักรวาลเดียวกับเรื่องที่ตัวเองเคยดูง่ายขึ้นกว่าเมื่อกาลก่อน
ดังนี้แล้ว ค่ายหนังวอเนอร์ที่กุมลิขสิทธิ์คอมิคค่ายดีซีอยู่ ย่อมเล็งเห็นศักยภาพในการสร้างจักรวาลหนังของตนตามบ้างเป็นธรรมดา
และเร่งเครื่องเร็ว, เดินหน้าก่อรูปจักรวาลซุปเปอร์ฮีโร่ดีซี โดยมีภาพยนตร์บุรุษเหล็กซุปเปอร์แมน (Man of Steel) เป็นรากฐาน
ทว่า เส้นทางความสำเร็จมิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
จักรวาลซุปเปอร์ฮีโร่ดีซีมีทั้งเรื่องที่คำวิจารณ์ดีและร้ายแบบสุดโต่ง แม้หนังทำเงินสูงระดับหนึ่งตลอด
มิหนำซ้ำภาพยนตร์รวมพลฮีโร่สมาคมยุติธรรมแห่งดีซี 'Justice League-จัสติส ลีค' อันควรทำรายได้สูงกว่าทุกเรื่องก่อนหน้า
กลับทำรายได้ทั้งในตลาดอเมริกา และรายรับรวมทั่วโลกต่ำสุดในแฟรนไชส์ ณ ปัจจุบัน
ช่วงประมาณ 1 ปีนิดๆ หลังจากนั้น ค่ายผลิตหนังได้เกิดความเคลื่อนไหวหลายอย่างตามมา
โดยไม่ทราบว่าการเปลี่ยนแปลงเบื้องหลังเหล่านั้นเกี่ยวเนื่อง หรือส่งผลกระทบต่อเบื้องหน้าบ้างหรือไม่ ?
แต่ยังไงก็ขอรวบรวมมานำเสนอไว้ ณ จุดนี้ครับ
[1] วอเนอร์บราเธอร์ส แต่งตั้ง 'วอลเตอร์ ฮามาดะ' เป็นผู้ดูแลภาพยนตร์ดีซีคนใหม่แทน 'จอห์น เบิร์ก' กับ 'เจฟฟ์ จอห์นส'
ก่อนหน้ารับตำแหน่ง, วอลเตอร์ ฮามาดะเคยทำหน้าที่ผู้บริหารการผลิตในนิวไลน์(บริษัทในเครือของวอเนอร์) นานนับสิบปี
เขามีส่วนช่วยให้ภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง 'IT' โด่งดัง และแฟรนไชส์ 'The Conjuring' ประสบความสำเร็จ
คาดว่าเขาถูกเลือกมาดูแลจักรวาลหนังดีซี เพราะเคยช่วย 'เจมส์ วาน/ผู้กำกับ Aquaman' ปลุกปั้นจักรวาลหนังสยองมาแล้วรอบนึง
ซึ่งเขาน่าจะมีความสัมพันธ์อันดีกับเจมส์ วานด้วย และนั่นอาจส่งผลทางบวกต่อจักรวาลหนังดีซีในอนาคต
[2] 'จอส วีดอน' ถอนตัวจากการกำกับหนังแบทเกิร์ล
จอส วีดอน อดีตผู้กำกับภาพยนตร์รวมพลฮีโร่ค่ายมาร์เวล 'Avengers' สองภาคแรก
ที่ปลีกตัวจากมาร์เวลไปซบไหล่ค่ายคู่แข่งอย่างดีซี เพราะเล็งจะสร้างหนังฮีโร่สาวมนุษย์ค้างคาว (Batgirl)
แล้วดันได้รับงานกำกับภาพยนตร์รวมพลฮีโร่ค่ายดีซี 'Justice League' ต่อจากผู้กำกับแซ็ค สไนเดอร์แบบไม่คาดฝัน
หลังทำจัสติสลีคเสร็จ, วีดอนย่อมมีเวลาว่างพอจะกลับไปครุ่นคิดถึงหนังแบทเกิร์ล แต่เขาจำต้องยอมรับว่าไม่สามารถนึกอะไรออก "แบทเกิร์ลเป็นโครงการที่น่าตื่นเต้น และวอเนอร์/ดีซีให้การสนับสนุนในการทำงานร่วมกันอย่างดี มันใช้เวลาอยู่หลายเดือนผมถึงตระหนักว่านึกเนื้อเรื่องไม่ออก"
จอส วีดอนหวนคืนวงการทีวีพัฒนาซีรีส์เรื่องใหม่ ส่วนภาพยนตร์แบทเกิร์ลได้คนเขียนบท Bumblebee พัฒนาโครงการต่อ
[3] 'ไดแอน เนลสัน' ประธานดีซีเอนเตอร์เทนเมนท์ออกจากตำแหน่ง
ดีซีเอนเตอร์เทนเมนท์ (DC Entertainment) คือหน่วยงานซึ่งคอยกำกับดูแลและวางแผนงานเกี่ยวกับการเผยแพร่สื่อบันเทิงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ดีซีแบบครบวงจร ทั้งคอมิค, หนัง, เกม, รายการโทรทัศน์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ
ไดแอนนั่งแท่นประธานหน่วยงานร่วม 20 ปีกว่า และลางานไปจัดการปัญหาครอบครัวพักนึง ก่อนตัดสินใจไม่กลับเข้าทำงานถาวร
ความสำเร็จใหญ่สุดของเธอคือการมีส่วนร่วมปลุกปั้นซีรีส์ฮีโร่ดีซีชื่อดังทางช่องโทรทัศน์ CW หลายเรื่อง (Arrow, Supergirl, Black Lightning)
นอกนั้นก็เช่น ดูงานให้หนัง Wonder Woman
หรือพัฒนาความสัมพันธ์อันดีระหว่างค่ายวอเนอร์กับ 'เจ.เค.โรว์ลิ่ง' ผู้ประพันธ์นิยายชุด Harry Potter จนแนบแน่น
[4] 'เจฟฟ์ จอห์น' ก้าวออกจากตำแหน่งใหญ่ด้านบริหารของดีซีเอนเตอร์เทนเมนท์ และกลายเป็นผู้ผลิต-ผู้เขียนบทภาพยนตร์พิเศษ
เขาคือผู้อยู่เบื้องหลังสารพัดความสำเร็จของดีซี เช่น 'The Flash' ซีรีส์ชื่อดังช่อง CW, ช่วยพัฒนาซีรีส์ 'Titans' ที่ฉายทางช่องสตรีมมิ่ง DC Universe, เคยช่วยเหลือเรื่องบทภาพยนตร์ Wonder Woman เป็นต้น
แรกเริ่มเดิมทีเขาเป็นผู้แต่งเนื้อเรื่องคอมิคดีซี ที่เลื่อนชั้นตัวเองขึ้นเรื่อยๆ ถึงระดับผู้บริหาร คอยตรวจสอบงานจำนวนมากของผู้อื่น
แต่เขาก็ตัดสินใจหวนคืนสู่งานแต่งเนื้อเรื่องตามความถนัด
"ผมตัดสินใจรับงานในดีซีเอนเตอร์เทนเมนท์เพราะรักเหล่าตัวละครในจักรวาลนี้ยิ่งกว่าสิ่งใด แต่ผมอยากใช้เวลาหลายๆ วันเขียนบทสร้างเนื้อเรื่อง
ผมตื่นเต้นกับการกลับไปใช้เวลาสร้างสรรค์สิ่งใหม่เยอะๆ การดำดิ่งสู่ห้วงลึกภายในวิหารกว้างใหญ่ที่เหล่าตัวละครค่ายดีซีอาศัย มันเป็นโครงการ, คืองานในฝันของผมเลยละ"
งานแรกหลังเจฟฟ์เปลี่ยนสถานะ คือปลุกปั้นภาพยนตร์หน่วยพิทักษ์จักรวาลที่ใช้พลังธำมรงค์สีมรกต 'Green Lantern Corps'
และแน่นอนว่าเขายังคงร่วมด้วยช่วยเรื่องบทหนัง Wonder Woman 1984 (ภาค 2) ต่ออีกภาค
[5] AT&T ควบรวมกิจการกับ Time Warner
ข่าวค่ายฟ็อกซ์ตกลงจะควบรวมกิจการกับอาณาจักรดิสนีย์ค่อนข้างฮือฮา
แต่ฝั่งวอเนอร์เองก็มีการควบรวมกิจการขนาดใหญ่ของตนที่คาราคาซังนานสองนานให้ต้องสนใจ
ข้อตกลงรวมกิจการมูลค่า 85.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ของ AT&T, บริษัทข้ามชาติด้านโทรคมนาคมสุดทรงอิทธิพลของอเมริกา กับบริษัทแม่ของค่ายหนังวอเนอร์อย่าง 'Time Warner' ถูกประกาศตั้งแต่เมื่อ 22 ตุลาคม ค.ศ. 2016 และใช้เวลาเกือบ 2 ปี กว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ จะยอมอนุมัติในวันที่ 12 มิถุนายน ค.ศ. 2018
AT&T จึงขยายอิทธิพลสู่โลกแห่งความบันเทิงเพิ่มเติมผ่าน Time Warner ที่เปลี่ยนชื่อเป็น "Warner Media-วอเนอร์ มีเดีย"
หน่วยย่อยของ Warner Media ก็มีทั้ง
- ช่อง HBO ที่ซีรีส์เลอค่า Game of Thrones ประจำอยู่
- ค่ายหนังวอเนอร์บราเธอร์สที่ถือสิทธิเหนือจักรวาลดีซี
- Turner ที่ครอบครองสื่อบันเทิงด้านข่าวสาร, กีฬา และช่องรายการโทรทัศน์หลากหลาย เช่น Adult Swim, Boomerang, Cartoon Network, CNN Worldwide, Turner Sports เป็นต้น
'โทบี้ เอมเมอริช' ประธานบริหารกิจการภาพยนตร์ของวอเนอร์บราเธอร์ส ผู้เข้ารับตำแหน่งเดือนมกราคม
พูดถึงหนัง Aquaman และทิศทางของดีซี/วอเนอร์ในยุคที่มีการถกเถียงกันอย่างจริงจัง ว่าสื่อสังคมออนไลน์+เว็บไซต์รวมผลคะแนนวิจารณ์ชื่อดังอย่าง Rotten Tomatoes ส่งผลต่อรายได้หนังหรือไม่ ?
"ผมคิดว่าหนังที่ดีจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า มีใครบางคนเคยกล่าวไว้ว่ากลยุทธ์ทางธุรกิจอันเลอเลิศคือสร้างหนังเปี่ยมคุณภาพ
ผมคิดว่าในโลกของสื่อสังคมออนไลน์และ Rotten Tomatoes มันพิสูจน์แล้วว่าหนังที่ดีกว่า--โดยเฉพาะหนังซุปเปอร์ฮีโร่--จะทำได้ดีกว่า, คุณหวังให้หนังทำเงินง่ายๆ เหมือนสมัยก่อนไม่ได้อีกแล้ว"
"เมื่อคุณพูดถึงเรื่องศิลปะ, ผมเชื่อว่ามันยากจะตัดสินผลงาน ณ ตอนที่มันถูกนำเสนอสู่สายตาชาวโลกใหม่ๆ บางผลงานใช้เวลากว่า 20 ปีเพื่อพิสูจน์คุณค่า...
เราอยู่ในช่วงเวลาเฉพาะตัวซึ่งหนังบางแนวเป็นที่นิยมเหนือกว่าแนวอื่นๆ
และผมคิดว่า Aquaman จะเข้าถึงจิตวิญญาณและวัฒนธรรมของโลกยุคปัจจุบัน"
โทบี้คงบอกใบ้ว่าหนังดีซีก่อนหน้านี้เข้าถึงยาก และไม่เหมาะกับยุคสมัยปัจจุบัน แต่กับ Aquaman จะไม่เป็นเช่นนั้น (หนังจะดีและมีความเข้ากับรสนิยมคนดูสมัยนี้มากขึ้น)
แต่การวางโครงเรื่องขนาดใหญ่เป็น 'จักรวาลหนัง' ซึ่งประกอบด้วยภาคแยกและภาคต่อของตัวละครต่างๆ มากมาย เชื่อมโยงสัมพันธ์กันในหลายๆ ด้าน ให้ประสบความสำเร็จบนแผ่นฟิล์มอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย
ระดับผลิตหนังจากโครงเรื่องใหญ่เผยแพร่สู่สาธารณชนได้ 2-3 เรื่องต่อปี
เพิ่งมีหนังจากการ์ตูนค่ายมาร์เวลทำสำเร็จเป็นเจ้าแรก เพราะการดูแลจากหัวเรี่ยวหัวแรงหลักคนสำคัญ อย่าง 'เควิน ไฟกี' ที่ตอนนี้คนชอบดูหนังคงเคยได้ยินชื่อผ่านหูกันทุกคน
ความสำเร็จของมาร์เวลจุดประกายให้เกิดกระแสความนิยมแฟรนไชส์ (Franchise) ภาพยนตร์ขึ้น
ด้านผู้ผลิตหนังฮอลลีวูดก็พยายามสร้าง 'จักรวาลหนัง' หลายๆ แบบ และด้านผู้ชมก็เปลี่ยนพฤติกรรม ยอมรับหนังที่อยู่ในจักรวาลเดียวกับเรื่องที่ตัวเองเคยดูง่ายขึ้นกว่าเมื่อกาลก่อน
ดังนี้แล้ว ค่ายหนังวอเนอร์ที่กุมลิขสิทธิ์คอมิคค่ายดีซีอยู่ ย่อมเล็งเห็นศักยภาพในการสร้างจักรวาลหนังของตนตามบ้างเป็นธรรมดา
และเร่งเครื่องเร็ว, เดินหน้าก่อรูปจักรวาลซุปเปอร์ฮีโร่ดีซี โดยมีภาพยนตร์บุรุษเหล็กซุปเปอร์แมน (Man of Steel) เป็นรากฐาน
ทว่า เส้นทางความสำเร็จมิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
จักรวาลซุปเปอร์ฮีโร่ดีซีมีทั้งเรื่องที่คำวิจารณ์ดีและร้ายแบบสุดโต่ง แม้หนังทำเงินสูงระดับหนึ่งตลอด
มิหนำซ้ำภาพยนตร์รวมพลฮีโร่สมาคมยุติธรรมแห่งดีซี 'Justice League-จัสติส ลีค' อันควรทำรายได้สูงกว่าทุกเรื่องก่อนหน้า
กลับทำรายได้ทั้งในตลาดอเมริกา และรายรับรวมทั่วโลกต่ำสุดในแฟรนไชส์ ณ ปัจจุบัน
ช่วงประมาณ 1 ปีนิดๆ หลังจากนั้น ค่ายผลิตหนังได้เกิดความเคลื่อนไหวหลายอย่างตามมา
โดยไม่ทราบว่าการเปลี่ยนแปลงเบื้องหลังเหล่านั้นเกี่ยวเนื่อง หรือส่งผลกระทบต่อเบื้องหน้าบ้างหรือไม่ ?
แต่ยังไงก็ขอรวบรวมมานำเสนอไว้ ณ จุดนี้ครับ
[1] วอเนอร์บราเธอร์ส แต่งตั้ง 'วอลเตอร์ ฮามาดะ' เป็นผู้ดูแลภาพยนตร์ดีซีคนใหม่แทน 'จอห์น เบิร์ก' กับ 'เจฟฟ์ จอห์นส'
ก่อนหน้ารับตำแหน่ง, วอลเตอร์ ฮามาดะเคยทำหน้าที่ผู้บริหารการผลิตในนิวไลน์(บริษัทในเครือของวอเนอร์) นานนับสิบปี
เขามีส่วนช่วยให้ภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง 'IT' โด่งดัง และแฟรนไชส์ 'The Conjuring' ประสบความสำเร็จ
คาดว่าเขาถูกเลือกมาดูแลจักรวาลหนังดีซี เพราะเคยช่วย 'เจมส์ วาน/ผู้กำกับ Aquaman' ปลุกปั้นจักรวาลหนังสยองมาแล้วรอบนึง
ซึ่งเขาน่าจะมีความสัมพันธ์อันดีกับเจมส์ วานด้วย และนั่นอาจส่งผลทางบวกต่อจักรวาลหนังดีซีในอนาคต
[2] 'จอส วีดอน' ถอนตัวจากการกำกับหนังแบทเกิร์ล
จอส วีดอน อดีตผู้กำกับภาพยนตร์รวมพลฮีโร่ค่ายมาร์เวล 'Avengers' สองภาคแรก
ที่ปลีกตัวจากมาร์เวลไปซบไหล่ค่ายคู่แข่งอย่างดีซี เพราะเล็งจะสร้างหนังฮีโร่สาวมนุษย์ค้างคาว (Batgirl)
แล้วดันได้รับงานกำกับภาพยนตร์รวมพลฮีโร่ค่ายดีซี 'Justice League' ต่อจากผู้กำกับแซ็ค สไนเดอร์แบบไม่คาดฝัน
หลังทำจัสติสลีคเสร็จ, วีดอนย่อมมีเวลาว่างพอจะกลับไปครุ่นคิดถึงหนังแบทเกิร์ล แต่เขาจำต้องยอมรับว่าไม่สามารถนึกอะไรออก "แบทเกิร์ลเป็นโครงการที่น่าตื่นเต้น และวอเนอร์/ดีซีให้การสนับสนุนในการทำงานร่วมกันอย่างดี มันใช้เวลาอยู่หลายเดือนผมถึงตระหนักว่านึกเนื้อเรื่องไม่ออก"
จอส วีดอนหวนคืนวงการทีวีพัฒนาซีรีส์เรื่องใหม่ ส่วนภาพยนตร์แบทเกิร์ลได้คนเขียนบท Bumblebee พัฒนาโครงการต่อ
[3] 'ไดแอน เนลสัน' ประธานดีซีเอนเตอร์เทนเมนท์ออกจากตำแหน่ง
ดีซีเอนเตอร์เทนเมนท์ (DC Entertainment) คือหน่วยงานซึ่งคอยกำกับดูแลและวางแผนงานเกี่ยวกับการเผยแพร่สื่อบันเทิงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ดีซีแบบครบวงจร ทั้งคอมิค, หนัง, เกม, รายการโทรทัศน์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ
ไดแอนนั่งแท่นประธานหน่วยงานร่วม 20 ปีกว่า และลางานไปจัดการปัญหาครอบครัวพักนึง ก่อนตัดสินใจไม่กลับเข้าทำงานถาวร
ความสำเร็จใหญ่สุดของเธอคือการมีส่วนร่วมปลุกปั้นซีรีส์ฮีโร่ดีซีชื่อดังทางช่องโทรทัศน์ CW หลายเรื่อง (Arrow, Supergirl, Black Lightning)
นอกนั้นก็เช่น ดูงานให้หนัง Wonder Woman
หรือพัฒนาความสัมพันธ์อันดีระหว่างค่ายวอเนอร์กับ 'เจ.เค.โรว์ลิ่ง' ผู้ประพันธ์นิยายชุด Harry Potter จนแนบแน่น
[4] 'เจฟฟ์ จอห์น' ก้าวออกจากตำแหน่งใหญ่ด้านบริหารของดีซีเอนเตอร์เทนเมนท์ และกลายเป็นผู้ผลิต-ผู้เขียนบทภาพยนตร์พิเศษ
เขาคือผู้อยู่เบื้องหลังสารพัดความสำเร็จของดีซี เช่น 'The Flash' ซีรีส์ชื่อดังช่อง CW, ช่วยพัฒนาซีรีส์ 'Titans' ที่ฉายทางช่องสตรีมมิ่ง DC Universe, เคยช่วยเหลือเรื่องบทภาพยนตร์ Wonder Woman เป็นต้น
แรกเริ่มเดิมทีเขาเป็นผู้แต่งเนื้อเรื่องคอมิคดีซี ที่เลื่อนชั้นตัวเองขึ้นเรื่อยๆ ถึงระดับผู้บริหาร คอยตรวจสอบงานจำนวนมากของผู้อื่น
แต่เขาก็ตัดสินใจหวนคืนสู่งานแต่งเนื้อเรื่องตามความถนัด
"ผมตัดสินใจรับงานในดีซีเอนเตอร์เทนเมนท์เพราะรักเหล่าตัวละครในจักรวาลนี้ยิ่งกว่าสิ่งใด แต่ผมอยากใช้เวลาหลายๆ วันเขียนบทสร้างเนื้อเรื่อง
ผมตื่นเต้นกับการกลับไปใช้เวลาสร้างสรรค์สิ่งใหม่เยอะๆ การดำดิ่งสู่ห้วงลึกภายในวิหารกว้างใหญ่ที่เหล่าตัวละครค่ายดีซีอาศัย มันเป็นโครงการ, คืองานในฝันของผมเลยละ"
งานแรกหลังเจฟฟ์เปลี่ยนสถานะ คือปลุกปั้นภาพยนตร์หน่วยพิทักษ์จักรวาลที่ใช้พลังธำมรงค์สีมรกต 'Green Lantern Corps'
และแน่นอนว่าเขายังคงร่วมด้วยช่วยเรื่องบทหนัง Wonder Woman 1984 (ภาค 2) ต่ออีกภาค
[5] AT&T ควบรวมกิจการกับ Time Warner
ข่าวค่ายฟ็อกซ์ตกลงจะควบรวมกิจการกับอาณาจักรดิสนีย์ค่อนข้างฮือฮา
แต่ฝั่งวอเนอร์เองก็มีการควบรวมกิจการขนาดใหญ่ของตนที่คาราคาซังนานสองนานให้ต้องสนใจ
ข้อตกลงรวมกิจการมูลค่า 85.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ของ AT&T, บริษัทข้ามชาติด้านโทรคมนาคมสุดทรงอิทธิพลของอเมริกา กับบริษัทแม่ของค่ายหนังวอเนอร์อย่าง 'Time Warner' ถูกประกาศตั้งแต่เมื่อ 22 ตุลาคม ค.ศ. 2016 และใช้เวลาเกือบ 2 ปี กว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ จะยอมอนุมัติในวันที่ 12 มิถุนายน ค.ศ. 2018
AT&T จึงขยายอิทธิพลสู่โลกแห่งความบันเทิงเพิ่มเติมผ่าน Time Warner ที่เปลี่ยนชื่อเป็น "Warner Media-วอเนอร์ มีเดีย"
หน่วยย่อยของ Warner Media ก็มีทั้ง
- ช่อง HBO ที่ซีรีส์เลอค่า Game of Thrones ประจำอยู่
- ค่ายหนังวอเนอร์บราเธอร์สที่ถือสิทธิเหนือจักรวาลดีซี
- Turner ที่ครอบครองสื่อบันเทิงด้านข่าวสาร, กีฬา และช่องรายการโทรทัศน์หลากหลาย เช่น Adult Swim, Boomerang, Cartoon Network, CNN Worldwide, Turner Sports เป็นต้น
ส่งท้าย
'โทบี้ เอมเมอริช' ประธานบริหารกิจการภาพยนตร์ของวอเนอร์บราเธอร์ส ผู้เข้ารับตำแหน่งเดือนมกราคม
พูดถึงหนัง Aquaman และทิศทางของดีซี/วอเนอร์ในยุคที่มีการถกเถียงกันอย่างจริงจัง ว่าสื่อสังคมออนไลน์+เว็บไซต์รวมผลคะแนนวิจารณ์ชื่อดังอย่าง Rotten Tomatoes ส่งผลต่อรายได้หนังหรือไม่ ?
"ผมคิดว่าหนังที่ดีจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า มีใครบางคนเคยกล่าวไว้ว่ากลยุทธ์ทางธุรกิจอันเลอเลิศคือสร้างหนังเปี่ยมคุณภาพ
ผมคิดว่าในโลกของสื่อสังคมออนไลน์และ Rotten Tomatoes มันพิสูจน์แล้วว่าหนังที่ดีกว่า--โดยเฉพาะหนังซุปเปอร์ฮีโร่--จะทำได้ดีกว่า, คุณหวังให้หนังทำเงินง่ายๆ เหมือนสมัยก่อนไม่ได้อีกแล้ว"
"เมื่อคุณพูดถึงเรื่องศิลปะ, ผมเชื่อว่ามันยากจะตัดสินผลงาน ณ ตอนที่มันถูกนำเสนอสู่สายตาชาวโลกใหม่ๆ บางผลงานใช้เวลากว่า 20 ปีเพื่อพิสูจน์คุณค่า...
เราอยู่ในช่วงเวลาเฉพาะตัวซึ่งหนังบางแนวเป็นที่นิยมเหนือกว่าแนวอื่นๆ
และผมคิดว่า Aquaman จะเข้าถึงจิตวิญญาณและวัฒนธรรมของโลกยุคปัจจุบัน"
โทบี้คงบอกใบ้ว่าหนังดีซีก่อนหน้านี้เข้าถึงยาก และไม่เหมาะกับยุคสมัยปัจจุบัน แต่กับ Aquaman จะไม่เป็นเช่นนั้น (หนังจะดีและมีความเข้ากับรสนิยมคนดูสมัยนี้มากขึ้น)
ที่มา
https://variety.com
https://www.hollywoodreporter.com
https://ew.com
https://www.warnermediagroup.com
COMMENTS