เนื่องจากจักรวาลสตาร์วอร์สมีการเพิ่มเนื้อหาขยายความตามสื่ออื่นๆ นอกเหนือจากภาพยนตร์(ที่ก็มีหลายภาคอยู่แล้ว)มากมาย ผมจึงเรียบเรียงบทความสำหร...
เนื่องจากจักรวาลสตาร์วอร์สมีการเพิ่มเนื้อหาขยายความตามสื่ออื่นๆ นอกเหนือจากภาพยนตร์(ที่ก็มีหลายภาคอยู่แล้ว)มากมาย
ผมจึงเรียบเรียงบทความสำหรับทำความเข้าใจลำดับเนื้อหาหลักของสตาร์วอร์สอย่างคร่าวๆ เพื่อลดความสับสนครับ
ถ้าใครติดตามเรื่องราวขยายความสตาร์วอร์สด้วยตนเองในอินเตอร์เน็ต(แน่นอนว่าส่วนใหญ่คือภาษาอังกฤษ) ตั้งแต่สมัยหนังภาค The Force Awakens ออกฉายเป็นต้นมาจะพบคำว่า "Legends-เลเจนด์" หรือ "Canon-แคน่อน" กำกับไว้ด้วยเสมอ
ดังนั้นผมจะเริ่มอธิบายที่มาของเรื่องนี้ก่อน
สมัยภาพยนตร์สงครามดวงดาว "Star Wars-สตาร์วอร์ส" จากความคิดสร้างสรรค์ของผู้กำกับจอร์จ ลูคัส ออกฉายเมื่อค.ศ.1977 (เปลี่ยนชื่อหนังจาก Star Wars เฉยๆ เป็น Star Wars Episode IV: A New Hope ตอนหนังฉายในโรงอีกรอบปี 1981)
หนังประสบความสำเร็จจนมีภาคต่อ The Empire Strikes Back(1980) กับ Return of the Jedi(1983) และเนื้อหาขยายความแบบคอมิค, เกม, นิยาย, ซีรีส์ทางโทรทัศน์ตามออกมาอย่างต่อเนื่อง (แถมขายของเล่นได้บานเบอะ :P )
ซึ่งเนื้อหาขยายความทั้งหลายต้องผ่านการพิจารณาจากจอร์จ ลูคัสเสียก่อนจึงจะปล่อยออกมาให้แฟนๆ ได้รับชม-เนื้อหาเลยไม่ค่อยขัดกัน ส่งผลให้บริษัทสร้างหนังของจอร์จ ลูคัส(Lucasfilm-ลูคัสฟิล์ม)ประสบความสำเร็จจากการขยายจักรวาลสตาร์วอร์สอย่างงดงาม
หลังปล่อยทิ้งช่วงยาว 10 กว่าปี เทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์กราฟิกก้าวหน้ามากพอ ลูคัสได้ทำการสร้างภาพยนตร์สตาร์วอร์สไตรภาคอีกชุดที่เป็นเนื้อหาเรื่องราวก่อนไตรภาคเก่า Star Wars Episode I: The Phantom Menace เมื่อปี 1999 ตามด้วย Attack of the Clones(2002) และ Revenge of the Sith(2005) ขยายจักรวาลสตาร์วอร์สให้กว้างไกลขึ้นไปอีก
ช่วงเวลาที่ภาพยนตร์สตาร์วอร์สเว้นระยะอีกครั้ง มีอนิเมชั่นซีรีส์ทางโทรทัศน์ของสตาร์วอร์ส "The Clone Wars" (เนื้อเรื่องระหว่าง Episode II กับ III) ออกฉายซึ่งแฟนๆ ชื่นชอบจนได้ออกอากาศต่อเนื่องหลายปี ตั้งแต่ค.ศ.2008-2014
(The Clone Wars เปิดตัวตอนนำร่องด้วยภาพยนตร์อนิเมชั่นฉบับฉายโรง(2008) เคยฉายในโรงภาพยนตร์เมืองไทยด้วยแต่เจ๊งสนิท)
ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นในปี 2012 ดิสนีย์บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการภาพยนตร์ใช้เงิน 4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้าซื้อกิจการบริษัทลูคัสฟิล์ม ลิขสิทธิ์สตาร์วอร์สทั้งหมดกลายเป็นของดิสนีย์
ดิสนีย์เริ่มวางโครงการภาพยนตร์สตาร์วอร์สชุดใหม่ ให้ออกมาปีละภาคต่อเนื่องทุกปี
สร้างไตรภาคชุดปัจจุบัน Star Wars Episode VII: The Force Awakens(2015), Episode VIII: The Last Jedi(2017), Episode IX(2019) ปีเว้นปี
สลับกับหนังภาคแยกอีกสองเรื่อง Rogue One(2016), Solo(2018)
และจัดระเบียบเนื้อหาขยายความที่มีมาอย่างยาวนานใหม่ โดยตัดเนื้อหาส่วนใหญ่ทิ้ง เก็บเนื้อหาเดิมไว้เพียงเล็กน้อย
อนิเมชั่นซีรีส์ The Clone Wars แม้ไม่โดนตัดออกจากสารบบ ก็ต้องจบลงชั่วคราว
อนิเมชั่นซีรีส์ขยายความสตาร์วอร์สชุดใหม่ "Rebels" มาแทน (เนื้อเรื่องระหว่าง Episode III กับ IV) Rebels ออกอากาศตั้งแต่ค.ศ.2014-2018
และเมื่อดิสนีย์เริ่มบุกตลาดรายการออนไลน์ตามกระแสโลก ด้วยการเปิดช่องสตรีมมิ่งของตัวเองชื่อ 'Disney+'
โครงการซีรีส์คนแสดง The Mandalorian, ซีรีส์ของพระเอกหนัง Rogue One, ซีรีส์ของตัวละครโอบีวัน เคโนบี จึงมาถึง
เช่นเดียวกับการกลับมาอย่างเซอร์ไพรส์เพื่อสั่งลาแฟนๆ ของ The Clone Wars ที่จะฉายซีซั่นสุดท้ายในปี 2020
เนื้อหาขยายความส่วนที่โดนตัดออกถูกเรียกว่า "Legends-ตำนาน"
ส่วนที่ยังเก็บไว้รวมถึงเนื้อหาภาพยนตร์ทั้งหมดคือ "Canon-เนื้อหาหลัก" นั่นเอง
บทความของผมตามปกติจะเน้นเฉพาะ "Canon-เนื้อหาหลัก"
ที่ในปี 2019 ณ งาน D23 (ชื่องานสื่อถึงการก่อตั้ง Disney ตอนค.ศ. 1923) มีการเผยแพร่แผนภาพเรียงลำดับภาพยนตร์ และซีรีส์โทรทัศน์ของสตาร์วอร์สยุคมหากาพย์สกายวอล์คเกอร์ไว้ ดังนี้
จากนี้จะเป็นการเรียงลำดับ "Canon-เนื้อหาหลัก" ของภาพยนตร์และซีรีส์โทรทัศน์สตาร์วอร์ส (รวมของแถม) ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการ
เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจลำดับเนื้อหา ในจักรวาลสตาร์วอร์สได้อย่างราบรื่นต่อไปครับ :)
(ยังมีคอมมิค, เกม, นิยายขยายความเรื่องราวช่วงโน้นที-ช่วงนี้ทีอีกบานเบอะ
แต่ถ้าเข้าใจลำดับเนื้อหาพื้นฐานตรงนี้แล้ว เวลาไปตามเนื้อหาขยายความอื่นๆ ของสตาร์วอร์สที่ไหนก็แล้วแต่ต่อ ผมเชื่อว่าคุณจะรู้เรื่องง่ายขึ้นแน่)
[7] ซีรีส์ของแคสเซี่ยน แอนดอร์
[8] Star Wars Rebels
ผมจึงเรียบเรียงบทความสำหรับทำความเข้าใจลำดับเนื้อหาหลักของสตาร์วอร์สอย่างคร่าวๆ เพื่อลดความสับสนครับ
Legends & Canon
ดังนั้นผมจะเริ่มอธิบายที่มาของเรื่องนี้ก่อน
สมัยภาพยนตร์สงครามดวงดาว "Star Wars-สตาร์วอร์ส" จากความคิดสร้างสรรค์ของผู้กำกับจอร์จ ลูคัส ออกฉายเมื่อค.ศ.1977 (เปลี่ยนชื่อหนังจาก Star Wars เฉยๆ เป็น Star Wars Episode IV: A New Hope ตอนหนังฉายในโรงอีกรอบปี 1981)
หนังประสบความสำเร็จจนมีภาคต่อ The Empire Strikes Back(1980) กับ Return of the Jedi(1983) และเนื้อหาขยายความแบบคอมิค, เกม, นิยาย, ซีรีส์ทางโทรทัศน์ตามออกมาอย่างต่อเนื่อง (แถมขายของเล่นได้บานเบอะ :P )
ซึ่งเนื้อหาขยายความทั้งหลายต้องผ่านการพิจารณาจากจอร์จ ลูคัสเสียก่อนจึงจะปล่อยออกมาให้แฟนๆ ได้รับชม-เนื้อหาเลยไม่ค่อยขัดกัน ส่งผลให้บริษัทสร้างหนังของจอร์จ ลูคัส(Lucasfilm-ลูคัสฟิล์ม)ประสบความสำเร็จจากการขยายจักรวาลสตาร์วอร์สอย่างงดงาม
หลังปล่อยทิ้งช่วงยาว 10 กว่าปี เทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์กราฟิกก้าวหน้ามากพอ ลูคัสได้ทำการสร้างภาพยนตร์สตาร์วอร์สไตรภาคอีกชุดที่เป็นเนื้อหาเรื่องราวก่อนไตรภาคเก่า Star Wars Episode I: The Phantom Menace เมื่อปี 1999 ตามด้วย Attack of the Clones(2002) และ Revenge of the Sith(2005) ขยายจักรวาลสตาร์วอร์สให้กว้างไกลขึ้นไปอีก
ช่วงเวลาที่ภาพยนตร์สตาร์วอร์สเว้นระยะอีกครั้ง มีอนิเมชั่นซีรีส์ทางโทรทัศน์ของสตาร์วอร์ส "The Clone Wars" (เนื้อเรื่องระหว่าง Episode II กับ III) ออกฉายซึ่งแฟนๆ ชื่นชอบจนได้ออกอากาศต่อเนื่องหลายปี ตั้งแต่ค.ศ.2008-2014
(The Clone Wars เปิดตัวตอนนำร่องด้วยภาพยนตร์อนิเมชั่นฉบับฉายโรง(2008) เคยฉายในโรงภาพยนตร์เมืองไทยด้วยแต่เจ๊งสนิท)
ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นในปี 2012 ดิสนีย์บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการภาพยนตร์ใช้เงิน 4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้าซื้อกิจการบริษัทลูคัสฟิล์ม ลิขสิทธิ์สตาร์วอร์สทั้งหมดกลายเป็นของดิสนีย์
ดิสนีย์เริ่มวางโครงการภาพยนตร์สตาร์วอร์สชุดใหม่ ให้ออกมาปีละภาคต่อเนื่องทุกปี
สร้างไตรภาคชุดปัจจุบัน Star Wars Episode VII: The Force Awakens(2015), Episode VIII: The Last Jedi(2017), Episode IX(2019) ปีเว้นปี
สลับกับหนังภาคแยกอีกสองเรื่อง Rogue One(2016), Solo(2018)
และจัดระเบียบเนื้อหาขยายความที่มีมาอย่างยาวนานใหม่ โดยตัดเนื้อหาส่วนใหญ่ทิ้ง เก็บเนื้อหาเดิมไว้เพียงเล็กน้อย
อนิเมชั่นซีรีส์ The Clone Wars แม้ไม่โดนตัดออกจากสารบบ ก็ต้องจบลงชั่วคราว
อนิเมชั่นซีรีส์ขยายความสตาร์วอร์สชุดใหม่ "Rebels" มาแทน (เนื้อเรื่องระหว่าง Episode III กับ IV) Rebels ออกอากาศตั้งแต่ค.ศ.2014-2018
และเมื่อดิสนีย์เริ่มบุกตลาดรายการออนไลน์ตามกระแสโลก ด้วยการเปิดช่องสตรีมมิ่งของตัวเองชื่อ 'Disney+'
โครงการซีรีส์คนแสดง The Mandalorian, ซีรีส์ของพระเอกหนัง Rogue One, ซีรีส์ของตัวละครโอบีวัน เคโนบี จึงมาถึง
เช่นเดียวกับการกลับมาอย่างเซอร์ไพรส์เพื่อสั่งลาแฟนๆ ของ The Clone Wars ที่จะฉายซีซั่นสุดท้ายในปี 2020
เนื้อหาขยายความส่วนที่โดนตัดออกถูกเรียกว่า "Legends-ตำนาน"
ส่วนที่ยังเก็บไว้รวมถึงเนื้อหาภาพยนตร์ทั้งหมดคือ "Canon-เนื้อหาหลัก" นั่นเอง
บทความของผมตามปกติจะเน้นเฉพาะ "Canon-เนื้อหาหลัก"
ที่ในปี 2019 ณ งาน D23 (ชื่องานสื่อถึงการก่อตั้ง Disney ตอนค.ศ. 1923) มีการเผยแพร่แผนภาพเรียงลำดับภาพยนตร์ และซีรีส์โทรทัศน์ของสตาร์วอร์สยุคมหากาพย์สกายวอล์คเกอร์ไว้ ดังนี้
จากนี้จะเป็นการเรียงลำดับ "Canon-เนื้อหาหลัก" ของภาพยนตร์และซีรีส์โทรทัศน์สตาร์วอร์ส (รวมของแถม) ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการ
เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจลำดับเนื้อหา ในจักรวาลสตาร์วอร์สได้อย่างราบรื่นต่อไปครับ :)
(ยังมีคอมมิค, เกม, นิยายขยายความเรื่องราวช่วงโน้นที-ช่วงนี้ทีอีกบานเบอะ
แต่ถ้าเข้าใจลำดับเนื้อหาพื้นฐานตรงนี้แล้ว เวลาไปตามเนื้อหาขยายความอื่นๆ ของสตาร์วอร์สที่ไหนก็แล้วแต่ต่อ ผมเชื่อว่าคุณจะรู้เรื่องง่ายขึ้นแน่)
ลำดับภาพยนตร์และซีรีส์โทรทัศน์สตาร์วอร์ส (Canon)
[1] Episode I : The Phantom Menace
เจไดสองคน"ไควกอน"และ"โอบีวัน" พบเด็กชาย "อนาคิน สกายวอล์คเกอร์" บนดาวทะเลทรายทาทูอีน ไควกอนเสียชีวิตระหว่างต่อสู้กับซิธ โอบีวันจึงรับอนาคินเป็นลูกศิษย์
[2] Episode II : Attack of the Clones
อนาคินเจไดวัยรุ่นพบรักกับวุฒิสมาชิกสาวดาวนาบู "อมิดาล่า"และแต่งงานกัน ช่วงเดียวกับที่สาธารณรัฐแห่งกาแล็คซี่ประกาศสงครามกับบรรดาดวงดาวที่ต้องการแยกตัวเป็นอิสระ(กลุ่มแบ่งแยก) และเริ่มต้นสงครามโคลน(Clone Wars)
[3] The Clone Wars
อนิเมชั่นซีรีส์ที่บอกเล่าเรื่องราวของ"สงครามโคลน" สงครามครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างสาธารณรัฐกับกลุ่มแบ่งแยกซึ่งกินเวลาถึง 3 ปี ซีรีส์พาผู้ชมไปดูวีรกรรมและเรื่องราวของตัวละครมากมาย ที่ไม่อาจบอกเล่าได้หมดในภาพยนตร์
แต่ตัวละครหลักของเรื่องจะเป็นตัวละครที่คนดูหนังคุ้นเคย, อนาคินกับโอบีวัน และศิษย์อย่างเป็นทางการผู้เดียวของอนาคิน "Ahsoka Tano-อโศกา ทาโน"
แต่ตัวละครหลักของเรื่องจะเป็นตัวละครที่คนดูหนังคุ้นเคย, อนาคินกับโอบีวัน และศิษย์อย่างเป็นทางการผู้เดียวของอนาคิน "Ahsoka Tano-อโศกา ทาโน"
[4] Episode III : Revenge of the Sith
ช่วงสุดท้ายของสงครามโคลน สมุหนายก"พัลพาทีน"ผู้นำของสาธารณรัฐที่ชนะสงคราม
ล่อลวงอนาคินสู่ด้านมืด, อนาคินกลายเป็น"ดาร์ธเวเดอร์" สาธารณรัฐกลายเป็น"จักรวรรดิ"เผด็จการ
พัลพาทีนตั้งตนเป็นจักรพรรดิปกครองกาแล็คซี่
ล่อลวงอนาคินสู่ด้านมืด, อนาคินกลายเป็น"ดาร์ธเวเดอร์" สาธารณรัฐกลายเป็น"จักรวรรดิ"เผด็จการ
พัลพาทีนตั้งตนเป็นจักรพรรดิปกครองกาแล็คซี่
[5] ซีรีส์ของโอบีวัน เคโนบี
[6] Solo: A Star Wars Story
ระหว่างงาน D23 ปี 2019 มีการเปิดเผยว่าซีรีส์ที่ยังไม่มีชื่อเรียกทางการนี้ จะใช้บริการ 'ยวน แม็คเกรเกอร์' ผู้เคยรับบทอาจารย์เจไดคนดังใน Episode I-III อีกครั้ง
ยวนเคยให้สัมภาษณ์ในเชิงบอกใบ้ ว่าแรกเริ่มเดิมทีโครงการนี้จะเป็นภาพยนตร์
ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ของซีรีส์ยังไม่มีความชัดเจน ณ เวลานี้
[6] Solo: A Star Wars Story
การผจญภัยในวัยหนุ่มของนักค้าของเถื่อน "ฮาน โซโล" ภาพยนตร์ภาคแยกเรื่องนี้เล่าถึงวิถีชีวิตในโลกแห่งอาชญากรรม, ความรักครั้งแรก, จุดเริ่มต้นของมิตรภาพกับชิวบัคก้า/เพื่อนซี้ขนดกหนา และการพนันแห่งโชคชะตาของวีรบุรุษสุดเสเพลกับ 'แลนโด คาลริสเซี่ยน' เพื่อชิงยานอวกาศชั้นยอดอย่าง 'มิลเลนเนียมฟัลคอน' มาเป็นของเขา
[7] ซีรีส์ของแคสเซี่ยน แอนดอร์
ระหว่างงาน D23 ปี 2019 มีการเปิดเผยว่าซีรีส์ที่ยังไม่มีชื่อเรียกทางการนี้ จะใช้บริการ 'ดิเอโก ลูนา' ผู้เคยรับบทพระเอกหนัง Rogue One อีกครั้ง
รายละเอียดโน่นนี่ของซีรีส์ยังไม่มีความชัดเจน ณ เวลานี้ แต่มีข่าวว่าจะเกี่ยวกับการทำภารกิจต่างๆ ในเชิงจารกรรม และฉายทางช่อง Disney+ เช่นเดียวกับซีรีส์โอบีวัน
[8] Star Wars Rebels
14 ปีหลัง Episode III เด็กหนุ่มผู้มีพรสวรรค์นาม "Ezra Bridger-เอซร่า บริดเจอร์" เข้าร่วมกับเหล่าลูกเรือของยาน "Ghost-โกสต์" สมาชิกกลุ่มกบฏ เพื่อต่อต้านจักรวรรดิแห่งกาแล็คซี่
การผจญภัยของเอซร่าดำเนินไปอยู่หลายปี และจบลงก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ในภาพยนตร์ Rogue One เล็กน้อย
การผจญภัยของเอซร่าดำเนินไปอยู่หลายปี และจบลงก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ในภาพยนตร์ Rogue One เล็กน้อย
[9] Rogue One: A Star Wars Story
จิน เออโซลูกสาวของผู้สร้างอาวุธพิฆาตดารา "เดธสตาร์" ร่วมกับพรรคพวกลูกเรือยาน "Rogue One-โร้ควัน" และสมาชิกกลุ่มกบฏ ขโมยแผนผังเดธสตาร์เพื่อหาจุดอ่อนมาทำลายอาวุธร้ายแรงชิ้นนี้
[10] Episode IV : A New Hope
ลุค สกายวอล์คเกอร์, เจ้าหญิงเลอาและฮาน โซโล เข้าร่วมกับกองทัพกบฏทำลายอาวุธพิฆาตดารา "เดธสตาร์" ด้วยข้อมูลแผนผังที่ขโมยมาจากกองทัพจักรวรรดิ
[11] Episode V : The Empire Strikes Back
ลุคฝึกวิถีเจไดกับปรมาจารย์เจไดผู้รอดชีวิตจากสงครามโคลน "โยดา" ก่อนสัมผัสได้ว่าเลอาและฮานถูก "ดาร์ธเวเดอร์" จับตัว ลุคไปช่วยเพื่อนและเผชิญหน้าเวเดอร์ ทว่าไม่อาจเอาชนะได้
เวเดอร์เผยความจริงว่าเป็นพ่อลุค-ชวนให้ร่วมกันโค่นล้มจักรพรรดิ แต่ลุคปฏิเสธ
เวเดอร์เผยความจริงว่าเป็นพ่อลุค-ชวนให้ร่วมกันโค่นล้มจักรพรรดิ แต่ลุคปฏิเสธ
[12] Episode VI : Return of the Jedi
กลุ่มกบฏทำลายเดธสตาร์ดวงที่สอง ขณะที่ลุคเผชิญหน้าเวเดอร์และจักรพรรดิ ลุคชนะเวเดอร์แต่พลาดท่าให้จักรพรรดิ เวเดอร์เห็นลูกกำลังจะตายจึงกลับใจ-สังหารจักรพรรดิช่วยลุคไว้ ทว่าได้รับบาดเจ็บสาหัสสิ้นใจตาย
[13] The Mandalorian
[14] Star Wars Resistance
[15] Episode VII : The Force Awakens
เหตุการณ์ซีซั่นแรกเกิดหลังภาพยนตร์ภาค Return of the Jedi ห้าปี
ซีรีส์ว่าด้วยการผจญภัยของนักล่าเงินรางวัลสมาชิกเผ่า 'แมนดาโลเรี่ยน' ที่ขึ้นชื่อลือชาด้านความสามารถในการต่อสู้ หลังประสบแผนลับบางอย่างของซากทัพจักรวรรดิ
[14] Star Wars Resistance
นักบินหนุ่มของกองทัพสาธารณรัฐใหม่นาม "Kazuda Xiono-คาซูดา ซิโอโน" ได้รับการเกณฑ์เข้ากองกำลังต่อต้านโดยสุดยอดนักบิน "โพ ดาเมรอน" และฝากฝังภารกิจลับ
นั่นคือการสอดแนม เพื่อสืบหาเบาะแสว่าปฐมภาคีคิดจะใช้ประโยชน์อะไรจาก "โคลอสซัส" สถานีเติมเชื้อเพลิงลอยได้ ซึ่งอยู่เหนือผืนมหาสมุทรของดาวแคสทิลอน (Castilon)
ซีรีส์มี 2 ซีซั่น โดยเหตุการณ์ซีซั่นแรกจะเริ่มตั้งแต่ก่อนหนังภาค Force Awakens ไม่นานเท่าไหร่ และเป็นไปได้ว่าตอนจบของซีซั่นสองจะไปบรรจบกับเหตุการณ์ในภาพยนตร์ภาค Rise of Skywalker
[15] Episode VII : The Force Awakens
กองทัพจักรวรรดิที่พ่ายแพ้รวบรวมกำลังขึ้นใหม่ ก่อตั้งกลุ่ม"ปฐมภาคี"
โดยหญิงสาวผู้มีพรสวรรค์ด้านพลัง"เรย์" และสตอร์มทรูเปอร์กลับใจ "ฟินน์" เข้าร่วมกับฝ่ายต่อต้าน(กองทัพกบฏเก่า) ทำลายอาวุธมหาประลัยสตาร์คิลเลอร์ลง
ก่อนหล่อนเดินทางไปหาลุค สกายวอล์คเกอร์/เจไดในตำนาน เพียงลำพัง
โดยหญิงสาวผู้มีพรสวรรค์ด้านพลัง"เรย์" และสตอร์มทรูเปอร์กลับใจ "ฟินน์" เข้าร่วมกับฝ่ายต่อต้าน(กองทัพกบฏเก่า) ทำลายอาวุธมหาประลัยสตาร์คิลเลอร์ลง
ก่อนหล่อนเดินทางไปหาลุค สกายวอล์คเกอร์/เจไดในตำนาน เพียงลำพัง
[16] Episode VIII : The Last Jedi
ดำเนินเรื่องต่อเนื่องจาก Episode VII ฝ่ายต่อต้านถูกปฐมภาคีไล่ต้อนอย่างหนัก ฟินน์กับ"โพ" นักบินยานจู่โจมมือหนึ่ง ต้องช่วยกันหาทางออกจากสถานการณ์สุดคับขัน
ขณะเดียวกันเรย์พยายามโน้มน้าวให้ลุคไปช่วยฝ่ายต่อต้านสู้กับปฐมภาคี และสอนเธอเรื่องวิถีแห่งเจได
ขณะเดียวกันเรย์พยายามโน้มน้าวให้ลุคไปช่วยฝ่ายต่อต้านสู้กับปฐมภาคี และสอนเธอเรื่องวิถีแห่งเจได
[17] Star Wars: Galaxy's Edge
ของแถมจากแผนผังระบุลำดับเนื้อหาเกี่ยวกับมหากาพย์สกายวอล์คเกอร์ตามเหตุการณ์
พื้นที่สวนสนุกซึ่งใช้ธีมของสตาร์วอร์สผลิตเครื่องเล่นกับบรรดาสภาพล้อมต่างๆ
และใช้เรื่องราวเกี่ยวกับปฐมภาคีกับฝ่ายต่อต้าน ที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างหนังภาค Last Jedi กับ Rise of Skywalker มาเสริมอรรถรส
[18] Episode IX : The Rise of Skywalker
บรรดาฝ่ายต่อต้านผู้เหลือรอดจากการรุกไล่อย่างหนักของปฐมภาคี เผชิญหน้ากับกองทัพปีศาจอีกครั้ง
การเดินทางบทใหม่ของเรย์, โพ, ฟินน์เริ่มต้น
โดยมีทั้งพลังและความรู้ของคนหลายรุ่นสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง พร้อมกับการมาเยือนของสงครามครั้งสุดท้าย
ข้อมูลบางส่วนอ้างอิงจาก https://chipandco.com/the-official-star-wars-timeline-has-been-revealed-371019/
COMMENTS