ซัลเวชัน กับเช็กเมต >>สรุปเรื่องราวของ Peacemaker ซีซั่น 2

  [ความเดิมใน DCU] คริสโตเฟอร์ สมิธ คือชายผู้มีแผลใจ จากตอนเป็นเด็ก และมีแนวโน้มจะชอบ ใช้ความรุนแรง, เนื่องจากการปลูกฝัง ของบิดา แบบนาย ออกั...

 

[ความเดิมใน DCU] คริสโตเฟอร์ สมิธ คือชายผู้มีแผลใจ จากตอนเป็นเด็ก

และมีแนวโน้มจะชอบ ใช้ความรุนแรง, เนื่องจากการปลูกฝัง ของบิดา

แบบนาย ออกัสต์ แรนซั่ม (อ๊อกกี้) สมิธ, ผู้เกิดมาพร้อม พรสวรรค์ชั้นเลิศด้านวิศวกรรม, ทักษะการต่อสู้ และความเป็นผู้นำ

แม้ว่าหมอนั่น นิยมการเหยียดเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ มองคนดำคนเอเชียและอื่น ๆ ต่ำกว่าคนขาว

อ๊อกกี้สนับสนุน การเดินบนเส้นทางมือสังหาร ของบุตรชาย

ยอมผลิตหมวกชนิดพิเศษ หลายรูปแบบ ที่สั่งเปิดใช้งานด้วยเสียงให้

(เช่น ปล่อยคลื่นโซนิคบูม, เปลี่ยนผู้สวมเป็นตอร์ปิโดมนุษย์, หรือติดกล้องเอ็กซเรย์ไว้ เป็นต้น)

อีกทั้งอนุญาตให้ใช้ คลังสรรพาวุธลับ ที่แอบสร้างในบ้าน, ด้วยการเปิดประตูสู่ "มิติกระเปาะ" อันสถิตนอกปริภูมิปกติ

แม้สังคมตราหน้าว่า ไอ้นี่ผู้ร้าย, แต่คริสมองว่าตน คือฮีโร่ผู้สร้างสันติภาพ (Peacemaker) ต่างหาก

อแมนด้า วอลเลอร์ ผู้อำนวยการของอาร์กัส (กลุ่มรวบรวมพวกเหนือมนุษย์เพื่อการวิจัยขั้นสูง)

จึงเกณฑ์เข้า หน่วยเฉพาะกิจเอ็กซ์, เพื่อทำปฏิบัติการลับ "โปรเจกต์ผีเสื้อ"

ร่วมกับสมาชิกหน่วยพิเศษ คนอื่น ๆ เช่น เอมิเลีย ฮาร์คอร์ต, จอห์น อีโคโนมอส, และลีโอตา อาเดบาโย (ลูกสาวของวอลเลอร์)

ในจังหวะที่พบว่า พวกเขาต้องปิดฉาก โปรเจกต์ผีเสื้อ แบบแข่งกับเวลา, มิเช่นนั้นอาจเกิดหายนะ ระดับโลก

อาเดบาโยขอให้แม่ส่ง "จัสติซแก๊ง" มาเป็นกำลังเสริมเร่งด่วน

แต่พวกฮีโร่ตัวตึง ลงพื้นที่ช้า, พีซเมคเกอร์ (คริส) กับพรรคพวก จึงต้องเสี่ยงตายลุยกันเอง และสำเร็จภารกิจกัน อย่างมีคนเจ็บหนัก

อาเดบาโยที่รู้สึก เห็นใจแลผูกพันกับพวกพ้อง, เลยแฉความชั่วร้าย ของหน่วยเฉพาะกิจเอ็กซ์ ออกทีวี

[สปอยล์] ปมดราม่าครอบครัวของคริส ที่ถูกพ่อชังน้ำหน้า, เพราะเคยพลั้งมือฆ่าคีธ (พี่ชายคริส) ขณะประลองในสังเวียนเถื่อน ตอนแปดขวบ

ส่งผลถึงความสัมพันธ์ อันแย่ลงทุกที, จนไปสู่จุดที่ ทั้งคู่พยายามฆ่ากัน

คริสผู้ทำอ๊อกกี้ขาดใจดับสูญ เหลือสมาชิกครอบครัวเพียงหนึ่ง คืออีกลี่ (นกอินทรี) สัตว์เลี้ยงสหายรัก

แล้ว ณ ราตรีหนึ่ง, อีกลี่ที่นอนไม่หลับ ก็รบเร้าเจ้าทาส (คริส) 

จนต้องพามันไป สยายปีกเล่น ในห้องลับของบ้าน (ห้องควอนตัม หรือมิติกระเปาะนั่นละ)

คริสพบว่า ประตูบานหนึ่ง (จากที่มีเยอะ ชนิดนับจำนวนไม่ถูก)​ ในห้องควอนตัม, เชื่อมต่อกับโลกคู่ขนาน

ที่ทั้งพี่ชาย และบิดาของเขา ยังมีชีวิตอยู่, แถมรวมทีมกับพีซเมคเกอร์ (ของจักรวาลนู้น) เป็นกลุ่มฮีโร่สามตัวตึง

6 เดือนให้หลัง, ปรากฏว่าเหล่าผู้ช่วยโลก ผ่านการทำโปรเจกต์ผีเสื้อ ต่างประสบภาวะชีวิตลำเค็ญกัน 

แอดส์ (อาเดบาโย) โดนคียา (แฟนสาว) ขอเลิก แลไล่ออกจากบ้าน

ฮาร์คอร์ตไม่สามารถ ทำงานหน่วยข่าวกรองใด ๆ (แม้ในอเมริกา มีให้ลองยื่นใบสมัครเพียบ), เนื่องจากวอลเลอร์ ใช้เส้นสายแบน

อีโคโนมอสเองก็ ต้องแอบจับตามองคริส อย่างไม่สบายใจ, เพราะโดนเจ้านายกดดัน 

ด้านคริสหมายมั่นปั้นมือว่า การสอบสัมภาษณ์เพื่อเข้าเป็น สมาชิกใหม่ของ "จัสติซแก๊ง", จะได้ผลลัพธ์ที่ดี

ทว่าจัสติซแก๊งแสดงท่าที ไม่ใยดีเขาชัดเจน, เนื่องจากมีตัวเลือก ผู้สมัครอื่น ๆ อยู่ดาดาษ

ซึ่งน่าจะเลี่ยงกระแสเชิงลบ จากสังคม, ได้ดีกว่าคนที่เคยเป็น อดีตนักฆ่าของรัฐบาล

คริสที่ล้มเหลว ด้านการหางาน, แวะไปเยี่ยมฮาร์คอร์ต ที่สภาพจิตก็ย่ำแย่ไม่ต่าง

จนทะเลาะกันเรื่อง ที่ฮาร์คอร์ตทำราวกับว่า ราตรีสุดโรแมนติก ระหว่างทั้งคู่คืนหนึ่งนั่น, มันไร้ความหมาย

พีซเมคเกอร์ผู้ ชีช้ำกะหล่ำปลี, เลยเรียกคนมาปาร์ตี้เล่นยา และจัดเซ็กส์หมู่ที่บ้าน

แต่ตัวเองทำแค่ เสพยาแก้กลุ้ม, และเอาแต่มองคนอื่น เค้าเอากัน

ก่อนจะลุกไปลอบเปิด ประตูลับของบ้าน ที่เชื่อมต่อกับ ห้องควอนตัม

การกระทำดังกล่าว ของคริส ก่อให้เกิดสัญญาณพลังงานเฉพาะ, ที่หน่วยงานรัฐ (อาร์กัส) ตรวจสอบได้

อาร์กัสซึ่งเฝ้าระวังพีซเมคเกอร์ ตั้งแต่ริค แฟล็ก (ซีเนียร์) ได้ขึ้นเป็นผอ., จึงเริ่มเคลื่อนไหว 

เพราะชักระแวงว่า ที่สั่งอีโคโนมอส ให้ซุ่มดูบ้านคริส, อาจไม่ต่างจาก การสั่งขี้มูก

ริค แฟล็กถูกอีโคโนมอส วิจารณ์ลับหลังว่า, ผลาญภาษีประชาชน แค่เพราะอยากจับผิดคน ที่ฆ่าลูก (ริค แฟล็ก จูเนียร์)

แต่ตัวนายพลแฟล็ก อ้างกับเพื่อนร่วมงานว่า, ต้องไม่ให้มีเหตุการณ์ รอยแยกมิติ มาแหกโลกใบนี้ 

ซ้ำรอยแบบ ตอนเล็กซ์ ลูเธอร์อีก (เหตุการณ์ในภาพยนตร์ Superman 2025)

ด้านคริส เขาลองสวมรอย เป็นตัวเอง, ไปใช้ชีวิตใหม่ในต่างโลก ซึ่งอยู่ใกล้แค่เอื้อม ชั่วคราว

เพียงพี่กับพ่อ ชวนนั่งกินเหล้า แล้วสนทนาไร้สาระกัน, มันก็มากพอจะทำคริส นั่งร้องไห้คนเดียวลับหลัง

แต่ขณะกำลังจะกลับสู่ มิติตัวเอง, พีซเมคเกอร์ (ของโลกคู่ขนานใบนั้น) ได้โผล่มา และพยายามสังหารไอ้ตัวปลอม (ในสายตาเค้าน่ะ)

คริสต่อสู้ป้องกันตัว ก่อนจะพลั้งมือ, ฆ่าตัวเอง ที่อยู่ในมิติคู่ขนานตาย

ไหน ๆ ก็ไหน ๆ คริสจึงลองสวมรอยเป็นตัวเอง ในต่างโลกดู, นานขึ้นหน่อย

เขาพบว่าฮาร์คอร์ต (ของพิภพคู่ขนาน) รักกับพีซเมคเกอร์

ระหว่างอยู่โลกนั้น, คริสยังบังเอิญได้อยู่ในเหตุการณ์ ที่กลุ่มชื่อ “ซันส์ออฟลิเบอร์ตี” ลงมือก่อการร้าย

แม้ไร้ความเข้าใจสถานการณ์ แต่คริสลงมือเชือด สมาชิกกลุ่มดังกล่าว อย่างไร้ความลังเล, และถูกผู้คนยกย่องสรรเสริญ

ขณะที่อีกฟาก (ณ จักรวาล DCU หลัก) นายพลแฟล็กส่งเจ้าหน้าที่ ลงไปตามเรื่องพีซเมคเกอร์เพิ่มเติม

เขาสั่งระดมทีม ที่มีซาช่า บอร์โดซ์ (ผู้ช่วยสตรี ที่แอบซั่มกับแฟล็ก), แลงสตัน เฟลอรี่ (ผู้ชายปากแจ๋ว ซึ่งเป็นโรคตาบอดนก แยกไก่กับอินทรีไม่ออก), 

และริป แจ็กเกอร์ (ยูโดมาสเตอร์ จอมยุทธตัวเตี้ย อันเคยมีเรื่องกับพีซเมคเกอร์ แถวซีซั่น 1)

ให้บุกจู่โจม บ้านของคริส ตอนหมอนั่นไม่อยู่, และค้นหาทางเชื่อมข้ามภพ ให้พบซะ

แต่อีโคโนมอสหาทาง ลอบเตือนคริสได้ก่อน แบบกระชั้นชิด, พระเอกที่เพิ่งกลับจากต่างโลก จึงเร่งปิดประตูมิติ และติดต่ออาเดบาโย

เขาพับกระติกสีเงิน รูปร่างคล้ายกระเป๋าหิ้ว และขึ้นรถแอดส์, ทิ้งบ้านเปล่าของคริสไว้ ให้ทีมของแฟล็กค้น อย่างคว้าน้ำเหลว

ก่อนจะไปถึง บ้านเก่าของปู่คริส (ที่ตายนานละ), แล้วคว้ากระติกเงินมากาง หน้าประตูธรรมดา ๆ บานหนึ่ง 

เลื่อนปุ่มนั่นนี่ พร้อม ๆ กับที่อธิบายให้แอดส์ฟัง, ว่าเขากำลังพยายาม ย้ายทางเชื่อมมิติ มาเปิดตรงนี้แทน

คริสเท้าความว่า เมื่อ 35 ปีก่อน, เขากับพ่อและพี่ชาย ได้ออกมาล่าสัตว์ในป่า และบังเอิญยิง “เอเลี่ยน” ปริศนาดับ

กระเป๋ามิติ (หรือกระติกมิติ ก็ไม่รู้ละ) เป็นสิ่งที่หลงเหลือ จากศพเอเลี่ยนตนดังกล่าว

ซึ่งอ๊อกกี้หยิบมัน ติดมือกลับมา คลำ ๆ หาวิธีใช้งาน ยึดห้องควอนตัมเป็นสมบัติส่วนตัว, โดยไม่เคยแจ้ง แก่รัฐบาล หรือคนนอกครอบครัว

หลังจากนั้น คริสลองนัดพบหน้า กับฮาร์คอร์ต (ของจักรวาลหลัก), เพื่อถามให้แน่ใจ ว่าเธอเองก็ ชอบเขาหรือไม่

ฮาร์คอร์ตที่นายพลแฟล็ก ตามกลับเข้าอาร์กัสแล้ว (เพื่อช่วยจัดการกับพีซเมคเกอร์), พยายามเตือนให้คริส ทราบว่าถ้ามาเจอกัน เขาจะโดนดักล้อม

แต่จะด้วยความอวดเก่ง หรือหัวใจมันเรียกร้อง, คริสเมินเฉยต่อคำเตือน จนฮาร์คอร์ตต้องอัดเขา ให้สลบ

เพื่อกันไม่ให้คริสโดน ลูกน้องบางคนของแฟล็ก จับตายเสียก่อน

คริสตีความว่า การโดนซัดสลบ เท่ากับถูกสาวเท จึงช้ำใจ, คริสยังถูกริคแฟล็ก ซ้อมเสียน่วม จึงช้ำกาย

ดังนั้นแม้ฮาร์คอร์ต กับอีโคโนมอส หาทางช่วยคริส ออกจากอาร์กัส (ชั่วคราว) ได้, คริสผู้บอบช้ำทั้งกายใจ ก็หมดอาลัยกับโลกที่ตน อาศัยมาตลอด

คริสเลยเข้าไป แล้วปิดทางเชื่อมมิติ ชนิดกะให้ตัวเอง กลับมาไม่ได้ (โดยไม่ทราบว่า ยูโดมาสเตอร์โจทก์เก่า ลอบตามสู่มิติคู่ขนานด้วย)

ฝ่ายพรรคพวกของคริส เมื่อทราบว่าพระเอก กะไปอยู่โลกอื่นถาวร, ก็รวมตัวกัน ข้ามมิติตาม เพื่อเรียกพระเอกกลับ (ทำได้เพราะแอดส์เคยเห็นคริส ใช้กระติกเงินเปิดทางเชื่อม)

การเรียกคริสกลับมิติเดิม ไม่ยากอย่างที่คิด, เนื่องจากปรากฏว่า คริสซื่อบื้อจนไม่ทันสังเกต ก่อนหน้านี้

ว่าโลกคู่ขนานนี่ เป็นเอิร์ธเอ็กซ์ (Earth-X) หรือโลกนาซี (จักรวาลที่นาซี ชนะสงครามโลกครั้งที่ 2)

และซันส์ออฟลิเบอร์ตี คือกลุ่มต่อต้านเผด็จการนาซี กลุ่มเดียวในโลกนั้น

เอิร์ธเอ็กซ์ไม่ใช่ โลกแสนสวย สำหรับคริสอีกต่อไป, เขาจึงพยายามกลับ พร้อมกับเพื่อน ๆ

ยูโดมาสเตอร์ ได้ช่วยแอดส์ (ที่เป็นผู้หญิงผิวดำ เลยเกือบโดนคนขาวรุมฆ่า)

อาเดบาโยยืนกราน ว่านิสัยจริงของไอ้หัวขวด (คริส) น่ารัก, และสามารถทำให้จอมยุทธเตี้ย กลายเป็นสหายคนใหม่

ก่อนทั้งสอง รวมตัวกับคริส ฮาร์คอร์ต อีโคโนมอส และเอเดรียน เชส (วิจิแลนตี เพื่อนแอนตี้ฮีโร่ของคริส), หวนคืนสู่มิติเดิม 

ทางริค แฟล็ก ซีเนียร์ ผู้เป้าหมายแค้นหลุดมือ, มองหาลู่ทางใหม่ ในการค้นหาพีซเมคเกอร์ 

เขาเข้าเยี่ยม “เล็กซ์ ลูเธอร์” ผู้ต้องโทษจำคุก 265 ปี และทำข้อตกลงบางอย่าง (ซีรีส์ยังไม่เปิดเผย)

ลูเธอร์เลยยอมให้ แฟล็กซีเนียร์, เข้าถึงพวกลูกน้องระดับหัวกะทิ (ของลูเธอร์) และเครื่องแสกนหาทางเชื่อมมิติ (ของลูเธอร์เช่นกัน) ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

แฟล็กซีเนียร์ถึงพากองกำลัง ไปดักจับคริส (ที่เพิ่งกลับจากโลกนาซี พร้อมเพื่อน ๆ) ทัน, แบบไร้โอกาสหนี

คริสอ้างว่าคนอื่น ๆ ไร้ความผิด, แค่ข้ามภพไปตามเขา เพื่อให้เอากระเป๋ามิติมาส่ง แก่อาร์กัส

ยอมโดนจับโทษฐาน ครอบครองอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ที่เป็นอันตราย เพียงคนเดียว…

ขณะคริสถูกขังเดี่ยว, แฟล็กซีเนียร์ใช้พวก เจ้าหน้าที่อาร์กัสระดับล่าง ไปสำรวจประตูต่าง ๆ (ในห้องควอนตัม) ทีละบาน

พลางก๊งเหล้าหน้าบาน (ส่วนใหญ่กับ พวกลูกน้องของลูเธอร์) ฆ่าเวลา, ระหว่างจนท.อาร์กัสตาดำ ๆ ทยอยล้มตาย 

เพราะภยันตรายสารพัดสารเพ (ซอมบี้ หลุมดำ ฯลฯ) ของดวงดาวและมิติมากมาย ที่มนุษย์ไม่เคยรู้จัก

แล้วการสังเวยชีวิตผู้บริสุทธิ์ ก็จบ, เมื่อเจอสภาพแวดล้อม ที่มนุษย์น่าจะอาศัยอยู่ได้ (ป่าโล่ง ๆ) หลังประตูมิติบานนึง

แต่เป้าหมายของนายพลแฟล็ก ไม่ใช่อะไรน่ายกย่องอย่าง, หาแหล่งทรัพยากรใหม่ มาทำประโยชน์แก่มนุษยชาติ

ดาวหลังประตูบานนั้น ถูกตั้งชื่อว่า “ซัลเวชัน”, ทีมของลูเธอร์ ค้นพบวิธีย่นย่อการเดินทาง 

ให้เข้าประตู (ของรัฐบาล) ไปออกดาวดวงใหม่นั่น ได้โดยตรง, โดยไม่ต้องผ่าน ห้องควอนตัมอีก

แฟล็กจึงแจ้งใน ที่ประชุมของคนจาก หน่วยงานรัฐต่าง ๆ ว่าจะใช้ซัลเวชันเป็น “คุก”

เพราะสามารถ ย้ายประตูได้ทุกครั้งที่เข้าออก, ต่อให้เป็นนักโทษเมตาฮิวแมน (เหนือมนุษย์) ก็ไม่มีใคร จะกลับมาได้

เป็นการเนรเทศ บุคคลอันตราย ออกไปจากโลกตลอดกาล…

เมื่อทราบดังนี้ ขนาดบอร์โดซ์ที่ นอนกับแฟล็ก ยังรู้สึกหนาวขึ้นมา (ส่วนนึงเพราะว่า เธอเป็นเมตาฮิวแมนไซบอร์ก ครึ่งคนครึ่งเครื่องจักร)

หล่อนเลยย้ายออก จากอาร์กัส, และหันไปเข้ากลุ่มกับ พวกฮาร์คอร์ตและอาเดบาโย

ทางด้านแอดส์ เธอกล่อมให้เอเดรียน ยอมใช้เงินเปื้อนเลือด (เก็บมาจาก พวกค้ายาค้ามนุษย์ ที่วิจิแลนตีเคยปราบ), เพื่อประกันตัวคริส

คริสจึงได้ กลับไปรวมตัวกับพรรคพวก (อันมียูโดมาสเตอร์ บอร์โดซ์ กะเฟลอรี่เพิ่มมา) และเปิดบริษัททหารรับจ้างชื่อ “เช็กเมต”, ซึ่งมีสโลแกนว่าจะ ทำให้โลกนี้ดีขึ้น 

คริสยังตื๊อจนฮาร์คอร์ต ใจอ่อน, ยอมรับว่าเธอเองก็ ชอบคริสเช่นกัน

ทั้งสองเริ่มคบหาดูใจกัน แต่หลังจากนั้นไม่นาน, นายพลแฟล็กส่งคนไป ลักพาตัวคริส และโยนเขาข้ามทางเชื่อมมิติ ทิ้งไว้ใน “ซัลเวชัน”

เกร็ดเพิ่มเติม ที่อาจบอกใบ้อนาคตของ DCU

- ในหนังสือการ์ตูน ซัลเวชันคือโลกต่างดาว, ที่อแมนด้า วอลเลอร์ ใช้ขังอาชญากรเมตาฮิวแมน

แต่การกระทำนี้ ส่งผลร้ายแรงทีหลัง, เพราะดาวนั้นเป็นสถานที่ ทดสอบกำลังทหาร ของกองทัพดาร์คไซด์ (วายร้ายผู้ทรงอำนาจสุด ของจักรวาลดีซี) ด้วย

- ในหนังสือการ์ตูน เช็กเมตเป็นหน่วยปฏิบัติการลับของรัฐบาล ที่อแมนด้า วอลเลอร์ก่อตั้ง, โดยมันแตกตัวมาจาก หน่วยเฉพาะกิจเอ็กซ์อีกที 

เช็กเมตคือ ทีมแอนตี้ฮีโร่ ที่เปลี่ยนสมาชิกเข้าออกมาเยอะ, และโลดแล่นบนคอมมิกมายาวนาน (ตั้งแต่ค.ศ. 1988)