ปลุกพลังล่าท้าผี ที่บ้านนอก >>เนื้อหาฉบับย่นย่อ ของ Ghostbusters: Afterlife

ภาพยนตร์ภาค 3 ของแท้ ที่เผยแพร่ ค.ศ. 2021, และดำเนินเรื่องเมื่อ 32 ปีให้หลัง ต่อจากภาค 2 (1989) ซึ่ง Ghostbusters: Frozen Empire (2024) ก็จะ...

ภาพยนตร์ภาค 3 ของแท้ ที่เผยแพร่ ค.ศ. 2021, และดำเนินเรื่องเมื่อ 32 ปีให้หลัง ต่อจากภาค 2 (1989)

ซึ่ง Ghostbusters: Frozen Empire (2024) ก็จะสานต่อ จากเรื่องราวตรงนี้ (และจัดเป็นหนังภาค 4)

[เท้าความ] ณ ปี 1984 (เหตุการณ์ใน ภาพยนตร์ภาคแรก) ศาสตราจารย์มหาลัย 3 หน่อ พบผีของจริง

มีการสร้างสิ่งประดิษฐ์ เช่น ลำแสงสำหรับ ยึดจับวิญญาณ หรือกับดักสำหรับ ขังพวกมันไว้, และใช้งานได้จริง

แต่ด้วยคณบดี ประจำวิทยาลัย มิยอมเชื่อ, พวกเขาจึงตกงาน

แล้วผันตัวไป เปิดกิจการ บริษัทกำจัดผี (Ghostbusters) เป็นเรื่องเป็นราว

ปีเตอร์ เวงค์แมน, เรย์ สแตนซ์ และอีกอน สแปงเลอร์ ยึดสถานีดับเพลิงเก่า เป็นฐานที่มั่น

จ้างสตรีชื่อ เจนีน เมลนิตซ์ (Janine Melnitz) นั่งแท่น พนักงานต้อนรับ (ที่งานหลักคือ, รับโทรศัพท์ จดคำจ้างวาน เกี่ยวกะงานปราบผี)

จ้าง วินสตัน เซดเดมอร์ มาเสริมกำลังรบ, ในฐานะสมาชิก หน่วยภาคสนาม รายที่ 4

งานแรก ๆ ของพวกเขา คือกำราบวิญญาณ ที่รังควาน นักดนตรีหญิงชื่อ ดาน่า บาร์เร็ตต์

เธออาศัยอยู่ ณ อาคาร, ซึ่งออกแบบโดย 'อิโว แชนดอร์' สถาปนิกยุคเก่า

ปรากฏว่าแชนดอร์ คือสาวกของ "โกเซอร์ เดอะ โกเซอเรียน" เทพแห่งการทำลายล้าง ผู้อยู่เหนือแนวคิดด้านเพศ (LGBTQ+ ที่มาก่อนกาล)

อาคารดังกล่าว คือหนึ่งใน ความพยายาม, จะชักนำโกเซอร์ คืนสู่โลกมนุษย์ สักวันนึง ของแชนดอร์ผู้ล่วงลับ

เหล่าโกสต์บัสเตอร์ทั้ง 4, ผลักโกเซอร์ กลับต่างมิติไหว

นครนิวยอร์ก รอดพ้นจากการ เป็นจุดเริ่มต้น ของวันโลกาวินาศ

ปี 1989 ทีมตัวเอก เผชิญมหันตภัยวิญญาณ, และกอบกู้เมืองซ้ำอีก...

[สปอยล์ Ghostbusters: Afterlife] แต่พอพ้นจุดนึง กิจการล่าท้าผี ที่เคยรุ่งเรือง, กลับซบเซา

ทีมตัวเอกบางคน, เดาว่าพวกเขา ทำงานได้ดีเกิน จนไม่เหลือวิญญาณให้จับ

เวงค์แมนคืนสู่ งานสอนที่วิทยาลัย, วินสตันไปเสี่ยงโชค กับการเปิดธุรกิจใหม่ หาเงิน และสร้างครอบครัว

ส่วนเรย์ ยังอยาก ประคับประคอง กิจการโกสบัสเตอร์, ต่อให้นานที่สุด

ทว่าวันนึง "อีกอน สแปงเลอร์" กระทำการดุจดั่ง ทรยศเพื่อนผู้ใกล้ชิด คนสุดท้ายของ กลุ่มภาคสนาม

เขาขโมยทรัพยากร และสิ่งประดิษฐ์ สำหรับสู้ผี ที่เคยผลิตขึ้นมากมาย, แล้วหนีหาย

เรย์จึงไม่มีทางเลือก นอกจากยอมเลิก ล่าท้าวิญญาณ

ต้องเฝ้าร้านหนังสือ ซึ่งซบเซา (จนวินสตัน ที่ชักรวย ต้องแอบช่วยบริจาค) ไปวัน ๆ แทน

อีกอน

อีกอนเปล่าแค่ หักหลังเรย์, เพราะเขาทิ้งลูกสาว ชื่อ "แคลลี่" (ที่ก็ไม่รู้ ไปมีกับใครตอนไหน) ไว้ข้างหลังด้วย

อีกอนยอมกระทั่ง ขายทรัพย์สินเดิม, ซื้อฟาร์มกับบ้านโทรม ๆ เพื่ออยู่โดดเดี่ยว กลางบ้านนอก

เพื่อเปลี่ยนมันเป็น จุดวางกับดักผี หลายร้อยอัน

และติดตั้งเครือข่าย ปืนปล่อย แสงกำราบวิญญาณ (ที่ทำงานอัตโนมัติ) เหนือปล่องลึก ของเหมืองร้างแห่งหนึ่ง

เขาทำหมดนี่ เนื่องจากคนรอบข้าง ไม่มีใครเชื่อ, ว่าภัยโกเซอร์ยัง มิจบสิ้น

อวสานโลกจึง อาจมาถึง หากอีกอนไม่อุทิศตน เพียงลำพัง, ให้กับการ ขวางกั้นมันไว้

เพราะแท้จริงแล้วไซร้ "แชนดอร์" คือผู้ออกแบบ เมืองบ้านนอก (ชื่อ ซัมเมอร์วิลล์) นี่

ศพแชนดอร์ถูกเก็บไว้ รอคืนชีพ (พร้อมโกเซอร์) อย่างดี

ในเหมืองที่ร้าง เพราะคนงานเคยโดด ลงไปตายเรื่อย ๆ ช่วงยุค 1940s

แม้ปืนอัตโนมัติ จำนวนมาก คอยยิงขวาง (ทุกครั้ง สร้างแรงสะเทือน เหมือนแผ่นดินไหว)

แต่ยังมี ผีตัวแสบ จากอีกมิติ, ผ่านปล่อง หลุดรอด เข้ามาโลกมนุษย์ 2

อีกอนวัยชรา จับใส่กับดักได้ 1 ตัว, เขาใช้มัน ล่ออีกตัว เข้าสู่เขตฟาร์ม

แต่ระหว่าง จะจับตัวที่ 2 นั่น, ดันเจอปัญหา พลังงานตก (ไฟดับ)

เลยพลาดท่า ถูกวิญญาณฆ่า, โดยทำให้ หัวใจวายตาย

ฟากแคลลี่ ผู้เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว (เลิกกับผัว ที่เจ้าตัวว่า ไม่ได้เรื่อง) และมีลูก 2 (คนโตผู้ชาย คนเล็กผู้หญิง)

ช่วงนี้ ถังแตกเงินหมด โดนไล่ที่ อยู่พอดี

จึงย้ายไปประจำ ณ ซัมเมอร์วิลล์, ในบ้านและฟาร์ม อันเป็นมรดกของอีกอน

พร้อมทักทาย เจนีน, มิตรที่เหลือคนสุดท้าย ของอีกอน 

จากกลุ่มโกสต์บัสเตอร์ อันแยกย้ายสลายโต๋ (เพียงเพื่อเอาใจ คนเคยดูหนังภาคเก่า)

เจนีน

เทรเวอร์วัย 15 (ลูกคนโต) พยายามจีบสาวท้องถิ่น, ชื่อ 'ลัคกี้' ที่อายุมากกว่า และเป็นลูกตำรวจ

เขายังลอง ซ่อมรถซอมซ่อ ของคุณตา, โดยไม่รู้ว่า มันคือเอคโต-1 (รถของบริษัทกำจัดผี)

ฟีบี้วัย 12 (ลูกคนเล็ก) ผู้เปรื่องด้าน วิทยาศาสตร์, แต่ขาดด้าน ทักษะเข้าสังคม

เข้าเรียนคาบวิทยาศาสตร์ อันเปิดเสริมช่วงฤดูร้อน ของโรงเรียนที่นั่น

เธอถึงได้เป็นเพื่อน กับเด็กชายผู้เรียกตัวเอง ว่า 'พอดแคสต์' (เพราะชอบทำพอดแคสต์ เกี่ยวกะ เรื่องเหนือธรรมชาติมาก)

คาบเรียนดังกล่าว สอนโดยครูชายโสด นักแผ่นดินไหว, ที่ชื่อ "แกรี่ กรูเบอร์สัน"

ฟีบี้จึงได้ทราบ ทั้งเรื่องตำนาน ของทีมโกสต์บัสเตอร์ เมื่อยุค 80s

และการเกิด แผ่นดินไหว อันผิดปกติ (ยังไม่มีใครรู้ว่า เกิดจากปืนปราบผี ยิงอัตโนมัติ)

เพราะปรึกษากับ 2 คนนี้, หลังจากที่ ผีคุณตา (อีกอน) ชี้นำเบาะแส

แต่เนื่องจาก ไม่ถึงขั้น แลกเปลี่ยนบทสนทนา (กับผีอีกอน) ได้

จึงกลายเป็น ก่อนหลานตระหนักครบ ว่าควรทำไงบ้าง, เพื่อเตรียมตัว รับมือโกเซอร์

ฟีบี้ พอดแคสต์ แกรี่, ดันเปิด กับดักจับผี 

ปล่อยเจ้าตัวที่คือ 1 ใน 'ผู้อารักขา' ของโกเซอร์, อย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์

หากผู้อารักขา ของโกเซอร์ทั้ง 2 สิงร่างคน (ชายกับหญิง) แล้วรวมตัวกัน (ซั่ม), ก่อนกลายร่างเป็น อสูรกาย ทีหลัง

จะครบเงื่อนไข อันต้องผ่าน, เพื่อทำพิธีเปิด ประตูมิติ อัญเชิญโกเซอร์

ผู้อารักขาตัวนึง สิงร่างแกรี่, อีกตัวสิงร่าง สตรีที่เขา กำลังปิ๊งอยู่พอดี อย่างแคลลี่

เลยไม่มีสิ่งใด สามารถหยุดทั้ง 2, มิให้ทำตามเงื่อนไข ในการเรียกโกเซอร์

ผู้อารักขา ทำลายปืนอัตโนมัติ, ร่างเนื้อโกเซอร์ ปรากฏแถวเหมืองเก่า

แชนดอร์ผู้เพิ่ง คืนชีพ จังหวะนี้เหมือนกัน, เพราะวางแผนไว้ว่า 

อยากปกครองโลกา ร่วมกะท่านโกเซอร์, ถูกปลิดชีพทันที ด้วยความรำคาญ

เนื่องจากเทพรายนี้ ไม่เห็นมนุษย์ อยู่ในสายตา

ฟีบี้โทรศัพท์หา "เรย์ สแตนซ์" แจ้งข่าว การตายของอีกอน

และอธิบายว่าทำไม อีกอนเคยหักหลัง, กับเตือนเรื่องโกเซอร์

ก่อนเธอกะ พอดแคสต์ ลัคกี้ พี่ชาย, รวมทีมกันซิ่ง เอคโต-1 ออกล่าท้าผี

ท่ามกลางเมือง ไกลปืนเที่ยง ที่ใกล้ล่มสลาย, เพราะกองทัพลิ่วล้อ (วิญญาณ) ของโกเซอร์บุก

แก๊งเด็กจับผู้อารักขา ได้ 1 ตัว, พวกเขาล่อโกเซอร์ ที่ร่างเนื้ออ่อนแอลง (เพราะผู้อารักขา เหลือแค่ 1) ไปฟาร์ม

แล้วด้วยการช่วยเหลือ ของทีม โกสต์บัสเตอร์ดั้งเดิม (คนเป็น 3, คนตาย 1)

จึงสามารถ เปิดกับดัก หลายร้อยอัน, ดูดโกเซอร์ กะกองทัพ เข้ามาผนึก รวดเดียวหมด

แกรี่ กะแคลลี่ คืนร่างมนุษย์, ผีคุณตาอีกอน หมดห่วง สลายตัวเดินทาง สู่สุคติ (Afterlife)

ทีมโกสต์บัสเตอร์ ดั้งเดิม บ่ายหน้ากลับนิวยอร์ก

ฉากแถมท้ายแรก เฉลยว่า, ปีเตอร์ เวงค์แมน ได้ลงเอยแต่งงาน กับดาน่า

ฉากแถมถัดมา แสดงภาพเจนีน, กำลังคุยกับ อาเสี่ยวินสตัน

ที่เหตุการณ์ ณ ซัมเมอร์วิลล์, ทำให้เขาคิดจะ เป็นป๋าดัน 

ออกทุน เปิดกิจการโกสต์บัสเตอร์ ณ นิวยอร์ก, ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง