# สงครามแห่ง เอเรกิออน # สิ่งที่เกิดใน The Rings of Power ซีซั่น 2 โดยสังเขป

แม้มีเหตุผลจำเป็น อยู่เบื้องหลัง, แต่ไม่อาจปฏิเสธว่า ไตรธำมรงค์ของเอล์ฟ ถูกผลิตขึ้น ด้วยการชักจูง, ของเซารอนผู้ชั่วร้าย กาลาเดรียลตั้งใจว่า ...

แม้มีเหตุผลจำเป็น อยู่เบื้องหลัง, แต่ไม่อาจปฏิเสธว่า

ไตรธำมรงค์ของเอล์ฟ ถูกผลิตขึ้น ด้วยการชักจูง, ของเซารอนผู้ชั่วร้าย

กาลาเดรียลตั้งใจว่า จะปิดปาก เงียบสนิท, เกี่ยวกับเรื่องนี้

อย่างไรซะ สหายของเธอ (เอลด์รอน) ก็รู้เข้า, และมันทำเขา ผิดหวังในตัวหล่อน

เอลด์รอน เร่งคาบข่าว, ไปบอกจอมราชัน แห่งหมู่พราย (กิลกาลัด) ณ ลินดอน 

ทว่า ฝ่าบาทกิลกาลัด ยังทรงยืนกราน, ว่าพวกเราไม่มีทางเลือก ต้องยอมใช้แหวน

เอลด์รอนจึง หอบแหวนหนี มุ่งสู่เมืองท่า เกรย์เฮเว่นส์, ซึ่งมาสเตอร์ (อาจารย์) เคียร์ดัน พำนัก

ผู้อาวุโสและปราดเปรื่อง (เคียร์ดัน) ที่สุดของเอล์ฟ, ตกลงจะ ช่วยเอลด์รอน ทำลายแหวน

เคียร์ดันเชื่อว่า หากหย่อนลง ร่องลึกก้นทะเล, จะเป็นอวสาน ของไตรธำมรงค์

แต่วัตถุดังกล่าว ไม่ยอมจมลง ใต้ผืนน้ำ, กระเด้งกลับขึ้นเรือ ของเคียร์ดัน

การแสดง อิทธิฤทธิ์ของมัน ทำให้เคียร์ดัน, เปลี่ยนความคิด

เขานำส่งแหวน คืนสู่จอมราชัน, และได้เป็น ผู้ครอบครอง 1 ในนั้น

โดยผู้สวมแหวน อีก 2 วง ไม่ใช่ใคร นอกจาก, กิลกาลัด กับกาลาเดรียล

จากฮัลบรันด์ สู่อันนาทาร์

ย้อนกลับไป สมัยต้นยุคที่ 2, 'อดาร์' มองว่าเซารอน ไม่เห็นค่าชีวิต ของพวกออร์คมากพอ

เลยทรยศ รวมหัวกับ บรรดาออร์คตัวประกอบ, รุมฆ่าเซารอน

แต่วิญญาณเซารอน ดันไม่ยอมสิ้นฤทธิ์, ค่อย ๆ คืนสภาพ สร้างร่างกายขึ้นใหม่

หลังเวลา หลายพันปี, เซารอนผลิตเปลือกนอก เป็นร่างมนุษย์ และใช้ชื่อใหม่ว่า 'ฮัลบรันด์'

ปัจจุบัน (ตามท้องเรื่อง) ฮัลบรันด์ แสร้งเป็นมนุษย์, มุ่งสู่มอร์ดอร์

เอาข่าวเรื่อง "เซารอน ยังมีชีวิตอยู่" ไปบอกอดาร์

และแจ้งว่าจอมมาร, เวลานี้กบดานใน อาณาจักรแห่งเอล์ฟช่าง (เอเรกิออน)

อดาร์ผู้สำเหนียกว่า หากไม่สิ้นเซารอน แล้วไซร้, ชีวิตพวกออร์ค (ที่เค้ารักเหมือนลูก) จะสุ่มเสี่ยงไม่หยุด

จึงเตรียมจัดทัพ เพื่อทำสงคราม บุกเอเรกิออน, สังหารเซารอนซะ

หลังหลอกให้อดาร์ จัดทัพ, ฮัลบรันด์ บ่ายหน้าเยือน เอเรกิออน

ใช้ภาพลวงตา และการแปลงโฉม จนคล้ายเอล์ฟ, ลวง 'เคเลบริมบอร์'

จนเชื่อว่าตัวจริงของ ฮัลบรันด์ นั้นหนา, มิใช่มนุษย์

แต่เป็นผู้ส่งสาส์น จากปวงเทพ (วาลาร์) ที่มาบอกให้, สร้างแหวนเพื่อ มนุษย์กะคนแคระ

เพราะไม่ใช่ แค่เอล์ฟ, แต่ทั้งมิดเดิลเอิร์ธ กำลังจะสูญสิ้นแสง

พลังอำนาจมืด แข็งแกร่งขึ้น ทุกวี่วัน

ฮัลบรันด์ขอว่า จากนี้จงเรียกข้า "อันนาทาร์" (หมายถึง เจ้าแห่งของกำนัล) แทน

สัปตะธำมรงค์, กับวิกฤติด้านแสง ณ คาห์ซัดดูม

การระเบิดของ ภูเขาไฟแห่งมอร์ดอร์ ในซีซั่น 1, ไม่ใช่แค่ทำเอา ขี้เถ้าปกคลุมทั่วนภา

เพราะมันก่อแผ่นดินไหว ครั้งใหญ่ตามมา, ส่งผลให้ขุนเขา เกิดการพังถล่ม

หินมหึมา หล่นลงปิด ช่องรับแสงตะวัน, ของนครคนแคระ ใต้ดิน

วิกฤติด้านแสงสว่าง ทำให้พืชพันธุ์ธัญญาหาร เฉาตาย, แถมปลูกเพิ่มไม่ได้

เมื่อได้รับคำขอ แร่มิธริล, จากเคเลบริมบอร์ และอันนาทาร์

เพื่อนำไปผลิต สัปตะธำมรงค์ (แหวน 7 วง), กษัตริย์คนแคระ (ดูรินที่ 3) จึงยอมตกลง

ดูรินที่ 3 ใช้พลังของแหวน, ชี้นำวิธีการขุดเจาะ ขุนเขา 

อย่างถูกต้องแม่นยำ หลีกเลี่ยงเหตุถ้ำถล่ม ที่เสี่ยงเกิดขึ้นประจำ, โดยง่ายดาย

หินก้อนมหึมา ถูกกะเทาะเป็นรู, วิกฤติแสง ณ คาซัดดูม จบสิ้นลง

อิซิลดูร์ ณ เพลาเกียร์

อิซิลดูร์ บุตรแห่งเอเลนดิล, พลัดถิ่นเพราะพวกพ้อง ครอบครัว นึกว่าเขาสิ้นชีพ ในซีซั่น 1

เขามุ่งสู่ ถิ่นฐานเก่าของ ชาวนูเมนอร์ (เมืองท่า เพลาเกียร์), เพื่อรอโอกาส ข้ามทะเลกลับบ้าน

เจอผู้หญิงชื่อ 'แอสทริด' ที่เป็นคนเถื่อน (มนุษย์ซึ่งยอมก้มหัว เคารพอดาร์) และร่วมเดินทาง 

ก่อนเผชิญหน้าโจร แล้วได้นายเอล์ฟ 'อารอนเดียร์', ผ่านมาช่วย

อารอนเดียร์เองก็ ไปเพลาเกียร์, เพื่อร่วมงานศพ ของบรอนวิน (สตรีมนุษย์ที่เค้ารัก) 

ซึ่งตายเพราะพิษบาดแผล จากการปะทะ พวกออร์ค, ในซีซั่นก่อน

อารอนเดียร์ ยังพยายาม รับผิดชอบ, อยู่ดูแล 'ธีโอ' บุตรชายของบรอนวิน

แต่ธีโอแย้งว่า ความเชื่อมโยง ระหว่างเรา สิ้นสุดลง, พร้อมความตาย ของแม่ข้า

อารอนเดียร์เลย ออกเดินทาง, เพื่อตามหาอดาร์ ล่าล้างแค้น

ฝ่ายอิซิลดูร์ ได้เป็นเพื่อน กับธีโอ, และปิ๊งแอสทริด 

แม้เจ้าหล่อน มีคู่หมั้น, คือคนเถื่อนอย่าง นายฮาเกน (Hagen) อยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของอิซิลดูร์ กับแอสทริด, ดูเหมือนต้อง สิ้นสุดลง

เมื่อจู่ ๆ มีกองเรือ จากนูเมนอร์, โผล่มาที่เพลาเกียร์

อิซิลดูร์ได้ขึ้นเรือ กลับบ้านเกิด เพียงลำพัง

ขณะเดียวกัน, ธีโอ กับชาวเพลาเกียร์ ดูท่าหลังจากนี้ ต้องเดือดร้อน

เนื่องจากกองเรือ ของผู้มาเยือน, แจ้งข่าวเรื่อง นูเมนอร์ 

เปลี่ยนแปลงผู้ปกครอง สู่ราชา 'ฟาราโซน', ผู้ต้องการกดขี่ ชาวเพลาเกียร์ ใช้เป็นแรงงาน ตัดต้นไม้ขนานใหญ่

เพื่อสร้าง หอสังเกตการณ์ ปราการทหาร, แผ่ขยายอำนาจ สู่แผ่นดินใหญ่ (ทวีปมิดเดิลเอิร์ธ)

การยึดบัลลังก์ ของฟาราโซน

ณ นูเมนอร์ อินทรียักษ์ปรากฏตัว, เพื่อไว้อาลัยแด่ 

กษัตริย์ผู้สิ้นพระชนม์ องค์ก่อน, ในพิธีบรมราชาภิเษก ของมีเรียล

แต่บรรดา ผู้ไม่ชอบมีเรียล บิดเบี้ยวสาร, ประกาศให้ การมาเยือนของ จ้าววิหค

คือสัญญาณบ่งชี้ว่า อินทรีศักดิ์สิทธิ์, เลือกญาติของมีเรียล (ฟาราโซน) เป็นราชาคนใหม่

มีเรียล ทำพิธีเสี่ยงตาย (โดดลงทะเล ที่มีสัตว์ร้ายใต้น้ำ รองาบ) 

พิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์ ของสายเลือดขัตติยะ, แล้วรอด

แต่ฟาราโซน โบ้ยให้ปรากฏการณ์นี้ เกิดขึ้นเพราะเธอ, เกี่ยวข้องกับ อำนาจมืด ของเซารอน

 

แถมส่งทหาร ออกจับกุม พวกชาวนูเมนอร์ ที่ยังศรัทธามีเรียล, ไปทั่วเกาะ

เอเลนดิล (พ่อของอิซิลดูร์ ผู้ภักดีมีเรียล) จึงต้องแอบหนี ออกนอกประเทศ

อดาร์ ขอเป็นพันธมิตร

แหวนทำให้กาลาเดรียล เห็นนิมิต, คือความตายของ เคเลบริมบอร์

หล่อนถึงขออนุญาต กิลกาลัด, เดินทางสู่เอเรกิออน

จอมราชันทรงเกรงว่า กาลาเดรียล จะถูกเซารอน, ล่อลวงซ้ำ

จึงตั้งเงื่อนไขว่า เจ้าต้องไปกับ เอลด์รอน, เท่านั้น

ด้านเอลด์รอน ปฏิเสธคำขอ ในทีแรก, แต่เคียร์ดัน โน้มน้าวว่า 

งานประดิษฐ์ (แหวน) ชั้นเลิศ ยังไงก็เป็นของชั้นเลิศ, ขึ้นกับวิธีใช้

และเจ้าควร นำทางสหาย, มากกว่าทอดทิ้ง

เอลด์รอนเลย ยอมร่วมทาง กับกาลาเดรียล, ดิ่งสู่อาณาจักรเอล์ฟช่าง

เมื่อถึงใกล้ ๆ เอเรกิออน, กองทัพของอดาร์ เจอกาลาเดรียลเข้า

หล่อนโดน พวกออร์คจับ, ขณะที่เอลด์รอน แล่นลิ่วสู่ลินดอน และคาซัดดูม

เพื่อขอกำลังเสริม ทั้งจากกิลกาลัด, และเพื่อนรักคนแคระ (เจ้าชายดูรินที่ 4)

ฝั่งกาลาเดรียล, อดาร์เผยว่า มงกุฎแหลม ๆ ของมอร์กอธ 

(ซึ่งเซารอน ดัดแปลงนิดหน่อย แล้วเอามาใช้ต่อ) ทำลายร่างเนื้อ ของจอมมารได้

และเพื่อให้มั่นใจ ว่างวดนี้เซารอน จะดับสูญถาวร

ต้องใช้พลัง แห่งแสงสว่าง, ในการทำลาย ความมืดด้วย

อดาร์เลยเสนอ ขอเป็นพันธมิตร กับกาลาเดรียล (ที่มีแหวนธาตุแสง) ช่วยกันพิชิตเซารอน

หากทำสำเร็จ อดาร์จะพาทัพออร์ค กลับไปสุมหัวกัน, แถวมอร์ดอร์

ไม่ปล่อยพวกลูก ๆ ออกมาก่อเรื่อง, ที่อื่นใด ในมิดเดิลเอิร์ธอีก

สงครามแห่ง เอเรกิออน

กาลาเดรียล เปล่าตกปากรับคำ เป็นพันธมิตร, และเตือนอดาร์ว่า ฮัลบรันด์ คือเซารอน

การที่เจ้ายกทัพ ตีเอเรกิออน, เท่ากับตกหลุมพราง ทำตามมันต้องการ

อย่างไรซะ อดาร์ยอม เดินเข้าหากับดัก, เพราะยังเห็นโอกาส สังหารจอมมาร

เคเลบริมบอร์ ถูกเซารอน ใช้ภาพมายา, และเล่ห์ลิ้น เพทุบาย

ทำให้มัวหมกมุ่นกับ การสร้าง นวธำมรงค์ (แหวน 9 วง) ที่ใกล้เสร็จสมบูรณ์

เจ้าผู้ครองเมือง (เคเลฯ) เลยไม่ได้สั่งการ กองทัพเอเรกิออน, ปกป้องนคร อย่างที่ควรเป็น

เอเรกิออน ถึงเข้าใกล้ กาลวิบัติ, ยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ

กองทัพจากลินดอน (ของเอลด์รอน และกิลกาลัด) บุกเข้ามา ช่วยต้านถ่วงเวลา

เพราะปริมาณไม่เพียงพอ แก่การเอาชนะ, นอกจากได้ กำลังเพิ่ม จากฝ่ายคนแคระ

แต่ทัพคนแคระ กลับไม่โผล่มา, ตามโมงยามที่นัด

เนื่องจากกษัตริย์ ดูริน 3, ถูกแหวนครอบงำ จนโลภมาก ขุดหามิธริลเพิ่ม

จากจุดอันตราย ที่มีอสูรบรรพกาล (บัลร็อก) สถิต, และถูกมันฆ่า

ดูริน 4 ต้องไว้อาลัย และรักษาความสงบ เรียบร้อย แก่บ้านเมือง, ช่วงผลัดแผ่นดิน

เขายังคง สั่งลูกน้อง นำกองทัพไปช่วย, แต่ลงเอยว่า ล่าช้า

ระหว่างนั้น 'อารอนเดียร์' มาถึง และช่วยกาลาเดรียล, ที่พยายามหนีจาก การคุมตัวของอดาร์

อารอนเดียร์ เข้าร่วมรบ พร้อมเอลด์รอน, ปะทะกับ เป้าหมายแค้น (อดาร์) ทว่าพ่ายแพ้

เคเลฯ ที่เพิ่งหลุดพ้น ภาพมายา ของเซารอน, ด้วยพลังใจ

และตระหนักว่า เซารอนหลอกให้ ใช้เลือดของมัน, เป็นวัตถุดิบ ผลิตนวธำมรงค์ (แทนมิธริล)

ส่งแหวนทั้ง 9 ที่สร้างเสร็จ แก่กาลาเดรียล, แล้วตัวเองยอมตาย เพื่อถ่วงเวลาเซารอน

ขณะกาลาเดรียล พานวธำมรงค์, และประชาชนเอเรกิออน (บางส่วน) 

หนีตายออกนอกนคร ที่กำแพงเมืองถูกพัง, เข้าสู่สถานการณ์ ล่มสลาย ไม่อาจกอบกู้ได้อีก

หลังสังหารเคเลฯ เซารอนไล่ตาม กาลาเดรียล, เพื่อแย่งนวธำมรงค์ อันผลิตมาเพื่อ ครอบงำพวกมนุษย์

อดาร์เห็นเป็นโอกาส เข้าบวก, แต่สิ้นชีพ อดสู้ร่วมกับ กาลาเดรียล

เนื่องจากถูก พวกลูก ๆ (ออร์ค อุรุค) ทรยศ (เพราะอดาร์พาออร์ค มาตายในสงคราม เยอะเกินไป)

กาลาเดรียล เข้าดวลกับเซารอน, แต่ถูกชิง นวธำมรงค์ และตกหน้าผา

เอลด์รอน เจอกาลาเดรียล ผู้บาดเจ็บสาหัส

กิลกาลัดพยายาม ใช้พลังแหวนรักษา, ทว่าแค่วงเดียว มันไม่พอ

ในที่สุด เอลด์รอนจึง, เลิกปฏิเสธ ไตรธำมรงค์

หยิบแหวนของ กาลาเดรียลมาสวม, ใช้มันช่วยกิลกาลัด กู้ชีพนาง

แล้วพาทั้ง อารอนเดียร์ กะกาลาเดรียล, สู่สถานที่หลบภัย อันปลอดภัย

ทอม บอมบาดิล, และชื่อจริงของ คนแปลกหน้า

ปรากฏว่า พวกแม่มดในซีซั่น 1 คือลูกน้องของ บุรุษลึกลับ, อันถูกเรียกว่า "พ่อมดมืด"

มิหนำซ้ำ พ่อมดมืดยัง เป็นผู้มีอิทธิพล, อยู่บนดินแดนรูห์น 

ซึ่งพ่อมด (คนแปลกหน้า) มาเยือน, พร้อมกับ 'โนริ' 

และป๊อปปี้ (ที่แอบหนีจาก เผ่าฮาร์ฟุต, ตามเพื่อน ออกผจญภัย)

แต่คนแปลกหน้า เกิดพลัดหลงกับ, เพื่อนฮาร์ฟุตทั้งสอง

ก่อนพบกับ "ทอม บอมบาดิล", ตัวตนปริศนา ที่เป็นสิ่งมีชีวิตเก่าแก่สุด ของมิดเดิลเอิร์ธ

ทอมนำทาง คนแปลกหน้าสู่, ป่าของเหล่าต้นไม้ ที่แห้งตาย

ทอมแจ้งว่า เพื่อนฮาร์ฟุตของท่าน, กำลังมีอันตราย

ท่านมี 2 ทางเลือก, คือเข้าป่าแห้ง ค้นหา 'ไม้เท้า' ประจำกาย เพื่อยกระดับ พลังวิเศษ

ทำภารกิจ ที่ฟ้ากำหนด (พิชิตความมืด), ให้สำเร็จ ก่อนจะสาย

หรือหันหลังให้ โชคชะตา, มุ่งหน้าสู่การ ช่วยมิตรสหาย

ฝ่ายโนริ & ป๊อปปี้ ได้เจอหมู่บ้าน ของพวกสตัวร์ (ญาติห่าง ๆ ของฮาร์ฟุต)

พวกเธออาศัย อยู่ที่นั่น, จนกระทั่งพ่อมดมืด ถ่อไปหมู่บ้านสตัวร์ ด้วยตัวเอง (เพื่อล่อคนแปลกหน้า ออกมา)

คนแปลกหน้า เลือกสหาย มากกว่าลิขิตฟ้า, และโผล่มา

พ่อมดมืด เริ่มต้นเจรจา, ชวนคนแปลกหน้า เข้าพวก 

เพื่อปราบเซารอน แล้วขึ้นปกครอง มิดเดิลเอิร์ธกันแทน

และเมื่อถูก ปฏิเสธข้อเสนอ, พ่อมดมืด จัดการทำลาย หมู่บ้านสตัวร์ทิ้ง ก่อนตีจาก

ฟากโนริ & ป๊อปปี้ กะพวกสตัวร์, ถูกคนแปลกหน้า ช่วยไว้ได้

เพื่อนฮาร์ฟุตทั้งสอง รู้สึกรับผิดชอบ ที่ทำหมู่บ้านพินาศ, ทางอ้อม

จึงเข้าร่วมขบวน อพยพถิ่นฐาน, มองหาบ้านใหม่ ของพวกสตัวร์

ส่วนคนแปลกหน้า หลังจากแยกทาง, ดันเดินไปเจอ 

ท่อนไม้ที่เหมาะ จะเป็น 'ไม้เท้า' ของตัวเอง, แบบง่ายเวอร์

จึงสำเหนียกว่า ทอมแอบมอบ บททดสอบ ในการเป็น ยอดพ่อมด, แก่เขา

และคำตอบคือ เค้าควรเลือกเพื่อน มากกว่าภารกิจ

ตอนนี้เมื่อเลือกถูก ก็เกิดการตื่นรู้ ตามมา

คนแปลกหน้า หยั่งรู้ว่า ชื่อที่คนทั่วหล้า จะเรียกเขาในวันหน้า, คือ "แกนดาล์ฟ" นั่นเอง