[Spoil] เหนือฟ้า ยังมีฟ้า >>เรื่องราวฉบับกระชับ ของ Top Gun ภาค 1-2

3 มีนาคม ค.ศ. 1969 กองทัพเรือสหรัฐอเมริกา จัดตั้งโรงเรียนพิเศษ สำหรับนักบินที่เก่งสุด เพียง 1 % จุดประสงค์คือ สอนข้อมูลด้าน ยุทธศาสตร์ทางอาก...

3 มีนาคม ค.ศ. 1969 กองทัพเรือสหรัฐอเมริกา จัดตั้งโรงเรียนพิเศษ สำหรับนักบินที่เก่งสุด เพียง 1 %

จุดประสงค์คือ สอนข้อมูลด้าน ยุทธศาสตร์ทางอากาศ อันหาได้ยาก

เพื่อประกันว่า ชายหญิงไม่กี่คน ซึ่งเรียนจบ, จะเป็นนักบินรบ ผู้เก่งกาจสุดของโลก

พวกเขาทำสำเร็จ, โดยทัพเรือ เรียกที่นั่นว่า โรงเรียนนักบินขับไล่

แต่บรรดาเสืออากาศ มักเรียกกัน ด้วยอีกชื่อว่า ...ท็อปกัน

ท็อปกัน ฟ้าเหนือฟ้า (1986)

นาวาเอก พีท มิทเชลล์, ผู้มีชื่อรหัสว่า มาเวอริค (Maverick) 

คือนักบินนาวิกโยธิน หนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยว ของทัพเรือสหรัฐฯ, มีนิสัยห้าวจัด ชอบขัดคำสั่ง ผู้บังคับบัญชา

ด้านเรื่องส่วนตัว ก็อาจถูกมองว่า เป็นบุคคลเจ้าปัญหา, อีกเช่นกัน

เพราะหมอนี่เจ้าชู้ แถมกล้าจีบเล่น แม้กระทั่งกับ, ผู้หญิงที่เป็นลูกสาว ของคนยศใหญ่ ระดับนายพล

อย่างไรซะ การบินกับมาเวอริค จัดว่าน่าสนุก, สำหรับเพื่อนซี้ ที่ชื่อนิค (กูส) แบรดชอว์

เจ้าหน้าที่สกัดกั้นเรดาร์ (Radar Intercept Officer) ผู้เป็นนักบินหลัง

ซึ่งกล้าฝากฝังชีวิต ไว้กับหนุ่มเจ้าสำราญ (มาเวอริค) จนจะเดือดร้อนทีหลัง

แม้ว่าฝั่งกูส, คือคนมีครอบครัว (ลูกชายที่ยังเด็ก กับเมีย) แล้ว ก็ตาม

ในภารกิจนึง ที่มาเวอริคกับกูส, ขับเครื่องเอฟ 14 ออกปฏิบัติการร่วมกับ 

เรือรบบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอสเอนเทอร์ไพรส์ ณ มหาสมุทรอินเดีย, เพื่อต่อต้าน เครื่องมิค 28 ฝ่ายศัตรู สองลำ

วิงแมน (ผู้ขับเครื่องบินลูกฝูง มีหน้าที่สนับสนุนคุ้มกัน เครื่องจ่าฝูง) ชื่อรหัสคูการ์ เกิดสติแตก

สถานการณ์ตึงเครียด ทำคูการ์ตัวสั่น, จนลงจอด (บนเรือ) เองไม่ได้

มาเวอริคเลย ขัดคำสั่ง ของผบ.ภารกิจ, เพื่อนำทาง วิงแมนของเขา แลนดิ้งลงเรือ อย่างปลอดภัย

คูการ์ขอลาออก ลาขาดจากอาชีพ นักบินขับไล่

ฝ่ายกูส กะมาเวอริค (ที่มีบทกล่าวว่า, เคยก่อปัญหา อย่างอื่น หลายรอบแล้ว) ถูกมองว่า เป็นพวกเหลือขอ

จึงโดนส่งไปอบรม (เรียน) เกี่ยวกับการบินใหม่ ที่ในโรงเรียน "ท็อปกัน" เพื่อลงโทษ

โดยหากนักบิน มีประสบการณ์รบ โชกโชนพอประมาณ แบบพวกเขา, ยังอุตส่าห์ เรียนไม่จบอีก

งานนี้รับประกันได้ว่า อนาคตเส้นทางอาชีพ สายขับเครื่องบินรบ, จบเห่แหง

มาเวอริค ปิ๊งกับพลเรือน ผู้รู้ด้านกลไก เครื่องบินข้าศึก, ซึ่งท็อปกัน เรียกตัวมาเป็น ผู้อบรมของโรงเรียน

เขาจีบคุณครูสาวสวย 'ชาร์ล็อต แบล็กวู้ด', ระหว่างขับเคี่ยวกับ นักเรียนคนอื่น (ด้านขับเครื่องบิน)

โดยเฉพาะกับ ตัวกลั่นของรุ่น ผู้ฝีมือสูสีกัน, อย่างเรือเอก ทอม (ไอซ์แมน) คาแซนสกี้

จนวันหนึ่ง ดีกรีความอยากเอาชนะ ระหว่าง 2 คนนี้, ได้พุ่งสูงชนิด ก่อให้เกิด อุบัติเหตุเลวร้ายขณะฝึก

ตอนไอซ์แมน พยายามล็อก เครื่องบินเป้าหมาย 

เพื่อทำการโจมตี ที่จะทำให้เขาเก็บคะแนน ได้มากพอ เป็นที่ 1 ของรุ่น

มาเวอริคไล่จี้ เครื่องของไอซ์แมน (รอไอซ์แมน พลาดโอกาส หรือหลีกทางซะ) ใกล้และนานเกินไป 

เมื่อเครื่องยนต์ของ ฝ่ายมาเวอริค (ที่ดัน ขัดข้องพอดี) ดับ

การไหลของอากาศ ด้านหลังเครื่องบิน ฝั่งไอซ์แมน, จึงดูดเครื่องบิน ของพระเอก จนปั่นป่วน

การพยายามดีดตัว ระหว่างเครื่องบินเหวี่ยงมั่ว ก็เกิดเรื่องผิดพลาด

กูสพร้อม เก้าอี้พลขับ, พุ่งชนฝาครอบที่นั่ง จนชีพดับ

มาเวอริค ผู้สูญเสียมิตรรัก, เสียกำลังใจหนัก ขนาดทำท่าจะ กลับไปบินไม่ไหว

แต่ผบ.ไมค์ (ไวเปอร์) ของท็อปกัน, เชื่อมั่นในตัว ลูกชายของอดีต เพื่อนร่วมรบ

ไวเปอร์เล่าถึง วีรกรรมของดุ๊ค มิทเชลล์ (พ่อมาเวอริค) 

ที่พลีชีพ อย่างผู้กล้า ณ ปี 1965 (ในสงครามเวียดนาม), แล้วผลักดันให้มาเวอริค ฮึดสู้ต่อ

พระเอกจึงอุตส่าห์ เรียนต่อจนจบ ได้ที่ 2 ของรุ่น (แพ้คะแนนไอซ์แมน)

และจากนั้นไม่ทันไร, เหล่านักเรียนจบใหม่ ก็ได้ ออกรบจริงร่วมกัน

พระเอกวาดลวดลาย ไว้แบบมีสีสัน, ผูกมิตรกับไอซ์แมน และคบกะชาร์ล็อต อย่างจริงจัง ...อวสาน (?)

ท็อปกัน: มาเวอริค (2022)

แม้ภาคแรก แฮปปี้เอนดิ้ง, ชวนคิดว่ามาเวอริค เลิกห้าวซ่าแบบจิ๊กโก๋

เติบโตขึ้น ในฐานะบุรุษ, และผันตัวสู่ 'ครูฝึก' ประจำท็อปกัน เต็มเวลา (ตามที่เจ้าตัวเคย พูดไว้ว่าอยากทำ)

แต่ปรากฏว่า เขาสอนได้แค่ 2 เดือน, ก่อนกลับไปทำตัว เป็นนักบิน จอมบ้าบิ่นชอบเสี่ยงตาย

ยาวนานร่วม 30 ปี, โดยไม่เคย เลื่อนตำแหน่ง และไม่ได้เกษียณ

แถมไม่มีลูกเมีย, เพราะแยกทางกับ ชาร์ล็อต (นอกจอ) เรียบร้อย

ขณะนี้มาเวอริค คือนักบินทดสอบ, ของโครงการผลิต เครื่องบินเร็วขั้นสุดยอด อันตั้งเป้าหมาย แถวมัค 10 

(อนึ่ง, แค่มัค 1 ก็หมายถึง ความเร็วประมาณ 1,200 กว่า ๆ กิโลเมตรต่อชั่วโมงละ)

ซึ่งกำลังจะโดน สั่งปิดโครงการ, โดยนายพลเคน ผู้เชื่อว่า อนาคตของกองทัพ (งบประมาณ)

ควรทุ่มเทฝากฝัง ไว้กับ อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ต่างหาก

เพื่อพิสูจน์ว่ามัค 10 ทำได้จริง, มาเวอริค ลองบินเร็วเท่านั้น 

ในวันที่เคย กำหนดว่า ควรทดสอบถึง เพียงมัค 9, ก่อนทำสำเร็จ

เรื่องมันอาจ ลงเอยดี (แต่เราอดดู Top Gun: Maverick) ถ้าเขาพอแค่นี้

ทว่าเขาเสี่ยงให้ โครงการวิจัยมัค 10 (ที่จุดนี้ ถือว่ารอดแล้ว) กลับไปพังพินาศ, ด้วยการลอง เร่งความเร็วเพิ่ม

ลูกบ้าของมาเวอริค ทำเครื่องบินทดสอบ ราคาโคตะระแพง, พังแหลก

เขาเกือบโดน ห้ามขึ้นบิน ตลอดชีวิต, หากไม่เพราะ มิตรแท้ ใช้เส้นช่วย

"ไอซ์แมน" ผบ.ฝูงบินแปซิฟิกสหรัฐฯ, ผู้ที่คิดว่า คนแบบมาเวอริค ยังจำเป็นต่อกองทัพ (มาตลอดกว่า 3 ทศวรรษ)

ยื่นมือเข้ามาสนับสนุน เป็นครั้งสุดท้าย, ก่อนจะจากไปตลอดกาล เพราะป่วยด้วยโรคมะเร็ง ระยะสุดท้าย

ไอซ์แมนส่งมาเวอริค สู่ 'ท็อปกัน' เพื่อว่าพระเอก จะได้ฝึก, เหล่านักบินเลือดใหม่ ผู้เก่งฉกาจ

ไปทำภารกิจพิเศษ, ยากชนิดที่กองทัพ มองว่าต้องพลีชีพ ตายเกลี้ยงแน่

เพราะเป้าหมายคือ ทิ้งระเบิดทำลาย โรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียม

ที่ตัวโรงงาน ตั้งอยู่ใน บังเกอร์ใต้ดิน ก้นหุบเขา, อันมีการรบกวนจีพีเอส (ระบบระบุตำแหน่ง)

มีเครือข่ายขีปนาวุธ ภาคพื้นสู่อากาศ, และมีเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 (เอาเป็นว่า มันรุ่นใหม่ละกัน) คอยคุ้มกันแน่นหนา

มีเพียงมาเวอริค ที่เชื่อว่าเหลือหนทาง บรรลุภารกิจ, โดยพวกนักบิน รอดกลับมา

คือทีมจู่โจมต้อง บินเลาะโตรกผา แสนเลี้ยวลดคดเคี้ยว

ทิ้งระเบิดใส่เป้า เล็กกระจิ๋วหลิว, โดน 2 ครั้งติด ชนิดไม่พลาด

จากนั้นไต่ระดับความสูง ขึ้นอย่างเฉียบพลัน, แม้นักบินเสี่ยงถูก แรงจี (แรงที่เกิดจาก แรงโน้มถ่วง) อัดใส่จนสลบ

แถมทั้งหมดเนี่ย ต้องทำให้เสร็จ และแม่นยำ, ภายในเวลาบีบคั้น เพียง 2 นาที 30 วินาที

มิหนำซ้ำ 1 ในเสืออากาศรุ่นใหม่, ดันมีแบรดลีย์ (รูสเตอร์) แบรดชอว์ด้วย

ลูกชายของกูส ยังเจ็บใจไม่หาย, ที่มาเวอริค ดึงเอกสารของเค้า ออกจากโรงเรียนนายเรือ

มาเวอริคทำเพื่อ รักษาสัญญา, กับมารดา (เมียกูส) ที่ขอไว้ ก่อนเธอตาย

อย่างไรซะลงท้าย รูสเตอร์ก็กลายเป็น นักบินรบเหมือนพ่อ อยู่ดี, แม้ต้องเสียเวลาไปหลายปี

มาเวอริคต้องเผชิญ ความกดดันหลายทาง, ทั้งความรู้สึกว่า ตัวเองมาสุดทาง (ฝ่าฝืนคำสั่งใคร ให้เสี่ยงโดนเด้ง ไม่ได้อีก)

ความกลัวที่จะสูญเสีย ลูกชายของ อดีตเพื่อนสนิท (กูส), 

ความกังวลว่าจะฝึกฝน สร้างทีมพิชิต ภารกิจดูเป็นไปไม่ได้ (ที่จะรอดมา) นี่, ได้ทันใน ไม่กี่สัปดาห์ไหม ?

แต่ขณะเดียวกัน ก็ได้พบรักครั้งใหม่ กับ "เพนนี" แม่ม่ายลูกติด (ลูกสาวชื่อเอมีเลีย) ซึ่งเป็นถ่านไฟเก่า ของเขา

เมื่อแผนที่ มาเวอริคเสนอ กำลังโดนยกเลิก, พระเอกเดิมพัน ครั้งสุดท้าย

โดยนำเครื่องบินรบ ขึ้นขับโชว์ด้วยตัวเอง (แม้ไม่ได้รับ อนุญาต, ถูกคาดโทษไว้)

เขาพิสูจน์ให้ผบ.โบ (ไซโคลน) ของท็อปกัน และคนอื่น ๆ ประจักษ์, ว่าเหนือฟ้า ยังมีฟ้า แผนนั่น สามารถทำได้จริง

ไซโคลนจึงยอมเดิมพัน หน้าที่การงาน ของตัวเอง, กับมาเวอริค

แต่งตั้งพระเอก เป็นหัวหน้าทีม ขับเครื่องบินจู่โจม มือพระกาฬ

ปรากฏว่าโรงงานบึ้ม, ทีมจู่โจมเกือบได้ บึ่งกลับ ชนิดรอดปลอดภัยทุกคน

แต่มาเวอริค ต้องสละตัวเอง, รับการโจมตีศัตรู เพื่อช่วยเครื่อง ของรูสเตอร์

ขณะที่คนอื่น ๆ เชื่อว่า มาเวอริคไม่รอด, ทีมจู่โจมที่เหลือ ถูกเรียกคืนฐาน (เรือรบ)

รูสเตอร์ เอาตามอย่าง อาจารย์และเพื่อนพ่อ, ฝ่าฝืนคำสั่ง บินวนกลับ ไปช่วยพระเอก

เครื่องของรูสเตอร์ ก็เลยตก, การจะสื่อสาร ติดต่อพรรคพวก ก็ทำไม่ได้

พวกเขาจึงขโมย เครื่องบินรบรุ่นเก่า ซึ่งศัตรูจอดทิ้งไว้ในฐาน, เผื่อใช้งานเวลา ต้องการกำลังเสริม

มาเวอริคกะรูสเตอร์ ขึ้นขับเอฟ 14, และต้องปะทะกับ เครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 จำนวนหลายลำ

มาเวอริคใช้ความเทพ สอยเครื่องรุ่นใหม่กว่า (มาก) ร่วงลงบ้าง

ก่อนรอดมา ในจังหวะที่ใกล้พ่าย, เพราะพวกพ้อง นักเรียนท็อปกัน บินวนกลับมาช่วย

มาเวอริคได้ ปรับความสัมพันธ์ กับรูสเตอร์, ลูกเพื่อนหันมา เคารพรักเขา ระดับที่ควร

ส่วนเรื่องระหว่าง เขากับถ่านไฟเก่า (เพนนี) เอง, ก็ไปได้ดี

...แต่เพราะความฮิต ของภาพยนตร์, นี่จึงยังคง ไม่ใช่บทอวสานของแท้ สำหรับมาเวอริค