จอร์จ ลูคัส ไม่ชอบ Force Awakens ที่ขาดความสดใหม่ และ The Last Jedi ก็ขัดใจแฟนๆ จำนวนมาก ฉะนั้นหลายคนคงอยากทราบว่าถ้าลูคัสทำเอง, ไตรภาคปิดท...
จอร์จ ลูคัส ไม่ชอบ Force Awakens ที่ขาดความสดใหม่ และ The Last Jedi ก็ขัดใจแฟนๆ จำนวนมาก
ฉะนั้นหลายคนคงอยากทราบว่าถ้าลูคัสทำเอง, ไตรภาคปิดท้ายมหากาพย์ของเขาจะเป็นแบบไหน
หากใครติดตามข่าวสารของแฟรนไชส์สงครามอวกาศมาอย่างต่อเนื่อง น่าจะเคยผ่านตามาบ้างเหมือนกัน
เรื่อง [ข่าวลือ] ต่างๆ เกี่ยวกับแผนการดั้งเดิมของจอร์จ ลูคัส/บิดาแห่งสตาร์วอร์ส
ในการผลิตภาพยนตร์ไตรภาคหลักชุดสุดท้าย (Episode VII-IX) ตามจินตนาการของเขา
ก่อนขายทั้งแฟรนไชส์พร้อมบริษัทของตัวเอง ให้กับค่ายหนังยักษ์ใหญ่อย่างดิสนีย์
แต่ข่าวลือทั้งหลายก็ยังเป็นเพียง 'ข่าวลือ' อยู่วันยันค่ำ เนื่องจากตัวจอร์จ ลูคัสเองนั้นค่อนข้างอมพะนำ
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม, ความจริงลูคัสไม่เคยยอมเล่าจินตนาการเดิมของเขา ให้ชาวบ้านรู้กันแบบยาวๆ, ชัดเจน และทั่วถึงเลยสักครั้ง
ตั้งแต่ตอนขายแฟรนไชส์เมื่อปี 2012 จนกระทั่งปัจจุบัน ซึ่งภาพยนตร์ภาค The Rise of Skywalker กำลังจะเข้าฉาย
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าเขามิยอมเปิดเผยสิ่งใดให้ทราบเลย, ครั้งหนึ่งลูคัสเคยเอ่ยถึงทิศทางคร่าวๆ ของไตรภาคหลักชุดสุดท้ายที่เขาวางแผนไว้
กับผู้กำกับชื่อดังอีกคน ที่ภาพยนตร์ภายใต้การกำกับของเขามักทำเงินถล่มทลาย 'เจมส์ คาเมรอน'
ถ้าลองพิจารณารายชื่อผลงานหนังของเจมส์ คาเมรอนดู
คุณคงรู้ว่าเขาชื่นชอบเรื่องแต่งแนวอิงวิทยาศาสตร์ (science fiction)
เพราะมันสะท้อนออกมาในผลงานอย่าง The Terminator, Aliens, The Abyss, Avatar แบบจะแจ้ง
และเมื่อปี 2018 รายการโทรทัศน์ของเขาชื่อ 'James Cameron’s Story of Science Fiction' ก็ออกอากาศทางช่อง AMC
ในรายการ คาเมรอนจะสัมภาษณ์ผู้สร้างภาพยนตร์แนวไซไฟ (science fiction) หลายคน และหลากหัวข้อ
เป็นต้นว่า เรื่องของชีวิตนอกโลก, การสำรวจอวกาศ, สัตว์ประหลาด, อนาคตแนวล่มสลาย, เครื่องจักรทรงปัญญา หรือการเดินทางข้ามเวลา
โดยแขกรับเชิญมีทั้งสตีเวน สปีลเบิร์ก, จอร์จ ลูคัส, ริดลีย์ สก็อตต์, กีเยร์โม เดล โตโร, คริสโตเฟอร์ โนแลน, อาร์โนลด์ ชวาเซเน็กเกอร์, วิล สมิธ และซิกัวร์นีย์ วีเวอร์
คาเมรอนยอมรับว่าจอร์จ ลูคัส เชิญตัวมาสัมภาษณ์ค่อนข้างยาก
"เขาบอกว่า 'ฉันไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก' ผมจึงบอก 'รู้น่า แต่นายต้องมาทำ
นายสมควรให้สัมภาษณ์ เพราะเป็นคนกำหนดนิยามที่ชัดเจนของวัฒนธรรมเกี่ยวกับไซไฟ
นายสร้างมันขึ้น นายจุดประกายทุกอย่าง และเราทุกคนยังเห็นผลที่ตามมาอยู่ แม้ผ่านมาร่วม 40 ปีแล้ว'"
ลูคัสคุยกับคาเมรอน นานประมาณ 3 ชั่วโมง
แต่บทสนทนาส่วนที่ลูคัสพูดถึงจินตนาการดั้งเดิมเกี่ยวกับสตาร์วอร์สภาค 7-9
กลับไม่ได้ผ่านขั้นตอนการตัดต่อมาเผยแพร่ในรายการซึ่งออกอากาศจริง (อ้าว!)
โชคยังดี, บทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม (ไม่มีตัด) ของรายการหลายตอน ถูกตีพิมพ์เป็นตัวอักษรลงหนังสือออกวางขายด้วย
ฉะนั้นเส้นทางดั้งเดิมที่จอร์จ ลูคัสเคยวางแผนไว้ ใน Star Wars: Episode 7-9 จึงถูกเผยแพร่ให้ผู้คนรับรู้จนได้ ดังนี้
ลูคัส: ทุกคนเกลียดตอนเราแนะนำมิดิ-คลอเรี่ยนส์ในภาค Phantom Menace
ทั้งที่ตัวหนังโดยรวมเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์เชิงชีวภาพ
มันบีบให้คุณมองเห็นและตระหนักว่าเรามิใช่ผู้อยู่จุดสูงสุดในระบบนิเวศน์
คาเมรอน: ในตัวเราก็มีระบบนิเวศน์เล็กๆ ของจุลินทรีย์ที่เรียกว่าไมโครไบโอม (microbiome) ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาค้นคว้า
ลูคัส: แต่เดิมหนังสตาร์วอร์สไตรภาคจะเล่นเรื่องโลกระดับจุลชีพ (microbiotic world) โลกของสิ่งมีชีวิตพวกนี้มีกลไกที่แตกต่างจากพวกเรา
ผมเรียกพวกมันว่าวิลส์ (Whills) และวิลส์คือผู้ควบคุมจักรวาลตัวจริง พวกมันกินพลัง (Force) เป็นอาหาร
คาเมรอน: นายสร้างศาสนาไว้ไม่ใช่รึ, จอร์จ
ลูคัส: ฉันเคยคิดจะเล่า ว่าสุดท้ายแล้วมันจะเป็นยังไง
หากเราเป็นแค่รถหรือพาหนะให้วิลส์ใช้ขับไปไหนต่อไหน...พวกเราเป็นแค่ภาชนะสำหรับพวกมัน
ส่วนมิดิ-คลอเรี่ยนส์คือราง, มิดิ-คลอเรี่ยนส์ ติดต่อสื่อสารกับวิลส์
หากมองแบบง่ายๆ วิลส์ก็คือพลัง
คาเมรอน: แต่นายมาใส่รายละเอียดทางวิทยาศาสตร์ เพื่ออธิบายแนวคิดอมตะจำพวก จิต, วิญญาณ, สวรรค์ เนี่ยนะ...
แล้วในโลกที่นายสร้าง พวกอะไรทำนองจิตวิญญาณหรือพระเจ้า มีที่มาจากไหนกัน
ลูคัส: ที่มาของสิ่งต่างๆ ล้วนเกี่ยวข้องกับพลัง, เจได และทุกๆ อย่าง
แนวคิดทั้งหมดของสิ่งที่เกิดขึ้น ถูกวางไว้โดยสมบูรณ์ตั้งแต่จุดเริ่มต้นถึงจุดจบ
แต่ฉันไม่เคยทำให้มันเสร็จ และฉันไม่เคยคิดจะบอกใครเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้
ถ้าฉันยังครองบริษัทอาจจะทำ มันอาจจะได้รับการบอกเล่า
แฟนๆ จำนวนมากต้องเกลียดมันแหง, เหมือนที่พวกเขารังเกียจ Phantom Menace และทุกอย่าง
แต่อย่างน้อยเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบจะได้รับการบอกเล่า
เท่ากับความเชื่อของพวกเจได เรื่องโชคลางหรือเหตุบังเอิญไม่มีจริงและ 'พลัง' คือสิ่งที่ชี้นำให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ นั้นคงถูกต้อง
แต่กลายเป็นลูคัสอยากเฉลย (หากเขาได้ทำหนังภาค 7-9) ว่า สิ่งมีชีวิตในโลกขนาดเล็กระดับจุลภาค คือผู้ชี้นำ
คือสิ่งที่คนในจักรวาลสตาร์วอร์สไม่เคยรู้จักก่อนหน้านั้น, ไม่ใช่พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ หรือสิ่งเร้นลับเหนือธรรมชาติใดๆ
แถมการต่อสู้ระหว่างแสงสว่างกับความมืด (เจไดกับซิธ), คำทำนายเรื่องผู้นำมาซึ่งสมดุลแห่งพลัง หรือการกำเนิดของอนาคิน สกายวอล์คเกอร์
ก็อาจเป็นเพียงผลลัพธ์จากการควบคุมผู้คน โดยสิ่งมีชีวิตกินพลังที่เรียกว่า 'วิลส์' เท่านั้น
เราไม่มีวันรู้ว่า ถ้าลูคัสได้ผลิต Episode VII-IX ตามแนวคิดดังกล่าวจริง มันจะทำรายได้แค่ไหน
แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าขืนสร้างหนังด้วยแนวคิดนี้ออกมา บรรดาแฟนคลับสตาร์วอร์สจะรังเกียจมันตามที่ลูคัสบอกไหม
ฉะนั้นหลายคนคงอยากทราบว่าถ้าลูคัสทำเอง, ไตรภาคปิดท้ายมหากาพย์ของเขาจะเป็นแบบไหน
หากใครติดตามข่าวสารของแฟรนไชส์สงครามอวกาศมาอย่างต่อเนื่อง น่าจะเคยผ่านตามาบ้างเหมือนกัน
เรื่อง [ข่าวลือ] ต่างๆ เกี่ยวกับแผนการดั้งเดิมของจอร์จ ลูคัส/บิดาแห่งสตาร์วอร์ส
ในการผลิตภาพยนตร์ไตรภาคหลักชุดสุดท้าย (Episode VII-IX) ตามจินตนาการของเขา
ก่อนขายทั้งแฟรนไชส์พร้อมบริษัทของตัวเอง ให้กับค่ายหนังยักษ์ใหญ่อย่างดิสนีย์
แต่ข่าวลือทั้งหลายก็ยังเป็นเพียง 'ข่าวลือ' อยู่วันยันค่ำ เนื่องจากตัวจอร์จ ลูคัสเองนั้นค่อนข้างอมพะนำ
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม, ความจริงลูคัสไม่เคยยอมเล่าจินตนาการเดิมของเขา ให้ชาวบ้านรู้กันแบบยาวๆ, ชัดเจน และทั่วถึงเลยสักครั้ง
ตั้งแต่ตอนขายแฟรนไชส์เมื่อปี 2012 จนกระทั่งปัจจุบัน ซึ่งภาพยนตร์ภาค The Rise of Skywalker กำลังจะเข้าฉาย
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าเขามิยอมเปิดเผยสิ่งใดให้ทราบเลย, ครั้งหนึ่งลูคัสเคยเอ่ยถึงทิศทางคร่าวๆ ของไตรภาคหลักชุดสุดท้ายที่เขาวางแผนไว้
กับผู้กำกับชื่อดังอีกคน ที่ภาพยนตร์ภายใต้การกำกับของเขามักทำเงินถล่มทลาย 'เจมส์ คาเมรอน'
ถ้าลองพิจารณารายชื่อผลงานหนังของเจมส์ คาเมรอนดู
คุณคงรู้ว่าเขาชื่นชอบเรื่องแต่งแนวอิงวิทยาศาสตร์ (science fiction)
เพราะมันสะท้อนออกมาในผลงานอย่าง The Terminator, Aliens, The Abyss, Avatar แบบจะแจ้ง
และเมื่อปี 2018 รายการโทรทัศน์ของเขาชื่อ 'James Cameron’s Story of Science Fiction' ก็ออกอากาศทางช่อง AMC
ในรายการ คาเมรอนจะสัมภาษณ์ผู้สร้างภาพยนตร์แนวไซไฟ (science fiction) หลายคน และหลากหัวข้อ
เป็นต้นว่า เรื่องของชีวิตนอกโลก, การสำรวจอวกาศ, สัตว์ประหลาด, อนาคตแนวล่มสลาย, เครื่องจักรทรงปัญญา หรือการเดินทางข้ามเวลา
โดยแขกรับเชิญมีทั้งสตีเวน สปีลเบิร์ก, จอร์จ ลูคัส, ริดลีย์ สก็อตต์, กีเยร์โม เดล โตโร, คริสโตเฟอร์ โนแลน, อาร์โนลด์ ชวาเซเน็กเกอร์, วิล สมิธ และซิกัวร์นีย์ วีเวอร์
คาเมรอนยอมรับว่าจอร์จ ลูคัส เชิญตัวมาสัมภาษณ์ค่อนข้างยาก
"เขาบอกว่า 'ฉันไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก' ผมจึงบอก 'รู้น่า แต่นายต้องมาทำ
นายสมควรให้สัมภาษณ์ เพราะเป็นคนกำหนดนิยามที่ชัดเจนของวัฒนธรรมเกี่ยวกับไซไฟ
นายสร้างมันขึ้น นายจุดประกายทุกอย่าง และเราทุกคนยังเห็นผลที่ตามมาอยู่ แม้ผ่านมาร่วม 40 ปีแล้ว'"
ลูคัสคุยกับคาเมรอน นานประมาณ 3 ชั่วโมง
แต่บทสนทนาส่วนที่ลูคัสพูดถึงจินตนาการดั้งเดิมเกี่ยวกับสตาร์วอร์สภาค 7-9
กลับไม่ได้ผ่านขั้นตอนการตัดต่อมาเผยแพร่ในรายการซึ่งออกอากาศจริง (อ้าว!)
โชคยังดี, บทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม (ไม่มีตัด) ของรายการหลายตอน ถูกตีพิมพ์เป็นตัวอักษรลงหนังสือออกวางขายด้วย
ฉะนั้นเส้นทางดั้งเดิมที่จอร์จ ลูคัสเคยวางแผนไว้ ใน Star Wars: Episode 7-9 จึงถูกเผยแพร่ให้ผู้คนรับรู้จนได้ ดังนี้
----------------
ลูคัส: ทุกคนเกลียดตอนเราแนะนำมิดิ-คลอเรี่ยนส์ในภาค Phantom Menace
ทั้งที่ตัวหนังโดยรวมเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์เชิงชีวภาพ
มันบีบให้คุณมองเห็นและตระหนักว่าเรามิใช่ผู้อยู่จุดสูงสุดในระบบนิเวศน์
คาเมรอน: ในตัวเราก็มีระบบนิเวศน์เล็กๆ ของจุลินทรีย์ที่เรียกว่าไมโครไบโอม (microbiome) ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาค้นคว้า
ลูคัส: แต่เดิมหนังสตาร์วอร์สไตรภาคจะเล่นเรื่องโลกระดับจุลชีพ (microbiotic world) โลกของสิ่งมีชีวิตพวกนี้มีกลไกที่แตกต่างจากพวกเรา
ผมเรียกพวกมันว่าวิลส์ (Whills) และวิลส์คือผู้ควบคุมจักรวาลตัวจริง พวกมันกินพลัง (Force) เป็นอาหาร
คาเมรอน: นายสร้างศาสนาไว้ไม่ใช่รึ, จอร์จ
ลูคัส: ฉันเคยคิดจะเล่า ว่าสุดท้ายแล้วมันจะเป็นยังไง
หากเราเป็นแค่รถหรือพาหนะให้วิลส์ใช้ขับไปไหนต่อไหน...พวกเราเป็นแค่ภาชนะสำหรับพวกมัน
ส่วนมิดิ-คลอเรี่ยนส์คือราง, มิดิ-คลอเรี่ยนส์ ติดต่อสื่อสารกับวิลส์
หากมองแบบง่ายๆ วิลส์ก็คือพลัง
คาเมรอน: แต่นายมาใส่รายละเอียดทางวิทยาศาสตร์ เพื่ออธิบายแนวคิดอมตะจำพวก จิต, วิญญาณ, สวรรค์ เนี่ยนะ...
แล้วในโลกที่นายสร้าง พวกอะไรทำนองจิตวิญญาณหรือพระเจ้า มีที่มาจากไหนกัน
ลูคัส: ที่มาของสิ่งต่างๆ ล้วนเกี่ยวข้องกับพลัง, เจได และทุกๆ อย่าง
แนวคิดทั้งหมดของสิ่งที่เกิดขึ้น ถูกวางไว้โดยสมบูรณ์ตั้งแต่จุดเริ่มต้นถึงจุดจบ
แต่ฉันไม่เคยทำให้มันเสร็จ และฉันไม่เคยคิดจะบอกใครเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้
ถ้าฉันยังครองบริษัทอาจจะทำ มันอาจจะได้รับการบอกเล่า
แฟนๆ จำนวนมากต้องเกลียดมันแหง, เหมือนที่พวกเขารังเกียจ Phantom Menace และทุกอย่าง
แต่อย่างน้อยเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบจะได้รับการบอกเล่า
----------------
เท่ากับความเชื่อของพวกเจได เรื่องโชคลางหรือเหตุบังเอิญไม่มีจริงและ 'พลัง' คือสิ่งที่ชี้นำให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ นั้นคงถูกต้อง
แต่กลายเป็นลูคัสอยากเฉลย (หากเขาได้ทำหนังภาค 7-9) ว่า สิ่งมีชีวิตในโลกขนาดเล็กระดับจุลภาค คือผู้ชี้นำ
คือสิ่งที่คนในจักรวาลสตาร์วอร์สไม่เคยรู้จักก่อนหน้านั้น, ไม่ใช่พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ หรือสิ่งเร้นลับเหนือธรรมชาติใดๆ
แถมการต่อสู้ระหว่างแสงสว่างกับความมืด (เจไดกับซิธ), คำทำนายเรื่องผู้นำมาซึ่งสมดุลแห่งพลัง หรือการกำเนิดของอนาคิน สกายวอล์คเกอร์
ก็อาจเป็นเพียงผลลัพธ์จากการควบคุมผู้คน โดยสิ่งมีชีวิตกินพลังที่เรียกว่า 'วิลส์' เท่านั้น
เราไม่มีวันรู้ว่า ถ้าลูคัสได้ผลิต Episode VII-IX ตามแนวคิดดังกล่าวจริง มันจะทำรายได้แค่ไหน
แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าขืนสร้างหนังด้วยแนวคิดนี้ออกมา บรรดาแฟนคลับสตาร์วอร์สจะรังเกียจมันตามที่ลูคัสบอกไหม
ที่มา
https://io9.gizmodo.com/george-lucas-ideas-for-his-own-star-wars-sequel-trilogy-1826798496
https://io9.gizmodo.com/james-camerons-new-tv-show-explores-science-fiction-thr-1825658100
COMMENTS