***บทสัมภาษณ์เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของ Endgame กับ Far From Home ขอแนะนำให้รับชมทั้งสองเรื่องก่อนอ่าน*** "เกิดอะไรขึ้นกับ 'ผึ้ง&...
***บทสัมภาษณ์เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของ Endgame กับ Far From Home ขอแนะนำให้รับชมทั้งสองเรื่องก่อนอ่าน***
"เกิดอะไรขึ้นกับ 'ผึ้ง' ระหว่างเหตุการณ์ดีดนิ้วครั้งเดียวเสียวทั้งจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ?"
เอริค ซอมเมอร์ส และคริส แม็กเคนนา/ผู้เขียนบท 2 คนของภาพยนตร์ Spider-Man: Far From Home โยนคำถามสุดสำคัญนี้ใส่มาร์เวลสตูดิโอ ตอนที่ทั้งคู่ผลิตหนังไอ้แมงมุมภาคล่าสุด
แต่เท่านั้นไม่พอ, พวกเขายังต้องแบกความลับเรื่องโทนี่ สตาร์คตาย กับรับมือผลกระทบจากเหตุการณ์ตอนจบของ Endgame เป็นเวลานานกว่าผู้คนส่วนใหญ่
เพื่อเอามันไปเล่าผ่านมุมมองของเหล่าเด็กนักเรียนมัธยมอีก
แล้วพวกเขาทำมันสำเร็จได้อย่างไร ? Variety สัมภาษณ์ทีมเขียนบทแบบไม่เกรงใจเรื่องสปอยล์
ซึ่งพวกเขาไม่ยอมตอบว่านิค ฟิวรี่ไปทำอะไรบนอวกาศ และเซ็นสัญญาเขียนบทหนังไอ้แมงมุมภาค 3 ไว้หรือยัง ?
แต่อย่างน้อยก็ยอมเปิดอกคุยเรื่อง 'หนวด' ของเจค จิลเลนฮาลอยู่
เอริค ซอมเมอร์ส (ซ้าย), คริส แม็กเคนนา (ขวา)
พวกคุณใส่เรื่องการบลิป (the blip) ลงใน Spider-Man: Far From Home ได้ยังไง ?
แม็กเคนนา: ทีมงานประสานงานกันเต็มที่ตอนผลิตหนัง เราไปนั่งร่วมห้องกับผู้กำกับจอน วัตส์, คนของมาร์เวล และเอมี่ ปาสคาล (ผู้ดูแลหนังสไปเดอร์แมนให้โซนี่เวลาดังกล่าว)
พวกเราถูกแจ้งให้ทราบถึงเหตุการณ์ใหญ่ๆ ที่จะเกิดขึ้นใน Endgame และต้องขบคิดกันว่าจะตอบสนองอย่างไร
กลายเป็นประจักษ์พยานรับรู้เรื่องช่วงเวลา 5 ปีที่ผันผ่าน กับอะไรต่างๆ ทั้งหมดที่เหลือก่อนใครๆ
เลยต้องหาทางจัดการเรื่องใหญ่ 2 อย่าง (บลิปกับโทนี่) แล้วเดินหน้าต่อให้ได้
โดยไม่ลืมทำให้หนังสนุกสนานมากสุดเท่าที่ไหว เพื่อให้มันไม่น้อยหน้า Endgame
ป้าเมย์เรี่ยไรเงินเพื่อช่วยคนประสบปัญหาเรื่องบ้านหลังการบลิปคืออะไรที่น่าสนใจ
ในฐานะคนเขียนบท พวกคุณมีอะไรเกี่ยวกับการบลิปที่คาใจเป็นพิเศษบ้างมั้ย ?
ซอมเมอร์ส: ตอนใช้เวลาหารือหลายอย่างนานๆ ในห้องประชุมกับทีมงาน
เรื่องที่เราหยิบมาพูดถึงบ่อยๆ คือ "สมมติคุณอยู่บนเครื่องบิน ถ้าบลิปกลับมาเครื่องบินย่อมไม่อยู่จุดเดิม เท่ากับบลิปกลับมาตรงกลางท้องฟ้าดื้อๆ เลยใช่ไหม ?
แล้วชีวิตครึ่งจักรวาลนี่ยังไง ? รวมหมากับแมวหรือไม่ ? รวมผึ้งด้วยหรือเปล่า ? ถ้าใช่ ชีวิตผึ้งก็น่าสงสารแย่สิ" เราจี้ลงไปถึงกระทั่งรายละเอียดเล็กน้อยพวกนั้น
ทางมาร์เวลตอบเรื่องเครื่องบินว่าไง ?
แม็กเคนนา: บรูซ แบนเนอร์นำทุกคนกลับมาโดยคำนึงถึงเรื่องดังกล่าวล่วงหน้า
ทุกคนจึงกลับมาแบบปลอดภัยสมความปรารถนาเขา เราไม่ต้องกังวลเรื่องคนจะหล่นจากบนฟ้าหรอก
เรื่องผึ้งละ ?
แม็กเคนนา: ผึ้งปลอดภัยด้วย พวกมันจะกลับมาตรงรังผึ้งของตัวเองกัน
พวกสัตว์ชนิดอื่นๆ ก็หายไปก่อนบลิปกลับที่ด้วยสินะ
แม็กเคนนา: ชีวิตทุกรูปแบบ แม้กระทั่งแบคทีเรียในระบบย่อยอาหารของคุณ
เราเคยคิดอยู่นะ ว่าถ้าหยิบเอาเรื่องระบบย่อยอาหารของผู้คนปั่นป่วนเพราะการลบชีวิตครึ่งจักรวาลมาเล่นได้คงดี
เพราะปีเตอร์เป็นฮีโร่แนวสามัญชน, เราอยากมองหาความเป็นไปได้ทุกอย่างเกี่ยวกับชีวิตคนที่เรียนมัธยม จึงพยายามขุดลึกลงสู่ทุกสิ่ง
แต่การเล่นกับผลลัพธ์ของเหตุสะเทือนอวกาศทั้งหลาย มันก็ต้องทั้งสนุกและสมจริงดูจับต้องได้ด้วยน่ะนะ
ภาพยนตร์มีทั้งทฤษฎีสมคบคิด, การโกง และการต้มตุ๋น เต็มไปหมด
ทำไมพวกคุณเจาะจงให้เรื่องราวมีองค์ประกอบพวกนี้เยอะจัง ?
ซอมเมอร์ส: ตอนทีมงานตัดสินใจใช้มิสเทริโอชัวร์แล้ว ก็นึกถึงการหลอกลวงตามแบบฉบับของตัวละครนี้กัน มันดูสมเหตุสมผลทันทีที่จะพาเรื่องราวไปทางนั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปีเตอร์เองก็--คล้ายๆ จะ--โกหกตัวเอง ว่าไม่ต้องการก้าวออกมาเผชิญหน้าความเป็นจริง
จึงทำให้รู้สึกว่าการโกหกหลอกลวง (ทั้งต่อตัวเองและผู้อื่น) ของตัวละคร มันเข้ามามีบทบาทต่อทุกเรื่องในหนังอย่างเป็นธรรมชาติ
พวกคุณใช้วิธีไหนผลิตตัวละครแบบมิสเทริโอ ร่วมกับเจค จิลเลนฮาล ?
สร้างตัวละครที่บุคลิกคล้ายจิลเลนฮาลขึ้นมา แล้วเขากลายเป็นคนที่ใช่ทีหลัง
หรือกะจะเลือกจิลเลนฮาลมาเล่น เลยสร้างตัวละครที่คล้ายตัวจริงของเขา
แม็กเคนนา: ระหว่างเราพัฒนาบทร่วมกับจอน วัตส์ และผู้อำนวยการสร้างหนังอย่างยาวนานและยากลำบาก ก็เกิดโชคดีพอจะได้ตัวเจคเข้า
เจคเสนอแนวคิดของตัวเองที่จะให้มิสเทริโอดูอบอุ่นน่าพึ่งพาอาศัยมา และพวกเราเห็นว่าพัฒนาตัวละครสู่อีกขีดขั้นได้อย่างยอดเยี่ยม
จึงปิดห้องคุยกับเจคอีกหลายครั้ง และจินตนาการถึงฉากต่างๆ ร่วมกัน
ไอเดียเกี่ยวกับมิสเทริโอที่จิลเลนฮาลเสนอมา เพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงอะไรจากที่พวกคุณเคยคิดไว้บ้าง ?
ซอมเมอร์ส: เจคเสนอให้มิสเทริโอใช้ประโยชน์จากความรักและความต้องการซุปเปอร์ฮีโร่ของผู้คน
เจคพยายามทำให้แน่ใจว่าตัวละครของเขาดูน่าเชื่อถืออย่างมากในช่วงครึ่งแรกของหนัง
เราพยายามทำให้ทุกคนเชื่อว่าสิ่งที่เห็นคือสิ่งที่เป็น
เราตั้งใจนำเสนอรายละเอียดทุกอย่างให้เหมือนมิสเทริโอเป็นชายที่เคยผ่านเรื่องเลวร้ายมา
ให้เหมือนเขาต้องจำใจรับมือกับสถานการณ์เหลือเชื่อ โดยเหลือเวลาก่อนวิกฤติอีกไม่มาก
แม็กเคนนา: เขาเสนอหนวด! เขาอยากได้หนวด และมันก็เป๊ะทีเดียว เขาคือนักแสดงที่รู้ดีว่าองค์ประกอบทำนองนี้จะเข้าท่าหรือไม่
เราต้องการชายผู้มีเสน่ห์ดึงดูดใจ, ลักษณะคล้ายพ่อคน มาแทนที่โทนี่ สตาร์ค เจครู้ชัดว่าควรมีลักษณะแบบไหน
ดังนั้นไม่ว่าคุณจะพิจารณาหนวดหรือนิสัย ก็ต้องคิดในใจว่า "โอ้! อยากให้เค้ามาเป็นพ่อคนใหม่จัง"
ทั้งมิสเทริโอและวัลเจอร์ในภาค Homecoming เป็นตัวละครที่คนเคยอ่านการ์ตูนจะรู้กัน ว่าดูเผินๆ ไม่น่าเอามาใส่ในหนังได้
แต่วัลเจอร์ก็กลายเป็นผู้ใช้แรงงานซึ่งพยายามทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว
ส่วนมิสเทริโอกลายเป็นชายผู้เคยทำงานด้านเทคโนโลยี
พวกคุณหาทางเปลี่ยนตัวละครสุดโต่ง แบบอาชญากรเต็มเวลาที่ติดปีกให้ตัวเอง กับอดีตนักแสดงตกอับที่เชี่ยวเรื่องเทคนิคพิเศษสำหรับทำหนัง
มาเป็นตัวละครอันดูน่าเชื่อว่าอาจมีจริงในยุคปัจจุบันได้อย่างไร ?
ซอมเมอร์ส: เรื่องราวของวายร้ายคือความท้าทาย...การเปลี่ยนตัวละครสุดโต่งอย่างที่คุณว่ามา ให้จับต้องได้และเหมาะสมกับ MCU คือความท้าทายสำหรับพวกเราเสมอ
เราใช้เวลามากมายในห้องไร้หน้าต่าง ร่วมกับจอน วัตส์, คนของมาร์เวล และเอมี่ ปาสคาล ถกกันในห้องประชุมเกี่ยวกับเรื่องโน่นนี่นั่น, คิดหารูปแบบต่างๆ อย่างหลากหลาย และคอยมองหาแรงบันดาลใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
มีแต่ต้องหารือและพยายามมองหาความเป็นไปได้ให้มากที่สุด จนกว่าจะเจอสิ่งที่เข้าท่าเท่านั้น
แม็กเคนนา: การเลือกนักแสดงมีอิทธิพลกว่า 90% คนแบบไมเคิล คีตัน (วัลเจอร์) หรือเจคช่วยได้เยอะ คุณจะเชื่อทุกสิ่งที่พวกเขาพูดได้ง่ายๆ เลย
ผมไม่ชอบย้ำหัวตะปูแต่ขอพูดถึงหนวดอีกสักที เจคให้เหตุผลที่ดีมากว่า "หมอนี่ควรเป็นทหารจากต่างโลก เขาย่อมไม่เสียเวลาหาซื้อครีมมาทาแล้วใช้ใบมีดโกนหนวดให้เกลี้ยงเกลา" พวกเราจึงได้แค่ยอมรับความเห็นเขาแบบไม่มีทางเลี่ยง
สิ่งที่ผู้คนฮือฮาในโลกออนไลน์คือการกลับมาของเจ.เค.ซิมมอนส์ ช่วยบอกหน่อยว่าฉากนี้มีที่มายังไง ?
แม็กเคนนา: เมื่อเราตระหนักว่าข่าวสารจะมีบทบาทสำคัญต่อเรื่องราวในหนังแค่ไหน
ก็อยากเล่นกับไอเดียที่จะให้มิสเทริโอต้มตุ๋นครั้งสุดท้ายแบบเซอร์ไพรส์ในตอนจบ
ตอนนั้นมันชัดเจนนักว่าควรใช้ตัวละคร เจ. โจนาห์ เจมิสัน
ซึ่งมันไม่มีทางหาคนดีกว่าผู้รับบทเดิมได้ง่ายๆ ฉะนั้นเราจึงคิดว่าควรเรียกตัวเจ.เค.ซิมมอนส์
ตอนเขียนบทเจาะจงว่าต้องเป็นเจ.เค.ซิมมอนส์ เลยไหม ? เล็งนักแสดงคนอื่นเป็นตัวเลือกสำรองไว้บ้างมั้ย ?
ซอมเมอร์ส: ไม่ครับ, ไอเดียนี้มันชัดเจนตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของการทำงาน
เราต้องการซิมมอนส์เท่านั้น รายละเอียดอื่นที่คุยกันมีแค่จะให้ปรากฏตัวลักษณะไหน ? บุคลิกแบบเดิมเป๊ะมั้ย ?
เราตัดสินใจใช้บุคลิกตัวละครแบบเดิม เพราะผู้คนจะตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงของสื่อและยุคสมัยที่พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ได้มากกว่า
เหล่าสกรัลล์ที่ปรากฏตัวช่วงท้ายเรื่องจะมีบทบาทต่ออนาคตของจักรวาลมาร์เวลอย่างไร พอบอกให้ทราบล่วงหน้าบ้างได้ไหม ?
ซอมเมอร์ส: เราไม่รู้อะไรเลย...
แม็กเคนนา: เราแค่ทำงานส่วนของตัวเองเพื่อรับใช้มาร์เวล
ไม่ทราบหรอกว่าพวกเขาต้องการอะไร หรือต้องการไปทำไม
พวกเขาไม่ยอมให้เราดูเมนูอาหารกลางวันล่วงหน้าด้วยซ้ำ
เลือกอาหารกลางวันไม่ได้เหรอ ?
แม็กเคนนา: ช่าย, เราปิดตากินอาหารกลางวันกัน นั่นแหละวิธีทำงานสไตล์เควิน ไฟกี
ที่มา: variety
COMMENTS