บทความนี้คือการเรียบเรียงไทม์ไลน์ของ จักรวาลทรานส์ฟอร์เมอร์ส (ทั้งคอมมิคและหนัง แบบจับมาขยำรวมกัน) ในยุคที่พวกหุ่นเปิดเผยตัวตน ต่อเหล่ามนุษ...
บทความนี้คือการเรียบเรียงไทม์ไลน์ของ จักรวาลทรานส์ฟอร์เมอร์ส (ทั้งคอมมิคและหนัง แบบจับมาขยำรวมกัน)
ในยุคที่พวกหุ่นเปิดเผยตัวตน ต่อเหล่ามนุษยชาติ
ปี 2007 ดีเซปติคอนส์/แบล็คเอาท์ โจมตีฐานทัพทหารของกองทัพสหรัฐอเมริกาเพื่อแฮ็คฐานข้อมูลกองทัพ หวังล่วงรู้ตำแหน่งเมกาตรอน+ออลสปาร์คแล้วประสบความล้มเหลว
เพื่อปกป้อง 'แซม วิทวิคกี้' ทายาทของอาชิบัลด์ที่ครอบครองแว่นตาระบุพิกัดออลสปาร์คอยู่
บัมเบิลบีจำแลงร่างเป็นรถเชฟโรเลต คามาโรสีเหลือง จอดปะปนกับรถมือสองคันอื่นๆ ตอนแซมมีโอกาสเลือกซื้อรถคันแรกในชีวิตขับ
และดึงดูดความสนใจแซม จนเขาตัดสินใจซื้อบัมเบิลบีขับกลับบ้าน
แซมกับสาวที่เขาหมายตา/มิเกลา โดนดีเซปติคอนส์จู่โจมตามคาด
บัมเบิลบีจึงเรียกรวมพลออพติมัสไพรม์ กับเหล่าออโตบอทส์ตนอื่นๆ และเปิดเผยร่างจริงเข้าปกป้องทั้งสองคน
แซม, มิเกลา กับพวกออโตบอทส์ เดินทางสู่บ้านแซมเอาแว่นตา
และได้พบซีมัวร์ ซิมมอนส์ กับชาวคณะเซคเตอร์เซเว่นเข้า
สุดท้ายทั้งหมดมุ่งหน้าสู่เขื่อนฮูเวอร์ที่ออลสปาร์ค+เมกาตรอนพำนัก
โดยหารู้ไม่ว่าพลอยทำให้กลุ่มดีเซปติคอนส์ซึ่งคอยตามการเคลื่อนไหวของพวกเขาบรรลุเป้าหมายสตาร์สครีมนำทัพดีเซปติคอนส์บุกเขื่อนชิงออลสปาร์ค+ปลุกเมกาตรอนจากการหลับใหล
ออโตบอทส์และเหล่ามนุษย์ร่วมมือกันพาออลสปาร์คหนี+ต้านรับการโจมตีไปพร้อมกัน
ชักนำสู่การต่อสู้ตะลุมบอนกลางเมืองมิชชั่น(Mission City) ที่แซมยัดลูกบาศก์ออลสปาร์คใส่หน้าอกเมกาตรอนฆ่าเขา ทำให้เหลือเพียงเศษลูกบาศก์ชิ้นเล็กๆ กลุ่มดีเซปติคอนส์เลยถอยทัพกลับ
หลังจากนั้นดีเซปติคอนส์ยังคงก่อกวนมนุษย์โลก+ล่าออโตบอทส์เรื่อยๆ
ผลักดันให้ออโตบอทส์กับทัพทหารชาวมนุษย์จับมือกัน ตั้งหน่วยร่วมต้านชีวจักรกลต่างดาวขึ้น (Non-biological Extraterrestrial Species Treaty = NEST)
ส่วนเซคเตอร์เซเว่นถูกมองว่าไร้ประสิทธิภาพ (ปกปิดเรื่องทรานส์ฟอร์เมอร์สไม่ไหว คุมสถานการณ์ไม่ได้จนเกิดการตะลุมบอนกลางเมือง) โดนยุบองค์กร
ปี 2009 ซาวด์เวฟแฮ็คดาวเทียมทหาร ดักฟังการสนทนาระหว่างออโตบอทส์กับมนุษย์ สืบทราบที่อยู่ศพเมกาตรอนและเศษออลสปาร์คที่ทหารเก็บไว้
ทัพดีเซปติคอนส์จึงขโมยเศษออลสปาร์คไปใช้คืนชีพเมกาตรอนขึ้นมาสำเร็จ
ด้านแซม/หนุ่มมหาวิทยาลัย บังเอิญสัมผัสเศษออลสปาร์คอีกชิ้นอันติดอยู่ในเสื้อตัวเก่า
ข้อมูลภาษาต่างดาวเกี่ยวกับไซเบอร์ตรอนเลยหลั่งไหลเข้าสมอง
หลังคืนชีพไม่นาน เมกาตรอนบินออกนอกอวกาศไปพบฟอลเล่นแถวดวงจันทร์ของดาวเสาร์ และได้รับการแนะนำให้จับเป็นแซม
ลวงออพติมัสไพรม์/ทรานส์ฟอร์เมอร์สตนเดียวผู้โค่นฟอลเล่นไหวออกมาสังหาร
ออพติมัสติดกับดักตามคาดโดนเมกาตรอนฆ่าตาย
แซม, มิเกลา และผองเพื่อนเลยขอคำชี้แนะจากซีมัวร์ ซิมมอนส์
ซีมัวร์นำพวกเขาไปปลุกเจ็ทไฟร์ในพิพิธภัณฑ์ด้วยเศษออลสปาร์ค
เจ็ทไฟร์วาร์ปพาทุกคนสู่อียิปต์ เล่าเรื่องเครื่องเก็บเกี่ยวดาว, ฟอลเล่น, เมทริกซ์ผู้นำให้ฟัง
และช่วยแซมไขปริศนาภาษาต่างดาว จนเจอเมทริกซ์อันซ่อนอยู่ในวิหารหินของนครเปตรา
ทว่าสิ่งที่น่าจะใช้คืนชีพออพติมัสได้ กลับสลายกลายเป็นฝุ่นผงคามือ
แซมไม่ยอมสิ้นหวัง โกยฝุ่นเมทริกซ์ใส่ถุงเท้า วิ่งฝ่าทัพดีเซปติคอนส์แสนร้ายกาจ
มุ่งหน้าหาศพออพติมัสไพรม์ที่เขาบอกให้หน่วย NEST นำมา
ดีเซปติคอนส์ประกอบร่างขนาดใหญ่/ดีวาสเตเตอร์ บุกทำลายพีระมิดเพื่อใช้เครื่องเก็บเกี่ยวดาวข้างใน
แต่โดนอาวุธพิเศษของกองทัพ(railgun-เรลกัน) ที่ซีมัวร์เรียกใช้ยิงปลิดชีวิน
ส่วนแซมเกือบถึงร่างไร้ชีวิตของออพติมัส แต่ถูกเมกาตรอนเล่นงานตายก่อน
ส่งผลให้แซมได้ติดต่อกับวิญญาณเหล่าไพรม์ในโลกหลังความตาย
เหล่าไพรม์ชื่นชมความเสียสละคืนชีพแซม
เมทริกซ์คืนสภาพจากฝุ่นผง และแซมก็ใช้มันชุบชีวิตออพติมัส
ฟอลเล่นโผล่มาชิงเมทริกซ์ไปเดินเครื่องเก็บเกี่ยวดาว
เจ็ทไฟร์สละชีวีตัวเองเพิ่มพลังออพติมัส
ออพติมัสจัดให้ไม่ผิดหวัง สังหารฟอลเล่นและทำลายเครื่องเก็บเกี่ยว
ยุคหลังปี 2009
เหตุการณ์ในศึกฟอลเล่นเปิดเผยเรื่องทรานส์ฟอร์เมอร์สต่อสาธารณชน
และเมื่อชาวโลกรู้จักจักรกลแปลงร่างต่างดาว กลุ่มออโตบอทส์จึงมิได้เพียงสู้ศึกของเผ่าพันธุ์ตนอีกต่อไป แต่ร่วมช่วยกองทัพสหรัฐฯ ขจัดความวุ่นวายต่างๆ ระหว่างมนุษย์ทั่วโลกเพิ่มเติมด้วย
แซมได้รับเหรียญเชิดชูวีรกรรมจากประธานาธิบดีสหรัฐ/บารัค โอบามา, เลิกรากับมิเกลาแฟนเขา และเจอสาวสวยชื่อคาร์ลีในทำเนียบขาว
ซีมัวร์ ซิมมอนส์ ร่ำรวย+ชื่อเสียงโด่งดัง เพราะหนังสือบอกเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับทรานส์ฟอร์เมอร์สของเขาฮิตติดตลาด
ขณะออพติมัสไพรม์ตรวจสอบข่าวคราวเทคโนโลยีต่างดาวน่าสงสัยแถวเชอร์โนบิลร่วมกับทหารมนุษย์ ก็โดนช็อคเวฟ+ดริลเลอร์/หนอนจักรกลจู่โจมแล้วเผ่นหนี โดยทิ้งเทคโนโลยีจากยานอาร์คไว้
นำพาให้ออโตบอทส์ทราบเรื่องยานอาร์คบนดวงจันทร์
พวกเขาทำการเก็บกู้แท่งเสาบางส่วนพร้อมร่างเซนทิเนลไพรม์มาโลก
ก่อนออพติมัสใช้เมทริกซ์ผู้นำชุบชีวิตเซนทิเนลไพรม์
แซม วิทวิคกี้ผู้เรียนจบมหาวิทยาลัยได้งานทำหมาดๆ
ออกอาการปวดหัวเพราะไม่ค่อยมีความสุขกับการทำงาน
แถมคาร์ลีที่ออกจากทำเนียบขาว ค่อนข้างใกล้ชิดหัวหน้างานใหม่ของหล่อน 'ดีแลน กูลด์'
เมื่อทราบเรื่องอาร์คเลยหวังก่อวีรกรรมครั้งใหม่ ติดต่อซีมัวร์เจ้าเก่าให้ช่วยสืบ
และพบความลับเบื้องหลังโครงการสำรวจดวงจันทร์ ทราบเรื่องดีเซปติคอนส์จงใจเหลือร่างเซนทิเนล+เสาไว้บนดวงจันทร์เพียงไม่กี่ต้น (จากจำนวนหลักร้อย)
จึงปะติดปะต่อเรื่องได้ว่า โดนล่อให้ออพติมัสผู้ถือครองเมทริกซ์ ใช้มันคืนชีวิตเซนทิเนล
เซนทิเนลใช้แท่งเสาเปิดสะพานข้ามมิติเรียกทัพดีเซปติคอนส์จำนวนมากบุกโลก, ยึดเมืองชิคาโกเป็นฐานที่มั่น
เตรียมเคลื่อนย้ายดาวไซเบอร์ตรอนมาใกล้โลก และกดเผ่าพันธุ์มนุษยลงเป็นทาส เพื่อใช้แรงงาน+ทรัพยากรฟื้นสภาพไซเบอร์ตรอน
ในขณะที่ดีแลน กูลด์/ลูกชายนักบัญชีนาซ่า เผยตัวว่ารับใช้ดีเซปติคอนส์และจับคาร์ลีไว้
แซมและเหล่ามิตรสหายมนุษย์+ออโตบอทส์ทั้งหมดจึงจับมือกันบุกตีเมืองซึ่งโดนกองทัพดีเซปติคอนส์ยึด
ก่อสงครามอันส่งผลให้ทุกฝ่ายบาดเจ็บล้มตายมากมาย ความเสียหายใหญ่หลวง
แต่สุดท้ายแซมก็ช่วยคาร์ลีสำเร็จ, ฝ่ายดีเซปคอนส์ปราชัย, เซนทิเนลกับเมกาตรอนถูกออพติมัสไพรม์กำจัด
5 ปีต่อมา ผลกระทบจากสมรภูมิชิคาโกสร้างความเกลียดชังต่อเหล่าทรานส์ฟอร์เมอร์สแบบเหมายกเข่ง
NEST โดนยุบหน่วย, ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลมนุษย์กับออโตบอทส์ถูกตัดขาดทุกทาง
คนของหน่วยสืบราชการลับสหรัฐฯ จัดตั้งหน่วยล่าทรานส์ฟอร์เมอร์ส ที่ไล่เก็บทั้งดีเซปติคอนส์กับออโตบอทส์
โดยตกลงผลประโยชน์ จัดส่งซากศพทรานส์ฟอร์เมอร์สแก่บริษัท KSI (Kinetic Solutions Incorporated) ให้ไปสกัดแร่ทรานส์ฟอร์เมี่ยม เพื่อใช้ผลิตหุ่นยนต์แปลงร่างที่มนุษย์ควบคุมได้ขึ้น
และจับมือเป็นพันธมิตรกับชีวจักรกลนาม 'ล็อคดาวน์' ผู้อ้างว่ารับคำสั่งจากผู้สร้างออกล่าทรานส์ฟอร์เมอร์สทั่วจักรวาล
ช่วยกันสังหารทรานส์ฟอร์เมอร์ส+จับตัวออพติมัสไพรม์
ล็อคดาวน์
ณ รัฐเท็กซัส, 'เคด เยเกอร์' คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวผู้เป็นนักประดิษฐ์ถังแตก และมีลูกสาวหนึ่งคนชื่อเทสซา
บังเอิญเจอรถบรรทุกเก่าคันหนึ่งเข้าและนำกลับไปซ่อมที่บ้าน
ก่อนจะพบว่านี่คือร่างจำแลงของออพติมัสผู้บาดเจ็บหนักจากการต่อสู้
เคดผูกมิตร+ซ่อมแซมคืนสภาพออพติมัสให้ แต่ไม่ทันไรหน่วยล่าทรานส์ฟอร์เมอร์สก็ตามมาบึ้มบ้านเคดทิ้งเพื่อจับออพติมัส
ทว่าเชน/แฟนหนุ่มของเทสซา โผล่มาพาหนีทันการณ์
ออพติมัสเรียกรวมพลออโตบอทส์ บุกเข้าบริษัท KSI หวังล้างแค้น แต่ก็ยังอุตส่าห์ยั้งมือไว้ไมตรีไม่ฆ่ามนุษย์ตัวต้นเหตุ
ซึ่ง KSI ไม่ยอมโดนโจมตีแล้วปล่อยอีกฝ่ายถอยกลับเหมือนไม่มีอะไรเกิด
ส่งหุ่นรุ่นทดสอบ 'กัลวาตรอน' กับอีกหลายตัว+แจ้งทางหน่วยล่าร่วมตามตี
เมื่อเสียเปรียบหนัก ออพติมัสเลยพลาดท่าถูกล็อคดาวน์จับตัวพร้อมเทสซา
และเมื่อเป้าหมายหลักลุล่วง ล็อคดาวน์จึงมอบเมล็ดพันธ์ุทรานส์ฟอร์เมี่ยมตอบแทนแก่พันธมิตรมนุษย์
เคด, เชน และพลพรรคออโตบอทส์ ลักลอบเข้ายานล็อคดาวน์เพื่อช่วยเทสซา+ออพติมัส
และพลอยฟ้าพลอยฝน ปลดปล่อยทรานส์ฟอร์เมอร์สรูปร่างไดโนเสาร์ (ไดโนบอทส์) หลายตัวเป็นของแถม
ด้านกัลวาตรอนที่ความจริงคือเมกาตรอนผู้แอบโอนถ่ายวิญญาณสู่ร่างใหม่
ก็ยึดการควบคุมหุ่นยนต์สร้างจากทรานส์ฟอร์เมี่ยมของ KSI ทั้งหมด และพยายามชิงเมล็ดพันธุ์มาใช้ประโยชน์
ออพติมัส, ไดโนบอทส์, ออโตบอทส์ และเหล่ามนุษย์พันธมิตร ขัดขวางสุดกำลัง
แม้กองทัพหุ่นทรานส์ฟอร์เมี่ยมพ่ายศึก แต่เมกาตรอนหนีไปได้
ส่วนออพติมัสไพรม์สังหารล็อคดาวน์ลง และตัดสินใจเดินทางออกนอกอวกาศตามหาผู้สร้าง
1 ปีต่อมา แม่มดควินเทสซาเคลื่อนย้ายดาวไซเบอร์ตรอนเข้าใกล้โลก และติดต่อเมกาตรอนให้ช่วยตามหาคทาของหล่อน
ออพติมัสพานพบควินเทสซา ณ กลางอวกาศ แต่ไม่ทันไรก็โดนล้างสมองตกเป็นข้ารับใช้นาง
ส่วนบนโลก สถานะความสัมพันธ์ของทรานส์ฟอร์เมอร์สกับมนุษยชาติแย่หนัก
นานาประเทศ(ยกเว้นบางที่ เช่น คิวบา) ถือว่าชีวจักรกลคือศัตรู และส่งกองทหารออกไล่ล่าทั่วทุกแห่งหน
ขนาดมนุษย์ผู้ช่วยเหลือทรานส์ฟอร์เมอร์สก็ถือว่ามีความผิด
เคด เยเกอร์ ผู้ยังรักษาน้ำมิตรกับกลุ่มออโตบอทส์+ไดโนบอทส์ เช่นเดิม จึงต้องแยกจากลูกสาวเพื่อให้เธอได้ใช้ชีวิตปกติสุข
เคด เยเกอร์ พยายามช่วยชีวิตทรานส์ฟอร์เมอร์สตนนึงแต่ไม่สำเร็จ
ก่อนตายหุ่นตนนั้นมอบเครื่องรางบางอย่างให้ นั่นคือเครื่องหมายบ่งชี้ถึง 'อัศวินคนสุดท้าย'
เมกาตรอนเชื่อว่าเครื่องรางจะนำทางสู่คทาเลยออกล่าเคด
แต่เฮดมาสเตอร์/ค็อกแมนช่วยเคดไว้ และนำตัวเขาเข้าพบเซอร์เอ็ดมันด์ เบอร์ตัน/ผู้อ้างตนเป็นวิทวิคแคนส์คนสุดท้าย
กับวิเวียน/สาวสวยทายาทคนสุดท้ายของพ่อมดเมอร์ลิน
เคด เยเกอร์, วิเวียน, บัมเบิลบี, ค็อกแมน รวมพลเดินทางตามหาคทาและในที่สุดก็เจอมันในก้นทะเลใต้มหาสมุทร
ทันใดนั้น ออพติมัสผู้ถูกล้างสมองมาถึงและใช้ความรุนแรงแย่งคทา
เคราะห์ดีบัมเบิลบีที่ต่อสู้กับออพติมัสทำลายการล้างสมองลงได้
ทว่าเมกาตรอนฉกคทาไปมอบแก่ควินเทสซาผู้มาถึงโลกพร้อมดาวไซเบอร์ตรอน
ควินเทสซาเริ่มสูบพลังจากยูนิคอร์น ที่เขาขนาดมหึมาหลายอันงอกขึ้นเหนือพื้นผิวดาวหลายแห่ง
เครื่องรางเปลี่ยนสภาพเป็นดาบ ยืนยันสถานะอัศวินคนสุดท้ายของเคด เยเกอร์
เหล่าอัศวินซึ่งขยับตัวอีกครั้งหลังยืนเฝ้าคทามานมนาน เลยยอมช่วยเหลือฝั่งออโตบอทส์
ทัพพันธมิตรปกป้องโลก เปิดฉากสงครามยับยั้งวันสิ้นโลกา
ตีฝ่าบรรดาอริศัตรู, ดิ้นรนสู้ยิบตา, สร้างโอกาสให้วิเวียนหยุดการสูบพลังยูนิคอร์นด้วยคทาซะ
ดาวเคราะห์สีน้ำเงินปลอดภัย แต่ควินเทสซาที่ยังมีชีวิตอยู่แปลงโฉมสู่ร่างหญิงสาว และบอกนักวิทยาศาสตร์ชาวมนุษย์ว่าเธอมีวิธีฆ่ายูนิคอร์นมาเสนอ
ส่งท้าย
'ลอเรนโซ ดิ โบนาเวนทูรา' ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชุดทรานส์ฟอร์เมอร์ส ไม่แน่ใจว่าแฟรนไชส์นี้จะกลับไปเล่นประเด็นเรื่องยูนิคอร์นที่เคยปล่อยคาไว้ในตอนจบภาค The Last Knight หรือเปล่า
"โอเค, ขอขัดใจหน่อยนะ ผมไม่ใช่แฟนของยูนิคอร์น โดยส่วนตัวผมคิดว่ามันใหญ่โตเกินเหตุ ใหญ่จนเกินจะรู้สึกเชื่อมโยงถึงมันไหว แต่ไม่ได้หมายความว่ายูนิคอร์นจะไม่ปรากฏตัวอีกในวันหน้า ไม่รู้สิผมอาจคิดมากไป เพราะความจริง ที่ผ่านมาเราทุ่มความสนใจให้หนังบัมเบิลบีเรื่องเดียว"
ที่มา
https://tfwiki.net/wiki/Movie_timeline
https://tfwiki.net/wiki/Movie_timeline
https://www.slashfilm.com/transformers-reboot/
COMMENTS