บทความนี้คือการเรียบเรียงไทม์ไลน์ของ จักรวาลทรานส์ฟอร์เมอร์ส (ทั้งคอมมิคและหนัง แบบจับมาขยำรวมกัน) ในยุคที่พวกหุ่นมีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง ปร...
บทความนี้คือการเรียบเรียงไทม์ไลน์ของ จักรวาลทรานส์ฟอร์เมอร์ส (ทั้งคอมมิคและหนัง แบบจับมาขยำรวมกัน)
ในยุคที่พวกหุ่นมีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
ศตวรรษที่ 19
ค.ศ.1895 สมาชิกสมาคมลับวิทวิคแคนส์/กัปตัน 'อาชิบัลด์ วิทวิคกี้' แห่งคณะสำรวจขั้วโลกเหนือค้นพบเมกาตรอน และเปิดระบบนำทางของเมกาตรอนเข้า
ทำให้มันฉายแสงใส่+จารึกพิกัดที่ตั้งของลูกบาศก์ออลสปาร์คลงบนแว่นตาโดยไม่ตั้งใจ
โชคร้ายแสงดังกล่าวบ่อนทำลายทั้งจิตใจและร่างกาย (เขาค่อยๆ สูญเสียการมองเห็นและวิกลจริตภายหลัง)
เหตุการณ์ดังกล่าวกระตุ้นความสนใจของรัฐบาลอเมริกา
ปี 1898 คณะสำรวจ 7 คนที่มี 'วอลเตอร์ ซิมมอนส์' เป็นสมาชิก จึงเดินทางเยือนขั้วโลกสำรวจเมกาตรอนตามคำสั่งประธานาธิบดี และบังเอิญกระตุ้นให้มันปล่อยคลื่นพลังงานออกมา
เจ็ทไฟร์ที่หมกตัวบนโลกนานนับพันปีดันตรวจพบ และเข้าใจผิดคิดว่าฟอลเล่นโจทก์เก่า
เข้าเล่นงานคณะสำรวจแบบไม่ดูตาม้าตาเรือก่อนหายตัวไป
เมื่อสมาชิกคนนึงตายเพราะทรานส์ฟอร์เมอร์ส ส่งผลให้พวกเขาเห็นว่าสมควรเตรียมรับมือแบบจริงจัง และเริ่มศึกษาวิจัยเมกาตรอน
(กลุ่มคนเหล่านี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของหน่วยงานจัดการเรื่องของพวกทรานส์ฟอร์เมอร์ส -> Sector 7/เซคเตอร์เซเว่น)
ศตวรรษที่ 20
ปี 1902 วอลเตอร์ ซิมมอนส์นำทีมค้นหาไปพบออลสปาร์คใต้แม่น้ำโคโลราโด ทำให้เริ่มมีการศึกษาวิจัยมัน และกระตุ้นออลสปาร์คส่งคลื่นพิสดารออกมา
คลื่นสะท้อนก้องข้ามกาลอวกาศ และดีเซปติคอนส์/ช็อคเวฟรับรู้เข้า เขารีบบึ่งมาโลกพร้อมหนอนดริลเลอร์
แต่ดันรีบมากซะยานเสียการควบคุมดิ่งกระแทกโหม่งปฐพี กลายเป็นการระเบิดครั้งใหญ่ที่ทังกัสกา ณ ประเทศรัสเซียตอน 30 มิถุนายน 1908
ปี 1935 เขื่อนฮูเวอร์ที่สร้างขึ้นครอบทับออลสปาร์คเสร็จสมบูรณ์ Sector 7 มีแผนนำเมกาตรอนมาไว้ที่เดียวกัน แต่กำหนดการเลื่อนยาวเพราะความวุ่นวายของสงครามโลกครั้งที่ 2
ในช่วงสงครามโลก, ออโตบอทส์/บัมเบิลบีที่มาถึงโลกแล้ว จับคู่กับสหายทรานส์ฟอร์เมอร์ส/ฮ็อตร็อด ต่อสู้ร่วมกับทหารฝ่ายสัมพันธมิตร
ทั้งคู่ได้รู้จักกับมนุษย์ชื่อ 'เอ็ดมันด์ เบอร์ตัน' ก่อนบัมเบิลบีแยกตัวจากไป
ส่วนฮ็อตร็อดยังอาศัยอยู่กับเบอร์ตันและเฮดมาสเตอร์ที่คอยรับใช้ตระกูลเบอร์ตันนาม 'ค็อกแมน'
(Headmaster = ทรานส์ฟอร์เมอร์สที่แปลงเป็นหัวของหุ่นตัวใหญ่ได้)
ค.ศ. 1954 ทายาทตระกูลซิมมอนส์ 'ซีมัวร์ ซิมมอนส์' ลืมตาดูโลก
ค.ศ. 1961 ยานอาร์คของเซนทิเนลไพรม์หลุดออกจากห้วงมิติเหนือกาลเวลามาตกบนดวงจันทร์
อเมริกากับโซเวียตแข่งกันพัฒนาโครงการสำรวจอวกาศ หวังตักตวงผลประโยชน์จากเทคโนโลยีต่างดาว
16 กรกฎาคม 1969 อเมริกาเป็นฝ่ายชนะ เพราะโครงการอพอลโล 11 ของนาซ่าส่งนักบินอวกาศเหยียบดวงจันทร์ได้ก่อน
วันเดียวกัน การขนย้ายเมกาตรอนในสภาพแช่แข็งไปเขื่อนฮูเวอร์เสร็จสิ้น
ช่วง 1970-1972 อเมริกาส่งยานสำรวจดวงจันทร์ เก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากยานอาร์คต่อเนืองๆ
ดีเซปติคอนส์/ซาวด์เวฟจึงเยือนโลกติดต่อนักบัญชีของนาซ่า 'กูลด์' ให้ตกแต่งตัวเลขบัญชีงบประมาณนาซ่าผิดความจริง จนโครงการสำรวจดวงจันทร์โดนระงับ แลกกับการโกงตลาดหุ้นหาเงินมาปรนเปรอกูลด์
ช่วงปี 1980s โซเวียตส่งยานอวกาศไร้คนขับเยือนดวงจันทร์ เก็บกู้เซลล์เชื้อเพลิงจากยานอาร์คกลับโลก
เซลล์เชื้อเพลิงถูกวิจัย ณ นิคมเชอร์โนบิล และกลายเป็นต้นเหตุหายนะนิวเคลียร์ขั้นร้ายแรงในวันที่ 26 เมษายน 1986
ค.ศ. 1993 ซาวด์เวฟนำแท่งเสาต้นหนึ่งไปมอบให้ฟอลเล่น ณ ยานเนเมซิส ฟอลเล่นใช้มันเปิดมิติปลดปล่อยตัวเองจากการถูกจองจำภายในโลงหิน
ค.ศ. 1998 เจ็ทไฟร์ถือโอกาสที่กองทัพปลดประจำการเครื่องบินรบรุ่นแบล็คเบิร์ดซึ่งเขาใช้มันเป็นร่างจำแลง
นอนหลับคาสภาพเครื่องบินยาวๆ อยู่ในพิพิธภัณฑ์สมิธโซเนี่ยนของอเมริกา
COMMENTS