Mission: Impossible 1-3 >>การขโมยรายชื่อสายลับซีไอเอ, ไวรัสมหันตภัย และตีนกระต่ายปริศนา

Mission: Impossible (1996) 'จิม เฟลป์ส' รับทำภารกิจชิงข้อมูลรายชื่อสายลับแฝงตัวของซีไอเอ(จารชนที่ปลอมแปลงตัวตนออกสืบข่าวทั่วโลก),...

Mission: Impossible (1996)

'จิม เฟลป์ส' รับทำภารกิจชิงข้อมูลรายชื่อสายลับแฝงตัวของซีไอเอ(จารชนที่ปลอมแปลงตัวตนออกสืบข่าวทั่วโลก), จัดแจงให้ทีมสายลับ IMF ซึ่งมีภรรยาเขา-แคลร์ กับ "อีธาน ฮันท์" รวมอยู่ด้วยปฏิบัติการ แต่ภารกิจล้มเหลว และดูเหมือนเฟลป์สกับลูกทีมจะถูกมือสังหารลึกลับกำจัดจนเสียชีวิตเกือบหมด เหลือรอดเพียงอีธานคนเดียว

ยูจีน คิตทริดจ์-ผู้นำ IMF เดินทางมาพบอีธาน บอกเรื่อง IMF มีหนอนบ่อนไส้ในองค์กรที่ใช้นามแฝงว่า 'Job-จ๊อบ' กำลังติดต่อกับนักค้าอาวุธ 'Max-แม็กซ์' อยู่
และข้อมูลรายชื่อสายลับในภารกิจนี้เป็นของปลอมไว้ล่อให้คนทรยศเผยตัว รายชื่อสายลับซีไอเอของจริงยังปลอดภัยที่แลงลีย์

อีธานคือผู้รอดชีวิตคนเดียว คิตทริดจ์เลยมองว่าเขาคือคนทรยศทันที ฉะนั้นเขาจึงต้องหนี และหาทางพิสูจน์ความบริสุทธิ์

อีธานไปที่เซฟเฮ้าส์ของทีมเขา, เจอแคลร์ซึ่งปรากฏว่ายังไม่ตาย, จัดการแอบอ้างตัวเองเป็นจ๊อบนัดพบแม็กซ์  และยื่นข้อเสนอจะนำรายชื่อสายลับของจริงมาให้ เพื่อแลกกับเงินและการบอกว่าจ๊อบคือใคร

แม็กซ์

อีธานเรียกตัวเจ้าหน้าที่ซึ่ง IMF ปฏิเสธการมีตัวตนมาอีก 2 คน "ลูเธอร์ สติคเคล" กับครีเกอร์  เพื่อช่วยกันทำภารกิจลักลอบเข้ากองบัญชาการซีไอเอ ณ แลงลีย์ เวอร์จิเนีย, ผ่านระบบรักษาความปลอดภัยขั้นเทพ, ขโมยรายชื่อของจริง และชิ่งหนีออกมา

ลูเธอร์ 

จากนั้นจู่ๆ จิม เฟลป์ส ผู้ยังไม่ตายก็ดอดมาพบอีธาน และบอกว่าคิตทริดจ์คือจ๊อบ-คนทรยศ  แต่กลับทำให้อีธานรู้ตัวว่าจ๊อบคือเฟลป์สต่างหาก  และครีเกอร์กับแคลร์คือผู้สมรู้ร่วมคิด

อีธานนัดส่งมอบรายชื่อแก่แม็กซ์บนรถไฟความเร็วสูงของฝรั่งเศส, ใส่หน้ากากพิเศษปลอมตัวเป็นจิม เฟลป์ส  หลอกล่อให้แคลร์เผยความจริง, ชักจูงให้เฟลป์สปรากฏตัว และส่งภาพเฟลป์สที่ยังมีชีวิตอยู่แก่คิตทริดจ์

เฟลป์สผู้ถูกเปิดโปงสังหารแคลร์ที่พยายามห้ามเค้าฆ่าอีธาน แล้วพยายามหนีไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของครีเกอร์ แต่สุดท้ายทั้งสองคนก็โดนอีธานจัดการ
คิตทริดจ์ยึดรายชื่อคืนจากแม็กซ์ และตกลงเรื่องผลประโยชน์กับเธอแลกกับการไม่ต้องขึ้นศาล

Mission: Impossible 2 (2000)

นักชีวเคมี-ดร.วลาดิเมียร์ส่งข้อความแก่ IMF เรียกร้องขอพบเพื่อนเก่าของเขา-อีธาน ฮันท์  เนื่องจากถูกบริษัทยาไบโอไซต์ที่เขาทำงานอยู่ บีบให้สร้างอาวุธชีวภาพร้ายกาจเพื่อทำกำไรจากการขายยารักษา

วลาดิเมียร์ต้องการพบอีธานเพื่อส่งมอบไวรัสไคมีร่า กับเบลเลโรฟอน-ยารักษาให้ แต่ตอนนั้นอีธานหลบงานไปพักร้อนและติดต่อไม่ได้   IMF จึงส่งเจ้าหน้าที่ฌอน เอมบรอสไปแทน(ใส่หน้ากากพิเศษกับติดเครื่องแปลงเสียง แปลงโฉมเป็นอีธาน)
เอมบรอสในมาดอีธานนัดส่งมอบของบนเครื่องบิน และลงมือทรยศองค์กร สังหารวลาดิเมียร์, ขโมยเบลเลโรฟอน แล้วทำเครื่องบินตกให้ดูเหมือนอุบัติเหตุ

เวลาต่อมา IMF แจ้งอีธานว่ามีภารกิจชิงสิ่งที่เรียกว่าไคมีร่าให้ทำ และกำหนดเงื่อนไขว่าต้องเกณฑ์โจรสาว-ไนอาห์ นอร์ดอฟฟ์ ฮอลล์ เป็นหนึ่งในลูกทีม แล้วค่อยรับทราบรายละเอียดภารกิจส่วนที่เหลือ

ขณะอีธานพยายามทาบทามไนอาห์มาช่วยงาน ทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกัน แต่อีธานดันทราบเรื่องเธอคือแฟนเก่าเอมบรอสทีหลัง ตอนรับรายละเอียดภารกิจ  ดังนั้นถึงขัดใจยังไงก็ต้องส่งเธอไปล้วงข้อมูลเอมบรอสโดยปริยาย

อีธานไม่ลืมเรียกตัวลูเธอร์ สติคเคลเพื่อนเก่ากลับมาช่วย และเริ่มต้นสืบข้อมูลอาวุธชีวภาพเพิ่ม จนรู้เรื่อง
- เบลเลโรฟอนใช้รักษาไคมีร่าได้แค่ภายใน 20 ชั่วโมงแรกหลังติดเชื้อ
- เอมบรอสมีแค่เบลเลโรฟอนเพราะวลาดิเมียร์ใช้วิธีฉีดไคมีร่าเข้าร่างตอนขโมยมันจากบริษัท(แล้วเอมบรอสที่ตอนนั้นยังไม่รู้ ก็ทำลายศพวลาดิเมียร์ไปพร้อมเครื่องบิน)
- และบริษัทไบโอไซต์เหลือเพียงไคมีร่าในครอบครอง
ทำให้เอมบรอสกับคนของไบโอไซต์เจรจาจะแลกเปลี่ยนไวรัสกับยาในส่วนของตัวเองกัน

อีธานตัดสินใจบุกทำลายไวรัสในตึกไบโอไซต์ก่อนการแลกเปลี่ยน แต่เอมบรอสซึ่งจับไต๋ไนอาห์ได้ รู้ทันแผนอีธานและเข้าขัดขวางก่อนอีธานทำลายไวรัสหมด

ไคมีร่าหลอดสุดท้ายตกอยู่กึ่งกลางระหว่างเอมบรอสกับอีธาน  เอมบรอสจึงใช้ไนอาห์เข้าไปเก็บ กันไม่ให้อีธานกล้าลงมือทำอะไร
แต่ไนอาห์ตัดสินใจหยิบหลอดตัวอย่างฉีดไคมีร่าเข้าร่าง เพื่อไม่ให้โดนเอมบรอสฆ่าทันทีหลังหมดประโยชน์

อีธานเหลือเวลาไม่เกิน 20 ชั่วโมงที่จะจัดการเอมบรอส, ชิงเบลเลโรฟอน และช่วยไนอาห์ก่อนเธอจะตายแล้วกลายเป็นคนแพร่เชื้อไวรัสสร้างโรคระบาดร้ายแรง แต่แน่นอน...เขาทำได้
IMF ลบประวัติอาชญากรรมไนอาห์ และอีธานก็ใช้เวลาช่วงหยุดพักร้อนถัดมาร่วมกับเธอ

Mission: Impossible III (2006)

อีธาน ฮันท์เลิกทำงานภาคสนามเปลี่ยนมารับงานฝึกเจ้าหน้าที่รุ่นใหม่
ขณะเขาใช้ชีวิตปกติธรรมดากับพยาบาลสาวคู่หมั้น "จูเลีย มีดด์" (แล้วไนอาห์ละเฮ้ย...) ผู้คิดว่าอีธานทำงานกรมขนส่ง  จอห์น มัสเกรฟคนรู้จักใน IMF ก็ส่งภารกิจช่วยเหลือ 'ลินซีย์ แฟร์ริส' ลูกศิษย์หญิงของอีธานให้

อีธานนำทีมที่ยังคงมีลูเธอร์ สติคเคลเป็นสมาชิก ช่วยศิษย์รักจากเงื้อมมือนักค้าอาวุธ-โอเว่น เดเวี่ยน และเก็บกู้ไดร์ฟข้อมูลที่เสียหายจากการปะทะกับศัตรูมา

แต่ระหว่างหนีด้วยเฮลิคอปเตอร์ก็พบว่าลินซีย์มีระเบิดแคปซูลขนาดเล็กฝังในหัว อีธานหยุดการทำงานของมันไม่ทัน ลินซีย์จึงเสียชีวิต

ธีโอดอร์ แบรสเซิล-ผู้นำ IMF ตำหนิมัสเกรฟกับอีธานที่ภารกิจคว้าน้ำเหลว
ต่อมาไม่นาน อีธานพบว่าลินซีย์ส่งโปสการ์ดให้เขาก่อนโดนโอเว่นจับ และใต้สแตมป์มีอุปกรณ์เก็บข้อมูลจิ๋ว-ไมโครด็อท

ช่างเทคนิค IMF "เบนจี้ ดันน์" กู้ข้อมูลจากไดร์ฟที่เสียหายได้บางส่วน
เลยรู้เรื่องเดเวี่ยนกำลังจะเจรจาซื้อขายวัตถุลึกลับ 'ตีนกระต่าย' ในราคาสูงลิ่ว

เบนจี้

อีธานจึงวางแผนนำทีมลักพาตัวเดเวี่ยนเองโดยไม่ขออนุมัติใคร (เพราะภารกิจก่อนหน้าเพิ่งล้มเหลว โดนตำหนิมาหยกๆ หากพลาดอีกมัสเกรฟเพื่อนเขาย่อมเดือดร้อน)
และก่อนลาคู่หมั้นแอบไปทำงานสายลับคราวนี้  อีธานตัดสินใจจัดพิธีเรียบง่าย แต่งงานกับจูเลียแบบกะทันหัน

ภารกิจลักพาตัวสำเร็จ เดเวี่ยนโดนอุ้มขึ้นเครื่องบิน  ระหว่างเดินทางอีธานถือโอกาสสอบปากคำเรื่องธุรกิจค้าอาวุธและตีนกระต่าย แต่เดเวี่ยนไม่ยอมบอกอะไรและขู่จะฆ่าคนที่อีธานรัก  ทำเอาอีธานเลือดขึ้นหน้า ร่ำร่ำจะทิ้งเดเวี่ยนออกนอกเครื่องบินกลางอากาศ จนลูเธอร์ต้องเตือนสติห้ามปรามไว้

เมื่อทราบเรื่องเดเวี่ยน IMF ก็จัดแจงสนับสนุนขบวนรถคุ้มกันนักโทษไปส่งที่หมาย
ขณะร่วมทางกับขบวนรถ ลูเธอร์ก็เพิ่งเปิดข้อมูลไมโครด็อทดูได้ ปรากฏว่าเป็นวิดีโอคำเตือนของลินซีย์เรื่องแบรสเซิลน่าจะทำงานกับเดเวี่ยน

ทันใดนั้นขบวนรถคุ้มกันถูกถล่มเละเทะ, เดเวี่ยนหนีไป  อีธานกลัวจูเลียโดนเล่นงานจับใจ รีบมุ่งไปหา ณ โรงพยาบาล แต่ไม่ทันการณ์ถูกอุ้มเรียบร้อย
เดเวี่ยนให้เวลา 48 ชั่วโมงเอาตีนกระต่ายมาแลกตัวจูเลีย
ทว่ายังไม่ทันทำอะไร คนของ IMF ก็บุกมาจับตัวอีธานเอาดื้อๆ (แบรสเซิลสั่งจับเขาด้วยเหตุผลว่าทำอะไรตามใจไม่ขออนุญาตก่อน จนเกิดความเสียหายตามมาอยู่เรื่อย)

มัสเกรฟเข้าร่วมการสอบปากคำอีธาน, ขยับปากพูดแบบไม่มีเสียงบอกที่อยู่ตีนกระต่าย (อีธาน ฮันท์อ่านปากถอดคำพูดผู้อื่นได้โดยไม่ต้องได้ยินเสียง) และช่วยสร้างโอกาสหลบหนีให้

อีธานกับลูกทีมบุกฉกตีนกระต่ายจากตึกที่เก็บมันไว้

 ตีนกระต่าย

หลังได้มาอีธานนำของไปมอบแก่เดเวี่ยนเพียงลำพัง, ถูกทำให้สลบ, ฝังระเบิดแคปซูลในหัว และโดนจับล็อคติดกับเก้าอี้

มัสเกรฟโผล่มาแบบที่อีธานคาดไม่ถึง เผยเรื่องตัวเองเป็นหนอนบ่อนไส้ และถามอีธานให้แน่ใจว่าลินซีย์ส่งข้อมูลเรื่องเขาทรยศแก่อีธานหรือไม่ แลกกับการยอมไว้ชีวิตจูเลีย

อีธานขอฟังเสียงจูเลียเพื่อยืนยันว่าเธอยังมีชีวิตอยู่, ฉวยโอกาสที่มัสเกรฟยื่นโทรศัพท์ให้, กัดมือและซัดมัสเกรฟสลบ
จากนั้นปลดพันธนาการตัวเอง, ใช้โทรศัพท์โทรหาเบนจี้ ดันน์, ขอให้แกะรอยหาตำแหน่งจากเบอร์โทรล่าสุดในมือถือมัสเกรฟ

เมื่อทราบว่าตำแหน่งใกล้กัน อีธานเลยวิ่งไปช่วยจูเลียและสังหารเดเวี่ยน แต่ก่อนตายเดเวี่ยนเปิดการทำงานระเบิดแคปซูล
อีธานจึงต้องรีบช็อตไฟฟ้าตัวเองเพื่อหยุดระเบิดในหัว และฝากจูเลียรับมือมัสเกรฟกับปั๊มหัวใจเขาให้ฟื้นทีหลัง

มัสเกรฟโดนจูเลียยิงตาย เธอปั๊มหัวใจกู้ชีพอีธาน และได้รับการเปิดเผยเรื่องอาชีพแท้จริงของเขา
หลังเสร็จเรื่อง อีธานตัดสินใจลางานไปฮันนีมูนกับจูเลีย โดยไม่แน่ใจว่าจะกลับมาทำงานสายลับต่ออีกหรือไม่